คนอุปถัมภ์
ตั้งกระทู้ใหม่
คำตอบคับ 1 ตื่นตี5.30 ทุกวัน รถมา 6.30 คิวแรก พูดง่ายๆคือไม่ได้บิณบาตรเพราะอยู่ไกลและกว่ารถสองแถวจะมา กว่าจะถึงมหาลัยก็เกือบ09.00 2 ถ้าเรียนแบบออนไลน์ เรามีเวลามากกว่าได้มีเวลาอ่านหนังสือ และได้ทำกิจของสงฆ์มากกว่า 3 เราไม่สามารถจะหาค่ารถไป-กลับ ได้ทุกวันเพราะปัจจัยในการเดินทางไม่ค่อยมี บางครั้งก็ต้องยืมลำบากคนอื่นถ้ายืมบ่อยๆเข้าก็น่าอาย นี้คือเหตุผลว่าทำไมถึงต้องไปเรียนมหาลัยเอกชน(ออนไลน์)ทั้งที่ค่าเทอมแพงมากแต่การเดินทางนานๆไปครั้งดีกว่าค่าเทอมถูกแต่เดินทางทุกวันไม่ได้พักไม่ได้หย่อนเลยเอาค่าเทอมแพงแต่ได้พักผ่อนดีกว่าค่าเทอมถูกแต่ไม่ได้พักผ่อนเลย ถ้าจะมีเศรษฐีใจบุญหรือใครก็ได้ถ้าสงสารหรืออยากจะช่วย ก็ติดต่อมาที่ id line 0981743207
ถ้าบุญบารมีหรือวาสนายังมีอยู่ก็ขอให้ได้เจือภายในเร็ววันด้วยเทอญถ้าบุญวาสนาจะนำพาให้ได้มาพบกันมาเกลื้อหนุนกัน สาธุ สาธุ สาธุ
4 ความคิดเห็น
แนะนำพระให้สึก บาปป่าวหว่า จออนุญาตแนะนำหลวงพี่แล้วกัน แต่ควรสึกออกมาทำงานพิเศษและเรียนให้เรียบร้อย หรืออย่างน้อยจะได้ทำงานได้และเรียนแบบถูกๆ มอรัฐได้ ทำกิจทางโลกให้สำเร็จ แล้วค่อยบวชทีเดียว จะเป็นการเหมาะกว่าทำแบบนี้
ดิฉันก็คิดเองว่าถ้าเรียนมหาวิยาลัยสงฆ์ น่าจะยืดหยุ่นปรับเวลาให้ทำกิจของสงฆ์ได้เสียอีก มหาลัยสงฆ์แต่ไม่เอื้อต่อสงฆ์เหรอ
บาปไหมนะ ถ้าจะถามพระว่า
1.ทำไมต้องเรียนม.เอกชน ทั้งไปที่ครอบครัวส่งเรียนไม่ไหว
2.ทำไมไม่ชิงทุน พวกเอกชนมักมีทุน50%
3. สึกออกมาแล้วชิงทุนทวิภาคี จะดีกว่าไหม ถ้าอายุยังไม่เกิน25ปี ได้เรียน ได้ทำงาน มีเงิน ไม่ต้องรบกวนทางบ้าน
ขอกราบเรียนพระตามตรง คนโตแล้ว ไม่มีใครอยากจะอุปถัมภ์เลี้ยงดูแล้วล่ะค่ะ แถมเป็นพระอีกด้วย ไม่ได้เดือดร้อนเลยแต่เลือกทางเดินเกินตัวเอง
1 ถ้าจะสึกไปก็ได้แต่ต้องไปเป็นทหาร 2 ปี เพราะได้ทำเรื่องยกเว้นไว้แล้ว
2 ถ้าสึกไปแล้วจะบวชใหม่ก็ได้แต่ความเหมาะสมนั้นมันคงจะไม่เหมาะเท่าไหร่ถ้าสึกเเล้วบวชใหม่ขอบวชครั้งเดียวให้มันจบดีกว่า ดีกว่าบวชหลายครั้งแล้วเป็นชาย 3โบสถ์
3 ทำไมต้องเรียนม.เอกชน เพราะมันอาจจะเกิดเพราะความผิดพลาดก็ได้เพราะจริงๆถ้าเรียนมหาลัยสงฆ์ค่าเทอมถูกแต่ถ้าจะให้นั่งรถไปเรียนทุกๆวันคงจะไม่ไหวเพราะบางครั้งรถก็ไม่มีรถก็ไม่วิ่ง บางครั้งทำให้ขาดการทำกิจของสงฆ์เลยก็มี ถ้าเรียนแบบออนไลน์ เรามีเวลามากกว่า มีเวลาทำกิจของสงฆ์มากกว่าเรียนแบบปกติ
4 ถ้าจะยืมก.ย.ศ.ก็ไม่ได้เพราะเขาห้ามพระสงฆ์ยืมเงินเรียนเดียวผิดวินัยสงฆ์
5 พระสงฆ์ญาติโยมมักเข้าใจว่ามีปัจจัยมากมายมหาศาลบางวัดก็100ล้านบ้างมีเงินมากมายเงินที่ญาติโยมนำมาถวายก็มีมากทำให้พระสงฆ์บางวัดรวยเป็นสิบๆล้านก็มีแต่ต้องเข้าใจนะว่าพระสงฆ์บางรูปบางองค์ท่านก็ไม่มีปัจจัยเลยไม่ได้รวยอะไรมากมายอยากเรียนก็ไม่มีปัจจัยจ่ายค่าเทอมมากนัก จริงที่พระไม่ได้เสียค่าเช่า ค่าน้ำค่าไฟ แต่จะมีมหาลัยหรือรถคันไหนไหมที่จะให้พระสงฆ์เรียนฟรีนั่งรถฟรีไม่มีเลยในวินัยห้ามพระสงฆ์จับปัจจัยแต่ถ้าไม่จับถามว่าจะมีใครให้ขึ้นรถหรือเรียนฟรีกันไหม ไม่มีเลย ต่างคนก็ต่างอยากได้เงินทั้งนั้นถ้าพระสงฆ์ไม่จับปัจจับเลยเพราะผิดพระวินัยที่พระพุทธเจ้าทรงห้ามไว้รัฐบาลหรือจะมีใครไหมให้พระเรียนฟรี ขึ้นรถฟรีจะมีไหมในโลกนี้ถ้าพระจับปัจจัยแล้วอาบัติแล้วชาวบ้านด่าพระต่อไปก็ควรจะให้พระฟรีทุกๆอย่างทั้งค่าเทอม ค่าเดินทาง ค่ารักษาโรค ถ้ารัฐบาลทำให้ได้จะดีมาก
6 พระสงฆ์ไม่มีอาชีพไม่สามารถไลพ์สดหาเงินได้เหมือนญาติโยม ไม่สามารถทำงานบริษัทได้เหมือนใครๆถ้าจะทำก็โลกจะติเตียนอีกว่าไม่สมควร พระสงฆ์มีหน้าที่เเค่บิณฑบาตร กวาดลาดวัด สวดมนต์นั่งสมาธิ ถ้ามีโยมนำปัจจัยนำมาถวายแล้วรับเดียวก็ดร่ามากันอีกว่าเป็นพระรับเงินได้ไง ถ้าไม่นับก็เกิดดร่ามากันอีกว่าเป็นศัทธาญาติโยมถ้าไม่รับเดียวโยมไม่ได้บุญอีก
7 ถ้าพระสงฆ์ไม่เรียนได้ไหม ได้แต่ญาติโยมจะด่าพระอีกว่าพระไม่มีความรู้บริหารงานไม่เป็นก็จะเกิดกระเเสดร่ามาอีก
8 ถ้าเกิดพระสงฆ์ไม่อยู่วัดแต่ไปอยู่ในป่ากันหมดญาติโยมจะทำบุญกับใคร
9 พระสงฆ์ถือว่าท่านย่อมสละทุกอย่างท่านเสียสละมากๆเลยนะที่ย่อมทึ้งบ้าน ทึ้งลูกเมีย ที่อาชีพ ที่เงินที่มากมายมหาศาลเพื่อมารักษาวัดวาอารามพระพุทธศาสนาให้คงอยู่และสืบไปได้นาน แต่ถ้าบางคนก็ด่าว่าพระสงฆ์ไม่ดีทึ้งลูกเมียมาบวชไม่ยอมดูแลลูกเมียเลยมาบวชไม่สมกับเป็นลูกผู้ชายเลย ถ้าคิดแบบนี้ต้องกลับไปคิดดูดีๆว่าทำไมท่านถึงออกบวช
1 ก็ไปรีบสมัครเรียนต่อ แล้วยื่นผ่อนผันต่อสิ หรือถ้าผ่อนผันไม่ได้ จำเป็นต้องไปเป็นทหาร ก็ไปก่อน ค่อยออกมาเรียน
2 ถ้าสึกรอบนี้ บวชใหม่จะเป็นครั้งที่สามแล้วเหรอ จริงจะบวชกี่โบสถ์ บวชก็คือบวชไหม คิดมาก
3 มสธ ก็มี มอรัฐ เรียนอยู่กับวัด
4 ถ้าสึกออกมา คงจะกู้เรียนได้สินะ
5 ข้อนี้เข้าใจ แต่ถ้าเป็นพระ อยากเรียนหนังสือ แล้วจำเป็นต้องใช้ปัจจัย ก็จำเป็นต้องเลือกหาทางที่หาปัจจัยได้สิ
6 พระสงฆ์ไม่มีอาชีพไม่สามารถไลพ์สดหาเงินได้เหมือนญาติโยม ไม่สามารถทำงานบริษัทได้เหมือนใครๆถ้าจะทำก็โลกจะติเตียนอีกว่าไม่สมควร พระสงฆ์มีหน้าที่เเค่บิณฑบาตร กวาดลาดวัด สวดมนต์นั่งสมาธิ ถ้ามีโยมนำปัจจัยนำมาถวายแล้วรับเดียวก็ดร่ามากันอีกว่าเป็นพระรับเงินได้ไง ถ้าไม่นับก็เกิดดร่ามากันอีกว่าเป็นศัทธาญาติโยมถ้าไม่รับเดียวโยมไม่ได้บุญอีก
7 ดราม่าพระ ไม่ได้เกิดจากเพราะพระไม่มีปริญญาหรอก มันเกิดจากพระบริหารคดโกง จนสืบสาวราวประวัติของพระที่โกงต่างหาก แล้วนำมาด่าต่างหาก หากพระไม่โกงเอง ใครจะไปยุ่ง หลังจากนี้จะมีกฎทางโลกอะไรออกมาว่าพระต้องจบปริญญาถึงจะบริหารวัดได้ นั่นก็เกิดเพราะพระเองนั่นแหละ เป็นผู้เริ่มสร้างบรรทัดฐานค่านิยมนี้กันเอง
8 ไม่มีใครไล่ไปอยู่ป่าซะหน่อย พระสายธุดงค์ พระสายไหน จะเป็นอะไร ก็เป็นไป หากเป็นพระที่ดี ควรค่าแก่การเคารพกราบไหว้ก็จบ
9 จะออกบวชด้วยเหตุผลอะไร จะทำนุบำรุงศาสนาหรือหนีเมีย นี่ไม่ใช่เรื่องที่คนอื่น คนนอก คนไหนต้องรู้ เป็นแค่เรื่องชาวบ้าน ตัวพระเองต่างหากที่รู้เหตุผลจริง ซึ่งเราจะไม่ยุ่ง
เอาแต่คิดมาก กลัวดราม่า แบบนี้ไม่ไหวหรอก จะบอกให้คนธรรมดาๆหรือแม้แต่ผู้หญิงเขาก็ขวนขวายหาเงินเรียนกันเองทั้งนั้น
คุณเลือกเอาดีกว่า ว่าจะละทางโลก ไปปฏิบัติธรรม หลุดพ้น ก็ไม่ต้องเรียน
แต่ถ้าจะเรียน ก็สึกออกมาทำงานเก็บเงิน จะได้รู้ว่าเรียนเอกชนมันใช้เงินมากต้องเหนื่อยหาเงินเท่าไร
คนเป็นผู้รับเฉยๆ จะบิณฑบาตหรือรับบริจาคก็ไม่มีสิทธิ์เลือก ว่าจะเอาเอกชน เอาสบาย
มันไม่ถูกต้อง เกิดเป็นผู้ชาย อายุก็ยังหนุ่ม ไม่ได้พิการ ไม่พึงคิดใช้เงินที่มาจากน้ำพักน้ำแรงคนอื่น ไม่พึงยืมจมูกผู้อื่นหายใจ เศรษฐกิจแบบนี้ เลือกเองชีวิตจะเดินทางไหน
อย่างไรก็ตาม อนุโมทนากับคุณนะถ้าจะเสียสละบวชไปตลอด ก็ทำหน้าที่ทางธรรมให้ดีไปเลย
อย่าจับปลาสองมือ เป็นพระก็เป็นไป ไม่ต้องคิดเรื่องเรียนปริญญา ใครเขาจะนินทาคุณก็อย่าให้แค่ลมปากมากระทบใจ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?