รีวิวประสบการณ์และคำแนะนำ สอบเข้า อักษรฯจุฬาฯ ของนิสิต62คนหนึ่ง ฉบับเต็มรูปแบบ

[Terapat Choksutinsakul]

สวัสดีๆค้าบ หลังจากที่ปล่อยให้หลายคนรอไปนานมาก เรากลับมาอีกครั้งหนึ่งกับการรีวิวการสอบเข้าคณะอักษรฯจุฬาฯของเรา กว่าจะได้มาเป็นนิสิตนั้น ยากเย็นแสนเข็ญ...(จะบอกก่อนว่ารีวิวนี้ยาวมากกก) 

ก่อนอื่นของเอ่ยถึงวิธีเตรียมตัวเบื้องต้นก่อนเนอะ
      1.หาว่าตัวเองชอบคณะไหน(เอาชนิดที่ว่า เรียนแล้วมีความสุข และชอบมันเอามากๆ)
      2.หาว่าคณะนั้นๆใช้คะแนนอะไรบ้าง
      3.ตั้งเป้าหมายให้มั่นคง อย่าเปลี่ยน!!!
1.หาว่าตัวเองชอบคณะไหน
       อันนี้เป็นเรื่องจริง ถ้าน้องๆชอบอะไร เราก็อยากให้เลือกตามที่ชอบได้เลย เพราะ น้องต้องคิดเสมอว่า จะต้องอยู่กับสิ่งที่น้องๆเลือกไปอีก 4/5/6 ปีเลยทีเดียว ดังนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ความสุขในการเรียน สำหรับเราแล้ว เราว่าที่เราเลือกอักษรฯ ก็เป็นเพราะชอบวิชาประวัติศาสตร์ ฝรั่งเศส มาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็เลยอยากรู้เรื่องนั้นให้มากขึ้น 
2.หาว่าคณะนั้นๆใช้คะแนนอะไรบ้าง
       สำคัญไม่แพ้กันสำหรับเกณฑ์คะแนน ยิ่งไปกว่านั้นคือ เราต้องดูให้ดีด้วยว่าคณะนั้นๆเกณฑ์คะแนน มีการเปลี่ยนแปลงมั้ย หรือว่า เราต้องส่งคะแนนอะไรกลับไปให้คณะที่เรายื่นมั้ย(ส่วนตัว มีประสบการณ์จากการยื่นคะแนนpatฝรั่งเศส ให้คณะศิลปศาสตร์ มธ. เกือบไม่ทัน เพราะว่ามัวแต่ดีใจกับคะแนนอยู่555 มารู้ตัวอีกทีก็ส่งเอาวันสุดท้ายแล้ว)ดังนั้นอยากฝากไปยังรุ่นต่อๆไปด้วย (สำหรับเกณฑ์คะแนนนั้นสามารถดูได้ที่ เว็บไซต์ ของมหา'ลัย) และต้องดูดีๆด้วยว่า คณะนั้นเปิดกี่รอบ เราหวังจะติดรอบไหน รอบที่เราหวังใช้คะแนนอะไรบ้าง
3.ตั้งเป้าหมายให้มั่นคง อย่าเปลี่ยน!!!
       ถามว่าทำไมถึงอย่าเปลี่ยน ก็เพราะ ถ้าเรามีเป้าหมายว่าจะเข้าคณะอะไรชัดเจนแล้ว จะทำให้เราสามารถโฟกัสวิชาที่จะสอบได้นั้นเอง เพราะแต่ละคณะเกณฑ์คะแนนต่างกัน
          ตอนปี 62 ของเรา เราหวังที่จะติดในรอบ 3 เป็นรอบที่ใช้คะแนน 9วิชาสามัญ(ไทย 25% สังคม 25%อังกฤษ 25%) และpat ภาษา25% รวมๆแล้วใช้4วิชาถ้วน ถือว่าหนักใช้ได้เลย แต่เพื่อ อักษรฯ ต้องสู้เท่านั้นนะ สู้ๆๆๆ!!!! ส่วนตัวแอบคิดว่า ถ้าไม่ติดอักษรฯปีนี้ อาจไปคณะที่เลือกอันดับ2(ซึ่งอยู่ในจุฬา) แล้วซิ่วมาอักษรฯอีกปีหน้า
          คำแนะนำสำหรับ ผู้ที่ไม่อยากโฟกัสทุกวิชา(รวมถึงเราด้วย555) เนื่องด้วยอักษรฯเรานั้นสัดส่วนคะแนนเท่ากันทุกวิชา นั้นหมายความว่า ทุกวิชาต้องช่วยๆกัน เราจึงขอแนะนำว่า ให้ มุ่งมั่นมากๆเลเวล100 สำหรับวิชาที่เรา ชอบ ถนัด ทำข้อสอบเก่าแล้วได้เยอะ(ทำปีก่อนๆได้เยอะไม่ได้หมายความว่าปีที่เราจะสอบจะได้เยอะเสมอไป ขู่ไว้ก่อน5555) แต่ แต่ แต่!!!!! ไม่ได้หมายความว่า จะเทวิชาที่เราไม่ค่อยถนัดนะ เราต้องหิ้วคะแนนวิชาที่เราไม่ถนัดพวกนั้นไปด้วย มันอาจจะช่วยเราได้บ้างถึงจะน้อยก็ตามแต่
          ของเรา เราเลือกที่จะเน้น ไทย กับ ฝรั่งเศส เพราะ แอบมั่นใจอยู่เล็กๆว่า ทั้งสองคงช่วยเราได้ (เรียกได้ว่าเป็นวิชาที่ฝากชีวิตไว้ด้วยเลยทีเดียว) ในส่วนอีก2 วิชานั้น เราทำใจแล้วว่าคะแนนคงไม่ค่อยดี(และผลก็เป็นไปตามที่คาดเชียว) ด้วยคำเล่าลือที่ว่าสังคม ได้ เลข 6 ขึ้นก็บุญแล้ว5555 ส่วนอิ้งนั้น ตอนแรกที่เคยมั่นใจ ไปๆมาๆก็เริ่มหันเห ไม่กล้าฝากชีวิตไว้กับเค้า เพราะ ทำไม่ทันบ่อยมากกกก มันเป็นอะไรที่ต้องแม่นจริงๆ คนทำอิ้งได้เยอะต้องนอกจากเก่งแล้วยังต้องไม่มีความลังเลอีกด้วย  แต่ถึงอยากไรก็ตามเราก็ไม่ได้เท สักวิชาที่จะใช้เข้าอักษรเลยน้าาา เพราะ ทุกวิชา สำคัญหมด

เข้าสู่ในPARTที่เราจะจริงจังกันแล้ว(ในส่วนนี้ไม่ได้รับการสนับสนุนใดๆทั้งนั้นครับ555)

ในส่วนนี้ เราของแยกเป็นวิชาไปนะ
       1.  9วิชาสามัญ อังกฤษ 25%
       2.  9วิชาสามัญ สังคม 25%
       3.  9วิชาสามัญ ภาษาไทย 25%
       4.  Pat ฝรั่งเศส 25%
 

1.  9วิชาสามัญ อังกฤษ 25%
อย่างที่บอกไปตอนต้นว่า อังกฤษ ก็เป็นเหมือนยาขม สำหรับเรา ด้วยเรื่อง เวลาที่สั้น สวนทางกับข้อสอบที่ยาวยิ่งกว่าพระไตรปิฎกนั้น ทำให้เราตื่นเต้นมาก โดยเฉพาะเวลาสอบจริง บอกก่อนเลยว่าสำหรับ อิ้งสามัญ ทำทุกครั้งต้องจับเวลาทุกครั้ง(เอาจริงๆก็ควรทุกวิชาเลยนั้นแหละนะ) แหล่งที่มาของการเตรียมสอบอิ้ง 9 วิชาก็มี 3 แหล่งหลัก
     1.หนังสือเตรียมสอบ ที่เราใช้หลักมีอยู่3เล่ม คือ
         
          1.1 หนังสือ แนวข้อสอบ 9 วิชาสามัญ ภาษาอังกฤษ โดย ดร.ศุภวัฒน์ พุกเจริญ

(ภาพจาก : https://www.se-ed.com)

หนังสือเล่มนี้เป็นเล่มที่ค่อนข้างยากเลยทีเดียว ทำแรกๆอาจจิตตกได้ อาจจะแอบคิดว่า ทำไมเราถึงโง่ได้ขนาดนี้ แต่ไม่หรอก มันไม่เกินความสามารถของเราอยู่แล้ว ช่วงแรกที่เราทำ ผลคือมักจะทำไม่ทันตลอดเลย แต่พอมาแบบฝึกท้ายๆเริ่มทันอยู่บ้าง แต่มันก็ยังเป็นเวลาที่กระชั้นชิดเอามาก อยากบอกไว้ก่อนเลยว่า การที่ลองทำแล้วคะแนนขึ้นๆลงๆมันไม่แปลกเลยนะ เพราะ ความยากของแต่ละชุดมันก็ยากแต่ต่างกันสำหรับเราอยู่แล้ว ถึงอย่างไรก็ตามก็ยังอยากให้ทำก่อน(บางคนอาจคิดว่า อ้าว แล้วหนูไม่มีความรู้เรื่องนี้จะทำไง บอกเลยว่าทำก่อน เพราะว่าาา ถ้าทำเสร็จแล้วเราก็จะรู้ว่าเราอ่อนเรื่องไหน conver / grammar / reading พอเรารู้แล้วอยากมัวแต่เสียใจว่าได้น้อยนะ รีบปรับปรุง อ่านๆๆๆ เรื่องที่ยังไม่คล่องเลย)

         
       1.2 หนังสือเตรียมสอบ CU-TEP READING 

         
หลายคนอาจจะงง นี่จะสอบ 9 วิชานะ ทำไมต้องอ่านCU-TEP แต่สำหรับเราแล้ว เล่มนี้เป็นเล่มในดวงใจเลย555 เพราะ ได้ศัพท์แปลกประหลาด พวกศัพท์วิทย์ นวัตกรรม อะไรต่างๆใช้ได้อยู่ และเราสามารถเอาประสบการณ์จากการทำเล่มนี้ไปช่วยในการสอบGATได้ด้วยนะ เพราะบางอัน GAT ก็แนวๆนี้เลย เรียกได้ว่าอ่านเล่มเดียวได้2ข้อสอบ แถมอยากจะกระซิบอีกว่าใครที่อยากเข้าจุฬาฯ ไม่ว่าจะคณะไหน ต้องสอบCU-TEP ทางมหาลัยจัดสอบให้ฟรี ช่วงวันที่มีงานปฐมนิเทศรับน้องก้าวใหม่ ช่วงนั้นแหละ ใครที่คะแนนต่ำกว่า 30(ทุกพาร์ทรวมกัน)ต้องเรียนอิ้งเพิ่มที่สถาบันภาษา 50ชม. ถ้าจำไม่ผิด แต่คือมันเต็ม 120 คิดว่าคงยากแหละที่จะได้ไปเรียนเพิ่ม
         
       1.3 ชีทคำศัพท์ต่างๆของคุณครูสมศรีผู้เมตตา555
เพราะถึงเราจะไม่ได้เรียนจำแก แต่แกก็มีชีทให้โหลดได้กันฟรีๆทางเน็ตเลย ลองหาๆกันดู เพราะ ถ้าเรายิ่งรู้ศัพท์เยอะ เราก็ยิ่งอ่านได้เร็วขึ้น ชีทของครูสมศรีจะมีหลายรูปแบบ แบบที่แบ่งเป็นหมวดๆ ที่เป็นสรุปศัพท์ยากจากปีก่อนๆก็ยังมี ไปโหลดมาเป็นเจ้าของกันซะด้วยนะ
     
       2.เรียนพิเศษ  ที่เรียนพิเศษที่เราเคยเรียนอิ้งมาก็มี 2 ที่ 
          2.1 English For Excellence ที่นี่คือที่เรียนอิ้งที่เราเรียนมาตั้งแต่ตอน ม.2 เพราะ เพื่อนชวนไปเรียน เค้าสอนดี ละเอียดมาก เกี่ยวกับGrammar เรียกได้ว่า เคลียร์ ชัด จัดทุกประเด็นเลย ส่วนของVocabก็ไม่แต่กัน เพราะ เค้าให้เราสอบทุกๆอาทิตย์ พักหลังๆก็ให้มาเฉพาะศัพท์เดี๋ยวไม่มีคำแปล แต่ให้ไปหาsynonymsมาเอง ซึ่งแน่นอนว่า เราค้องหาให้เยอะที่สุด เพื่อที่จะได้มีตอบ ที่ตั้งที่เรียน อยู่ที่ เยื้องเดอะเบรน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลานะครับ
          2.2 Enconcept สำหรับเรา เราคิดว่าจุดเด่นของ เอ็นคอน คือ การจำศัพท์ที่ แปลกใหม่ ซึ่งทำให้เราจำได้ดีมาก และสามารถจำศัพท์ได้คราวละชุดเลย
     
       3.เพจ หรือ แอคเคาท์ อินตาแกรม
          3.1 เพจ GAT Eng Thailand เพจนี้ เค้าดีจริมๆ เพราะ จะมีความรู้ เกี่ยวกับทั้งGAT 9วิชามาให้อยู่ตลอด ก่อนสอบก็จะมีข้อสอบมาให้ลองวิทยายุทธ์กัน555 
          3.2 engcadamia ใน IG เพจนี้ดีตรงที่ เค้าจะเอาข้อสอบปีก่อนทั้ง 9วิชา GAT IELTS SAT มาให้ดูอยู่เสมอ ถ้าเราจำแนวคิด วิธีทำจาก เพจได้ แล้วนำไปประยุกต์ใช้ตอนสอบ มันช่วยได้เยอะเลยทีเดียว

วิธีจำศัพท์ที่อยากจะมาแชร์(ปล.วิธีจำศัพท์ของแต่ละคนล้วนแตกต่างกันไปตามแต่ตัวเองชอบนะ)

     สำหรับหลายๆคน คงคิดว่า การจำศัพท์ มันยากมากก เพราะศัพท์มีอยู่เยอะแยะไปหมด สำหรับเราแล้วเราจะมีสมุดไว้หนึ่งเล่ม สำหรับ  วิชาภาษา เพื่อจดศัพท์ไว้ด้านหลัง แล้วพลิกด้านหน้ามาจดgrammar ศัพท์ที่จดจะจดแบบsynonyms เพราะ การจดแบบนั้นจะทำให้ได้ศัพท์เป็นชุดๆ(บางคนอาจจะงงว่า อ้าว แล้วจะหาศัพท์มาจากไหนกันหละ สำหรับเราแล้ว เราหาจาก แอป Merriam Webster เว็บนี้จะมี คลังศัพท์อยู่ด้วย) โดยจะจดศัพท์ Synonymsโดยที่ นำศัพท์มาจัดลำดับ โดยการเรียงจาก ศัพท์ที่ไม่เคยเห็น /ยากๆ ไปยังศัพท์ที่ พอจะเคยเห็น/จำได้บ้างแล้ว หรือจะไฮไลท์คำที่ยากไว้ก็ได้ และอยากจะแนะนำให้เขียนเว้นบรรทัดก็ดี เพราะจะได้ไม่ปวดหัวตาลาย

2.  9วิชาสามัญ สังคม 25%
สำหรับสังคม ขอแยกเป็น 2 แหล่ง
       1. เรียนพิเศษ
          1.1อาจารย์ปิง
ขอบอกเลยว่า อาจารย์ปิงช่วยชีวิตมาก ในส่วนของสังคม เพราะ คอร์ส เทอร์โบ รวบเนื้อหาได้ดีมาก เอามาเฉพาะที่สำคัญ แนะนำเลยสำหรับใครที่มีเวลาน้อย อ่านไม่ทัน ไฟลนแล้ว แต่สำหรับคนที่อ่านแล้วก็เรียนได้เด้อ เหมือนได้รวบสรุปสิ่งที่เราอ่านมาทั้งหมด หนังสือที่อาจารย์สอนของคอร์สเทอร์โบคือ ดีจริงๆ555 เพราะรวมเนื้อหาทั้งหมดที่เราเรียนมาในสังคมม.ปลาย ไว้ในเล่มเล็กๆน่ารักๆ อาจารย์จะมีข้อสอบย้อนหลังปีก่อนๆมาให้ทำซึ่งช่วยได้มากเลย

          1.2 SociThaiของพี่หมุย
อันนี้อยากจะแอบบอกว่า ไม่ได้เรียนตอนจะเข้ามหาลัยหรอก แต่เอาหนังสือตอนที่เคยเรียนตอนม.3มาอ่าน เพราะเนื้อหาพี่แกลึกตั้งแต่ตอนม.ต้นเลย ที่อยากจะเชิดชู คือ เรื่องคำท่องจำช่วยชีวิต เช่น เรื่อง เครื่องมือทางภูมิศาสตร์ที่แต่ก่อนจำไม่เคยได้ เดี๋ยวนี้กลายเป็นว่า พอพูดชื่อก็นึกออกเลย

       
       2. หนังสือ
          2.1หนังสือ Fight for University หัวใจสังคม มัธยมปลาย 
ถ้านอกจากหนังสือของอาจารย์ปิงทั้งหลาย พวกรวมข้อสอบสังคมทุกปีพร้อมเฉลยเอย หนังสือในคอร์สเรียนเอย ก็ยังมีอีกเล่มที่อยากแนะนำคือ หนังสือ Fight for University หัวใจสังคม มัธยมปลาย  สำหรับใครที่มีเวลาเยอะมาก ย้ำว่า เยอะ อยากให้อ่านเล่มนี้เลย ควรใช้เวลา2-3เดือนก่อนสอบให้เล่มนี้ เพราะเนื้อหาของพี่แกแน่นจริงๆ ที่ชอบคือในพาร์ท ศาสนา สรุปได้ดีมาก อ่านง่ายเป็นตาราง ใครอยากเก็บสังคมมากๆก็ฟาดไปด้วยเล่มนี้เลย อ่านให้มันไปเลยเน้อออ555 อ่านเล่มนี้ใช้ได้กับทุกข้อสอบเลย และค่อนข้างแม่นด้วย

3.  9วิชาสามัญ ภาษาไทย 25%
แหล่งความรู้ที่เราใช้มี 1 ส่วนเท่านั้น
       1.เรียนพิเศษ
          1.1 อาจารย์ปิง
แน่นอนอีกแล้วกับการยืนหนึ่งของแม่ปิง เพราะ คอร์สเทอร์โบอีกเช่นกันที่ ทำให้เราซึ่งในอดีตเคยเป็นคนที่อ่านจับใจความไม่ค่อยได้ เพราะชอบหลุดประเด็นจากคำถาม แต่หลังจากเรียน อาจารย์มีเทคนิคที่ช่วยได้เยอะเลย แถมยังให้ทำข้อสอบเก่า ที่ช่วยให้เรารู้ว่าเราอ่อนเรื่องไหนอยู่ด้วย แต่ที่สำคัญคือ เราต้องเข้าเรียน และทำการบ้านทุกครั้ง อย่ารอเฉลยอย่างเดียวนะ ไม่ต้องกลัวเลยที่จะผิดพลาด เพราะทุกคนล้วนเลยผิดพลาดมาก่อน และเดี๋ยวซักวันมันก็จะดีขึ้น สู้ๆ

4.  Pat ฝรั่งเศส 25%
แหล่งความรู้มี 3 อย่างด้วยกัน
       1.เรียนพิเศษ 
          1.1 Vocabdujour พี่เก้า
ไม่พูดถึงไม่ได้แล้ว เพราะ นี่คือที่สุดของที่สุดสำหรับเราของการเรียนฝรั่งเศส เพราะ เวลาสอน พี่เก้าจะสอนจนกว่าจะเข้าใจ ทั้งเรื่องgrammaire และvocabulaire บอกเลยว่าสุด มีข้อสอบเก่าๆตั้งแต่รุ่นพระเจ้าเหา มาให้ฝึก แน่นอนว่าการได้ทำข้อสอบเยอะนั้นจะช่วยให้เรารู้แนวคำถาม และยังทำให้เรารู้คำศัพท์ มากยิ่งขึ้นด้วย ชอบตรงที่พี่เก้าจะให้ศัพท์มาเป็นชุดๆ ถ้าเห็นแค่คำเดียว ศัพท์ชุดนั้นก็จะลอยมาในหัวเลยทีเดียว คอร์สที่เราเรียนก็ตั้งแต่vocab,grammaire,ตะลุย1,ตะลุย2 2คอร์สแรกจะปูพื้นฐาน พี่เก้าจะมีทริคช่วยจำ อะไรที่ยิบย่อยที่เรามักจะพลาดมาให้จำด้วย ส่วน2คอร์สหลังจะเป็นการลองทำข้อสอบเก่าๆที่พี่เก้าจะอธิบายแบบลึกมาก และสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด คือ พี่เก้าแจกขนมด้วยยยย
       2.หนังสือ
         2.1 รู้ทัน PAT7.1 ภาษาฝรั่งเศส
หนังสือเล่มนี้เป็นผลงานของพี่เก้า ที่เรียกได้ว่า ครบจบในเล่มเดียว สำหรับชาวศิลป์ฝรั่งเศสที่มีปัญหาเรื่อง โครงสร้าง verbe,การออกเสียง,le mode,กรรมตรงกรรมรองต่างๆที่เป็นยาขม และ รวมทั้งข้อยกเว้นเล็กๆน้อยๆต่างๆ ที่Patมักเอามาหลอก ก็ถูกรวมไว้ในเล่มนี้เช่นเดียวกัน ตอนที่ใกล้สอบเราอ่านเล่มนี้ทุกวัน ทุกที่ ทุกเวลาจริง ขนาดบนรถเมล์ยังอ่าน เทคนิคเล็กๆคือ อยากให้ทำแบบทดสอบด้านหลังก่อน แล้วมาดูว่าเราผิดเรื่องอะไร แล้วก็กลับมาอ่านเรื่องนั้น ยังไม่จบแค่นั้นนะ อ่านเสร็จแล้วก็สรุปลงในสมุดอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้จำได้ดีขึ้น

       3.เพจ
          3.1 เพจต่างๆของvocabdujour
แนะนำในเด็กศิลป์ฝรั่งเศสหรือใครก็ตามที่ชอบ หรืออยากเรียนฝรั่งเศสกดไลค์/ฟอล ไว้ได้เลยทั้งให้Facebook IG และ Twitter เพราะจะมีคำศัพท์หรือสาระ วัฒนธรรมน่ารู้อยู่ตลอด และโดยเฉพาะช่วงเพิ่งออกจากห้องสอบเสร็จ จงเปิดทวิตซะ ทุกอย่างจะเกิดขึ้นเร็วมาก

เพิ่มเติมนิดนึง
ถ้ามีการสอบpre-testที่ได้ลงสนามจริงๆจับเวลาจริงก็อยากให้ทุกคนได้ไปสอบกันนะ เพราะ มันให้ความรู้สึกเดียวกับตอนสอบจริงเลย อีกอย่างมันจะทำให้เราทำใจได้ด้วย5555
 
สิ่งสำคัญที่ควรพกติดตัวไว้เสมอตอนจะสอบ
     1.ความรู้(อันนี้ แน่นอนอยู่แล้ว ของมันต้องมี!!!)
     2.สติ(สำหรับตอนสอบจริงต้องใช้สติมากๆ เพราะด้วยแรงกดดันต่างๆ)
     3.เป้าหมาย กำลังใจ และ แรงบันดาลใจ(อันนี้สำคัญที่สุด เพราะถ้าไม่มีเราก็จะถอดใจจากเป้าหมายได้ง่ายๆ หาวิธีที่เราชอบในการสร้างแรงบันดาลใจให้ตัวเอง อาจจะเป็น ตั้งรูปในโทรศัพท์เป็นรูปมหาลัยที่อยากเข้า  หรือจะเขียนคำให้กำลังใจติดไว้หน้ากระจก ก่อนออกจากบ้านก็จะได้อ่านทุกครั้ง ไม่จำเป็นว่าเราต้องได้รับกำลังใจจากคนอื่น ตัวเรา
เองนี่แหละที่จะเป็นตัวผลักดัน)

          สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด เราอยากจะให้ทุกคนภูมิใจในตัวเองเสมอ ไม่ว่าผลที่ออกมาจะเป็นไปตามที่เราคาดหวังหรือไม่  เพราะนั้นเป็นผลจากความพยายามของเราแล้ว ถึงบางครั้งเราอาจจะไม่ได้คณะที่ชอบ แต่เราอาจจะไปค้นพบความชอบตอนได้เข้าไปเรียนมันแล้วก็ได้นะ อย่าถอดใจ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น สู้ตายเท่านั้น สุดท้ายจริงๆแล้วนะ อยากจะจบด้วยประโยคเด็ดกับเค้าบ้าง5555 อยากจะฝากประโยคที่ว่า"แม้ทุกความพยายามอาจจะไม่ได้นำไปสู่ความสำเร็จ แต่ ทุกความสำเร็จต้องมีความพยายาม" เด็ดมั้ยล่าาาา อาจจะงงหน่อยๆแต่ค่อยคิดว่ามันมีความหมายว่าอะไร5555 ขอบคุณครับ แล้วเจอกันใหม่ ซักวันหนึ่งตอนที่อยากเขียนกระทู้อีก     

Comments

[Keaw0841996463]

เก่งมากครับลูก เผยแพร่ให้รุ่นน้องได้ศึกษาปฏิบัติ และเป็นกำลังใจ การได้รับและให้ต่อ คือดีมากลูก

[Chrslyse]

คะแนนสามัญ 3 วิชากับ pat7.1 ได้เท่าไหร่หรอคะ