Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

แค่เงียบ เพื่อนบอกว่าจะเลิกคบ?

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ตอนนี้อยู่ม.2 เป็นคนที่เงียบๆ แต่ส่วนใหญ่ก็พูดนะคะ แต่พูดน้อย(?) เราเป็นคนยังไงก็ได้อะค่ะ จะไปกับเพื่อนก็ไปได้ จะพูดด้วยก็ได้ แต่เราแค่พูดน้อย


เพื่อนบอกว่าตอนเรามาโรงเรียนก็เหมือนไม่มา แต่ประโยคนี้ได้ยินจนชินแล้วค่ะ เลยไม่ค่อยคิดอะไรมาก


แต่ประโยคนี้ต่างหากค่ะ

" ถ้าเองยังเป็นคนเงียบแบบนี้นะ เค้าจะเลิกคบกับเอง "


นี่แหละค่ะ เราอยู่ตรงนั้น เราถามกับตัวเองในใจว่า เราผิดขนาดนั้นเลยหรอแค่เราเป็นคนเงียบ? เราเป็นคนมนุษย์สัมพันธ์ไม่ดี?


แน่นอนค่ะ ประโยคนี้ทำให้เราคิดไปถึงงานกลุ่มเลยว่าเค้าไม่เอาเราเข้ากลุ่มทำงานแน่ๆ คือถ้าเค้าไม่อยากมีเราเป็นเพื่อนแล้ว เราจะออกไปเองค่ะ ไม่ใช่มาพูดแบบนี้ มันยิ่งทำให้เราอึดอัด


อยากจะถามทุกคนว่า เราควรเปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนพูดมากขึ้น? หรือ เราเป็นแบบนี้ของเราแหละดีแล้ว?

แสดงความคิดเห็น

>

16 ความคิดเห็น

Moonlight 13 ก.ย. 62 เวลา 00:45 น. 1

อันนี้ขอตอบคำถามก่อนน้า~ ถ้าถามว่าจะเปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนพูดมากขึ้นดีไหม ถ้ามันไม่ฝืนและอึดอัดก็เปลี่ยนได้ค่ะ พยายามทีละนิด แต่ถ้ามันไม่ใช่ตัวเราก็ไม่เห็นจำเป็นจะต้องเปลี่ยนนะในความเห็นพี่

อันนี้แชร์ประสบการณ์ค่ะ - สมัยเรียนพี่เป็นคนเงียบๆ เหมือนกันค่ะ ชอบเป็นผู้ฟังมากกว่า แต่ถ้าใครพูดด้วยเราก็ตอบ ยิ่งถ้าคุยในเรื่องที่สนใจเหมือนกันก็ยิ่งพูดเยอะ(มาก) ประมาณว่าเพื่อนฮาเราก็หัวเราะไปกับเขาด้วย ที่เราเงียบเป็นเพราะไม่อยากมีปัญหากับใคร แต่กลายเป็นว่าเพื่อนที่คิดว่าสนิทที่สุดกลับมาแขวะใส่ทุกวันจนกลับมาร้องไห้ที่บ้านคนเดียวทุกวันตลอดที่เรียนตอนม.ต้น


พอมาม.ปลายคอยดีหน่อยที่เพื่อนคนนั้นย้ายออกไป พี่มีกลุ่มเพื่อนที่สนิทแล้ว ยังพูดน้อยเหมือนเดิมแต่เพื่อนก็เข้าใจและคอยเถียงแทนให้เวลามีคนบอกว่าพี่เป็นคนเงียบ(เป็นใบ้) มีพวกห้องอื่นที่ชอบมาถามแบบกวน- ซึ่งเบื่อมาก อยากเห็นว่าเราเป็นคนเงียบมากใช่ไหม พี่ก็เงียบสมใจ ยิ้มตอบอย่างเดียว จนวันนึงพวกเบื่อก็ไปเอง

ส่วนเรื่องงานกลุ่ม อันนี้พี่ไม่รู้ว่าจะช่วยน้องไม่ให้คิดมากได้ไหม เพราะงานกลุ่มพี่ไม่เคยอยู่เป็นหลักเป็นแหล่งเลยตั้งแต่ม.1 กลุ่มไหนขาด อ.ก็ให้ไปอยู่กลุ่มนั้น โชคดีที่อยู่กับกลุ่มไหนก็ได้(บกเว้นเพื่อนคนนั้น) เหมือนกับขอแค่มีกลุ่มให้อยู่ก็พอใจละ 555 แต่ถ้าวิชาไหนแยกทำเดี่ยวได้ ก็แยกมาเลย ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว

หรือแม้กระทั่งตอนม.ปลาย ถึงมีกลุ่มเพื่อนก็จริง แต่กลุ่มพี่มี 7 คน ทั้งห้องมี 31 คน เวลาแบ่งกลุ่มพี่ก็ยังคงเป็นคนเร่ร่อนไปอยู่กลุ่มอื่นเหมือนเดิม เพราะมีกลุ่มที่มี 7 คน ไปแล้ว เพื่อนในกลุ่มที่เหลือ 6 คนก็อยู่ด้วยกัน ถ้าถามว่ามีปัญหาตอนทำงานกลุ่มไหม อันนี้ขอตอบว่าไม่มีเพราะพี่ช่วยคนอื่นทำงานอยู่แล้ว เวลาเสร็จจากงานกลุ่มก็ไปอยู่กลับกลุ่มตัวเองเหมือนเดิม

ถ้าพูดตามตรงก็นอยด์แหละ ว่าเพื่อนมีกันตั้งเยอะแต่ทำไมฉันต้องแยกไปอยู่กลุ่มอื่นคนเดียวด้วยฟะ? ละเคยพูดกับเพื่อนในกลุ่มคนนึงเชิงตัดพ้อเล็กๆ ว่า "เค้าแยกไปคนเดียว เค้าชินแล้วล่ะ" หลังจากนั้นเพื่อนน่าจะเอาไปเล่าให้คนอื่นในกลุ่มฟัง(มั้ง) เวลาแบ่งกลุ่มเราเลยแยก 3 กับ 4 คน ทุกที จนเรียนจบม.ปลาย เหมือนกับจะบอกนัยๆ ว่า ฉันไม่ได้ทิ้งเธอไปอยู่คนเดียวแล้วนะ ประมาณนี้ 555

สุดท้ายนี้ขอโทษด้วยหากคำตอบของพี่ไม่ได้ช่วยอะไรน้องเลย แต่อยากบอกว่า ถ้าเป็นไปได้พยายามอย่าไปเก็บเรื่องพวกนี้มาคิดมากอยู่คนเดียวเลย หาอย่างอื่นที่ทำให้เรามีความสุขทำดีกว่า เรื่องที่โรงเรียนเดี๋ยวพอถึงวันนึงเรื่องที่ทำให้เครียดพวกนั้นมันก็กลายเป็นอดีตไป

มหาลัยค่อยหาเพื่อนใหม่ แต่ถ้าไม่มี(อย่างพี่)ก็ตัวคนเดียวโลดด อาจเพราะพี่เลิกเรียนม.ที่ต้องพึ่งตัวเองเป็นส่วนใหญ่เลยรู้สึกมีความสุขที่ว่าไม่ต้องแคร์ใคร จะสอบผ่านหรือตกหรือได้เกรดอะไรก็มาจากตัวเองทั้งนั้นแหละ ถ้าขี้เกียจ เกรดไม่ดีก็โทษใครไม่ได้ด้วย 5555 แต่ก็มีความสุขดีนะ


ตรงนี้ขอสรุปแบบสั้นๆ ละกันว่า ถ้าน้องไม่ซีเรียสเรื่องงานกลุ่มหรือเพื่อนก็ไม่จำเป็นต้องแคร์อะไร


สู้ สู้นะ!!



2
Moonlight 13 ก.ย. 62 เวลา 00:52 น. 1-1

นานๆ จะได้ตอบสักที ขอต่ออีกนิดนะ

พี่ไม่รู้ว่าเพื่อนพูดเพราะหวังดีอยากให้น้องพูดเยอะขึ้นหรือเปล่า เพราะเพื่อนพี่(คนที่ชอบแขวะ) ก็เคยพูดทำนองนี้ ที่พี่ทำตอนนั้นคือตีตัวออกห่างทันที ทั้งที่คิดทั้งสองทางแล้วว่าเขาอาจหวังดีอยากให้เราพูดเยอะๆ แต่มันอึดอัด และถ้าหวังดีจริงก็พูดดีๆ กันก็ได้นี่ ไม่ใช่มาพูดให้เราเสียความรู้สึกแบบนี้


ถ้าเพื่อนจะเลิกคบด้วยเหตุผลที่ว่าเราเงียบเกินไป(แบบไม่ได้หวังดี) พี่ว่ามันค่อนข้างไร้เหตุผลและงี่เง่าไปหน่อย

0
august31 13 ก.ย. 62 เวลา 17:31 น. 2

หัดพูดเถอะครับ ตอนนี้ยังอยู่ ม.2 ถ้าคุณกลายเป็นคุณจะมีปัญหาในการเข้าสังคม เหมือนผม

0
here 13 ก.ย. 62 เวลา 19:07 น. 3

ถ้าไม่หัดพูดให้มากขึ้น มันอาจจะมีปัญหาในตอนสมัยยังเรียน แต่ก็แค่เล็กน้อย ถ้าคุณรู้จักตัวเองดีพอ

ถ้ามันไม่ไหวก็อย่าไปฝืน

พูดน้อย แต่ถ้ารู้จักกลมกลืนกับคนอื่นให้เป็น ไม่นิ่งเงียบจนกลายเป็นเด่นมันก็ไม่มีปัญหา

ชีวิตวัยทำงาน อันนี้ขอพูดถึงในอนาคตอีกหลายปีข้างหน้าเลยนะ ...อย่างที่บอกว่าขอแค่รู้จักตัวเองให้ดี การทำงานมันไม่จำเป็นเสมอไปว่าต้องเข้าสังคม งานมีหลากหลายทางให้เลือก

คิดเยอะๆ คุยกับตัวเองให้ดี มันไม่มีผิด คนเราไม่จำเป็นว่าต้องพูดเก่ง เข้าสังคมเก่ง ถ้ามีแต่คนพูดเก่งก็ตีกันวุ่นวายพอดี มันก็ต้องมีบ้างที่เป็นผู้ฟังใช่ไหมล่ะ?

ปล. เพื่อนไม่ใช่คนที่อยู่กับเราตลอดชีวิต อะไรที่ทำให้อึกอัดหรือเครียดก็ตัดๆ ไปบ้างก็ได้

0
น้ำค้างแสงดาว 14 ก.ย. 62 เวลา 01:20 น. 5

ฉันก็เป็นค่ะ เงียบมากด้วย เป็นคนที่พูดน้อย น้อยครั้งที่จะพูดขึ้นมาบ้าง ตอนสมัยที่เรียนไม่ต้องพูดถึงเลยค่ะ โดนแกล้ง โดนรังแกตลอดเวลา สมัยตอนเด็กๆนะ แต่พอมาช่วงม.ปลาย ก็เริ่มมีเพื่อนที่พูดคุยกันได้บ้าง แต่ไม่มากนัก ตอนแรกที่คบเพื่อนกลุ่มหนึ่ง เพื่อนก็หาว่าเราเป็นคนลึกลับ ไม่ค่อยพูดจากับใคร ก็ไม่มีเพื่อนที่สนิทใจจะพูดคุยได้นิเนาะ ใครจะไปกล้าพูดคุยด้วยล่ะ จริงมะ? แต่พอเวลาผ่านไป ฉันก็เริ่มชักจะชื่นชอบเพื่อนๆที่อยู่ในกลุ่มด้วยกันแล้ว ทัศนคติที่เถรใกล้เคียงกัน ฉันก็เริ่มพูดคุยกับพวกเขา แล้วพวกเขาก็เริ่มเข้าใจฉันเช่นกัน ว่าฉันเป็นคนแบบนี้อยู่แล้ว เงียบแต่ไม่ได้หมายความ จะมีเลศนัยเสียหน่อย แต่เป็นคนที่เงียบ พูดน้อย และก็ไม่มีอะไร


ฉันว่า จขกท ลองฝึกพูดคุยกับตนเองในกระจกดูนะคะ เผื่อเราจะได้มีทักษะ ในการพูดมากขึ้น ฉันเองก็เคยยังพูดคุยกับตนเอง ในกระจกเช่นกัน อิอิ

0
ชีวิตแค่โดนทำร้าย 19 ก.ย. 62 เวลา 07:38 น. 6

พี่ก็เคยโดนนะตอนอยู่ม.2เหมือ​นกันพวกนางเงียบใส่พี่ก่อนพี่เลยเงียบตามแล้วมาปสด.ใส่พี่ว่าทำไมไม่พูดกับพวกนาง(ตลก5555)​ถ้าน้องยังอยสกจะคบต่อน้องก็แค่พูดให้มากขึ้ยแต่ถ้าน้องทนไม่ไหวน้องเดินออกมาหาเพื่อนกลุ่มใหม่เลยดีกว่า

0
Chibi 23 ก.ย. 62 เวลา 08:34 น. 7

เลิกคบครับ

เชื่อผม เพื่อนประเภทนี้ ตัดออกไปจากชีวิตเถอะ เสียสุขภาพจิตมาก

เลือกคบเพื่อนที่เข้ากับเราดีกว่า เรามีสิทธิ์เลือกอยู่แล้ว

บางทีการมีเพื่อนน้อย หรือ ไม่มีเพื่อน ดีต่อชีวิตมากกว่ามีเพื่อนแย่ๆรอบตัว

0
อิอิ 23 ก.ย. 62 เวลา 09:01 น. 8

แนะนำให้จกท.เปลี่ยนตัวเองให้พูดมากขึ้นนะคะ อย่าไปสนใจคนที่บอกว่า ถ้าเขาเป็นเพื่อนเขาต้องรับนิสัยเราได้ มันก็ทีส่วนจริงนะคะ แต่ถ้าจขกท.เป็นแบบนี้ อนาคตทำงานยากนะคะ เพราะไม่มีใครรับนิสัยของจขกท.ได้ทั้งหมด แนะนำให่เปลี่ยนนิสัยค่ะ นี่เจอมากับตัว เป็นคนทำงานเงียบ แตาถ้าพักก็คุยนะคะ แต่อยู่ไม่ได้ เพราะตอนทำงานเราไม่มีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น มันเข้ากันยาก

1
อิอิ 23 ก.ย. 62 เวลา 09:10 น. 8-1

เพิ่มเติมจากคห.8

ปรับเป็นการชวนคุยมากขึ้น คุยในสิ่งที่เพื่อนเขาคุย แสดงความเห็น เช่น

เออแกแบบนี้ก็สวยนะ

ไปเที่ยวกันมั้ย

แกนู้นนั่นนี่

การที่เพื่อนเขาพูดแบบนี้ แสดงว่าเขายังเห็นความเป็นเพื่อน อยากให้จขกท.อยู่กับพวกเขาได้ เขาเลยพูด แต่ถ้าเขาไม่พูด จขกท.อาจจะต้องเลิกคบ

ยังไงดี อ่านคอมเม้นบนๆ บอกเพื่อนจขกท.ไม่มีเหตุผลบ้างไรบ้าง มันมีเหตุผลนะคะ เพราะแค่การทำงานกลุ่มยังเห็นผลได้ชัดเลย แสดงว่าถ้าเป็นเรื่อยๆจขกท.จะทำงานลำบากนะคะ เพราะเราเป็นคนไม่พูดเหมือนกัน แต่ไม่พูดเพราะขก. แต่พี่ที่ทำงานเขาเตือน เราก็ปรับได้ช้า จนตอนนี้ต้องลาออก เพราะเราไม่ค่อยคุย เขาเลยไม่รู้จะคุยอะไรกับเรา ที่เพื่อนจขกท.บอกว่าเลิกคบ มันไม่ใช่เพราะจขกท.ไม่พูด แต่มันเป็นเพราะ ไม่มีเรื่องจะคุยด้วย จขกท.เข้าใจมั้ยคะ พอมันไม่มีเรื่องคุย มันก็ไม่รู้จะคุยอะไร ถ้าเราบอกให้จขกท.คุยกับรปภ.หน้ารร. น้องจะคุยได้มั้ย นั่นแหละค่ะคำตอบ


ปรับตัวเองนะคะ ปรับให้คุยมากขึ้น แสดงความเห็นมากขึ้น การพูดน้อย มันมีผลกระทบนะคะ ขก.อธิบายแล้ว คนโตแล้วเขาไม่สนใจคนที่เขาไม่สนใจเราทแต่เพื่อนจขกท.ยังสนใจเลยมาเตือนแบบนี้นะคะ สู้ๆเป็นกลจ.ให้

0
Worramon Wongwilars 23 ก.ย. 62 เวลา 10:33 น. 9

เราก็เป็นคนเงียบๆค่ะ ถ้าไม่สนิทกันคือโดนมองว่าหยิ่งเลยแต่ถ้าสนิทแล้วก็จะพูดมาก(ในเรืองที่สนใจ)เป็นสายผู้ฟังแล้วให้คำปรึกษามากกว่า จากปัญหาของจขกท.แยก2ประเด็น แรกคือเราคิดว่าจขกท.ก็ควรที่จะปรับตัวด้วย ต้องยอมรับว่าเราอยู่ในสังคมค่ะ บางครั้งการขอความเห็นหรือการแลกเปลี่ยนความคิดการเสนอต่างๆมันต้องใช้การพูดจริงๆเราจะมาเงียบๆเฉยๆมันก็ยาก ง่ายๆคือปรับให้พูดในเวลาที่ควรพูดดีกว่า สองคือ เรื่องเพื่อนถ้าเป็นเราคงเลิกคบค่ะ เราไม่ได้รู้สึกว่าเพื่อนจะต้องรับตัวตนเราได้ทั้งหมดแต่บางคำพูดไม่ควรออกจากคนที่บอกว่าเป็น"เพื่อน" ให้กำลังใจจขกท.นะค่ะ เราเองก็เป็นคนเข้าสังคมไม่เก่งเหมือนกันแต่เราก็พยายามจะปรับตัว บางครั้งมนุษย์เราเลือกอะไรมาไม่ได้หรอกค่ะ การเป็นตัวเองเป็นสิ่งที่ดี(ดีมากด้วย)แต่ก็อย่างว่ามนุษย์เป็นสัตว์สังคมค่ะ ถึงสังคมจะไม่ใหญ่เราก็ควรมีคนที่ไว้ใจ เพื่อนสำคัญนะคะ ถ้ามีเพื่อนดีรักษาเขาไว้ให้ดีที่สุด

0
End of the world 23 ก.ย. 62 เวลา 12:20 น. 10

พี่ก็เคยเป็นนะที่เเบบว่่าพี่เป็นคนเงียบๆ ตอนม.ต้นพี่โดนเเกล้งบ่อยมาก เเต่หลังจากขึ้นม.ปลายพี่ก็เริ่มพูดคุยกับเพื่อนมากขึ้นเเต่ไม่ขนาดนั้น จนพอขึ้นมหาลัยพี่ก็เปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลย

เรื่องอย่างนี้พี่ว่าต้องใช้เวลาค่อยๆเป็นค่อยไป น้องลองหาเพื่อนที่คุยหรือมีไลฟ์สไตล์คล้ายๆกันดู มนุษย์เป็นสัตว์สังคมนะน้อง สุดท้ายก็ต้องคุยกับคนอื่นๆอยู่ดี เป็นเรื่องที่หนีไม่พ้นหรอก พี่เป็นกำลังใจให้นะ

0
ไม้ทานตะวัน 23 ก.ย. 62 เวลา 13:41 น. 11

พี่มีเพื่อนคล้าย ๆ น้องเลย เราสามคนเป็นเพื่อนกัน ค่อนข้างรักสันโดษเหมือนกัน แต่คนละไลฟ์สไตล์ ขอเล่าความสัมพันธ์พี่กับเพื่อนพี่คนแรกก่อน (ขอใช้นามสมมติว่า 'เอ')

พี่เป็นคนขี้อาย เพื่อนน้อย ชอบอ่านหนังสือ ส่วนเอจะมีเพื่อนในโลกโซเขียลเยอะ ไม่ค่อยคุยกับคนรอบข้าง เล่นเกมเป็นงานอดิเรก จริง ๆ พี่ควรจะเข้าใจเอนะ แต่ไม่รู้ทำไมมันย้อนแย้ง พี่กลับเบื่อ ๆ คนประเภทนี้ เหมือนพี่พูดอยู่คนเดียว คือพี่เพื่อนน้อยไง เลยค่อนข้างขี้เหงา พอเจอเพื่อนที่คิดว่าเข้ากันได้เลยใส่ไปเต็มที่ มีอะไรก็เล่าให้เอฟัง อยากสร้างความเชื่อใจให้ แต่เขาไม่ค่อยเล่าอะไรให้ฟัง ชวนไปงานอีเวนท์การศึกษาก็บอกว่าขี้เกียจไม่ไป ชวนอย่างนี้ตลอดสี่ปี ชวนน้านนานครั้ง ไม่ยอมไปด้วยกันเลยสักครั้ง เราหยิบยื่นสิ่งมีประโยชน์ให้แล้วนะ 55 ไม่ได้พาไปทำอะไรนอกลู่นอกทาง เหมือนว่าเอยังมีกำแพงในใจหรือความลับอะไรอยู่ คบกันมา 4 ปีแล้ว เอยังไม่ค่อยทลายกำแพงลงมาบ้างเลย เหมือนยิ่งรู้จักก็ยิ่งไม่รู้จักมากขึ้น

ส่วนอีกคนนึง (สมมตินามว่า 'บี') เราเข้ากันได้ดีกว่ามาก ถึงจะค่อนข้างชอบอยู่คนเดียวเหมือนกันทั้งคู่ แต่พี่รู้สึกว่าพี่หายเหงาอะ มีอะไรเราก็คุยกัน แบ่งปันกัน เริ่มสนิทกันมากขึ้นในช่วงประมาณจะเข้าปีที่ 3 เพราะสักสองปีแรกเขาสนิทกับเอมากกว่า อีกอย่างเราสองคนชอบอ่านหนังสือเหมือนกันด้วย เลยพาไปห้องสมุดประชาชนกันบ่อย ๆ แต่บีก็ชอบเล่นเกมด้วยนะ ซึ่งจริง ๆ น่าจะเข้ากันกับเอได้มากกว่าพี่ด้วยซ้ำ

จริง ๆ อยากให้เราสามคนเป็นเพื่อนสนิทกันด้วยซ้ำ ไม่ใช่แค่เพื่อนสามคนเฉย ๆ อะ แต่เราสองคนรอ รอ รอให้เอพังกำแพงลงบ้าง เปิดใจให้ใครสักคน พี่หรือบีก็ได้ เพราะใกล้จะจบการศึกษาแล้วอะ พี่คิดว่าพี่เป็นเพื่อนสนิทเออยู่แล้ว แต่เขามองพี่หรือบีเป็นเพื่อนสนิทหรือเปล่า

0
กอไหม 23 ก.ย. 62 เวลา 15:30 น. 12

เป็นกำลังใจให้นะคะ ตอนที่เราเจอแบบเดียวกัน แต่เราเลือกที่จะเดินออกมาเองเพราะรู้สึกว่ามันไม่ใช่ที่ของเรา

จริงๆเราไม่รู้นะว่าเจตนาคนพูดคือยังไงคงคอบไม่ได้ว่าให้ไปหรือให้อยู่หรือให้เปลี่ยนตัวเองหรือให้เปลี่ยนสังคม (ถ้าทางนั้นพูดแบบนั้นอย่างห่วงๆอยากให้พูดเยอะๆจะได้สนิทก็โอเคคะ ค่อยๆปรับ แต่ถ้าเจตนาแบบรำคาญเราที่เราเงียบ หรือ รู้สึกว่าเราเงียบจนมันเหมือนเป็นส่วนเกินของกลุ่ม..เราออกมาดีกว่า อย่าเสียเวลาไปกับคนที่เราเข้าไม่ได้เลย เอาเวลาไปหาคนอื่นๆดีกว่า จริงๆอันนี้ตอบไม่ได้เหมือนกะน แต่เราว่าเพื่อนกันถ้าจะเข้ากันได้ต้องยอมรับเข้าใจเบสความเป็นมาลึกๆของอีกฝ่ายนะคะ ถ้ายอมรับไม่ได้ก็จบ พยายามเปลี่ยนอะไรแบบฝืนๆยังก็แค่ยื้อเวลาเจ็บ) ถ้าเพื่อนจะไม่โอที่เราพูดน้อยอย่างเดียวจริงๆ(เราไม่ได้นิสัยน่ารำคาญอื่นๆ)ก็เปลี่ยนกลุ่มเถอะ อยู่ไปมันไม่สนุกหรอก ทางนั้นเขาไม่ผิดนะเขาบางคนเขาไม่ชินเขากลัวคนพูดน้อยคะ

ถ้ายังไงงานกลุ่มนิไปขอกลุ่มเพื่อน ผช.อยู่ด้วย เขาโออยู่แล้ว ปกคิผช.ไม่เรื่องมาก อยู่กละมเดียวกันก็อยู่ไม่ได้ฟิกกลุ่มเป็นแกงค์ต้องทำงานด้วยกันแบบสังคมผู้หญิง หรือไปร่วมกลุ่มกับคนที่ทำอะไรง่ายๆร่วมทีมกับคนใหม่ๆก็ได้คะ เราไม่ต้องไปอยู่แก๊งเดียวกับคนที่เราอยู่ด้วยอึกอัด .. กับบางคน..เป็นเพื่อนแบบผิวเผินมันดีกว่าสนิทกันจริงๆ เวลาทักก็สวัสดี เป็นเพื่อนกันแค่ไม่ต้องสนิท

เราไม่รู้นะแต่สำหรับเรา.. เดินหาเพื่อนใหม่ที่มันเข้าได้อยู่ไม่อึดอัดทุบหัวแกล้งกันได้..ง่ายกว่าถ้าเราว่าอยู่กลุ่มเดิมละไม่รอด คือถ้ากับกลุ่มที่อยู่ด้ววกันสบายใจแล้วแค่มีบางอย่างที่พวกนั้นบอกว่าไม่ดีนะ แกควรปรับนิดนึงมันจะดูดีไม่น่ารังเกียจต่อสังคมภายนอก(พูดแบบหวังดีปรับละอยากให้เราดีจริงๆแต่แกไม่ปรับก็โอไม่มีปัญหาไม่เดือดร้อนขนาดตัดเพื่อน) แบบนั้ส..มันน่าปรับตัวเข้าหาและสนุกกว่าอยู่กลุ่มที่เรารู้สึกอึดอัดและต้องมาโดนบังคับให้ปรับตัวอีก..ถ้าเราอยากปรับ..มันต้องมาจากใจก่อน .. นะ


>>เมื่อก่อนเราเป็นคนเงียบมากก คือบางคนอยู่ด้วยแล้วรู้สึกเราน่าเบื่อ น่าอึกอัด555 คือเป็นคนเงียบมันเข้าสังคมยากมากเลยนะ อยู่ด้วยแล้วเพื่อนบ่นไม่สนุก555 แต่ด้วยความเป็นคนใจดีปลีกตัว และชอบอยู่คนเดียวทำทุกอย่างคนเดียวตั้งแต่เด็กๆ(พื้นฐานนิสัย) ทำให้ชอบเจอพวกเพื่อนที่แบบโดนเทจากกลุ่มนู้นกลุ่มนี้ไม่มีใครแล้วเข้าหา.. พอเข้าหาเราก็มีอีกที่โดนเทย้ายเข้ามาคนมา แล้วไปสร้างกลุ่มใหม่ที่ไม่มีเรา .. ละบอกเราเงียบไปไม่สนุกอยู่กับอีกคนสนุกกว่าแกนิสัยดีเกินไปมาฟังเราเม้าไม่ได้หรอก มันแบบ..จึกนะ เออ ถูกฉันไม่ชอบฟังใครนินทาแต่แค่นี้

..เราจำเป็นต้องเป็นส่วนเกินนอกกลุ่มด้วยหรือวะ เรื่องอื่นๆให้คุยให้เป็นเพื่อนมีเป็นร้อย ตอนนั้นฟิลเราแบบเรามันคนน่าเบื่อ ไม่มีใครต้องการ อยู่ด้วยแล้วไม่สนุก เราเครียดหนักมากกก พยายามเข้ากลุ่มเดิมก็ต้องมารู้สึกเดิมๆว่าตัวเองเป็นส่วนเกิน เฮิร์ทมากทนไม่ไหวออกไปกินข้าวคนเดียวทำงานคนเดียว เข้ากลุ่มกับใครก็ได้แล้วแต่วันนั้นใครให้อยู่ด้วย ตอนนั้นรู้สึกแย่ไหม..แย่นะ ทำไมอีแค่หากลุ่มมันยากจังวะ55 จนกลับไปนั่งกินข้าวคนเดียวตามสเต็ป กินวันแรกวันต่อมากก็มีเพื่อนมาขอนั่งด้วย(ตอนนั้นคือ..เออ ง่ายๆคะ ใครมาก็มาไปก็ไปไม่อยากผูกมัดแล้ว..มันเจ็บอยู่ด้วยกันได้ก็อยู่ รู้สึกเราน่าเบื่อก็ไปให้พ้น55 ฉันกับเธอไม่เหมาะกัน) จากหนึ่งคน เป็นสองคน จากสองคน เป็นสามคน เข้ามาละจากไปก็มี เข้ามาละชอบเลยขอนั่งด้วยก็มี จากคนแค่ตั้งใจจะมาเพราะโต๊ะเต็ม ก็มานั่งถาวรเพราะชอบความเงียบถามคำตอบคำ ชอบที่เราใจดีสอนการบ้านให้ ชอบที่เวลาบ่นอะไรเราก็มีแต่นั่งฟังไม่ตอบกลับแค่ยื่นทิชชู่พร้อมน้ำเปล่า ทำท่าปลาดๆส่งมือรูปหัวใจว่าเออ เรารับรู้นะ เราก็ไม่รู้จะปลอบแกยังไง ที่เราทำได้..ให้เราอยู่ข้างๆแกละกัน พูดจบเราก็ลากไปกินบิงซู(พร้อมบอกว่ามื้อนี้เจ๊เลี้ยง ให้ความหวานมันดามหัวใจ ) มันออกจะเป็นแบบ.. นิสัยแปลกๆของเรามั้ง55 แต่บอกเลยที่ทำมานะ ใจจริงล้วนๆ เราทำแบบนี้กับเพื่อนทุกคนคะเวลสเขาเศร้าใจยังไง.. ไม่ติดใจด้วยถ้าพรุ่งนี้เขาจะไปคืนดีกันแล้วอยู่ด้วยกัน แค่วันนี้เราเป็นเพื่อนกันทำดีให้กันมากเป็นตัวของตัวเองจริงๆใจกับอีกฝ่ายมากๆ คือให้ตัวเองจริงใจกับอีกฝ่ายมันง่ายกว่าหวังให้อีกฝ่ายมาจริงใจกับเรา แล้วเชื่อมั้งคนที่เข้ามาเขาจะคัดเขาเองว่าอยู่กับเราได้แน่ๆ และเราจะคัดคนที่เข้ามาแล้วเรารู้สึกว่า..เรามีความหมาย โดยที่เพราะเราเป็นเรา มันสนิทใจกันแบบไม่ต้องฝืนไม่ต้องคาดหวังนะคะ555

กับบางคนจากคนที่ไม่รู้จักกัน สุ่มๆเข้ากลุ่มทำงาน(ตอนเราขอออกจากกลุ่มเดิมเพราะรู้สึกเป็นส่วนเกินเราก็สุ่มอยู่กับคนนู้นคนนี้ไปเรื่อยๆไม่มี แบบแค่ทำงานเอง ทำกับใครก็ได้บอกตัวเอง อย่าเยอะ55) ไปมาๆก็กลายเป็นกละมที่ทำงานด้วยกัน(เราแยกนะเพื่อนบางคนทำงานด้วยกัน..ไม่รอด พากันพัง )กับกลุ่มนี้ทุกครั้งตอนทำงานด้วยกันสนุกมากรู้สึกเป็นตัวของตัวเอง เสนอความคิดได้เต็มที่(ไม่เหมือนตอนเราอยู่กลุ่มเก่าคิดล้านตลบว่าเสนอแบบนี้ดีไหม เพื่อนจะเกลียดเราไหม ถ้าเราพูดไปแต่ทุกคนก็ฟังคนนั้นคนเดียว) คือฟิลดีมากตอนนี่ยังติดต่อกันอยู่ มันมีครั้งนึงที่เราเป็นหัวหน้างานชะละเราเป๋อ55 (อันนี้คือสันดารดิบเลย ชนนู้นชนนี้ตลอดแก้ไม่ได้) ทำงานหาย แล้วงานนี้ต้องส่งจารย์เนียบ(เนียบทุกอย่างถ้าส่งเลทคือเละจารย์โหดมาก) ตอนนั้นเราวิ่งไปขอโทษเพื่อนๆว่าเป็นหัวหน้างานที่แย่มากๆทำให้เพื่อนๆต้องเหนื่อยฟรี แล้ววิ่งไปสารภาพผิดกับครูแล้วให้ครูตัดคะแนนเราคนเดียว พร้อมรับกรรมทำใหม่คนเดียว.. สำหรับเรา เราโอเคนะถ้าเราติด0คนเดียวเพื่อนๆไม่ควรมารับกรรมเรื่องนี่เพราะความไม่รอบคอบของหัวหน้ากลุ่ม ตอนคุยกับครูอยู่ จู่ๆเพื่อนที่ทำงานกลุ่มด้วยกัน ก็เข้ามาโค้งกับครูพร้อมเราเเล้วบอกว่านางก็มีส่วนต้องรับผิดชอบเพราะเป็นทีมเดียวกัน.. คุณครูเลยลดโทษให้ส่งเลทได้แต่จะไม่ตัดคะแนนถ้าส่งภายในวันนี้

..ตอนทำใหม่..ไม่มีใครรื้อฟื้นเรื่องเก่า เพื่อนไม่ว่าไม่ด่าว่า ต่างคนต่างทำงาน ทำไปเงียบๆมีฮาบ้างเป็นจังหวะ แต่ก็เป็นการทำงานที่เงียบที่สุด มันแบบอุ่นใจแบบกดดันแปลกๆ เหมือน..โมโหอยู่แน่ๆแต่..ไม่โกรธ เสร็จแล้วพวกนั้นก็บอกเราว่า วันหลังนะเวลาทำงานดูดีๆ ระวังนิดนึง ก็โมโหนะแต่แกก็งี้อะ55 พูดเป็นล้านก็เป๋อเป็นล้าน กับงานแกก็ทุ่มเททำงานหนักตลอด จริงๆก็ไม่รู้เหมือนกันแต่เรารู้สึกว่า..เราก็มีส่วนต้องรับผิดชอบด้วย..อย่างมากแค่อยู่ให้จารย์เทศน์แต่ไม่หักคะแนนก็ยังดี ..

นั้นๆนั้นเราปล่อยโฮเลย คือซึ้งมาก ตอนที่เกิดเรื่องเราคิดมาตลอดว่าเราต้องทำคนเดียว โดนโกรธโดนเกลียดแน่ๆ คิดถึงสายตาของกลุ่มเก่าเวลาเราเป๋อเรายังกลัวไม่หาย เราชอบถูกมองว่าเป็นคนแปลกๆสายตาพวกนั้นมะนน่ารังเกียจและน่ากลัวมาก

จนถึงตอนนี้เราดีใจมากๆที่เราออกมาเป็นตัวของตัวเอง เจอเพื่อนๆที่แสนดีและจริงใจคอยช่วยเหลือ เจอคนที่ยอมรับในความแปลกนิดๆของเรา คือไม่ต้องพยายามทำตามความคาดหวังของคนอื่น เป็นคนพูดมาก ทั้งๆที่ไม่รู้จะพูดอะไร สำหรับเราสุดท้ายแล้ว การจะเจอเพื่อนที่เข้ากันได้มันต้องแลกใจกับใจ ถ้ารู้ว่าไม่ใช่เดินออก การอยู่คนเดียวมันไม่เเย่เสมอไป เราต้องเปิดใจกับคนที่ไม่รู้จักและห่วงใยคนที่แสนดีที่คอยอยู่ข้างๆเรา ให้เวลาไปแคร์คนที่เราแยู่ด้วยแล้วไม่เคยรู้สึกว่าเป็นคนนอก ลองเอาไปปรับดู ถ้าเราเป็นตัวเองคนที่เข้ามา เขาจะรู้จักเราที่เป็นเราและจะยอมรับดราที่เป็นเราเอง(แอะไรแย่ๆเปลี่ยน ถ้ามันแก้ไม่หายก็..ให้มันน้อยลงและทำใจ)

0
Chara_Mine 23 ก.ย. 62 เวลา 16:24 น. 13

เราสมัยเรียนเราก็เป็นคนเงียบๆฮะ ตอนนี้ก็ยังเงียบอยู่นะ555 แต่ว่าเป็นเงียบสายไฟว้ ดีมาดีกลับ ด่ามาด่ากลับอ่ะเอาดิ เลยไม่ค่อยมีใครมาระราน เพื่อนๆในห้องรวมถึงอาจารย์ก็รู้นะว่าเราเป็นแบบนี้เขาไม่ได้มายุ่งอะไร เราโชคดีกว่าคุณตรงที่ได้เจอเพื่อนแนวๆเดียวกันคุยกันรู้เรื่อง (ความจิงคือเรียนด้วยกันตั้งแต่ป. 4แล้ว แต่เพิ่งมาสนิทกันตอนม. 3) สังคมแวดล้อมที่เราเรียนมันไม่ได้ส่งผลกับเราเลย หรือเราไม่ใส่ใจมันเองก็ไม่รู้555 คือไม่ค่อยสนใจอะไรมันบั่นทอนจิตอ่ะ

แต่ถ้าเราเป็นคุณ ถ้าเพื่อนเรามันพูดนี้เราหาเพื่อนใหม่เลย พูดแบบไม่เข้าข้างตัวเอง ถึงเราจะเป็นคนพูดน้อย แต่เราไม่ใช่คนไม่ดีนะ เราไม่ใช่คนหยาบคายพูดไม่ดีกับคนอื่น คือง่ายๆเราไม่ใช่คนเลวร้ายอ่ะ จะหาเพื่อนใหม่ไม่ได้เลยหรอ หรือถึงที่สุดการอยู่คนเดียวก็ไม่เลวนะ ไม่ต้องรอใครคิดอะไรตัดสินใจเองเลย อาจจะเขินหน่อยๆบ้างเวลากินข้าวอะไรแบบเนี่ย แต่เดี๋ยวก็เฉยๆไปเอง

ส่วนเรื่องงานกลุ่ม ไปขออยู่กลุ่มอื่นก็ได้ค่ะ ที่เขาขาดคน อาจจะไม่ใช่เพื่อนเสมอไปหรอก สมัยเรียนเราก็เป็นแบบนั้นบ่อยๆ เพื่อนน้อยฮะต้องแบ่งไปตามกลุ่มใหญ่555 คือไม่ต้องสนิทแบบคุยเล่นก็ได้ เราอ่ะคุยแต่เรื่องงาน ให้ช่วยตรงไหน ให้ทำตรงไหน แล้วเราก็แยกออกมานั่งทำโต๊ะเรานะ555 ไม่เข้าใจก็เดินไปถามเสร็จก็เอาไปรวม สำคัญคือต้องช่วยทำงานกลุ่มอย่าให้เขาคิดว่าเอาเราเข้ามาเป็นภาระ

อยากให้คุณเป็นคุณในแบบที่ตัวเองสบายใจค่ะ ไม่ฝืนตัวเองมากไป สู้ๆนะคะ

0
NeNaNoey 23 ก.ย. 62 เวลา 19:55 น. 15

ที่น้องพูดน้อยเพราะไม่รู้จะพูดอะไรใช่มั้ย พี่ก็เคยเป็นช่วงประมาณม.1-2พี่พูดน้อย น้อยมากๆ อยู่มาวันนึงพี่รู้สึกอยากแก้ไออาการพูดไม่เก่งแบบนี้ พี่เลยเริ่มต้นจากการอ่านหนังสือนิยาย มันอาจจะช่วยไม่ได้มากนัก แต่มันก็ทำให้เราสามารถพูดเก่งขึ้นได้นะ


ส่วนไอเรื่องที่เพื่อนบอกว่าถ้าเป็นคนเงียบๆจะเลิกคบ พี่ว่าอย่าไปแคร์เลยเพื่อนม.ต้นก็แค่คบไปวันๆเท่านั้นแหละ แล้วไอคนพวกนี้มันก็ไม่ได้จริงใจกับเราหรอกนะ ถ้ามันจริงใจกับเรามันคงไม่พูดประโยคนี้ออกมาหรอก ถ้าเป็นไปได้พี่อยากให้น้องแยกออกมาจากกลุ่ม แล้วไปหาเพื่อนกลุ่มอื่นที่ดีกว่านี้


ส่วนเรื่องงานกลุ่ม งานไหนทำเดี่ยวได้ทำเดี่ยวไปเลย ไม่ต้องไปสนไปแคร์กับคนพวกนี้ แต่ถ้ามันเลี่ยงไม่ได้จริงๆก็ไปอยู่กับเพื่อนกลุ่มอื่นไม่ต้องไปอยู่กับเพื่อนพวกนี้

0
RedGem 23 ก.ย. 62 เวลา 21:25 น. 16

คือคิดว่าถ้าไม่โอเคกับเพื่อนแบบนี้ จะเลิกคบก็ได้ แต่ในอนาคตมันจะค่อนข้างมีปัญหาแน่ค่ะ การไม่พูดต้องยอมรับเป็น'ส่วนหนึ่ง'ที่ทำให้เราไม่มีเพื่อนนะคะ ถึงจะโหดไปหน่อยแต่ก็เป็นความจริงค่ะ เราอยู่คนเดียวเงียบๆไม่พูดกับใครไม่ได้ในสังคมนะคะ มันมีน้อยมากที่จะยอมรับนิสัยเงียบๆแบบนี้ แต่มันก็มีนะคะที่แบบแกร่งมากไม่จำเป็นต้องพึ่งใคร อยู่คนเดียวได้ แต่ถ้าเราเป็นแบบนั้นไม่ได้ แนะนำลองปรับสักนิดมั้ย-? อย่างน้อยก็ลองยิ้มให้อีกฝ่าย ถ้าไม่กล้าชวนคุยก็ลองวางตัวให้ดูเป็นมิตรนิดนึง แล้วถ้าเขาเข้าหาเรา เราก็ตามน้ำไปเลย ค่อยๆปรับนะ สู้ๆ

ปล. เราก็มีเพื่อนเป็นคนเงียบๆเหมือนกัน แต่เราจะเป็นคนชวนคุย ถ้าเขาไม่จอยด้วยเราก็..ไปต่อไม่ได้ แต่ถ้าเขาจอยกับเรา มันก็ยาวๆไปเรื่อยๆอ่ะค่ะ จนตอนนี้เขาเริ่มพูดมากแล้ว555 ที่จะสื่อคือ อยากให้คุณลองจอยกับสิ่งที่เขาพูดดูนะคะ :)

0