Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ผีต้นตาล

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
 
          ตั้งแต่จำความได้ ตุ่นก็เห็นต้นตาลต้นหนึ่งขึ้นที่หลังบ้านสูงลิบเลยหลังคาบ้านแล้ว แม่เล่าว่าต้นตาล ต้นนี้ ตาเป็นคนปลูกไว้ สมัยที่ตายังมีชีวิตอยู่ เวลาที่ต้นตาลมีลูก ตามักจะปีนขึ้นไปเก็บมาให้กินบ่อย ๆ แต่ตาสั่งห้ามทุกคนปีนขึ้นไปเก็บเองและห้ามโค่นทิ้งเด็ดขาด แม่ของตุ่นเคยถามว่า ทำไม่ไม่ให้ขึ้นไป เก็บเอง แต่ตาไม่บอกและเดินหนีตลอด จนกระทั่งตาตายไป แม่ก็ไม่ได้กินลูกตาลต้นนี้อีกเลย 
 
พอตุ่นโต เป็นหนุ่ม ก็เริ่มสุงสิงกับเพื่อน ๆ ในวัยเดียวกัน บางทีแม่ไม่อยู่บ้านก็ชวนเพื่อนมาบ้าน มีอยู่วันหนึ่งเพื่อนชื่ออ่างเกิดอยากกินลูกตาล เลยบอกว่าจะปีนขึ้นไปเก็บเอง แต่ตุ่นห้ามไว้เพราะมันสูง และแม่ก็สั่งไว้ด้วย แต่อ่างไม่เชื่อ โดยบอกว่าเคยปีนต้นตาลที่บ้านญาติมาแล้ว จากนั้นอ่างก็ใช้ผ้าขาวม้า คล้องต้นตาลแล้วดึงที่ปลายทั้งสองด้านจนตึง แล้วค่อย ๆ ไต่ขึ้นไป ซึ่งตอนนั้นตุ่นไม่ได้อยู่ด้วย จากนั้นไม่นานก็ได้ยินเสียงคนร้อง ตุ่นรีบวิ่งไปดูก็เห็นอ่างล้มอยู่ที่โคนต้นตาล แขนข้างหนึ่งหัก เพื่อน ๆ เลยรีบพาไปโรงพยาบาล พอเข้าเฝือกเสร็จแม่ของอ่างก็ไปรับกลับบ้าน จนผ่านไปสามวันตุ่นก็ชวนเพื่อน ๆ ไปเยี่ยมอ่างที่บ้าน พอไปถึงก็เห็นอ่างนั่งอ่านการ์ตูนอยู่ ตุ่นเลยถามว่าเป็นไงบ้าง อ่างยิ้มและบอกว่า ไม่น่าปีนขึ้นไปเลย แล้วอ่างก็เล่าว่า ช่วงที่ปีนขึ้นไปนั้น รู้สึกว่าต้นตาลสั่น ๆ เหมือนมีคนโยกต้นตาล อ่างจึงก้มลงไปดูว่ามีใครแกล้งหรือเปล่า ปรากฎว่าอ่างเห็นสองตายายกำลังช่วยกันผลักต้นตาลกันอยู่ ที่โคนต้น อ่างร้องเฮ้ย ด้วยความตกใจ แล้วร่างของสองตายายก็หายวับไป อ่างเห็นแบบนั้นก็คิดว่าจะปีนลง แต่แค่เสี้ยวนาที เสียงหัวเราะของชายแก่ก็ดังขึ้นมาจากยอดต้นตาล อ่างเงยหน้าไปมอง ก็เห็นตาแก่นั่งหัวเราะ และใช้เท้ายันเข้าที่หน้าผาก อ่างเสียหลักเลยตกลงมาแขนหัก ตุ่นได้ฟังที่อ่างเล่าก็ไม่ค่อยอยากเชื่อ เพราะอยู่บ้านมาตั้งแต่เด็กไม่เคยเจอผีเลยสักที จนกลับไปบ้านก็เล่าให้แม่ฟัง แม่ทำหน้าเฉย ๆ แต่พอตกเย็น แกก็โทรศัพท์ไปหาญาติที่เคยมาอยู่เป็นเพื่อนตายายสมัยที่แม่ยังสาว ญาติได้ฟังเรื่องของอ่างแล้วหัวเราะ และบอกว่า “ไปยุ่งกับของหวง ของตา ดีนะที่ไม่ถึงตาย” ว่าแล้วญาติก็เล่าให้ฟังว่า ต้นตาลหลังบ้านนั้น แกกับตาช่วยกันปลูกเอง และในวันที่ปลูก ตาได้โรยผงกระดูกของยายลงไปด้วย คงเพราะรักยายมาก เลยอยากให้ยายอยู่ใกล้ ๆ ซึ่งตอนนั้นแม่ของตุ่นไปทำงานในโรงงานที่กรุงเทพฯ เลยไม่รู้เรื่อง ว่ายายตาย เพราะติดต่อกันไม่ได้เลย ตาดูแลต้นตาลต้นนั้นอย่างดี บางทีก็จะคุยกับต้นตาล แม่ของตุ่นได้ฟังแล้วถึง บางอ้อ ถึงว่าแกสั่งนักสั่งหนาว่าอย่าปีนขึ้นไปเก็บลูกตาลและอย่าโค่นทิ้ง หลังจากนั้นสองสามเดือน เพื่อนแม่ชื่อจุ๋ม ก็มาเที่ยวบ้าน แม่จัดที่นอนให้ที่ชั้นสอง  ซึ่งถ้าเปิดหน้าต่างออกไป ก็จะเจอกับต้นตาลหลังบ้านพอดี ในคืนแรกที่มาถึงนั้นเอง อากาศค่อนข้างอบอ้าว เพื่อนแม่เลยเปิด หน้าต่างและนั่งสมาธิ ซึ่งแกเป็นคนใจบุญ ธรรมมะธรรมโม หลังจากทำสมาธิเสร็จก็เอนตัวลงนอน จังหวะที่นอนหันหลังให้หน้าต่างนั้น ลมก็พัดแรงมากจนบานหน้าต่างกระแทกกับผนังด้านนอกดัง ปัง ๆ แกเลยสะดุ้งและลุกขึ้นนั่ง แต่พอหันไปมองทางหน้าต่างก็ตกใจ เพราะเห็นตากับยาย เกาะอยู่ที่ต้นตาล พร้อมกับจ้องมองเข้ามา เพื่อนแม่ตกใจทำอะไรไม่ถูกเลยตะโกนร้องดังลั่น พอแม่ตุ่นวิ่งมาหาก็ถามว่ามีอะไร น้าจุ๋มหลับตาและชี้ไปที่หน้าต่าง บอกให้รีบปิดหน้าต่าง แม่ของตุ่นจึงรีบลุกไปเอื้อมมือเพื่อดึงหน้าต่างปิด แต่แล้วก็ต้องสะดุ้ง เพราะเห็นวิญญาณพ่อและแม่ของตัวเองเกาะอยู่ที่ต้นตาล แม่ของตุ่นรีบดึงหน้าต่างปิด และล็อกกลอน จากนั้นก็ให้ทุกคนไปไหว้พระในห้องพระด้วยกัน แม่ของตุ่นพูดขณะจุดธูปพนมมือว่า       “พ่อ แม่ ไปสู่สุขติเถอะนะ เดี๋ยวหนูทำบุญไปให้” หลังจากนั้นก็ขนที่นอนมานอนกันในห้องพระ จนกระทั่งเช้าแม่ของตุ่นก็ชวนน้าจุ๋มไปตักบาตรและกรวดน้ำให้พ่อแม่ พอช่วงบ่ายน้าจุ๋มก็เดินทางกลับ ทั้งที่อยากจะนอนค้างอีกสักคืน แต่คงกลัวเลยไม่กล้าอยู่ต่อ หลังจากเหตุการณ์นั้น เวลาใครมาบ้าน แม่ของตุ่นก็จะบอกให้ไหว้ต้นตาลก่อนเสมอ ส่วนใหญ่ก็มักถามว่า ไหว้ทำไม แต่พอแม่ของตุ่น บอกเหตุผล ทุกคนก็รีบยกมือไหว้ทันที
 

แสดงความคิดเห็น

>