นิยายโตตามตัวจริงหรือไม่ ตั้งกระทู้ใหม่ ตั้งกระทู้ใหม่ หัวข้อกระทู้นี้เริ่มจากที่ว่า จขกท เคยเป็นนักเขียนฟิคสั้นมาก่อนค่ะตอนนั้นก็คือพวกฟิคประมาณพระเอกข่มขืนนางเอกตั้งแต่วันแรกที่เจอกันพระเอกปล้ำนางเอกเพราะเมาจะโดดเด่นมากกก และใช่ค่ะเราตามกระแสนั้นไปด้วยแต่พอเลิกแต่งและโตขึ้นกลับมาอ่านที่เคยเขียนไว้ไม่ใช่แค่เรื่องพวกนี้แต่เรื่องอื่นๆด้วยความคิดของตัวละครและอะไรหลายๆอย่างได้แต่ถามตัวเองว่า เป็นบ้าอะไรวะถึงได้เขียนแบบนั้น คิดอะไรอยู่ อยากตบตัวเองพันรอบ ก็ไม่ใช่คนโลกสวยขนาดนั้นนะคะแต่พอโตมาในทัศนคติที่โตขึ้นหรือเรียนรู้อะไรมากขึ้นถึงได้รู้ว่า-สิ่งที่ทำน่ะมันโอเคมั้ย รวมไปถึงเรื่องอื่นๆในนิยายด้วย มีใครเจอโมเม้นต์ที่กลับมาอ่านนิยายหรือฟิคที่ตัวเองเคยแต่งไว้แล้วเกิดคำถามว่าคิดอะไรอยู่ถึงได้ทำแบบนั้นเหมือนเราบ้างมั้ยคะ TawanWriter 13 ก.ย. 62 เวลา 22:31 น. 4 like 1,186 views Facebook Twitter รายชื่อผู้ถูกใจกระทู้นี้ คน
Nainate 13 ก.ย. 62 เวลา 22:38 น. 1 ก็มีเยอะครับ แบบไปอ่านนิยายที่แต่งในช่วงแรกๆแล้วก็รู้สึกเขินอาย กับการดำเนินเรื่องอย่างก้าวกระโดด ภาษา*ตื้ด*อะไรก็ไม่รู้ ไม่เข้าใจ การพัฒนาการอย่างไร้เหตุผล และ การโต้ตอบของตัวละครอย่างไร้อารยะ จนบางทีก็อยากจะลบๆนิยายเหล่านั้นทิ้งไป แต่สุดท้ายมันก็รู้สึกเสียดายที่จะลบมัน เหมือนเป็นความทรงจำเล็กๆให้มันได้อับอายเล่นดีครับ 5 0 ถูกใจ 5 ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
ณ เรือนแก้ว (Philous) 13 ก.ย. 62 เวลา 22:41 น. 2 เป็นคำอธิบายได้ดีว่า พอโตขึ้น วุฒิภาวะเปลี่ยนเราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงของตัวเองเสมอค่ะ ยินดีด้วยนะคะที่เห็นจุดบอดในงานของตัวเอง :) เชื่อว่า งานชิ้นต่อไปของน้องจะต้องดีขึ้นแน่ ๆ ทั้งในส่วนของพลอต คุณภาพงาน แล้วก็สิ่งที่น้อง Tawanwriter จะสื่อให้กับคนอ่าน โดยเฉพาะกับนักอ่านของเด็กดี :) 2 0 ถูกใจ 2 ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
Evirdkung 13 ก.ย. 62 เวลา 22:43 น. 3 ก็คงเหมือนกับสนามเด็กเล่น เมื่อโตขึ้นเราจะรู้สึกว่ามันเล็กลงทั้งที่ความจริงแล้วมันก็ขนาดเท่าเดิม เมื่อเราโตขึ้นอะไรที่เราเห็นในตอนที่เราเด็กกว่ามันก็ต่างกันจึงเป็นขอสรุปของคำถามแบบฟันธงที่ว่า นิยายโตตามตัวจริงหรือไม่?คำตอบ : จริงจ้า 2 0 ถูกใจ 2 ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
Jitlada Thepjorn 13 ก.ย. 62 เวลา 22:49 น. 4 ใช่ค่ะ โตตามตัวเราจริงๆ เมื่อก่อนเขียนอะไรแบบเด็กๆใสๆ พอโตขึ้นอีกนิดก็เริ่มเปลี่ยนตัวละครของเราให้เดินไปพร้อมๆเรา กลับมานั่งอ่านงานเก่าๆของตัวเองก็นั่งหัวเราะว่าแต่งไปได้ยังไง แต่ก็ยังคิดว่า เห้ยเราเคยคิดอะไรแบบนี้ด้วยเหรอ บางทีมันก็เจ๋งดี งานเก่าเก็บพอเอามาแก้ไขใหม่ มันก็น่าภูมิใจอยู่ค่ะ 2 0 ถูกใจ 2 ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
มัณทนา[ชิปกับเดลขายของในคลอง] 13 ก.ย. 62 เวลา 23:00 น. 5 เราปรับอายุตัวละครตามอายุตัวเองค่ะเราเขียนนิยายครั้งแรกตอนอายุ 15 ปี เราจะเขียนให้ตัวเอกอายุ 15 ปีพอเวลาผ่านไป เราก็ปรับอายุตัวละครตามอายุเราไปเรื่อยๆ ทัศนคติก็เปลี่ยนไปตามวัยตัวละครในเรื่องส่วนใหญ่ได้ต้นแบบมาจากคนรู้จักและเพื่อนที่มีตัวตนจริงๆปรับอายุตามพวกเขาไปเลยตอนนี้เราอายุ 28 ปี (อีก 8 วัน เราจะอายุ 29 ปี)แต่รอบนี้คงไม่แล้ว ให้ตัวละครเติบโตขึ้นเองตามสถานการณ์และไทม์ไลน์ในเรื่องดีกว่า 2 0 ถูกใจ 2 ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
FreudMs 13 ก.ย. 62 เวลา 23:28 น. 6 แปลกนะที่ผมไม่เปลี่ยนเลย กลับได้ประสบการณ์ที่เยอะขึ้น คือรู้ว่าจะพัฒนาความคิดของตัวละครหรือทำให้ยิ่งแน่ใจกับสิ่งที่ตั้งใจไว้ได้อย่างไร สรุปไม่เปลี่ยน แต่สามารถทำให้เป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมแต่สำหรับคนปกติแล้ว ก็คงใช่อะนะ คือต้องเรียนรู้อีกเยอะกว่าจะได้สิ่งที่ถูกต้องจริงๆ แบบผม 2 0 ถูกใจ 2 ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
ชลสินธุ์ 14 ก.ย. 62 เวลา 00:02 น. 7 เป็นเรื่องปรกติจ้าาโตขึ้นเจอคนเยอะขึ้น ทั้งคนดีคนไม่ได้ มีเรื่องเข้ามาในชีวิตมากขึ้น ความรับผิดชอบก็มากขึ้นตามอายุแน่นอนสิ่งเหล่านี้จะหล่อหลอมให้ความคิดคนเราเปลี่ยนไป และสิ่งที่ถ่ายทอดออกมาก็จะเปลี่ยนแปลงตามจ้าาา 2 0 ถูกใจ 2 ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
yurinohanakotoba 14 ก.ย. 62 เวลา 00:54 น. 8 มีส่วนที่เติบโตขึ้นก็จริง แต่อีกด้านก็ผุกร่อนไปเช่นกัน ความสดความเปรี้ยวหายไป พอขาดรสแหลมก็ขาดเสน่ห์ที่มีในวัยเยาว์ 4 0 ถูกใจ 4 ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
thepierecipes 14 ก.ย. 62 เวลา 00:55 น. 9 เราว่าเป็นที่ประสบการณ์ของนักเขียนมากกว่า มีมากขึ้นเรื่อยๆ เราก็จะพัฒนางานเขียนขึ้นไปเรื่อยๆ การใช้คำ พล็อตเรื่องที่ทันสมัยเหมาะสมกับปัจจุบัน ยิ่งเราโต เราก็จะยิ่งคิดได้มากขึ้นว่าอันไหนควรถ่ายทอด อันไหนควรจะเป็นผลงานของเรา 2 0 ถูกใจ 2 ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
คนเมาคำ2019 14 ก.ย. 62 เวลา 02:50 น. 10 เวลาเปลี่ยน ความคิดทัศนคติก็เปลี่ยนไป แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะ enlightenment ได้ว่า ไม่ควรเขียนเรื่องบางเรื่อง หรือควรเขียนในเงื่อนไขบางอย่าง ก็อาจยังมีคนที่ผ่านประสบการณ์บางอย่างแล้วไม่อินกับเรื่องโลกสวยก็ได้ เพราะประสบการณ์สอนเขามาแบบนั้น shape โลกเขามาแบบนั้น ก็ไม่ว่ากันล่ะ ยังไงก็ดีใจกับจขกทด้วยที่โตขึ้นแล้วได้เรียนรู้ชีวิตในทางบวกได้มากกว่า มุมมองคนเขียนก็สะท้อนมาในงานได้แบบนี้ละมั้ง :) 2 0 ถูกใจ 2 ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
Eliche 14 ก.ย. 62 เวลา 03:24 น. 11 ถ้าคุณเรียนปริญญาตรี แล้วยังเขียนบทความได้เหมือนตอน ม.2คุณก็มีปัญหาแล้วล่ะในอีกแง่มุมหนึ่ง คุณลองอ่านนิยายบางเรื่องที่เคยอ่านสมัยเด็กสิ มาอ่านตอนโตยังเห็นเหมือนเดิมไหม คุณยังแปลสารแบบเดิมอยู่ไหมตัวอย่างเช่น ข้างหลังภาพ สำหรับเรา-ตอนเด็กนี่คือโรมานซ์รักต่างวัยรักของนพพรกับคุณหญิงอันสูงส่งรักแท้ไม่ครอบครองที่น่าเทิดทูน-ตอนโต นี่คือการสะท้อนความขัดแย้งของสังคมผ่านรูปแบบนิยายรักความคิดอย่างอนุรักษ์ที่ฉุดรั้งผู้หญิงไว้กับฉากหน้าของสังคมที่มีขนบประเพณี-ตอนแก่ นี่คือการสะท้อนอัตตาตัณหามนุษย์อันซับซ้อน กามตัณหา ที่ไม่ได้แปลว่า sex ของหญิงสูงวัย ที่ปรารถนาความรู้สึกรัก หล่อนเล่นเกมกับตนเอง ด้วยมโนภาพของผู้มีรัก และได้สมใจกับภาพนั้นน้ำตาหยดที่สองของคุณหญิงกีรติ (ความหมายนี้โปรดอ่านเรื่องรสนิยมสาธารณ์) 2 0 ถูกใจ 2 ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
n22เนยหน้าใสจัง 14 ก.ย. 62 เวลา 06:54 น. 12 เราเคยกับไปอ่านนิยายที่เราเคยเขียนในปีก่อนดู เรานี้ตกใจมากไม่ใช้เพราะอะไรเกือบอ่านไม่ออก ถ้าเพื่อนมาอ่านนี้คงบอกว่าอ่านไม่ออกเพราะรายมือห่วยมากและเนื้อเรื่องออกทะเลจนไม่มีวันหวนกับแล้วสิ่งที่เปลี่ยนไปคือลายมือสวยขึ้นและหรายอย่างที่ดีขึ้นแต่ไอเดียไม่ค่อยมาเหมือนปีก่อนอาจเพราะหมดความอินในเรื่องนั้นแล้ว 2 0 ถูกใจ 2 ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
อย่าดราม่า 14 ก.ย. 62 เวลา 11:43 น. 13 เหมือนกับการที่เราโตขึ้นแล้วไม่อินกับแนวนิยายแจ่มใสนั่นแหละค่ะ ไม่ได้วิจารณ์ว่าไม่ดีหรือว่าแย่อะไรนะ แต่เหมือนหมดวัยที่จะมานั่งอ่านนิยายแนวกุ๊กกิ๊ก คิขุ คิขุ หนุ่มป๊อบในรั้วโรงเรียนอะไรแบบนี้แล้ว หรือต่อให้ไม่ใช่แนวหนุ่มป๊อบแต่ภาษาที่ถูกพรูฟมาเพื่อเด็กมัธยม เราอ่านมันก็ไม่รู้ไม่ใช่ ไม่อินอยู่ดี 1 0 ถูกใจ 1 ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
เล่าปี่ขงเบ้งลิโป้ 19 ก.ย. 62 เวลา 19:47 น. 14 อ่านนิยายตัวเองตอนแรกๆ อายมาก ไรนิเรา ต้องรีไรท์ด่วน 2 0 ถูกใจ 2 ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
เรโกะ จิทาคุ 29 ก.ย. 62 เวลา 07:35 น. 15 นิยาย? อ่านไปทุกเรื่องก็ชินเองแหละค่ะ สำหรับเราก็เฉยๆกับคำนี้นะ ไม่อยากอ่านก็ไม่เป็นไร กดออกไปสิ อยากอ่านก็อ่านเถอะ แต่รับความดองให้ได้ก็แล้วกัน ไม่มีก็ไม่เป็นไร เพราะแต่งเองอ่านเอง ไม่ได้คาดหวังอะไรจากคนที่เข้ามาอยู่แล้ว 1 0 ถูกใจ 1 ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
15 ความคิดเห็น
ก็มีเยอะครับ แบบไปอ่านนิยายที่แต่งในช่วงแรกๆแล้วก็รู้สึกเขินอาย กับการดำเนินเรื่องอย่างก้าวกระโดด ภาษา*ตื้ด*อะไรก็ไม่รู้ ไม่เข้าใจ การพัฒนาการอย่างไร้เหตุผล และ การโต้ตอบของตัวละครอย่างไร้อารยะ จนบางทีก็อยากจะลบๆนิยายเหล่านั้นทิ้งไป
แต่สุดท้ายมันก็รู้สึกเสียดายที่จะลบมัน เหมือนเป็นความทรงจำเล็กๆให้มันได้อับอายเล่นดีครับ
เป็นคำอธิบายได้ดีว่า พอโตขึ้น วุฒิภาวะเปลี่ยนเราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงของตัวเองเสมอค่ะ
ยินดีด้วยนะคะที่เห็นจุดบอดในงานของตัวเอง :)
เชื่อว่า งานชิ้นต่อไปของน้องจะต้องดีขึ้นแน่ ๆ ทั้งในส่วนของพลอต คุณภาพงาน แล้วก็สิ่งที่น้อง Tawanwriter จะสื่อให้กับคนอ่าน โดยเฉพาะกับนักอ่านของเด็กดี :)
ก็คงเหมือนกับสนามเด็กเล่น เมื่อโตขึ้นเราจะรู้สึกว่ามันเล็กลงทั้งที่ความจริงแล้วมันก็ขนาดเท่าเดิม เมื่อเราโตขึ้นอะไรที่เราเห็นในตอนที่เราเด็กกว่ามันก็ต่างกัน
จึงเป็นขอสรุปของคำถามแบบฟันธงที่ว่า นิยายโตตามตัวจริงหรือไม่?
คำตอบ : จริงจ้า
ใช่ค่ะ โตตามตัวเราจริงๆ เมื่อก่อนเขียนอะไรแบบเด็กๆใสๆ พอโตขึ้นอีกนิดก็เริ่มเปลี่ยนตัวละครของเราให้เดินไปพร้อมๆเรา กลับมานั่งอ่านงานเก่าๆของตัวเองก็นั่งหัวเราะว่าแต่งไปได้ยังไง แต่ก็ยังคิดว่า เห้ยเราเคยคิดอะไรแบบนี้ด้วยเหรอ บางทีมันก็เจ๋งดี งานเก่าเก็บพอเอามาแก้ไขใหม่ มันก็น่าภูมิใจอยู่ค่ะ
เราปรับอายุตัวละครตามอายุตัวเองค่ะ
เราเขียนนิยายครั้งแรกตอนอายุ 15 ปี เราจะเขียนให้ตัวเอกอายุ 15 ปี
พอเวลาผ่านไป เราก็ปรับอายุตัวละครตามอายุเราไปเรื่อยๆ ทัศนคติก็เปลี่ยนไปตามวัย
ตัวละครในเรื่องส่วนใหญ่ได้ต้นแบบมาจากคนรู้จักและเพื่อนที่มีตัวตนจริงๆ
ปรับอายุตามพวกเขาไปเลย
ตอนนี้เราอายุ 28 ปี (อีก 8 วัน เราจะอายุ 29 ปี)
แต่รอบนี้คงไม่แล้ว ให้ตัวละครเติบโตขึ้นเองตามสถานการณ์และไทม์ไลน์ในเรื่องดีกว่า
แปลกนะที่ผมไม่เปลี่ยนเลย กลับได้ประสบการณ์ที่เยอะขึ้น คือรู้ว่าจะพัฒนาความคิดของตัวละครหรือทำให้ยิ่งแน่ใจกับสิ่งที่ตั้งใจไว้ได้อย่างไร สรุปไม่เปลี่ยน แต่สามารถทำให้เป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
แต่สำหรับคนปกติแล้ว ก็คงใช่อะนะ คือต้องเรียนรู้อีกเยอะกว่าจะได้สิ่งที่ถูกต้องจริงๆ แบบผม
เป็นเรื่องปรกติจ้าา
โตขึ้นเจอคนเยอะขึ้น ทั้งคนดีคนไม่ได้ มีเรื่องเข้ามาในชีวิตมากขึ้น ความรับผิดชอบก็มากขึ้นตามอายุ
แน่นอนสิ่งเหล่านี้จะหล่อหลอมให้ความคิดคนเราเปลี่ยนไป และสิ่งที่ถ่ายทอดออกมาก็จะเปลี่ยนแปลงตามจ้าาา
มีส่วนที่เติบโตขึ้นก็จริง แต่อีกด้านก็ผุกร่อนไปเช่นกัน ความสดความเปรี้ยวหายไป พอขาดรสแหลมก็ขาดเสน่ห์ที่มีในวัยเยาว์
เราว่าเป็นที่ประสบการณ์ของนักเขียนมากกว่า มีมากขึ้นเรื่อยๆ เราก็จะพัฒนางานเขียนขึ้นไปเรื่อยๆ การใช้คำ พล็อตเรื่องที่ทันสมัยเหมาะสมกับปัจจุบัน ยิ่งเราโต เราก็จะยิ่งคิดได้มากขึ้นว่าอันไหนควรถ่ายทอด อันไหนควรจะเป็นผลงานของเรา
เวลาเปลี่ยน ความคิดทัศนคติก็เปลี่ยนไป
แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะ enlightenment ได้ว่า ไม่ควรเขียนเรื่องบางเรื่อง หรือควรเขียนในเงื่อนไขบางอย่าง ก็อาจยังมีคนที่ผ่านประสบการณ์บางอย่างแล้วไม่อินกับเรื่องโลกสวยก็ได้ เพราะประสบการณ์สอนเขามาแบบนั้น shape โลกเขามาแบบนั้น ก็ไม่ว่ากันล่ะ ยังไงก็ดีใจกับจขกทด้วยที่โตขึ้นแล้วได้เรียนรู้ชีวิตในทางบวกได้มากกว่า มุมมองคนเขียนก็สะท้อนมาในงานได้แบบนี้ละมั้ง :)
ถ้าคุณเรียนปริญญาตรี แล้วยังเขียนบทความได้เหมือนตอน ม.2
คุณก็มีปัญหาแล้วล่ะ
ในอีกแง่มุมหนึ่ง คุณลองอ่านนิยายบางเรื่องที่เคยอ่านสมัยเด็กสิ
มาอ่านตอนโตยังเห็นเหมือนเดิมไหม คุณยังแปลสารแบบเดิมอยู่ไหม
ตัวอย่างเช่น ข้างหลังภาพ สำหรับเรา
-ตอนเด็กนี่คือโรมานซ์รักต่างวัย
รักของนพพรกับคุณหญิงอันสูงส่งรักแท้ไม่ครอบครองที่น่าเทิดทูน
-ตอนโต นี่คือการสะท้อนความขัดแย้งของสังคมผ่านรูปแบบนิยายรัก
ความคิดอย่างอนุรักษ์ที่ฉุดรั้งผู้หญิงไว้กับฉากหน้าของสังคมที่มีขนบประเพณี
-ตอนแก่ นี่คือการสะท้อนอัตตาตัณหามนุษย์อันซับซ้อน
กามตัณหา ที่ไม่ได้แปลว่า sex ของหญิงสูงวัย ที่ปรารถนาความรู้สึกรัก
หล่อนเล่นเกมกับตนเอง ด้วยมโนภาพของผู้มีรัก และได้สมใจกับภาพนั้น
น้ำตาหยดที่สองของคุณหญิงกีรติ (ความหมายนี้โปรดอ่านเรื่องรสนิยมสาธารณ์)
เราเคยกับไปอ่านนิยายที่เราเคยเขียนในปีก่อนดู เรานี้ตกใจมากไม่ใช้เพราะอะไรเกือบอ่านไม่ออก ถ้าเพื่อนมาอ่านนี้คงบอกว่าอ่านไม่ออกเพราะรายมือห่วยมากและเนื้อเรื่องออกทะเลจนไม่มีวันหวนกับแล้ว
สิ่งที่เปลี่ยนไปคือลายมือสวยขึ้นและหราย
อย่างที่ดีขึ้นแต่ไอเดียไม่ค่อยมาเหมือนปีก่อนอาจเพราะหมดความอินในเรื่องนั้นแล้ว
เหมือนกับการที่เราโตขึ้นแล้วไม่อินกับแนวนิยายแจ่มใสนั่นแหละค่ะ ไม่ได้วิจารณ์ว่าไม่ดีหรือว่าแย่อะไรนะ แต่เหมือนหมดวัยที่จะมานั่งอ่านนิยายแนวกุ๊กกิ๊ก คิขุ คิขุ หนุ่มป๊อบในรั้วโรงเรียนอะไรแบบนี้แล้ว หรือต่อให้ไม่ใช่แนวหนุ่มป๊อบแต่ภาษาที่ถูกพรูฟมาเพื่อเด็กมัธยม เราอ่านมันก็ไม่รู้ไม่ใช่ ไม่อินอยู่ดี
อ่านนิยายตัวเองตอนแรกๆ อายมาก ไรนิเรา ต้องรีไรท์ด่วน
นิยาย? อ่านไปทุกเรื่องก็ชินเองแหละค่ะ สำหรับเราก็เฉยๆกับคำนี้นะ ไม่อยากอ่านก็ไม่เป็นไร กดออกไปสิ อยากอ่านก็อ่านเถอะ แต่รับความดองให้ได้ก็แล้วกัน ไม่มีก็ไม่เป็นไร เพราะแต่งเองอ่านเอง ไม่ได้คาดหวังอะไรจากคนที่เข้ามาอยู่แล้ว
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?