Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เล่าชีวิตแลกเปลี่ยน USA ปี 2019/2020

ตั้งกระทู้ใหม่
 

       สวัสดีค่ะทุกๆคนที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้ เราขอบอกก่อนเลยว่าเราเขียนกระทู้นี้ขึ้นมาเพราะอยากแชร์ประสบการณ์ต่างๆให้คนที่มีความคิดอยากจะไปแลกเปลี่ยน ณ ประเทศสหรัฐอเมริกาได้อ่านกันค่ะ ซึ่งเราอยากจะอัพเดตเป็นเหมือนเรื่องราวและไดอารี่ไปเรื่อย ๆ ตอนนี้เรายังไม่กลับนะคะ เพิ่งมาอยู่ได้เดือนที่ 2 เองค่ะ 5555555


          เริ่มแรกเลยนะคะ เราขอแนะนำตัวเองก่อน เรามีชื่อย่อว่า 'เจย์' ค่ะ และเราเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนประเทศสหรัฐอเมริกาปี 2019-2020 ค่ะ

       เราสอบติดโครงการแลกเปลี่ยนได้ตอนม.3 เทอม 1 ปัจจุบันก็คือเราเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ค่ะ ซึ่งเราไม่ได้สอบตามโครงการใหญ่ ๆ อย่าง AFS , YES , YFU ฯลฯ นะคะ ของเราเป็นโครงการไม่เล็กไม่ใหญ่แต่อยู่กันเป็นแบบครอบครัวแบบเพื่อนแบบพี่น้อง ก็คือโครงการ A&D ค่ะ โครงการของเราปีเราเป็นรุ่นที่ 13 ค่ะ
 
 
       จริงๆแล้วเราไม่มีความคิดที่อยากเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนเลยจนกระทั่งเพื่อนมาบอกให้เราลองสอบดู เราก็ลองค่ะ ใครจะไปคิดว่าจะฟลุ๊คติดซะงั้น 5555555 ของเราข้อสอบที่ทางโครงการใช้สอบเป็นข้อสอบ ELTiS ค่ะ ก็คือประกาศผลข้อสอบวันนั้นแล้วสอบสัมภาษณ์เลยเรากับเพื่อนที่มาสอบด้วยกันติดด้วยกันหมดเลยนะคะ ของเราเป็นสัมภาษณ์ 2 ภาษาก็คืออังกฤษกับไทยค่ะ 


           จนกระทั่งเราตัดสินใจขอแม่ไปแลกเปลี่ยนที่อเมริกาตอนแรกทางบ้านก็จะไม่ให้ไปเพราะค่าใช้จ่ายค่อนข้างเยอะก็คือถ้าให้รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดก็ห้าแสนกว่าๆได้ค่ะ แต่สุดท้ายแม่เราก็ให้มาในที่สุด
 
           หลังจากที่เราเข้าร่วมโครงการสิ่งที่เรารอมาตลอดก็เลยคือรอว่าเมื่อไหร่เราจะได้โฮสต์ค่ะ ก็คือเพื่อนเราก็พูดแซวทุกวันเลยว่าคงไม่ได้โฮสต์แล้วม้าง ไม่ต้องไปแล้วอยู่ไทยดีกว่า ก็คือจนเราสัมภาษณ์วีซ่าเสร็จไปแล้วตอนกลางกรกฎาคม ตอนสัมภาษณ์วีซ่าก็คือเรากังวลมาก โดนบิ้วต์มาเยอะมากว่าคนไม่ผ่านเยอะนะ ท่องสคริปไว้เยอะๆนะเราก็คือจำหมดแม้กระทั่งที่อยู่องค์กรที่อเมริกา ตอนเข้าไปสัมภาษณ์ก็คือพยายามยิ้มอย่างเดียวค่ะ ตอบไม่ได้เรายิ้มให้จนสรุปเขาก็เอาพาสปอร์ตเราไป เราก็เอ๋อๆงงๆสรุปก็คือผ่านแล้วค่ะ 555555555
 
          หลังจากนั้นเราก็เหลือแค่รอโฮสต์เพื่อนๆพี่ๆเราก็เริ่มบินกันไปหลายคนแล้วเราก็ยังไม่ได้โฮสต์ (แต่ก็ยังมีคนที่ไม่ได้เหมือนกันค่ะ) จะกระทั่งเข้าเดือนสิงหาคมเราไปบ่นกับเพื่อนว่ายังไม่โฮสต์เลยเครียดมาก แต่พอเราไปเช็คอีเมลล์อีกทีก็คือโฮสต์เราเมลล์มาหาตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคมแล้วค่ะ แต่เราไม่เห็นเอง 5555555555 เราก็เลยไปบอกกับทางโครงการรอเขาส่งข้อมูลต่างๆมาให้จนยืนยันแน่ชัดแล้วประมาณวัน 6 สิงหาคมค่ะ -เราก็ชะล่าใจไม่รีบร้อนแต่โฮสต์ดันอยากให้เรารีบมาหาก็เลยได้ไฟล์ทบินวันที่ 13 มา ซึ่งเราอยู่ต่างจังหวัดค่ะเลยต้องรีบขึ้นกทม.ตั้งแต่วันที่ 12 สิงหาคม ช่วงหลังจากวันที่หกก็คือเราวิ่งวุ่นมากที่โรงเรียนรีบจัดทำเอกสารทุกอย่างก็คือไม่ได้เรียนเลยเพราะเราต้องส่งจดหมายและอะไรหลายๆอย่างเยอะมาก แถมตอนนั้นคือต้องรีบไปซื้อของฝากและจัดกระเป๋าถือว่าลนมากค่ะตอนนั้น 555555555555


       จนกระทั่งวันที่ 13 สิงหาคมเป็นวันที่เราต้องบินแต่เนื่องจากเกิดเหตุการณ์ผู้คนร่วมกันชุมนุมประท้วงที่ฮ่องกงเลยทำให้ไฟล์ทบินของเราเลื่อนไปเป็นวันที่ 16 สิงหาคมแทน


 
 

ก็คือเรามาถึงสนามบินตั้งแต่ตีสามค่ะ พี่เลี้ยงโครงการเป็นคนมารับซึ่งเราบินกับเพื่อนอีกคนของเขาบินไฟล์ทหกโมงเช้าเราเลยต้องมารอด้วย
 
ของเราไปกับสายการบิน Cathay Pacific นะคะ
 
 
อันนี้คือตอนที่เรากำลังรอขึ้นเครื่องนะคะ ของเราเป็นไฟล์ท 8.00 น. ซึ่งเราบินคนเดียวค่ะ
อโลนแบบอโลนมากเพราะเพื่อนบินไปก่อนแล้ว
 
 
อันนี้ก็คือตอนเราขึ้นเครื่องมาแล้วนะคะ ของเราเป็นที่นั่งแบบพรีเมี่ยมอีโคโนมี่ ไฟล์ทแรกก็คือจากสุวรรณภูมิไปเช็คแลปก๊กที่ฮ่องกงค่า ก็คือที่นั่งข้างๆว่างหมดเลย ตอนมาคนเดียวว่าเหงาแล้วตอนขึ้นเครื่องคือเหงากว่าอีกค่ะ
 
 
จนเราถึงฮ่องกงตอนเที่ยงเหมือนบุญที่ทำไปจะยังมีอยู่ก็คือเดินกันขาลากมากค่ะ เกทโคตรไกล ไกลแบบไกลมากเดินคนเดียวแถมกระเป๋าเรามี 2 ใบค่ะที่แครี่ออนคือกระเป๋าเป้และกระเป๋ากล้อง
 
อันนี้คือตอนที่เราลงเครื่องมาถึง Dallas แล้วนะคะ ลงจากเครื่องปุ๊ปจะมีตั๋วต่อเครื่องแปะอยู่ลักษณะประมาณนี้เลยค่ะ หลังจากเอาเสร็จก็คือให้เรารีบวิ่งไปเข้าตม.เลย

หลังจากนั้นก็คือจุดพีคในชีวิตเราแล้วก็คือตอนต่อเครื่องภายในอเมริกา ก็คือเราเกือบตกเครื่องตอนไปต่อ Savannah เราเสียเวลากับการหาเกทนานมาก ๆ ก็คือเกือบตกเครื่องแล้วเพราะขึ้น Flight Closed แล้วแต่พี่แอร์ยังใจดีให้เรารีบวิ่งไปขึ้นเครื่อง ตอนนั้นคือทำใจรอแล้วว่าตกเครื่องแน่ๆ ถือว่าเซอร์ไวเวิลสุดแล้วค่ะตอนนั้น
 


อันนี้ตอนเราออกจากเกทมาแล้วจะเป็นทางเดินยาวให้ออกไปรับกระเป๋าค่ะ
 
จนกระทั่งเรามาถึง Savannah ตอนสี่ทุ่มเราออกจากเกทปุ๊ปก็คือเจอโฮสต์แด๊ดกับน้องๆถือป้ายรออยู่ตรงบันไดจะไปจุดรอรับกระเป๋าแล้วค่ะ ตอนนั้นที่เห็นคือน้ำตาไหลไม่รู้ว่าตื่นเต้นหรืออะไร เราแอบเสียดายที่ไม่ได้ถ่ายรูปไว้เพราะดึกมากแล้ว ไว้ขากลับนะคะ ;-; 

 
 
เราลืมบอกเลยของเราได้รัฐ Georgia เมือง Hinesville ค่ะ

 
 
บรรยากาศในเมืองนี้ก็คือโคตรได้ฟีลเหมือนเราอยู่ไทยมากๆ ก็คือไม่มีอะไรเลยแบบไม่มีเลยค่ะ ตอนนั้นคืออยากร้องไห้มาก เพราะอยากถ่ายรูปสวยๆแต่กลับมีแต่ต้นไม้ เป็นท้อเลยค่ะ
 
 
อันนี้เป็นจุดรอบัสนะคะ

 
 
พ้นจากวันเดินทางไปวันจันทร์ที่ 19 โฮสต์มัมเราก็พาไปลงทะเบียนเรียนที่โรงเรียนค่ะ โรงเรียนเราเปิดตั้งแต่วันที่ 5 สิงหาแล้ว ตอนแรกเราก็นึกว่าเราจะพ้นจากยูนิฟอร์มที่ไหนได้บังคับยูนิฟอร์มเหมือนกันค่ะ แถมบังคับสีด้วยตอนนั้นคือต้องรีบหาซื้อยูนิฟอร์มกับกระเป๋าเลย


การเรียนของโรงเรียนที่เราอยู่ก็คือเรียนวันละ 4 วิชา วิชาละ 90 นาที และมีเวลาพักกินข้าวแค่ 25 นาทีค่ะ ซึ่งโรงเรียนที่นี่จะตัด F ที่ 69 คะแนน ซึ่งเกรดประจำเดือนกันยายนเราก็เกือบติดเอฟไปหนึ่งตัวค่ะ ตอนนี้คือกำลังพยายามส่งงานเพื่อดันเกรดอยู่


หลายๆคนบอกว่ามาทั้งทีก็ต้องได้ไปงาน Home Coming แต่งตัวตามคอสตูมกันถูกไหมคะ แต่เราคนหนึ่งที่ไม่ได้ไปงานโฮมคัมมิ่งและไม่ได้แต่งคอสตูมใดๆทั้งสิ้น เพราะวันที่จัดงานโฮมคัมมิ่งโฮสต์เราพาไปเยี่ยมน้องสาวแกที่ North Carolina ค่ะ เลยไม่ได้ไปซึ่งส่วนตัวเองคือเราไม่เอ็นจอยงานแบบนี้ด้วยแหละค่ะ แต่ได้มาเห็นบ้านที่นี่แต่งธีมฮาโลวีนกันก็คือรู้สึกน่าสนใจกว่ามากๆสำหรับเรา
 
 

ขอแนบความน่ารักค่ะ


 
 
จนตอนนี้เราอยู่ที่เข้าเดือนที่สองแล้ว ซึ่งเราแทบไม่ค่อยได้ไปเที่ยวที่ไหนเลยค่ะ โฮสต์เราค่อนข้างยุ่งแต่เรามีทริปตอนธันวากับโฮสต์ก็คือทริป Disney Cruise ที่ Bahamas ค่ะ ส่วนใหญ่เราจะนัดไปกับเพื่อนที่อยู่สะวันนามากกว่าค่ะ 5555555 
 

อันนี้ก็คือที่ Downtown, Savannah ค่ะ

 
ตอนนี้ก็เข้าเดือนที่ 3 แล้วค่ะ ตุลาคมเดือนแห่งฮาโลวีน เราก็เลยแวะเอาภาพมาฝากฮาโลวีนของที่นี่กัน บ้านเรามีธีมนะคะปีนี้ เป็นธีม Disney ก็คือเป็นเจ้าหญิงกันน่ารักฟรุ้งฟริ้งเลย5555555
อันนี้ครอบครัวเรานะคะ (แด๊ดไม่ได้อยู่ในรูปรวมถึงเรา)
 
 
ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ถามว่าภาษาเราพัฒนาไหม? ส่วนตัวคิดว่าพัฒนาได้มากถึงมากที่สุดค่ะ ตอนมาแรกๆก็คือเรายังพูดไม่ค่อยคล่อง จนทุกวันนี้เพื่อนบอกแล้วว่าเธอพูดอังกฤษเก่งมากเลยนะ เก่งกว่าตอนมาโรงเรียนวันแรกอีก รู้สึกว่าการมาแลกเปลี่ยนมันช่วยเรื่องภาษาได้มากจริงๆค่ะ ถือว่าได้ประสบการณ์เยอะมากในเรื่องของภาษา


สำหรับกระทู้นี้เราไม่มั่นใจว่าจะช่วยทุกๆคนได้มากน้อยแค่ไหน แต่ถ้ามีคำถามอะไรสามารถสอบถามได้ตลอดเลยนะคะ heart



 
 
แล้วเราจะเข้ามาอัพเดตบ่อยๆนะคะ 
 


 
 
- My contacts -

Instagram : @jxyleamm

Twitter : @myworldjxy
 

แสดงความคิดเห็น

>

3 ความคิดเห็น

myworldjxy 19 มี.ค. 63 เวลา 02:45 น. 2-1

ทางนี้ไม่มีความคิดที่อยากจะอยู่ต่อเลยค่ะ5555 ส่วนตัวรู้สึกว่าสังคมที่นี่มันเข้ากับเราไมไ่ด้ด้วยแหละเลยทำให้ไม่อยากอยู่ต่อค่ะ

0
myworldjxy 24 ก.ค. 63 เวลา 18:19 น. 3-1

ส่วนคิดว่าน่าจะยังได้ไปนะคะ แต่อาจจะช้าหน่อยอาจจะเลื่อนไปปีหน้าเลยค่ะ

0