ไม่คิดจะลดความแออัดในหมวดแฟนตาซีบ้างเหรอครับ
ตั้งกระทู้ใหม่
คือปกติผมจะสิงอยู่แถว ๆ หมวดสืบสวนกับระทึกขวัญ (หลัง ๆ มีมั่วไปวิทยาศาสตร์นิดหน่อย)
ทีนี้นิยายเรื่องใหม่ที่กำลังจะเขียน ผมวางแผนจะให้มันไปอยู่หมวดแฟนตาซี ก็เลยเข้าไปสำรวจประชากรในหมวดนั้น อัยย่ะ! เห็นแล้วตกใจ ทำไมมันมหาศาลขนาดนี้
เชื่อไหมครับ ผมใช้เวลาระหว่างอู้งาน นั่งกดรีเฟรชนิยายที่อัพเดทใหม่ พบว่ามีการลงนิยายกันเฉลี่ย 5 นาที ต่อ 1 เรื่อง
โอ้...คุณพระ นิยายของผมที่หวังไว้จะลงวันละ 1 บท คงอยู่ได้ประมาณครึ่งชั่วโมง แล้วก็โดนนิยายที่อัพใหม่ กดหายจนสาบสูญ (ไม่รู้ว่าช่วงหลังเที่ยงคืนคนลงเยอะหรือเปล่า ไว้คืนนี้ค่อยนั่งนับ)
ผมไม่รู้ว่าทำไมคนถึงเขียนแนวเยอะ เพราะส่วนตัวไม่ค่อยได้อ่าน จึงลองเข้าไปแอบสอดส่องว่าพวกเขาเขียนอะไรกัน ผลออกมาน่าตกใจครับ
บางเรื่องก็ย้อนเวลาไปเกิดใหม่ (หมวด อต ปจบ อนค ก็มีไม่ใช่เหรอ)
บางเรื่องก็เป็นพวกมนุษย์กลายพันธ์ (หมวดวทยศ ก็มีนะเฮ้ย)
บางเรื่องก็เทพเซียนวิถีมาร (รู้สึกว่าเว็ปเรามีหมวดกลภนนะ)
แต่ที่น่าแปลกก็คือ ผมกลับไม่ค่อยพบนิยายแฟนตาซีจ้า ๆ ดึงดาบ ปราบมังกร ยิงเวทย์ปิ้ว ๆ
เอ๊ะ สรุปมันยังไง
ตอนแรกก็อยากจะขอให้ทีมงานทุบหมวดนี้ แล้วเพิ่มหมวดใหม่แบบนิยายรัก จากแฟนตาซี ก็กลายเป็น แฟนตาซี-ไซไฟ แฟนตาซี-ต่างโลก แฟนตาซี-ยุคกลาง แฟนตาซี-จีนโบราณ อะไรก็ว่ากันไป
แต่พอผมมานั่งพิจารณาสิ่งที่ได้พบ เอาจริง ๆ หมวดอื่นมันก็มีให้ลงกันเยอะแยะนะ วิทยาศาสตร์ แอคชั่น ผจญภัย แต่พวกเขากลับไม่ยอมไปลงกัน
แล้วแบบนี้ใครผิดล่ะ
25 ความคิดเห็น
ส่วนหนึ่งน่าจะเพราะมันเป็นหมวดที่นักอ่านเยอะด้วยครับ
มีนักอ่านท่านหนึ่งก็เคยเสนอให้ผมย้ายนิยายจากหมวดบู๊-แอ๊คชั่น ไปแฟนตาซีเหมือนกัน เพราะที่นั่นนักอ่านเยอะ ยอดวิวน่าจะได้เพิ่มมากกว่านี้ แต่ผมก็ได้อธิบายเหตุผลไปแล้วว่า นิยายของผมมันเป็นสายเรียล ห่างไกลจากคำว่าแฟนตาซี เลยคิดว่าลงให้ถูกหมวดน่าจะเหมาะสมกว่า
อีกประการหนึ่ง...มนุษย์กลายพันธุ์เนี่ย ถ้าไม่ได้อธิบายโดยใช้หลักวิทยาศาสตร์เข้าช่วย ผมถือว่าเป็นแฟนตาซีนะ ไม่ใช่ไซไฟ อย่างดีให้เป็นแฟนตาซี-ไซไฟ
เรื่องต่อไปที่ผมจะเขียนเนี่ย ก็วางแผนจะเขียนเกี่ยวกับมนุษย์กลายพันธุ์เหมือนกัน ปรึกษารุ่นพี่แล้ว แกแนะนำให้ลงแฟนตาซีเหมือนกัน
น่านับถือมากครับ เห็นความถูกต้องสำคัญกว่าจำนวนคนอ่าน
ปล.รู้สึกคำว่า "กลายพันธ์" มันจะเป็นศัพท์ทางวิทยาศาสตร์นะครับ ถ้าแฟนตาซีเขาจะใช้ "กลายร่าง" กันนะ ผมว่า
อันนี้เหตุผลส่วนตัวนะครับ อาจจะผิดก็ได้
“กลายพันธุ์” กับ “กลายร่าง” มันเป็นคนละอย่างกันครับ กลายพันธุ์คือกำเนิดเป็นสายพันธุ์ใหม่ขึ้นมาเลย แน่นอนว่าต้องเป็นการถาวร ส่วนกลายร่างก็จะเป็นทำนองว่าเปลี่ยนรูปลักษณ์ภายนอก ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นชั่วคราว หรือเกิดขึ้นถาวรก็ได้
นิยายประเภท High Fantasy ที่เซ็ตธีมแบบยุคกลาง มีคาถาอาคมต่างๆ แบบที่คุณว่า ก็สามารถมีคำว่า “กลายพันธุ์” ในนิยายได้นะครับ ยกตัวอย่างเช่น จักรวาลของโทลคีนที่พวกออร์ค กลายพันธุ์มาจากเอล์ฟ หรือจะเรียกว่าโดนดัดแปลงพันธุกรรมมาจากเอล์ฟก็ยังได้ หรือในนิยายของผม ก็มีแม่มดที่ใช้คำสาปทำให้สิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์อยู่เช่นกัน
เพียงแต่นิยายแนวนี้ ถ้าไม่อยากใช้ศัพท์ให้มันฟังดูวิทยาศาสตร์ผิดกับธีมของเรื่องมาก อาจเลี่ยงไปใช้คำว่า “ผ่าเหล่า” ซึ่งฟังดูโบราณกว่าก็ได้
ทีนี้กลับมาว่าด้วยการกลายพันธุ์กันใหม่ ต้องถามก่อนว่า X-men หนังซุปเปอร์ฮีโร่ที่เป็นมนุษย์กลายพันธุ์จนมีพลังวิเศษต่างๆเนี่ย ถือเป็นไซไฟไหม
สำหรับผม..ไม่ครับ หรือถ้าจะมีความไซไฟก็ถือว่าน้อยมาก เพราะไม่ได้อธิบายเป็นหลักวิทยาศาสตร์อะไรออกมาเลย ว่าทำไมฮีโร่ตัวนี้ถึงยิงแสงเลเซอร์จากตาได้, ควบคุมโลหะได้ หรือเรียกฟ้าผ่าฝนฟ้าคะนองได้
แบบ X-men เนี่ย ควรจะเรียกว่าแฟนตาซีด้วยซ้ำ หรืออาจจะถือเป็นแฟนตาซี-ไซไฟ ก็พอไหว (ความจริงบางท่านเขาก็จัดให้จักรวาลโทลคีนเป็นแฟนตาซี-ไซไฟ ด้วยซ้ำนะ ขนาดธีมเป็น High Fantasy ขนาดนั้นก็เถอะ)
ที่พูดมายืดยาวนี่คือไม่ได้ต้องการเถียงอะไรนะครับ แต่จะชี้ให้เห็นว่า บางทีคนแต่ละคนตีความไม่เหมือนกัน เราก็ไม่รู้จะเอาใครมาเป็นบรรทัดฐาน สุดท้ายมันก็ไปพ้องกับเนื้อหากระทู้นี้ ที่ว่าทำไมนิยายสายแฟนตาซีถึงล้นเกลื่อนกลาด เพราะคนตีความนิยายตัวเองเป็นแฟนตาซีด้วยส่วนหนึ่ง นอกเหนือจากเหตุผลด้านคนอ่านน่ะครับ
ผมก็อยากลอง
คำว่า แฟนตาซี มันค่อนข้างเป็นแนวที่มีการจำกัดความกว้างมากค่ะ เหนือธรรมชาติแค่นิดเดียวมันก็เป็นแฟนตาซีได้แล้ว แล้วมันก็มีคนอ่านเยอะกว่าด้วย ถ้ามันก้ำกึ่งกับแนวอื่น คนก็จะเลือกลงแฟนตาซีก่อน เพราะคนอ่านเยอะ
อย่างเราก็เคยนะ มีเรื่องหนึ่งเคยลงหมวดรักแฟนตาซี เพราะคิดว่ามันเน้นรัก แต่ฉากคือแฟนตาซี มีสัตว์ประหลาด มีเวทมนตร์ สุดท้ายก็เลือกลงแฟนตาซี เพราะหมวดรักแฟนตาซีคนอ่านน้อย
ส่วนแนวที่ จขกท. พูดถึง เดี๋ยวนี้หายาก ดึงดาบ มีมังกร สัตว์ประหลาด สาดเวทใส่กัน เหมือนมันหมดยุคแล้วมั้ง (พูดไปก็แอบช้ำใจนิดๆ)
สงสัยคนส่วนมากจะคิดแบบคุณ ลงหมวดแฟนตาซี = คนอ่านเยอะ
เพราะแบบนี่แหละม่าง หมวดนี้มันถึงมั่วซั่วอย่างทุกวันนี้
แต่ก็อย่างว่าแหละ "เวอร์หน่อยเดียวมันก็แฟนตาซีแล้ว" คงจะไปว่าอะไรพวกเขาไม่ได้
ที่จริงถ้ามันถูกหมวด จะลงด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่เป็นปัญหานะ
นิยายเรานี่โชคดีที่มันแฟนตาซีพอและก้ำกึ่งลงได้หลายหมวดโดยไม่เป็นที่กังขาอยู่แล้ว ก็เลยเลือกลงในพื้นที่ีที่คนจะเข้าอ่านได้เยอะซะดีกว่า
อย่าว่าแต่หมวดแฟนตาซีมั่วซั่วเลย มันมั่วซั่วตั้งแต่หมวดที่ตั้งออกมาแล้ว เยอะมากมายก่ายกองจนคนเขียนเลือกไม่ถูก
อย่างหมวดรัก ขนาดมีแยกย่อยตั้งเยอะ ยังกองอยู่ในรักหวานแหววเป็นแสน เยอะกว่าแฟนตาซีเป็นเท่าตัว มีหมดทั้งแนวต่างโลกก็ยังมา บางเรื่องนี่อย่างเครียดยังโผล่มาได้ไงไม่รู้
รู้แหละ ว่าหมวดนี้คนอ่านเยอะที่สุด ว่าอะไรไม่ได้
อยากให้มีแตกย่อยออกมาเนอะ บางคนที่ชอบแฟนตาซี แต่ไม่ได้ชอบไปเกิดต่างโลกงี้ เจอแต่เกิดใหม่ต่างโลก ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
อยากให้เพิ่มหมวดยิบย่อยเหมือนกัน จะให้หาแนวที่ต้องการได้ง่าย ๆ
แฟนตาซี คำจำกัดความมันกว้างนะคะ คนเลยลงเยอะ อีกอย่างฐานเยอะค่ะ ประชากรเลยแออัด เราก็เขียนแฟนตาซี ยอดวิวเหงาด้วย แต่ไม่ได้อะไรมาก ด้วยอัปช้าเอง คนอ่านก็มีฐานของเขาด้วย จะไปหมวดอื่น กลัวโดนไล่มาแฟนตาซี เลยอยู่แฟนตาซีที่คำจำกัดความกว้าง ๆ แทน
แออัดก็ควรจะขยายนะผมว่า คนอ่านมันไปกระจุกอยู่หมวดเดียว คนที่ลงหมวดอื่นเขาก็ท้อ สุดท้ายก็เอาไปแปะด้วย มั่วไปหมด
กกำลังภายในก็เยอะอยู่นะครับแต่ไม่เท่าแฟนตาซี
มันมีเคสแปลก ๆ กะการใช้ประโยชน์ของหมวดแฟนตาซีนะคะ 55+ ไม่ใช่ว่าคนอ่านไปกระจุก แค่แฟนตาซีหลายคนติดตามคนเขียนมานาน เลยกลายเป็นกระจุกมากกว่า ถึงแฟนตาซีจะอัปแล้วตกหน้าแรกไว้ (เอาจริงเด็กดีก็ตกหน้าแรกไว) แค่คิดว่าแฟนตาซีเนี่ย มันมีฐานจริง ๆ บางคนก็ตามเพราะนักเขียนด้วย ดังนั้นเขาจะย้ายไปหรือยังไงคนก็ตาม เป็นเรื่องที่นานาจิตตังค่ะ
อย่างนั้นคงต้องนิยามให้ชัดเจนขึ้น
บางอันเป็นBL ที่เป็นแฟนตาซีด้วย แล้วสืบสวนด้วย
แต่บังคับให้เลือกได้หมวดเดียว
คนเขียนเขารู้ดีที่สุด เขาก็เลือกหมวดที่เหมาะกับเขาแหละ
งั้นเพิ่ม "สืบสวนแฟนตาซี" ด้วยละกัน
จริงครับ อะไรที่ไม่ใช่โลกจริง ก็ไปใส่ไว้ในแฟนตาซีหมด
ขออนุญาตแนะนำนิยายแฟนตาซีขนานแท้ครับ
มหัศจรรย์คันฉ่องวิเศษ
https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=2010625
อ่านชื่อแล้วนึกถึง ชิ่งฉ่อง 555
555 จิงดิ
ชาลี พ่อมดออนไลน์
วันเดย์ทาโร่
แฟนตาซี แปลว่า เพ้อฝันครับ ทุกอย่างที่เป็นความเพ้อฝัน อย่างเกิดใหม่ต่างโลก วาร์ปข้ามประตูมิติ หรือสลับเพศกับโลกจริง มันก็รวมอยู่ในความเพ้อฝันครับ ดังนั้น หมวดนี้จึงมีคนอาศัยอยู่มากสุด ทำใจเถอะครับ
เพราะแบบนี้ไงครับ มันครอบคลุมมากเกินไป น่าจะย่อยได้อีกหมวด
แนวต่างโลกบางเรื่องมันก็กึ่งๆ จะแฟนตาซีโอลสคูลแบบที่คุณว่านั่นแหละ เพราะมันก็มีเซ็ตติ้งที่ตัวเอกโดนอัญเชิญจากฝีมือใครสักคนเพื่อทำภารกิจอย่างปราบจอมมารอะไรแบบนี้อยู่
จะมาต่างกันอีตรงพลังโกงๆ กับพล็อตที่พยายามจะเข็นตัวเอกให้เหนือกว่าชาวบ้านแบบไม่เห็นฝุ่น จนบางทีมันก็ดูไม่มีจุดให้ชวนลุ้นหรืออะไร
นึกย้อนกลับไปดิจิม่อนภาคแรกนี่ก็ต่างโลกนี่นะ
คนอ่านมันเยอะนี่ครับ 5555
ความหมายของหมวดหมู่มันครอบจักรวาลครับ คนที่เขียนนิยายแนวอภินิหารจึงเอามาลงที่หมวดนี้เยอะกว่าปกติ
ยิ่งกว้าง ยิ่งต้องตีให้มันแคบ จะได้สมดุล
เราก็อยากอ่านแฟนตาซี แบบดึงดาบ ปราบมังกร ยิงเวทย์ปิ้ว ๆ เหมือนกันนะคะ แต่เข้าไปก็เจอแต่แนว Isekai ซะส่วนใหญ่ อาจเพราะความนิยมด้วยมั้งคะ
คนเขียนน่าจะตายหมดแล้วครับ 55555
เฮ้! คนเขียนยังไม่ตายครับ ผมนี่ไง555
อยากให้มีหมวดย่อยมาก ๆ ค่ะ อย่างเรื่องเราแฟนตาซีไซไฟ ก็ต้องเลือกว่าจะแฟนตาซีหรือไซไฟ
ไซไฟอัปแล้วไป นิยายไม่ตกง่าย ๆ แต่คนอ่านก็น้อย เหมือนต้องแลกกัน
ไซไฟคนน้อยจริง ๆ ลงทุกวันติด ๆ กันก็ได้ท็อปละ (แม้คนอ่านจะหลักสิบ)
จริงค่ะ
คิดว่าควรจะใช้ระบบ #tag ให้เกิดประโยชน์มากกว่าที่เป็นอยู่ครับ
มีประโยชน์มากในการแยกแยะแนวเรื่อง น่าจะมีประโยชน์กับทั้งคนเขียน คนอ่าน
เพิ่งรู้ประโยชน์ของtagผมไม่ใส่เลย
ผมเข้าใจว่า ระบบ "แท็ก" มันใช้งานไม่ได้ไม่ใช่เหรอครับ
ก็พอใช้งานได้
แต่ใช้ยากครับ (ในความคิดผมนะ)
ใจจริงอยากได้ประมาณนี้
(cr: https://ww2.mangafox.online )
(cr : https://kissmanga.com/MangaList )
คือผมก็เป็นหนึ่งคนที่ลงแฟนตาซีนะครับ คือก็ไม่ได้คิดว่าเป็นหัวอะไร แค่รู้สึกว่าถ้ามีเวทมน และไม่ใช่โลกมนุษย์ปกติทั่วไปต้องเป็นแฟนตาซีนะครับ
และในเนื้อเรื่องคนที่แต่งส่วนใหญ่ก็จะผสมปนเปกันไป จะบอกว่าผจญภัยอย่างเดียวก็ไม่ใช่ จะโรงเรียนอย่างเดียวก็ไม่ได้ คิดเยอะแล้วปวดหัว เอาเป็นแฟนตาซีนี่แหละง่ายดี 55555
ผมคิดแค่นี้อะตอนลง
จขกทก็ลองลงดูเลยครับ มันไม่น่ากลัวอย่างที่คิดหรอก เพราะถ้านักอ่านชอบเรื่องที่เราแต่งเขาก็มาอ่านกันเยอะเลยนะครับ
ลองลุงดู มีลองป้าดูไหมครับ?
แฮร่!
แฮร่ มีความอายหนักมาก ช่วงนี้พิมพ์ผิดบ่อยจุง
เห็นคนเบียดกันเยอะแล้วหนักใจ
แต่มันก็เท่านั้นแหละครับ ถ้ามาในมุมนี้ ต่อให้เบียดกันเยอะคนอ่านเยอะแค่ไหน ถ้าเรื่องไม่น่าสนใจพอ เขาก็ไม่อ่านอยู่ดี นิยายแฟนตาซีหลายเรื่องถึงมีปังคนอ่านเยอะและคนอ่านน้อยนะครับ ผมว่ามันก็คล้ายกันทุกหมวดนะ
ผมลงหมวดไหนคนก็เข้ามาอ่านปกตินะ ไม่ว่าจะรักหวานแหวว หรือรักแฟนตาซี หรือแม้แต่สยองหวัญก็ตาม 5555
รอวันที่เด็กดีจะทุบระบบหมวดนิยายทิ้งแล้วใช้ tag อย่างเดียว มี official tag สำหรับค้นหา จัดอันดับ มี user tag เพื่อตอบรับนิยายแนวใหม่ ๆ ในอนาคต
จริง ๆ เรื่องหมวดนิยายคุยกันมายาวนานตั้งแต่สมัยนิยายเกมออนไลน์ดังจนเบียดนิยายแฟนตาซีว่าทำไมไม่ตั้งหมวดนิยายเกมออนไลน์ขึ้นมา นิยายแฟนตาซีจะได้มีที่ยืน พอตั้งหมดวนิยายออนไลน์มา ก็มีแนวอื่นมาเบียดหมวดแฟนตาซีอีก และกลายเป็นนิยายเกมออนไลน์กระแสเบาบางลง ถ้าใช้ tag มี [ต่างโลก] ก็จะง่าย ไม่ว่าจะเป็น [แฟนตาซี][ต่างโลก], [ไซไฟ][ต่างโลก], [แฟนตาซี][ต่างโลก][ฮาเร็ม]
อย่างนั้นก็ดีเหมือนกันนะครับ เพราะในอนาคตเดี๋ยวก็ต้องมีกระแสใหม่ ๆ ตามมาอีกแน่
ได้อย่างงั้นก็ดีครับ แต่ถ้าถึงการเพิ่มระบบใหม่ ๆ เว็ปนี้ต้องเพิ่มอีกเยอะเลยแหละ
ถ้าอย่างนั้นเราขอใช้กระทู้นี้สอบถามได้ไหม ? คือของเรามันก็ไม่ได้ออกเกมออนไลน์จ้า แต่แค่มันเอาระบบของเกมออนไลน์มาใช้ในชีวิตจริง เพราะความความผิดปกติจากสมองของตัวเอก แล้วยังมีเรื่องเกี่ยวการแฮกเกอร์อีก ซึ่งน่าจะไปแนววิทยาศาสตร์มากกว่า แต่ถึงอย่างนั้นเรื่องของเราก็ไม่ได้วิทยาศาสตร์ขนาดนั้น เราเลยลังเลใจอยู่ ก็เลยลงเกมออนไลน์เพราะใช้ระบบเกมออนไลน์เป็นแนวหลักของเรื่องไม่ว่าจะสกิลอะไรต่าง ๆ ตอนแรกก็คิดว่าจะไปหย่อนไว้ในแฟนตาซีเหมือนกัน..เพราะมันจะครอบคลุมทุกอย่าง แต่เราก็ว่ามันก็ยังไม่ตรงใจ เลยตัดสินใจลงไว้ในหมวดเกมออนไลน์ เพื่อนๆ คิดว่าย้ายดีม่ะ
น่าจะเป็นแฟนตาซีไซเบอร์ปะครับ อิอิ
เอาจริง ๆ เกมออนไลน์กับวิทยาศาสตร์ มันสามารถเป็นหมวดเดียวกันได้เลยนะ
แต่ถ้านิยายคุณเน้นเกม ก็ไปลงเกมเถอะ
@ด๋งครับ น่าจะมีจริงๆ ก็ดีเลย ^^
@pungpron ใช่เลยมันน่าจะเป็นหมวดเดียวกันได้ ตอนแรเราก็ไม่แน่ใจเหมือน เพราะดูเหมือนคนที่ต้องการเกมออนไลน์จ้า ๆ เขาเข้ามาและจัดหนักจัดเต็มเลย จนกลายเป็นนิยายกากสำหรับเขา เรเลยาคิดว่าเราผิดหมวด แต่ก็ยังพอมีคนที่หลงเข้ามาแล้วรับได้อยู่เหมือนกัน
โลกแห่งความจริงมันก็โหดร้ายและเต็มไปด้วยการแข่งขันนั่นแหละครับ ถ้าอยากเกิดก็ต้องสู้ ถ้าอยากประสบความสำเร็จก็ต้องลงแรง
นิยายของผมเรื่องที่สองเขียนมา 5 เดือน ลงหมวดแฟนตาซีตั้งแต่ตอนแรกที่ออก 2 อาทิตย์แรกมีคนอ่าน ตอนละ 5 -10 คน [ปัจจุบันยอดอ่านรวมเกือบล้าน ตอนละ 4-5 พัน เปิดขายแล้ว] แต่คนที่มาส่องก็จะเห็นแค่ว่านิยายผมติด top เป็นแนวกระแส [ก็ไม่รู้ว่าจะใช่แนวกระแสเปล่านะ fantasy sci-fi + ระบบเกม + ธีมโลกปัจจุบัน] โดยคนที่ส่องไม่ได้มองในปัจจัยสำคัญที่ทำให้นิยายประสบความสำเร็จขึ้นมา
1. 2 อาทิตย์แรก ผมลงไป 1 ตอนมีคนอ่าน 2 3 คน ท้อเหมือนกันเพราะเรื่องแรกของผมคนอ่านหลักล้านแต่เพราะผมลงๆหายๆเลยไม่มีแฟนๆตามผลงาน ลงไป 10 ตอนยอดอ่านรวมไม่ถึงร้อย ปัญหาที่ว่าลงนิยายไปแล้วถูกนิยายเรื่องอื่นตีตกทันทีผมผ่านมาแล้วแต่ผมสู้ไม่ถอยและยอมรับในระบบของเว็บ มีคนทำได้ผมก็ต้องทำได้ ผมคิดแบบนี้
2.ผมเริ่มที่จะศึกษาระบบ ทำการตลาด คำนวนว่าจะติด top 20 ในหมวดแฟนตาซี อันดับหนึ่งยอดวิวประมาณเท่าไหร่ อันดับสองเท่าไหร่ อันดับ 20 เท่าไหร่ โดยการสังเกตช่วงต้นเดือนของการตัดยอด เมื่อได้ตัวเลขในใจแล้ว ผมก็มานั่งดูนิยายของผมว่ามีนักอ่านต่อตอนเท่าไหร่ ผมต้องทำยังไงถึงจะได้ฐานนักอ่านมากพอ
3. ถ้านิยายของเราดีจริงและสนุกจริง [นิยายของผมผมเขียนจากความชอบและความสนุกของผม เขียนในสิ่งที่ผมอยากจะให้มันเป็นตอนอ่านนิยายของคนอื่น ผมเอามาใส่ในนิยายของตัวเอง ผมมีความเชื่ออย่างมากว่านิยายของผมสนุกและเชื่อว่ามันต้องมีนักอ่านไม่มากก็น้อยที่จะเข้าถึงความสนุกใจนิยายของผมได้] เมื่อผมมีความเชื่อผมก็ค่อยๆเก็บเล็กผสมน้อยลงทุกวัน วันละ 3-4 ตอน 2 อาทิตย์แรกผมพยายามทำงานวันละ 10-15 ชั่วโมงในการเขียนนิยายให้ลงได้วันละ 3 ตอนเป็นอย่างน้อยเพื่อสร้างฐานนักอ่าน ถ้าโชคดีผมลงไป 1 ตอนอาจจะได้ยอดนักอ่านใหม่เพิ่มมา 3-5 คน ลงไป 3 ตอนต่อวันผมก็อาจจะได้ฐานนักอ่านเพิ่มวันละ 15-20คน พอผมทำแบบนี้ไปสัก 10 วัน ฐานนักอ่านต่อตอนของผมก็เพิ่มจากช่วงแรกเป็น 100-200 คนต่อตอน เมื่อมาถึงขั้นนี้ผมก็ขยันมากกว่าเดิม เพื่อลงให้ได้วันละ 7 ตอน สรุปรวมยอดอ่านต่อวันของผมเพิ่มพรวดเป็น 1400+ ติด top ได้ฐานนักอ่านเพิ่มต่อจากนั้นมันก็ง่ายแล้ว
คำถามของผมถึงนักเขียนหลายๆท่านที่อยากจะได้ยอดวิว อยากจะให้นักอ่านมาอ่านนิยายของท่าน ท่านพยายามได้ถึงครึ่งหนึ่งของนักเขียนซึ่งเขาติด Top อยู่หรือยัง? ถ้ายังก็เลิกตั้งคำถามแล้วพยายาม
มันมีทั้งข้อทีและข้อเสีย หมวดแฟนตาซี การแข่งขันมันเยอะเพราะคำว่า "แฟนตาซี" ก็จริงแต่ที่ตามมาคือยอดนักอ่านที่สูงและผลตอบแทนถ้าประสบความสำเร็จได้มันก็สูงเป็นเงาตามตัว การจะให้แตกยิบย่อย แฟนตาซี sci-fi รักแฟนตาซี แฟนตาซีต่างโลก แฟนตาซี... คือต้องให้แตกย่อยไปอีกกี่หมวด?
สำหรับผมแฟนตาซีมันก็คือแฟนตาซี มันคือนิยามของความเพ้อฟันไม่มีจริงดังนั้นอะไรที่มันเหนือธรรมชาติมันก็คือแฟนตาซีได้หมด
โลกความจริงมันไม่ปราณีใคร การแข่งขันมันสูง ถ้าเราอ่อนแอสู้ไม่ทันคนอื่นแล้วหวังตัวช่วยในการประสบความสำเร็จแล้วถ้าวันหนึ่งไม่มีตัวช่วยขึ้นมาจะทำยังไง?
สู้ๆและพยายามแล้วกันครับ หาจุดขายในนิยายของตัวเองให้เจอแล้วพยายามต่อไป ลงวันละตอนได้นักอ่านใหม่วันละ 3-5 คนก็โอเคครับและถ้านิยายเราดีจริงนักอ่านเขาก็ไม่หนี เก็บวันละ 3-5 คน 10 วันก็ 50 คน ขยันเพิ่มสักหน่อยก็สู้คนอื่นได้เหมือนกันและลองพยายามใช้ระบบ TAG ช่วยอีกแรงดูครับ มันจะทำให้นักอ่านแยกแยะได้ว่านิยายของเรามันแนวไหน
แหม...คนที่ประสบความสำเร็จเวลาพูดอะไรมันก็ดูดีไปหมดเนอะ
ผมมองเหมือนท่านเลยครับ เหมือนก่อนลงวันละสองตอน แล้วก็มีคนเข้ามาอ่านค่อนข้างเยอะมาก เลยนึกอยากลองลงวันละตอนเพื่อดูผลที่เกิดขึ้น ปรากฎว่าคนออกมาน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด เพื่อความแน่นอนเลยลองถามนักแต่งคนอื่น ๆ ว่าเป็นเหมือนกันหรือเปล่า ผลสรุปคือปกติ และผมก็เริ่มลองคิดคำนวนเหมือนที่ท่านบอก ตอนนี้กำลังจะเพิ่มมาลงวันละสามอยู่ครับ แปลกว่าผมก็มาถูกทางเหมือนกันใช่ไหมครับ
ก็ท่านมองแค่ตอนที่ผมประสบความสำเร็จไง? ทำไมไม่ย้อนกลับไปตอน 6 เดือนที่แล้วซึ่งเป็นตอนที่ผมลงนิยายไป 1 ตอนแล้วมีคนอ่านแค่ 3 คนทั้งๆที่เรื่องแรกมีคนอ่านหลักล้านดูล่ะครับ ในตอนนั้นผมก็เกิดคำถามและหวาดกลัวแบบเดียวกับท่านนั่นแหละว่านิยายของเราจะไปสู้เขาได้ยังไงแต่ผมไม่ได้มาตั้งกระทู้แค่นั้น ผมสู้ไงล่ะและนั่นคือเหตุผลของความสำเร็จในนิยายเรื่องที่สอง
ผมแค่เอาความจริงและวิธีการมาบอกต่อให้ได้คิด ส่วนคนอ่านจะรับเอาไปปรับใช้มากน้อยขนาดไหนผมก็คงทำอะไรไม่ได้ครับ
มันพูดง่ายนะครับ -ลงกันวันละ 3-4 ตอนเนี่ย
แต่ผมนึกไม่ออกจริง ๆ ว่าคนที่ชีวิตมีเวลาเขียนวันละ 3 ชั่วโมงแบบผม จะมีปัญญาเขียนแบบนั่นได้ยังไง
จะให้เขียนให้จบก่อนแล้วค่อยทยอยลง แบบนั่นผมคงรอไม่ไหว หรือจะให้เน้นปริมาณซอยเหลือนิยายตอนละไม่ถึงพันคำ แบบนั้นมันจะดีหรือ
ผมเข้าใจที่คุณจะสื่อนะ "ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น"
แต่พื้นฐานของคนเรามันไม่เท่ากัน วันนึง ลง 1 ตอน ได้คนอ่าน 10 คน มันจะไปสู้ลง 3 ตอน ได้คนอ่าน 30 คนได้ยังไรเล่า
ปล.ทุกวันนี้ผมก็พยายามลงอาทิตย์ละ 5 ตอน แค่นี้ก็ไม่ได้หลับไม่ได้นอนละครับ
ถ้าจะให้ผมแนะนำ ผมมองว่าท่าน ตัวPน้อย รีบเกินไปครับ คือรีบเก็บเงินเกินไป การเก็บเงินเร็วมันจะทำให้นักอ่าน 85 เปอร์เซ็นต์ที่จะกดเข้ามาอ่านเลือกที่จะเบือนหน้าหนีไปจากนิยายเราครับ ถ้าอยากจะขายจริงๆควรทำให้นิยายของเราติดตลาดก่อน [ยอดขายนิยายทางออนไลน์ใน dek d ต่อแพคเฉลี่ยจะประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ของยอดผู้ติดตาม นั่นหมายความว่าถ้าเราทำยอดผู้ติดตามได้ถึงสองพัน แพคแรกถ้าเราตั้งประมาณ 50-60 บาทขะมีนักอ่านที่ยอมซื้อแพคของเราแน่ๆ 200 คนแต่ก่อนจะถึงตอนนั้นต้องอดทน] จากที่ผมเข้าไปศึกษาดูนิยายของท่าน ตัวpน้อย ดูแบบคร่าวๆนะครับ ท่านรีบเก็บเงินไปและจำนวนตอนยังน้อยมากๆอยู่ 30 ตอนเองก็เริ่มเก็บเงินแล้ว มันเลยทำให้นักอ่านไม่มั่นใจ นิยายที่จะทำแพคแล้วขายดี ควรเปิดให้อ่านฟรี 60 เปอร์เซ็นต์ของเนื้อหาแล้วค่อยเก็บขาย อย่างนิยายของผมคือเปิดให้อ่านฟรีหมดแล้วเก็บขายที่หลังครับ
คุณก็พยายามสิ คนกดเข้ามาหมวดนี้มาก ถ้าพยายามก็ได้่ยอดวิวมาก
ทำงานวันละ 3-4 ชั่วโมงแล้วเขียนดองไว้สัก 10-15 วันโดยไม่ต้องลง แล้วค่อยมาปล่อยทยอยลงตามแผนให้นิยายติดตลาด ถ้าติดตลาดแล้วค่อยปล่อยลงวันละตอนก็ได้ นิยายเฉลี่ยต่อตอนของผม 2500 คำต่อตอนครับ ซึ่งในช่วงแรกที่ผมต้องการยอดนักอ่าน ผมพิมพ์แจ้งบอกกับนักอ่านเขาไปตรงๆเลยว่าระบบของเว็บที่นี่มันเป็นอย่างนี้ผมขอซอยตอน จาก 2500 คำ ผมซอยเหลือ 1400 คำเป็นบางช่วง [ประมาณ 10 ตอน] ช่วง 1 อาทิตย์แรก ความพยายามที่ผมจะสื่อ มันไม่ได้หมายความว่าเขียนอย่างนะ มันหมายความถึงการวางแฟนการตลาด ศึกษาหาข้อมูลด้วย คนสองคนพยายามเท่ากันผลลัพธ์ที่ออกมามันก็ไม่เหมือนกันเพราะความสามารถของคนมันไม่เท่ากัน ถ้าคุณมีความสามารถโดยรวมสูงก็พยายามน้อยกว่าคนอื่นแต่ถ้าความสามารถโดยรวมต่ำกว่าคนอื่น คุณก็ต้องทดแทนด้วยความพยายามที่สูงกว่าคนอื่น ผมแนะนำได้เท่านี้
15 วัน อย่างดีด ก็ได้ประมาณ 12 ตอน ปล่อยลงได้ 4 วัน หมดสต๊อกแล้ว 55555
อีกอย่างนิยายของผมมันสั้นครับ ประมาณ 20-30 ตอนก็จบภาค
จากข้อมูลแค่นี้ก็น่าจะรู้สาเหตุของผมแล้วนะครับ ยังไงก็สู้พวกท็อปหมวดแบบคุณไม่ได้หรอก
ถ้าแบบนั้นก็ดีแล้วครับ ไม่ต้องพยายามแล้วก็บ่นต่อไป รอโชคชะตาให้ dek d เพิ่มหมวดใหม่มาเข้าทาง เดี๋ยวคงติด top และมีนักอ่านเข้ามาอ่าน เอาแบบนั้นก็ได้ครับ
ผมไม่เคยบ่นเรื่องไม่ติดท็อปนะ เพราะผมรู้กำลังตัวเองดี ผมแค่บ่นว่าหมวดมันแออัด ควรเพิ่มช่องทางเพราะคนอ่านมันจะกระจาย ๆ หมวดอื่นจะได้ไม่เงียบเป็นป่าช้าแบบนี้
เอ...หรือว่าถ้ากระจายหมวดแล้ว ความขลังของท็อปแฟนตาซีมันจะลดลง เอ...น่าคิด ๆ
ยิ่งเพิ่ม คนยิ่งเงียบ หมวดเยอะ คนยิ่งกระจาย ยิ่งลายตา
เงียบทุกหมวดก็ดีกว่ามากระจุกอยู่หมวดเดียวแบบนี้อะครับ
อะไรก็ไม่รู้ หมวดเดียวรวมไว้เป็นสิบแนว มีแค่เส้นด้ายบาง ๆ ที่เรียกว่า "แฟนตาซี" เชื่อมกันอยู่
ไม่รู้สิ ผมไม่เคยได้ท็อป มองข้อดีของมันไม่ออกจริง ๆ
นิยายผมก็ลงรักแฟนตาซี คนอ่านน้อยจริงๆนะครับ ลงแฟนตาซีคนอ่านเยอะ แต่ลงให้ถูกหมวกจะได้ไม่รกคนอื่น มันก็แค่หมวดอย่าไปซีเลยครับ
อันนี้ไม่เกี่ยวกับเนื้อหากระทู้ แต่อ่านตัวย่อแล้วงง ต้องเสียเวลาตีความว่าหมายถึงอะไร คือมันจำเป็นต้องใช้ตัวย่อกับคำง่าย ๆ แบบนี้ด้วยเหรอครับ ความเร็วในการพิมพ์ที่เพิ่มขึ้นอีกนิดเดียวกับการที่คนอ่านต้องมานั่งงงมันจะไม่คุ้มกันเอานาผมว่า
ขออภัยด้วย ผมแอบเจ้านายตั้งกระทู้ครับ เวลาจำกัดจริง ๆ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?