ถามหน่อยค่ะ ทำยังไงถึงเขียนนิสัยที่ไม่ชอบลงไปในนิยายได้คะ
ตั้งกระทู้ใหม่
แต่เราไม่ชอบนิสัยแบบนั้นเลยค่ะในชีวิตจริง แค่คิดว่าจะต้องเอาใส่ไปในตัวนิยายก็ไม่รู้ว่าควรต้องเขียนยังไงต่อ แบบว่าไม่อยากเขียนให้ตัวละครในนิยายร้ายเลยอ่ะ ;_;
แต่มันก็เลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว เราก็เขียนไปแต่เขียนไปก็รู้สึกเหมือนฝืนอ่ะรู้สึกไม่เป็นธรรมชาติเลย เพราะเวลาจะเขียนนิสัยลงไปในตัวละครเรามักจะจินตนาการถึงความรู้สึกนึกคิดของตัวละครนั้น ๆ ด้วย แต่เราจินตนาการด้านร้าย ๆ ไม่ค่อยออกเลย
ถ้าบอกว่าให้เอานิสัยคนที่ไม่ชอบลงไปในนิยายเราลองคิดตามนะ ปกติเราไม่มีคนที่ไม่ชอบหรอกแต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเลย เราไม่ได้รู้สึกแย่นักกับคนเหล่านั้นเพราะไม่ได้เก็บมาใส่ใจให้รกสมอง แบบนั้นแล้วเลยไม่อยากให้นิสัยเหล่านั้นมาอยู่ในตัวละครที่เราสร้าง
แต่ถ้าไม่ทำแบบนั้นแล้วจะทำยังไงกับนิยายเพราะคงจะมีแค่ฝั่งดี ๆ ไม่ได้อ่ะ
ทุกคนเคยมีปัญหานี้กันไหมคะ แล้วต้องทำไงถึงจะเขียนลงไปได้คะ (ไม่รู้จะมีคนคิดแค่ว่าให้ใส่ไปขำ ๆ หรือสนุก ๆ หรือเปล่า แต่เรารู้สึกซีเรียสพอสมควรเลย)
P.S. รู้สึกชื่นชม เจ.เค. โรว์ลิง มากที่เขียนตัวละครที่ทั้งโลกเกลียดอย่าง โดโลเรส อัมบริดจ์ ออกมาได้ ส่วนตัวไม่อยากเขียนให้ตัวละครถูกเกลียดขนาดนั้นเลย T_T
11 ความคิดเห็น
ผมไม่เคยมีปัญหาตรงจุดนั้นเลยนะครับ โดยส่วนตัวเพราะชีวิตที่ผ่านมานั้นเคยประสบการคนที่มีนิสัยร้าย แต่พอลองคบดูทำไมรู้ว่าความร้ายที่คนมองมันเป็นเพียงนิสัยที่ล่อหลอมมาจากอดีตของเขา โดยที่เจ้าตัวก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองร้ายในสายตาคนอื่น
จขกทลองเอาจุดนีร้มาใช่แต่งนิยายสิครับ ทุกตัวละครต้องมีอดีตอะไรซักอย่างมาอยู่แล้วถึงมีนิสัยแบบนี้ ก็สร้างนิสัยที่ทำให้ตัวร้ายเกิดมาร้าย คงก็จะเข้าใจเองว่าทำไมเขาต้องพูดแบบนี้ พอเข้าใจคุณก็จะไม่รู้สึกว่านั้นเป็นสิ่งที่ไม่ดี แต่คุณจะคิดว่าเขาเป็นแบบนี้ก็เพราะที่มามาเขาเจอกับอะไรมันก็สมควรแล้ว
ปกติผมจะใส่เรื่องราวให้ทุกตัวละครอยู่แล้วด้วยถึงจะไม่ได้บอกออกมา แต่มันก็จะทำให้การวางคาแรคเตอร์ชัดเจน
พยายามเข้าใจตัวละครนั้นให้มากที่สุด หรือเพิ่มปูมหลังเข้าไป อาจไม่ต้องเล่าในเรื่อง
เปลี่ยนนิสัยไม่ดีเป็นแค่หน้ากากหนึ่ง หรือมุมหนึ่งของตัวละครนั้น
ทำให้ความเป็นตัวร้ายคือการที่ในเรื่องราวนั้น ตัวเอกไม่มีโอกาสเห็นด้านอื่นเฉย ๆ
ไม่ใช่ว่าตัวร้ายไม่มีมุมอื่น มี แต่ด้วยสถานการณ์ในเรื่องมันแค่ไม่เอื้อให้เห็นด้านอื่น
ปล.1 ทำตัวร้ายให้มีมิติไม่ง่าย ต้องฝึก แต่ทำตัวร้ายให้มีมุมดียังง่ายกว่าทำตัวดีให้ร้าย
ถ้าทำไม่ดีจะออกมาเป็น จูนิเบียวจอมมาร
ปล.2 ใครมีปัญหา ยอดวิวลดตอนดึกไหม มันเป็นบัคหรืออะไร
ถอดหน้ากากที่เป็นตัวเองออก แล้วก็แค่หยิบหน้ากากตัวร้ายขึ้นมาสวมแทน
แม้มันอาจจะลำบาก ใส่ไม่ถนัด ไม่ใช่สิ่งที่ชอบ แต่ในโลกนี้ไม่มีใครทำสิ่งที่ชอบได้ทั้งหมดหรอก ทุกคนล้วนต้องเผชิญกับสิ่งที่เราไม่ชอบทั้งนั้น ไม่จะเรื่องเรียน เรื่องงาน หรือเรื่องคนรอบข้าง
แค่เผชิญหน้ากับมัน ผ่านมันไปให้ได้แล้วหาสิ่งที่ชอบ ที่ชอบที่ต้องการ เราว่าที่ทุกคนก็พยายามทำสิ่งเหล่านั้นเหมือนกันอยู่นะ ไม่ว่าจะเป็น อยากมีเงิน อยากมีบ้าน อยากมีความรักดีๆ แม้แต่พระ ก็ยังแสวงหาทางดับทุกข์
เราว่าคุณก็พยายามอยู่ มันไม่มีทางเลี่ยงหรอก เพียงแค่รีบแก้ปัญหาและรีบผ่านมันไปให้ได้นะ
เราเป็นกำลังใจให้นะ^^
จริงๆคอมเมนต์หลายๆอันได้ตอบสิ่งที่ผมคิดไปหมดแล้วนะ
แต่ผมคิดว่าอยากให้รองเริ่มจากการดูหรือเสพเบื้องหลังลึกๆของตัวร้ายบางตัวดูก่อน แล้วหาเหตุผลด้วยว่า 1.เหตุผลอะไรที่ทำให้เขาร้ายแบบนั้น 2.แรงจูงใจที่ทำให้เขาทำเรื่องร้ายๆคืออะไร ผมคิดว่าเหตุและผลน่าจะเป็นตัวเชื่อมระหว่างคุณกับบทนั้นๆได้แน่นอน ถ้าให้ผมแนะนำตัวร้ายหนึ่งตัวผมคงแนะนำ เอนวี่ จากเรื่อง ฟูลเมทั่น อัลเคมิส แต่จริงๆเรื่องนี้มีตัวร้ายหลายตัวที่น่าสนใจเยอะอยู่เหมือนกัน
ในบางกรณีเราสวมบทบาทตัวละครเองเพื่อให้เกิดความรู้สึกคล้อยตามแล้วถ่ายทอดออกมา
แต่ในบางกรณีเราไม่จำเป็นต้องรู้สึกนึกคิดตามตัวละครนั้น แต่ให้ทำความเข้าใจที่เหตุผลว่า
นิสัย การกระทำแบบนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ทุกอย่างย่อมมีที่มาที่ไป แต่ถ้ายังไม่มีรายละเอียด
ตรงส่วนเหตุก่อนหน้าก็ควรคิดเพิ่มเติมเอาไว้ จะเขียนลงไปในเรื่องด้วยหรือรู้เองคนเดียวก็ได้
เราไม่จำเป็นต้องพยายามจินตนาการ อารมณ์ ความรู้สึก ของคนที่ ฆ่าคนตาย ปล้นธนาคาร
ยกพวกตีกัน ขโมยชุดชั้นในผู้หญิง แต่เราเข้าใจที่มาที่ไปของการกระทำนั้นได้ด้วยการ
วิเคราะห์สาเหตุที่ทำให้เขากระทำความผิด หรือเขามีความคิดอย่างไรถึงได้ทำแบบนั้นได้
อย่ามองว่านี่คือนิสัยไม่ดี นี่คือนิสัยร้าย
โดยพื้นฐาน เราว่าไม่มีใครอยากเป็นผู้ร้ายหรอกค่ะ แปลว่าตัวร้ายในหนังสือเชื่อว่าสิ่งที่เขาทำเป็นปกติ เป็นความชอบธรรม เป็นเรื่องธรรมดา (แม้ว่าคนอื่นมองว่าไม่ธรรมดา) ถ้าคนเขียนตัดสินเสียแล้วว่าตัวละครนี้คือตัวร้าย คนเขียนซึ่งมองตัวเองว่าไม่ใช่คนร้าย (ย้อนกลับไปประโยคแรก ไม่มีใครอยากเป็นผู้ร้าย) ย่อมไม่มีทางเขียนออกมาได้ เพราะเฝ้าแต่คิดว่าฉันไม่ชอบพฤติกรรมนี้ โดยใช้มุมมองของตัวเองมองและตัดสินตัวร้ายตัวนี้ไปแล้ว
ให้มองในมุมมองของตัวละครแทน ตัวละครที่ไม่ได้มองว่าฉันเป็นคนร้าย แต่มองว่าฉันมีความชอบธรรมที่จะทำสิ่งนี้ ที่คนเขียนพึงทำคือ หาให้ได้ว่าตัวละครตัวนี้ไปเอาความมั่นหน้าจากไหนที่ทำให้ตัวเองพึงทำเรื่องนั้นๆ ได้
เช่น ลูกเกิดมาในตระกูลร่ำรวย นั่งรถหรูมีคนขับ แล้วพ่อชี้ให้ลูกดูว่าคนที่เดินบนท้องถนน คนยืนรอที่ป้ายรถเมล์เป็นพวกมดปลวก ไม่นับว่าเป็นคน ใช้อำนาจบีบสักหน่อย พวกนี้ก็ตายหมด
วันดีคืนดี ลูกอารมณ์เสีย เห็นคนยืนที่ป้ายรถเมล์เลยหักพวงมาลัยรถเข้าชนใส่เสียเลย ก็ไม่ต่างกับตัวเองเซ็งๆ ก็หาเรื่องบี้มดตาย พวกนี้ก็ไม่ใช่คนอยู่แล้ว ใช้รถบี้ตายจะเป็นไรไป
ถ้ามองในสายตาคนธรรมดา นี่คือเลว นี่คือร้าย แต่เจ้าตัวคิดไหมว่าเขาเลว เปล่าเลย เขาแค่ทำในสิ่งที่เป็นปกติที่เขามีสิทธิ์ทำได้
เริ่มจากตรงนี้ดูค่ะ น่าจะทำให้เขียนนิสัยที่ตัวเองไม่ชอบได้
สำหรับผมนะ แยกชีวิตจริงกับนิยายให้ได้ ถ้าแยกไม่ได้ก็ยากครับ งานเขียนมันต้องสวมบทบาทนิ
การหยิบนิสัยบางอย่างที่เราคาดเดาว่าน่าจะเป็นหรือควรจะเป็นไปให้ตัวละครร้ายมันจะไม่เนียนเท่ากับเราทำตัวเองให้เป็นละครนั้นๆ พอเราเป็นตัวละครนั้น เราก็รู้เองว่าเราต้องการอะไร และคิดจะทำยังไงเพื่อกำจัดตัวเอกนั่นละค่ะ
จริงด้วยค่ะ ทั้งที่เราก็เคยเขียนแบบที่มีปูมหลังแล้วแสดงด้านร้ายออกมาแท้ ๆ ลืมไปได้ยังไงกันว่าไม่มีใครอยากจะร้ายแต่สิ่งที่เขาแสดงออกมามันก็เหมือนบอกว่าอดีตตัวเองเคยเป็นแบบไหน ขอบคุณนะคะที่เตือนสติ รู้แล้วค่ะว่าจะเขียนยังไง ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ
(ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดว่านั่นเป็นนิสัยร้าย ๆ ด้วยเลยเขียนได้ง่าย ไม่ได้คิดมากแบบนี้)
ตัวร้ายเนี่ยมันเล่นประเด็นปมในอดีตได้มากกว่าพระเอกนะครับ
เวลาออกแบบตัวร้ายเนี่ย ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่าเขาคือมนุษย์ ซึ่งมนุษย์นั้นล้วนเป็นผ้าขาว เราก็ต้องสร้างกำหนดว่าเพราะอะไรเขาถึงได้ถูกละเลงสีจนเป็นตัวร้ายได้
อาจจะเพราะสังคมที่อาศัย เพราะค่านิยม(เช่นดีโอในโจโจ้ ที่แม่เขาดีโคตรๆ แต่ตายเพราะพ่อนิสัยเลวของตัวเอง ดีโอเลยคิดว่า การเป็นคนดีทำให้ถูกกดขี่ ตัวเองจึงเลือกเดินสายตัวร้าย ด้วยศักดิศรีของตัวเอง) หรืออื่นๆ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?