Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

รู้สึกรับชีวิตตัวเองไม่ได้ ถ้าไม่ได้เรียนคณะแพทย์

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
อยากเรียนแต่หมอ หมอ หมอ และหมอ
รอเรียนจบมาสี่ปีเพื่อสอบเข้าหมอ วอนนาบีแพทย์มาโดยตลอด แม่ก็มาไตวาย ช่วยเหลือตัวเองไม่ค่อยได้ ต้องให้ผมคอยพาไปฟอกไต ฟอกเลือด ซื้อข้าวซื้อน้ำ

ตายก็ไม่ตาย ดีก็ไม่ดีขึ้น ผมไม่รู้ต้องอยู่แบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน จะไปทำงานก็ไม่ม่ที่ไหนรับ เพราะต้องพาไปฟอกไต วันอังคารกับศุกร์
เงินก็ไม่ค่อยมีจะใช้ แมาให้จำกัดเพราะต้องเก็บไว้ฟอกไต

ในหัวผมก็มีแต่เรื่องอยากเรียนหมอ

เดี๋ยวก็มีคนมาเม้นบอก ไปสอบให้ติดก่อน ไม่ง้นก็ฝันเอา ก็ไม่แน่นะผมอาจจะอยากหลับฝันไปตลอดกาลก็ไ ในเมื่อชีวิตผมตอนนี้ ไม่มีอะไรที่ผมทำได้ซักอย่าง จะหาความเจริญก้าวหน้าในชีวิตก็ไม่ได้ จะเรียนอะไรก็เรียนไม่ได้ ไปทางไหนก็ไม่ได้

แสดงความคิดเห็น

>

25 ความคิดเห็น

จขกท 24 ต.ค. 62 เวลา 10:55 น. 1

อ้อ ผมอยากเรียนหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต ไม่ได้อยากเรียนหลักสูตรอื่นๆที่เปิดคณะแพทย์ โทเอกก็ไม่เอา

0
พี่ลาเต้ Columnist 24 ต.ค. 62 เวลา 11:42 น. 2

ไม่แน่ใจว่าตอนนี้เรียนจบ ม.6 หรือยังครับ หากยังพี่แนะนำให้เตรียมตัว ตามข่าวว่ารับรอบไหน ศึกษาวิชาที่ใช้ และวัดผลเช็กความพร้อมอยู่ตลอด อาจจะลองลองพรีแอดว่าผลที่เราเตรียมพอไปสอบ ไปทำข้อสอบแล้วได้คะแนนใกล้ของจริงหรือยัง หากไม่ถึงเรายังตกหล่นตรไหนให้อุดครับ พี่เชื่อว่าคนที่สอบหมอ หรือคณะต่างๆ ทุกคนมีความเครียด ความทุกข์ส่วนตัวเหมือนกันทุกคนนะ และนี่คือบททดสอบระหว่างทางที่เราจะผ่านไปให้ได้ครับ ที่สำคัญประเด็นเรื่องดูแลคุณแม่ หากตัดเรื่องกตัญญูที่ทุกคนควรมี พี่มองว่าเรื่องนี้คือหนึ่งในจรรยาบรรณของคณะที่น้องอยากสอบติดเลยนะครับ ด้วยความทุกข์ที่รุมเร้าน้อง อาจทำให้กดดัน และเครียด พี่เป็นกำลังใจให้นะครับ ในฐานะที่พี่ดูแลรับฟังให้คำปรึกษาน้องๆ ในเว็บเด็กดีมาหลายปี มีหลายคนหนักกว่านี้เยอะเลยครับ และยังหาทางออกไม่ได้เลย ตอนนี้เรามาเตรียมตัว วางแผนกัน ทำให้เต็มที่ พี่ว่าจะมีสิ่งดีๆ ตามมาแน่นอน เอาใจช่วยนะ หากเครียดมาระบายกับพี่ได้

0
M_a_R_c_H 24 ต.ค. 62 เวลา 12:51 น. 3

ผมเห็น จขกท ตั้งกระทู้มาแล้วหลายรอบ ซึ่งก็ไม่แน่ใจในวัตถุประสงค์ว่าต้องการอะไร ต้องการคำชี้แนะ ต้องการระบาย หรือต้องการอะไร .....


แต่สิ่งหนึ่งที่อยากบอก จขกท คือ บางทีความฝัน มันก็ต้องเก็บไว้ให้เป็นความฝันต่อไป ถ้าหากมันเป็นโลกคู่ขนานกับโลกของความเป็นจริง


ส่วนเรื่องของการล้างไต จริงๆแล้วประเทศไทยมีระบบการล้างไต 2 รูปแบบ คือการล้างหน้าท้อง (ไม่เสียค่าใช้จ่าย) และแบบฟอกเลือด (ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง) ก็เลยอยากให้ จขกท ลองไปพิจารณาปรับเปลี่ยนดู เพราะไม่แน่ใจว่าที่บอกว่าคุณแม่ จขกท ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้นี่อยู่ในระดับไหน สามารถ้้างหน้าท้องเองได้หรือไม่


เพราะถ้าปล่อยไว้อย่างนี้ สักวันก็จะมีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย เพราะมีแต่รายจ่ายแต่ไม่มีรายได้เข้ามาเลยดังนั้น ควรปล่อยความฝันของการเป็นแพทย์ไว้ให้เป็นความฝันต่อไป แล้วกลับมาสู่โลกแห่งความจริง แล้วทำงานหาเลี้ยงชีพได้แล้ว บางทีถ้าหากมีญาติสนิทที่เขาไม่ได้ทำงานก็จ้างเขาไปส่งรับส่งแม่ แล้ว จขกท ก็ไปหางานทำ น่าจะดีกว่ามั้ย


ก็ลองคิดดูครับ

0
คนสวยรวยสเน่ห์​ 24 ต.ค. 62 เวลา 15:58 น. 6

ไม่ได้เป็นหรอกค่ะ​ ถ้ายังไม่เปลี่ยนความคิด​ เอาเวลาที่มานั่งตัดพ้อชีวิตมานั่งคิดดีๆดีกว่าค่ะ​ คิดว่าเราจะจัดการชีวิตตัวเองตอนนี้ยังไงดี​ให้มันเข้าที่เข้าทาง​ คิดว่าจะมีทางไหนที่ทำให้เราไปถึงฝันได้บ้าง​ ทุกคนมีเงื่อนไขชีวิตของตัวเองค่ะ​ ทุกคนต้องพยายามเพื่อจะได้เป็นหมอ​ อาจจะเศร้าหน่อยที่ต้นทุนชีวิตเราไม่เท่าคนอื่นที่เค้ามีตังใช้​ มีตังเรียนพิเศษ​ แต่แล้วไงต่ออ่ะ​ มันก็แปลว่าเราต้องพยายามให้มากกว่าเดิม​ พยายามมากกว่าคนอื่น​ เปรียบเทียบไปก็ท้อใจเปล่าๆ​ มันไม่ได้เกิดผลดีต่อตัวเองเลย​ด้วย​ อย่าสนใจความไม่ยุติธรรม​ของชีวิตเลย​ สนใจแค่ว่าเรายอมแพ้ง่ายๆรึเปล่า​ จัดการเวลาให้ดี​ หาความรู้จากหนังสือ​ จากยูทูป​ ถ้ากลัวว่าสอบติดแต่ไม่มีตังเรียนถึงเวลานั้นก็ไปกู้กยศ.ค่ะ​ แต่ถ้าตอนนี้ไม่มีตังกินข้าว​ ไปหางานพิเศษทำค่ะ​ งานพาร์ทไทม์​ พนักงานเสิร์ฟ​อะไรก็ได้​ เรียงลำดับปัญหาให้ดี​ และบริหารเวลาดีๆด้วย​ ถ้าจะจัดการชีวิตปีนี้ก่อน​ เก็บตัง​ทีละนิด​ เพื่อจะรอสอบปีหน้า​ ไม่มีอะไรเสียหายเลยค่ะ​ ถ้าจขกท.อายุยังไม่เกินเกณฑ์​ที่กสพท.กำหนดอ่ะนะ​ เราเป็นคนนึงที่จะสอบปีนี้​ และลำบากเหมือนกัน​ บ้านไม่รวย​ พ่อแม่ต้องส่งลูก3คนเรียน​ ยายเป็นอัมพาตทั้งตัว​ พูดไม่ได้​ ต้องช่วยกันดูแล​ ต้องป้อนข้าวป้อนน้ำ​ เปลี่ยนแพมเพิร์สให้ยาย​ แมวอีก4ตัว​ หมาอีก3​ ค่าใช้จ่ายในบ้านอีก​ เราไม่ค่อยอยากเรียนพิเศษให้เป็นภาระพ่อแม่​ เราเคยเป็นพนักงานเสิร์ฟเพื่อจะหาตังไปเรียนพิเศษ​ เราไม่ได้เรียนสายวิทย์มา​ แต่อยากเรียนหมอ​ เราก็หาอ่านเองค่ะ​ ยืมชีทเพื่อนสายวิทย์​​ เรียนจากยูทูป​ เข้าห้องสมุด​ ซึ่งไม่รู้ว่าเราจะสอบติดรึเปล่า​ แต่ก็จะสู้ค่ะ​ ดีกว่านั่งโทษนู่นโทษนี่​ อยากให้จขกท.สู้ไปด้วยกันนะคะ​ เป็นกำลังใจให้​ อย่าดูถูกศักยภาพ​ของตัวเอง​ อย่าหาเหตุผลให้ตัวเองท้อใจ​ สู้เด้อออ

ป.ล​ ถ้าจะสอบปีนี้​ รีบสมัครกสพท.เลยค่ะ​ หมดเขตสมัครสิ้นเดือนนี้แล้ว


0
dek59 24 ต.ค. 62 เวลา 16:01 น. 7

สมมติว่าติดหมอแล้ว จะมีเวลาให้กับการเรียนการสอบมั้ย จะเครียดกว่าเดิมอีกมั้ย ตอนไม่ได้เครียดอีกอย่าง พอได้มาก็เครียดอีกอย่าง บางทีโชคชะตาอาจจะกำหนดมาให้เป็นแบบนี้ แต่ก็ยังมีคนที่อายุ36-37สอบติดหมออยู่นะ บางคนจบโทแล้วก็ยังมาสอบหมอ ตอนนี้ทำได้แค่อ่านหนังสือสั่งสมความรู้เพื่อใช้ในการสอบ ทำงานpart time (เพื่อนเราทำใน7-11 กับmk) และรอเวลาที่คุณพร้อม

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของ

สงสัยเลยผ่านมาถาม 24 ต.ค. 62 เวลา 20:41 น. 9

เท่าที่ดูๆมาแล้ว จขกท. มีปัญหาเรื่องเงินสินะครับ สงสัยจังครับว่าถ้า จขกท.สามารถซื้อเครื่องฟอกไต+ค่าดูแลอีกหลายสิบปีให้คุณแม่ได้ จขกท.จะมีโอกาสสอบติดหมอได้ง่ายขึ้นไหมครับ

0
funny bird 24 ต.ค. 62 เวลา 21:43 น. 10

ไม่เป็นไรนะคะ

ในวันนี้เจ้าของกระทู้อาจจะรู้สึกเครียด กดดัน หมดหวัง

เราอยากให้เจ้าของกระทู้ลองอดทนไปก่อน ลองหาความสุขเล็กๆ ในแต่ละวันดูนะคะ ลองปล่อยความคิดตัวเอง ปล่อยตัวปล่อยใจให้ชิล ไม่ต้องคิดอะไรดูสักวัน

ชีวิตมีอะไรมากกว่าที่เห็นค่ะ ลองย้อนถามตัวเองดูว่า จริงๆ แล้วอยากทำอะไรในตอนนี้

เราเองก็เคยเป็นคนที่อยากเรียนหมอมากๆ เหมือนกันค่ะ แต่สุดท้ายแล้วสอบไม่ติด เลยเรียนวิศวะแทน ซึ่งตอนนี้ก็คิดว่าดีแล้ว ที่สอบไม่ติดก็เพราะว่ามันอาจไม่เหมาะกับเราจริงๆ และตอนนี้ก็มีความสุขดีค่ะ

เชื่อว่าเจ้าของกระทู้จะหาคำตอบให้กับตัวเองได้ในสักวันนะคะ สู้ๆ ค่ะ

0
..... 25 ต.ค. 62 เวลา 09:00 น. 11

ทำไมเหมือนตัวเองมาพิมพ์เลยวะ แม่มไม่มีเ-้ยไรสำเร็จซักอย่างในชีวิต ได้แต่ทำไรไม่รู้ไปวันๆ ใช่อยากสอบหมอให้ได้เหมือนกัน มันก็เหมือนเป็นสิ่งหนึ่งต้องทำให้สำเร็จละวะ เออสู้ดิ อย่าท้อเอาให้มันถึงที่สุดไปเลย

0
sarawootwuht 25 ต.ค. 62 เวลา 16:49 น. 12-1

เป็นผมจะไม่บ่นครวญครางเยอะ คนตั้งใจมันต้องตั้งมั่นในใจแล้วหาทางลงมือทำ เข้าใจว่านี่คงมาแค่ระบาย ใช่มั้ย?

0
Akitan~ 25 ต.ค. 62 เวลา 16:40 น. 13

เราเห็นคุณมาซักพักแล้วล่ะ


เราสงสัยว่าที่คุณมาตั้งกระทู้นี่ตั้งเพื่ออะไร สรุปคุณต้องการโทษแม่ของคุณใช่ไหมว่าทำให้คุณไม่มีเวลา ทำให้สอบหมอไม่ติด สอบหมอไม่ได้ จากที่อ่านแล้วคุณน่าจะเรียนจบคณะอื่นมาแต่ต้องการเรียนใหม่เพื่อเป็นหมอใช่ไหม 


แล้วแค่ขนาดแม่แท้ๆของคุณ คุณยังรู้สึกว่ามันน่ารำคาญ มันเป็นภาระของคุณเลย แล้วการไปเป็นหมอมันยิ่งกว่านี้อีกมาก ภาระของคุณจะไม่ได้มีแค่สองวันต่อสัปดาห์ แต่เปลี่ยนเป็นทุกวันในสัปดาห์ คุณจะรับมันไหวหรอ


โรคไตเป็นโรคเรื้อรัง เขาอยู่กับคุณอีกไม่นานหรอก ไม่ต้องกังวล 

เรื่องเงิน ถ้าเงินไม่หนาพอ บอกแม่เปลี่ยนไปใช้ฟอกทางหน้าท้องแทน สิทธิสามสิบบาทช่วยคุณได้ ส่วนถ้าอยากฟอกเลือดต่อแนะนำให้ไปหางานเป็นข้าราชการ สิทธิจ่ายตรงข้าราชการจะช่วยแบ่งเบาคุณเอง


ส่วนตัวคุณ ตอนนี้ 

เราแนะนำให้ไปพบจิตแพทย์ เพราะคุณน่าจะมีปัญหารุมเร้าและความเครียดที่มากมาย การไปพบจิตแพทย์ไม่ใช่เรื่องที่ผิดหรือน่าอาย เขาน่าจะพอช่วยคุณได้บ้าง ให้หายจากความทุกข์ในตอนนี้

1
ItsFreakingCool,man! 25 ต.ค. 62 เวลา 19:23 น. 14

คุณน่าจะดูแลแม่จนไม่มีเวลาอ่านหนังสือเตรียมสอบ หรือทำงานใช่มั้ย เงินก็หาไม่ได้ มีแต่เสียค่าใช้จ่ายไปเรื่อยๆ เรื่องที่คุณกังวล นอกจากอนาคตแล้ว ก็น่าจะมีเรื่องอื่นๆด้วย

สงบลง อย่าเพิ่งคิดถึงเรื่องที่เป็นปัญหา แต่ใช้ทำความเข้าใจ พยายามหาทางแก้ปัญหา แล้วก็อย่าคิดลบ ความคิดมีผลต่อสิ่งที่อาจเกิดขึ้นต่อจากนี้ ถ้าคิดถึงสิ่งไหนมากๆ ก็มีโอกาสเป็นไปได้มากที่เรื่องนั้นจะเกิดขึ้นจริง

เอาความเครียด ความกดดันออกไป เชื่อมั่นในตัวเอง มองหาความเป็นไปได้อื่นๆนอกจากนี้


0
25 ต.ค. 62 เวลา 21:13 น. 15

ความฝันเป็นอีกสิ่งที่ทำให้ชีวิตคนคนหนึ่งมีความหมาย

แต่มันก็ไม่ใช่แค่สิ่งเดียวนะครับที่สร้างคุณค่าในตัวมนุษย์

อีกสามในหลายสิ่งสำคัญคือการรู้จักปล่อยวาง การเตรียมใจ(ผมมิได้แช่งแต่อย่างใดนนะครับ) และความเข้มแข็ง


หากตอนนีี้ฝัน มันเป็นได้แค่ความฝันก็ลองวางมันลงสักพักนะครับจริงอยู่ที่หมอ คือ สิ่งที่คุณWanna Be แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าไม่สมหวังแล้วจะตาย

ถ้าความผิดหวังในความฝันมันเป็นเหมือนการอกหัก มันจะเจ็บปวดทุรนทุรายมากๆๆๆ แต่ก็ไม่เคยมีใครตายเพราะเสียใจ มีแค่คนที่ไม่ยอมปล่อยวางและจมอยู่กับความรู้สึกแย่ๆจนฆ่าตัวตายเท่านั้นแหละ


ข้อสองเลยตอนนี้แม่ของคุณมีสภาพแบบไม้ใกล้ฝั่งผมก็เดาชะตาไม่ถูกว่า ถ้าคุณสอบติดแล้วจะต้องวุ่นกับการดูแลแม่หรือไม่ บางทีมันอาจจะเป็นเส้นทางถนนที่ขรุขระกว่าเดิมด้วยซํ้า

หรือหากแแม่คุณเกิดเป็นอะไรขึ้นมากลางคันล่ะครับ ไม่ได้แช่งนะครับแต่อย่างน้อยการเตรียมตัวไว้ก็น่าจะดีกว่าการคิดแค่จะตายเอาดาบหน้านะครับ


และสุดท้าย สิ่งที่สำคัญที่สุดคือไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ขอให้คุณจขกท.เข้มแข็งเสมอครับ

ขอยกตัวอย่างคนในวงการกระบองเพชรที่ผมติดตามและนับถือนะครับ(ชื่อก็บอกวาผมติ่งอะไร)


เรื่องคุณภูเขาเจ้าของสวนกระท่อมลุงจรณ์สวนกระบองเพชรแรกในไทยรุ่นที่3 ยังจำวิกฤตินํ้าท่วมปี54ได้ไหมครับ ต้นไม้ถึง90%ถูกนํ้าท่วมครั้งนั้นจัดการ

คุณภูเขาสัมภาษณ์ว่าตอนนั้นท้อมากแต่ก็เลิกไม่ได้(สวนนั้นคือแหล่งเลี้ยงครอบครัวแหล่งเดียวของเขา) เขาจึงพยายามขยายพันธุ์ไม้ที่เหลือเพียง10%อย่างสุดความสามารถ

ในปัจจุบันสวนกระท่อมลุงจรณ์เป็นหนึ่งในสวนแคคตัสที่เป็นที่รู้จักอย่างดีในวงการ และจำนวนต้นไม้ก็เพิ่มมากขึ้นยิ่งกว่าตอนถูกนํ้าท่วมกินไปเสียอีก


ป.ล.ไม่ว่าคุณจขกท.จะได้อะไรจากเม้นนี้มากน้อยแค่ไหน อย่างน้อยก็ขอให้สู้ต่อไปบนถนนชีวิตอันยาวไกลนะครับ ถึงผมจะทำได้แค่นั่งหน้าคีย์บอร์ดพิมพ์ให้กำลังใจก็เถอะ

แต่อย่างน้อยผมก็คิดว่ากำลังใจที่ผมส่งให้ผ่านตัวหนังสือที่ตั้งใจกลั่นจากหัวใจก็น่าจะมีประโยชน์กว่าการนั่งให้กำลังใจในใจเฉยๆ เพราะกำลังใจมันมีค่ามากเลยทีเดียว

ยํ้า สู้ๆครับ

0
dek59 26 ต.ค. 62 เวลา 10:59 น. 16

เราเคยคุยกับเพื่อนคนนึง นางชอบพูดว่าตัวเองไม่มีโอกาส ไม่มีอะไรสักอย่างทั้งเงินทั้งเวลา เเล้วนางก็ไม่พยายามทำอะไรเลย อ่านหนังสือก็อ่านนิดเดียว เคยนัดมาอ่านหนังสือ พออ่านกับเราได้หน้าเดียวก็จับโทรศัพท์ เสียงเเจ้งเตือนดังก็จับ แปปก็จับอีกละ

ต่างจากเพื่อนคนนึงที่ไม่พูดอะไรเลยทำงานparttime นางไม่เกี่ยงงานเลย ที่บ้านนางมีเเค่ยายกับลูกน้องทำไร่ทำนา สุดท้ายนางก็ติดเทคนิคการแพทย์ พอเวลาปิดเทอมทีไรก็จะเห็นนางที่โลตัสตลอดเพราะนางทำงาน เมื่อก่อนตอนเรียนมัธยมบางทีนางมาทำงาน6โมงเย็นถึง4ทุ่มที่เซ็นทรัลแทบทุกวัน

0
sunshine 26 ต.ค. 62 เวลา 15:16 น. 18

เอาเป็นว่า ขอให้จขกท.ปรับเปลี่ยนทัศนคติก่อนนะคะ

"ความคิดเปลี่ยน ชีวิตเปลี่ยน" ถ้าไม่รู้จะเริ่มยังไง ก็ลองหาเวลาไปปรึกษาจิตแพทย์ดูก็ได้ค่ะ เผื่อจะรู้สึกดีขึ้น และอีกทางนึงก็คือ ธรรมะ เริ่มจากหาบทสวดที่จขกท.สนใจ และหมั่นสวดทุกๆวัน แรกๆอาจจะยากหน่อย แต่พอไปสักพัก จขกท.จะรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงทางด้านจิตใจนะคะ


คุณต้องทำอะไรสักอย่างนะคะ อย่าปล่อยให้เวลาไหลไปแบบนี้ ถ้าคุณยังอยากจะสอบหมอ คุณต้องตั้งใจอ่านหนังสืออย่างจริงจังสักที อย่าพยายามโทษสิ่งอื่น หรือมองแต่ข้อจำกัดของตัวเอง คุณต้องรู้จักแก้ปัญหา ถึงคุณได้เป็นหมอจริงๆ คุณก็คงยังมาคร่ำครวญแบบนี้อีก เพราะอะไรรู้ไหม? เพราะมันเป็นนิสัยฝังลึกติดตัวมานาน มันคงแก้ได้ยาก


ลุกขึ้นมาค่ะ อย่าจม ขอร้องเลย อย่าจมกับความผิดพลาด หรือปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่ ณ ตอนนี้ สิ่งที่คุณทำถูกต้องแล้วตอนนี้คือ ดูแลคุณแม่ นั่นเป็นสิ่งที่คุณควรทำ และคุณต้องทำ คุณอยากจะเป็นหมอใช่ไหมคะ? หมอต้องมีหน้าที่ดูแลรักษาคนไข้ใช่ไหมคะ? แล้วคุณแม่ของคุณก็ป่วย ก็เป็นคนไข้เหมือนกัน ทำไมแค่คนๆเดียว คุณถึงโอดครวญได้ถึงขนาดนี้ นั่นคือคุณแม่ขอบคุณนะ ตอนนี้คุณก็เปรียบเสมือนหมอของที่บ้านแล้วแหละค่ะ จงทำหน้าที่นี้ต่อไปให้ถึงที่สุด


เป็นกำลังใจให้คุณจขกท.และคุณแม่ด้วยค่ะ

0
Pppp 26 ต.ค. 62 เวลา 23:55 น. 19

จขกท.บอกว่า'ไม่มีอะไรที่ผมทำได้ซักอย่าง' มีค่ะ จขกท.สามารถหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านได้ค่ะ อ่านหนังสือแบบจริงจัง เอาให้ติดหมออย่างที่ใจหวัง แค่นั้นเองค่ะ เป็นกลจ.ให้นะคะ สู้ๆค่ะ

0
จขกท 27 ต.ค. 62 เวลา 22:26 น. 20

สวัสดีครับ นี่ จขกท.นะ

ขอบคุณทุกความคิดเห็นครับ ไม่ได้มีเจตนาต้องการให้ใครหรือแม่จากไปทั้งสิ้นครับ แค่มาระบายเท่านั้นเอง เพราะผมอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ก็แค่นั้นครับ

0