Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

“อย่าสิ้นศรัทธาในคุณค่าของตนเอง"

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ประเทศไทยมีข่าวเศร้าเกี่ยวกับการจบชีวิตโดยการฆ่าตัวตายของนักเรียน นักศึกษา อยู่บ่อยครั้ง ซึ่งหนึ่งในเหตุผลในการเลือกจบชีวิตตนเองที่มักจะถูกระบุอยู่ในจดหมายลาตายหรือในโพสต์ Facebook หรือจากการสอบถามกลุ่มคนที่สนิทกับผู้ตาย เป็นเรื่องของ "การถูกกลั่นแกล้ง รังแก Bully โดยบรรดานักเรียน นักศึกษาด้วยกันเอง” ไม่ว่าจะทางการกระทำทางกาย (เช่น ต่อย เตะ ตบหัว กระทืบ ไถตัง) หรือการกระทำทางวาจา (เช่น ด่าทอ ข่มขู่ ล้อเลียน) ซึ่งกลุ่มนักเรียน นักศึกษา ที่ตกเป็นเหยื่อของการกระทำเหล่านี้  มักจะเป็นกลุ่มคนที่มีลักษณะ “ไม่สู้คน” “รักสงบ” “ไม่อยากมีเรื่อง”

ตัวผมเองก็เป็นหนึ่งในคนที่ได้ประสบกับกระทำต่าง ๆ ข้างต้น ตั้งแต่สมัยอนุบาล ประถม มัธยม หรือแม้แต่ช่วงมหาวิทยาลัย ผมโดนมาหมดแล้วครับ โดนตบหัว โดนต่อย โดนไถตัง โดนข่มขู่ โดนล้อชื่อพ่อชื่อแม่ โดนบังคับให้ทำหลายอย่าง เช่น ให้ไปซื้อขนมให้ ซื้อของให้ โดนมาหมดครับ ทั้งจากรุ่นพี่ รุ่นน้อง เพื่อนรุ่นเดียวกัน คือเคยโดนจนถึงขนาดว่า วันนึง รู้สึกว่าไม่ไหว ไม่อยากมาเจออะไรแบบนี้แล้ว ถึงขั้นเขียนจดหมายลาตาย

ผมเองโชคดีมากที่ผ่านช่วงเวลานั้นมาได้ ด้วยการ “พิสูจน์คุณค่าของตนเอง” ผมตั้งใจเรียน ช่วยงานเพื่อน ช่วยงานครู ช่วยงานโรงเรียน ฯลฯ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่า “ตัวเองมีคุณค่าพอ มีคุณค่าอยู่เสมอ” ประกอบกับการ “ช่างแม่ง” ก็คือ บางทีก็ต้องช่างมันบ้าง กับนิสัยหรือสันดานของคนบางคน

… แต่ “แล้ว คนอื่น ๆ ล่ะ” คนที่อาจจะผ่านมันมาไม่ได้จนตัดสินใจ “ฆ่าตัวตาย” เพราะถูกกระทำซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า คนที่โดนกระทำจนสุดท้ายกลายเป็นคนที่เลวลงไป เพราะซึมซับการกระทำแบบนี้ คนที่ไม่ได้ “โชคดี” แบบผม ทำไมชีวิตของพวกเขาต้องมาจบ หรือแย่ลงไป เพียงเพราะ “การถูกกระทำและการเพิกเฉยต่อการถูกกระทำของคน”

คนที่บอกทำนองว่า “เด็กก็เล่นกันปกติแหละน่า” “เรื่องปกติ” “ไม่เห็นจะเป็นอะไร” คนพวกนี้คือพวก “เพิกเฉยต่อปัญหา” คนกลุ่มนี้ไม่ต่างอะไรกับพวกคนที่แกล้งเลยครับ เนื่องจากพวกเขาเห็นการละเมิดสิทธิเป็น “เรื่องปกติ”

ฉะนั้น ขอทุกคนอย่าได้เพิกเฉยกับปัญหานี้ อย่ามองว่าเป็นเพียง “เรื่องปกติ” แต่ขอให้เปล่งเสียง ออกความเห็นของทุกคนออกมา เพื่อให้กลุ่มคนที่ตกเป็นเหยื่อของการละเมิดสิทธิเช่นนี้ รู้ว่า “พวกเขาไม่ได้โดดเดี่ยว”

สำหรับกลุ่มคนที่ตกเป็นเหยื่อ ผมขอฝากถึงทุกคนว่า “จงอย่าสิ้นศรัทธาในคุณค่าของตนเอง จงลุกขึ้นสู้ และพิสูจน์ตนเอง” ในชีวิตของคุณทุกคน “ตัวคุณคือคนที่รู้ถึงคุณค่าของตนเองได้ดีที่สุด”

"หากคนไม่เห็นคนเป็นคน คน ๆ นั้น ย่อมไม่สมควรเป็นคน"

สิทธิกานต์ ธีระวัฒนชัย
17/11/2562

แสดงความคิดเห็น

>

1 ความคิดเห็น

Harrietta 19 พ.ย. 62 เวลา 09:10 น. 1

มันเป็นส่วนหนึ่งของสังคม ไม่ว่าจะเรียนหรือทำงาน แต่เราก็ไม่อยากให้มัน "กลายเป็นปกติ" ของสังคม เพราะว่าสงสารคนที่ถูก Bully นะ บางคนที่ไม่ได้ฆ่าตัวตายหรือผ่านมาได้ก็มีผลกระทบกับการใช้ชีวิตด้วย ส่วนตัวเราไม่ใช่คนถูก Bully แต่จะบอกว่า พ่อกับแฟน เป็นคนถูก Bully มาก่อน ถึงแม้ว่ามันจะผ่านมานานมาก การ Bully ในอดีต ทำให้พ่อกับแฟนประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างสูง เพราะเอาความเก็บกดจากการ Bully เป็นแรงผลักดันในการมุ่งสู่ความสำเร็จ แต่สิ่งนึงที่เราพบคือ เมื่อวันนึงที่เขาประสบความสำเร็จในชีวิต พ่อกับแฟนเรามีพฤติกรรมกลายเป็นพวก Bully คนอื่นเสียเอง เราไม่ชอบเลย การที่เขาถูกกระทำมาแล้วผ่านมาได้ แล้วมาอ้างว่า "คน Bully อาจจะเคยถูกกระทำมาก่อนก็ได้" ไปเข้าข้างการ Bully เฉย ยิ่งเราเตือน ยิ่งทะเลาะกับเรา ทั้งๆ ที่กว่าจะผ่านช่วงนั้นมาได้ นี่ยากเย็นแสนเข็ญ แล้วคนที่อยู่ข้างๆ ก็ต้องมาคอยรับผลจากการ Bully ไปด้วย.. บอกตรงๆ นะว่า มันมีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตส่วนตัวอย่างมาก ถึงแม้บางคนผ่านการคิดฆ่าตัวตายไปได้ จนประสบความสำเร็จจนจบปริญญาเอก รายได้หลักแสนแล้วยังไง กลายเป็นคน Bully คนอื่นเพราะตัวเองเคยถูก Bully เราว่ามันเป็นปัญหาสังคมเลยอ่าาา ยกตัวอย่างช่วงนึงแฟนเราเคยกดดันเราแล้วหัวเราะบอกสนุกจริงโว๊ยย อีโง่ แบบนี้ ทั้งๆที่ไม่เคยเป็นแบบนั้นมาก่อน ตอนนั้นเรากลัวมากว่า ทำไมแฟนเราเริ่มเหมือนไบโพลาร์ ถ้าเวลาปกติเขาก็จะจิตใจดี ให้อาหารสัตว์ทุกวัน ช่วยเหลือคนอื่นจนตัวเองเดือดร้อนประจำ แต่ถ้าหากว่ามีเหตุการณ์กดดัน แบบใครมีปัญหาอะไรทะเลาะกับใคร เขาก็จะเหมือนเลือกข้าง กร่างห้าวมาก แล้วออกจะเป็นแนว Bully อีกฝั่ง ทั้งๆ ที่ไม่ควรไปใส่ใจอะไรเลยก็ได้ เรานี่เคยโดยพวกแฟน Bully จนแทบเลิกกับแฟนเลย คือเราต้องยอมรับใช้เพื่อนแฟนอยู่นานอย่างไม่สมเหตุสมผล เตือนอะไรไม่ได้ ชนิดกับแฟนเรายังไม่เคยยอมขนาดนี้ แฟนเราก็สนุกเสียด้วยที่เราโดนแกล้ง อ้างว่า "ตัวเองมีปมโดน Bully แล้วเลยจะมาทำกับคนอื่น" เราก็ไม่โอเคน๊าา เราคิดว่าการเห็นอกเห็นใจคนที่ถูก Bully อ่าดีที่สุด ไม่ควรให้ท้ายคนที่เป็นฝ่าย Bully บางทีเราก็ทำอะไรกับพวกชอบ Bully ไม่ได้นัก แต่อย่าไปสนใจมันให้มันซะใจเลย ปล่อยให้บ้าบออยู่คนเดียว เดี๋ยวถ้าเขาเจอเป้าหมายใหม่ได้ เขาก็เปลี่ยนหล่ะ..


สำหรับคนที่ผ่านการ Bully มาจนประสบความสำเร็จแล้ว อย่ากลายเป็นคน Bully อย่าทำแบบที่คุณถูกกระทำ เมื่อประสบความสำเร็จแล้วก็อย่าหลงระเริงจนกลายเป็นฝ่าย Bully คนอื่นเสียเอง คนอื่นที่ไม่เป็นเช่นนี้ คุณน่านับถือมาก


สำหรับคนที่ยังถูก Bully ฉันอยากบอกว่า คนพวกนั้นไม่ได้มีสิทธิตัดสินชีวิตคุณ คุณสร้างคุณค่าให้กับชีวิตตัวเองได้ คุณประสบความสำเร็จในชีวิตคุณเองได้ ยังมีสถานที่มากมายบนโลกใบนี้ มีสังคมมากมาย และคนมากมายบนโลกใบนี้ ต้องมีสักที่สักแห่งที่เหมาะสมกับคุณ ฉะนั้น จงสู้ จงเป็นคนถูก Bully ที่ประสบความสำเร็จในชีวิต

0