ถ้าอยากเขียนนิยายเรื่องหนึ่งมาก ๆ แต่ความสามารถไม่ถึงจะเป็นอะไรไหมคะ555
ตั้งกระทู้ใหม่
คุณต้องการจะลบกระทู้นี้หรือไม่ ?
15 ความคิดเห็น
ไม่มีใครรู้ว่ามันจะดีหรือไม่ดี จนกว่าจะเขียนมันออกมานั้นแหละ
ทุกอย่างล้วนต้องฝึกฝน อยากเขียนก็เขียนออกมาเลย #เขียนไม่ดีรีไรท์ได้เสมอ
ถ้าไม่ได้มีดีที่หน้าตา มันก็ต้องมีดีนิสัยหรือการศึกษาบ้างล่ะน่า
เรื่องการบรรยายมันพัฒนาฝีมือกันได้ แต่เรื่องพล็อตนี่มันคนละเรื่อง
ถ้ามั่นใจมากก็จัดมาเลยครับ
55555 มันเกี่ยวไรกับหน่าตาและนิสัยฮะอ่อเปรียบเปรยสินะ
ห้ะ
เล่นเอง ตบมุกเองเนี่ยนะ
ครับ อิอิ
ไม่ลองก็ไม่รู้ค่ะ ค่อย ๆ หัดไป เมื่อก่อนก็โดนด่ามาเยอะค่ะ อาศัยเก็บประสบการณ์อ่านของคนอื่นไปเขียนไปแหละค่ะ
ค่อยๆ ปรับไปได้ค่ะ ยิ่งเขียนเราก็ยิ่งเก่งขึ้นนะ พอเขียนจบแล้วเอามาปรับแก้ เกลาภาษาให้สวยอีกทีนึงก็ได้ค่า
ทางนี้ก็เป็นนะคะ ประเมินตัวเองว่าความสามารถด้านการเขียนไม่ถึง แต่ก็ยังอยากจะเขียน 55555
และเป็นเพราะผ่านสังเวียนการวิจารณ์ในสายวาดมาแล้วก็เลยมองว่า อยากเขียนอยากวาดอะไรก็ทำไปเถอะค่าา ยิ่งทำอะไรท้าทายตัวเองมากๆ เราก็ยิ่งรู้จักศักยภาพของตนเอง
และถ้าถูกด่า(เพราะวาดไม่สวย หรือเพราะเขียนบรรยายไม่ดี) มันก็ยังดีกว่าการไม่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อะไรจากผู้ชมเลย ความสงัดนี่แหละแย่ที่สุด
เพราะการวาดไม่สวย มันฝึกได้ การเขียนบรรยายไม่ดี สำนวนไม่ดีก็ฝึกได้
ที่เราสังเกตมา สิ่งที่คนอ่านมักจะติเตียนมักเป็นแก่น หรือ ตรรกะในเรื่องมากกว่า ซึ่งตรรกะนี่ล่ะ ... คือตัวชี้วัดว่าเราจะได้แฟนพันธุ์แท้ในงานเราไหม
ซึ่งถ้าแก่นหรือตรรกะเพี้ยน ป่วย แววตรงนี้จะแก้ยากเลยค่ะ
สู้ๆ ค่ะ เขียนออกมาโลดดดด ^^
ไม่มีนักเขียนท่านใดเกิดมาพร้อมความสามารถในการเขียนนิยายหรอกครับ
ทุกอย่างมาจากการเรียนรู้และฝึกฝนและลงมือทำ ที่ว่าความสามารถไม่ถึงคือได้เริ่ม
แต่งนิยายซักตอนหรือยังครับ? ยังไม่ต้องพูดถึงแต่งให้คนอ่านนะครับ
หมายถึงแต่งให้ตัวเองอ่านในเวิร์ด เคยแต่งดูหรือยัง? ถ้ายัง ก็จงเริ่มได้แล้วครับ :3
พูดถึงในฐานะที่เขียนนิยายมาได้สักระยะนะคะ แชร์อีกมุมมองหนึ่งค่ะ
ส่วนตัวเรา ถ้าอยากเขียนเรื่องไหนมาก พอเขียนไปแล้ว รู้ทันทีว่ามือไม่ถึง เราพักเรื่องนั้นไปเลยค่ะ พักหลายปี ไปเขียนเรื่องอื่นแทน รอเวลาที่ตัวเองมือถึง จึงค่อยกลับไปเขียน
จะเข็นเขียนตอนนั้นมันก็ได้แหละค่ะ แต่เราว่าคนเขียนแต่ละคนมีมาตรฐานงานเขียนตัวเองในจินตนาการอยู่ เราเห็นเลยว่าฝีมือตอนนั้นกับจินตนาการมันห่างชั้นเกินไป และเราอยากทำเรื่องนี้ให้มันดีมากๆ อย่างที่ตัวเองคิด เราจึงเลือกที่จะรอค่ะ
แปะๆๆ แปะๆๆ (เสียงตบมือ) หมายถึงสิ่งที่เรียกว่าดองสินะฮะ
ช่ายแล้นจ้า แต่ไหมันก็แบ่งเนาะ ไหอมตะ ไหเพื่อการบ่ม ไหเพื่อไว้พักของ ฯลฯ
เรื่องนั้นเราเขียนจบนะคะ ตีพิมพ์ไปเรียบร้อยแล้ว มันขึ้นอยู่กับวินัยและความตั้งใจของคนเขียนน่ะค่ะว่าแรงกล้าพอจะไม่ทำให้มันกลายเป็นไหอมตะหรือเปล่า (อันนี้บ่ม 5 ปี เขียน 2 ปี)
ยังมีเรื่องอื่นที่คล้ายๆ อย่างนี้ อยู่ในไหมา 5 ปีแล้ว แต่อันนี้เคสต่างออกไป จะเรียกไหก็ไม่เชิง เพราะหยิบมาเขียนเรื่อยๆ สักสองสามบรรทัดแล้วจากไป ตอนนี้น่าจะเหลือสองสามตอนสุดท้าย แต่ความเร็วระดับนี้ ก็อาจรอไปอีก 2-3 ปีมั้ง
-_- เอ่อ.....2-3 ปี งั้นหรือเกินปายยยยย 5555 ผมก็ดองมาเป็นเดือนละว่าจะกับไปแต่งต่อแต่แต่งเรื่องใหม่นะฮะเพราะเรื่องแรกนั้นแต่งเพื่อขัดเกลาภาษาให้ดีขึ้น ไหอมตะ 5555 ต่อไปก็ไหนิรันดร์ สินะครับ
เปลี่ยนภาพปกบ่อยนะครับ ตามจิตวิทยา แล้วเนี่ยเขาบอกว่าคนที่ชอบเปลี่ยนอะไรบ่อยๆเป็นคนหลายใจและเจ้าชู้นะฮะ อิอิ
??? เปลี่ยนภาพปก?
หมายถึงรูปที่แสดงตัวเองใช่ไหมคะ ถ้าใช่ เราไม่เคยเปลี่ยนค่ะ จำสมาชิิกบอร์ดสลับกันหรือเปล่าคะ
สลับจริงๆแฮะโทษทีฮะเลิกเรียนมาใหม่ๆละสมองมันเบลอ
เคยเป็นแบบนี้ เราอยากเขียนแต่รู้สึกประสบการณ์ยังไม่มากพอ จดพล็อตไว้หลายปี พอถึงเวลาที่คิดว่าเขียนได้ก็ปรับแก้ อยู่ที่คุณค่ะ ถ้ากลัวว่าเขียนไม่ดีเพราะภาษา ก็ลองเขียนก่อนแล้วเกลาไปเรื่อย ๆ อ่านให้เยอะ ๆ ค่ะ อ่านให้หลากหลายจะได้เจอแนวทางของตัวเอง เพิ่มคลังศัพท์ในตัว
เขียนเถอะค่ะ การลงมือเขียนเป็นการฝึกที่ดีที่สุด อาจจะยังไม่เอามาลงก็ได้ เขียนให้จบแล้วลองกลับมาอ่านอีกรอบ เราจะเห็นข้อผิดพลาดของตัวเองแล้วได้แก้ไข แก้ไขไปจนกว่าจะมั่นใจแล้วค่อยเอามาลงเว็บก็ได้ค่ะ
ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เขียนเถอะ เขียนให้จบนะคะ
วันเวลาผ่านไปเราจะกลับมาแก้งานตัวเองให้ดีขึ้นได้เอง ถ้าเราไม่ทิ้งไปซะก่อน
อย่าคิดมากครับ มีคนด่าก็ต้องมีคนชอบบ้างละ แนะนำว่าเขียนปีแรกทำใจซะแล้วรอมีประสบการณ์การเขียนซักปีสองปีแลเวมารีไรท์ใหม่ครับ แล้วพอกลับมาอ่านนิยายของตัวเองใหม่จะคิดประมาณว่า เราเขียนอะไรลงไปวะ555
'อยากเขียนนิยายมากๆ แต่ความสามารถไม่ถึง'
อันดับแรกให้เชื่อก่อนว่าจะเขียนได้และตั้งใจค่ะ
เอาทีละอย่างนะคะ ที่ว่าความสามารถไม่ถึงเพราะพล็อตเรื่องนั้นยากและรายละเอียดเยอะหรือเปล่าคะ ถ้าใช่ก็พยายามหาข้อมูลเพิ่มเติมเยอะๆ แล้วอ่านข้อมูลตามความเข้าใจของเราค่ะ ข้อมูลแหล่งอ้างอิงสำคัญมากๆ เราก็จะสามารถเขียนเรื่องนั้นได้ง่ายขึ้นเยอะเพราะเรามีอาวุธเสริม แล้วก็เรื่องการบรรยาย บางครั้งเราอาจต้องเป็นใครที่ไม่ใช่ตัวเองสำหรับเรา แนะนำให้ใส่อารมณ์ความรู้สึกเข้าไปค่ จะพูดยังไงดี เราต้องเข้าถึงตัวละครนั้นๆ เข้าใจความรู้สึกของเขา เข้าใจนิสัยของเขาเราจะบรรยายง่ายขึ้น
สุดท้ายเมื่อเขียนมาได้ 3-4 หน้า แนะนำให้ย้อนกลับไปอ่านทวน พอเรารู้ว่าแต่ละบรรทัดมันขาดหรือเกินอะไร เราก็เติมข้อความหรือตัดข้อความตามความเข้าใจของเรา
ถ้าพล็อตเรื่องนั้นมันยากมากๆ ขอให้จำไว้อย่างว่าต้องใจเย็นๆ อย่ารีบร้อนพยายามละเอียดละออกับมันสักหน่อย วางพล็อตให้แน่นๆ คิดซะว่าเรากำลังท้าทายตัวเองและเราจะเก่งขึ้น ^-^
นิยายทุกเรื่องจะช่วยขัดเกลาฝีมือเรา ถ้ามั่วแต่กลัวเราจะไม่ชนะใจตัวเองนะคะ
อย่ากลัวคำวิจารณ์เพราะนักอ่านน่ารักกว่าที่คิด การที่เราพยายามอย่างถึงที่สุดมันจะแสดงผลออกมาในงานเขียน เมื่อเกิดจุดผิดพลาดนักอ่านเขาจะช่วยเหลือเรา(คือเราได้รับอะไรแบบนี้จากนักอ่านมาเยอะมากเลย คำด่ามันก็มีบางแต่ไม่ใส่ใจค่ะ เอาแต่เนื้อๆ ที่เขาติมาก็พอ)
สู้ๆ แต่อย่ากดดันมากไปเดี๋ยวเขียนไม่ออก สำคัญสุดคือเขียนด้วยความสนุกแล้วจะเราจะแฮปปี้ไปกับมันค่ะ
เราเองก็มีเรื่องหนึ่งที่เมื่อสองปีที่แล้ว วางโครงเรื่องวางอะไรเสร็จแล้วนะ แต่เราไม่สามารถเขียนได้ดั่งใจเลยแบบ โมโหตัวเองมากที่ทำไม่ได้ (เราโมโหจริง ๆ นะ) เพราะเราไม่สามารถทำให้ภาษามันมีบรรยากาศแบบที่ต้องการได้
สุดท้ายก็ต้องใช้เวลานานเลยล่ะ กว่าตัวเองจะมั่นใจว่าตัวเองเขียนได้ นานพอสมควรเลยค่ะ
ฉะนั้นฝึกไปเรื่อย ๆ แล้วสู้ต่อไปนะคะ จะเป็นกำลังใจให้ค่ะ
เขียนไปเถอะครับ เขียนไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็จับจุดได้เอง
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?