《มาแชร์เรื่องนามปากกากันค่ะ》ท่านชอบนามปากกามากน้อยแค่ไหน? (ถามใจเธอดู)
ตั้งกระทู้ใหม่
ข้าน้อยขอใช้พื้นที่แห่งนี้ มาแชร์เรื่องนามปากกากันค่ะ ข้าน้อยขอลงลึกนามปากกาสักหน่อยเจ้าค่ะ
ไม่ได้พูดถึงนามปากกากันมานานแล้ว ขอเปิดพื้นที่แห่งนี้ มาแชร์เรื่องของนามปากกากันค่ะ
ข้าน้อยขอเปิดเรื่องขึ้นมาก่อนนะคะ
นามปากกาของเจ้าของกระทู้ มีความเป็นไปมาหลายๆอย่างเข้าด้วยกัน มันมีความหมายมากมายสำหรับตัวของเจ้าของกระทู้ (สำหรับบางคน)อาจไม่สนใจอะไรมันมากนัก แต่มันก็มีความหมาย บ่งบอกถึงฐานะ บารมีของผู้แต่งด้วยค่ะ อย่างเช่นเจ้าของกระทู้
เจ้าของกระทู้เคยตั้งนามปากกามาตั้งมากมาย หลายชื่อ กว่าจะคงที่ได้ ก็ใช้เวลานานพอสมควร กว่าจะได้นามปากกาขึ้นมาสักอัน
ตอนที่เวลาเจ้าของกระทู้นึกขึ้นชื่อ ของนามปากกาได้นะคะ จู่ๆมันก็ปรากฏให้เห็นเสียเฉยๆ คือนึกขึ้นได้ ณ วินาทีนั้นเลย โดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งนั่นก็คือ 'กะรัตมณี' ค่ะ ซึ่งมันก็มีความหมายที่มีคุณค่ามาก สำหรับเจ้าของกระทู้ค่ะ เจ้าของกระทู้จึงใช้นามปากกาชื่อนี้ตลอดมาเรื่อยๆ จนเป็นที่รู้จักกับผู้อ่าน ขนาดข้าน้อยที่ลบทิ้งนิยายมานานแล้ว แล้วกลับมาลงใหม่ คนอ่านยังก็จำได้ และทวงถามหา ว่าหายไปไหนด้วยค่ะ นั่นก็ทำให้ข้าน้อย รู้สึกใจเต้นแรงขึ้นมา รู้สึกดีใจเป็นบ้า ถึงกับเม้นตอบกลับไปด้วยหัวใจที่พองโตเลยค่ะ (ฮ่าๆๆ) ในตอนนั้นรู้สึกดีใจจริงๆ อยากบอกว่าแฟนคลับคนเก่า ก็มาอ่านมาเฟบนิยายเรื่องเก่าๆที่ข้าน้อยลงใหม่ด้วยนร้าาา (นั่นแหละค่ะ)ที่ทำให้ข้าน้อยรู้สึกดีใจสุดๆ อิอิ มีความสุขมากๆ ข้าน้อยเมื่อได้รู้เช่นนี้แล้ว ก็ไม่คิดจะละทิ้ง นามปากกาตัวเองเลยค่ะ เพราะนามปากกานี้ ได้สร้างชื่อเสียงให้กับข้าน้อยเป็นอย่างมาก ถึงจะไม่เข้าขั้นกับตีพิมพ์ เป็นนักเขียนที่โด่งดังก็ตาม แต่ข้าน้อยก็พอใจกับการเป็นนักอยากเขียน เช่นนี้ค่ะ
สำหรับนามปากกาชื่อนี้ มันมีความหมายและความสำคัญกับตัวข้าน้อยเป็นอย่างมากค่ะ ข้าน้อยรักและชอบมัน เคารพรักมันเป็นอย่างยิ่ง เรียกว่าเชิดชูก็ว่าได้ เพราะงั้นไม่ว่าข้าน้อยจะไปไหน ก็จะใช้นามปากานี้ เขียนนิยายสร้างผลงานต่อไปค่ะ
แล้วท่านนักเขียนและท่านนักอยากเขียนล่ะค่ะ ตั้งมันขึ้นมาแล้วรู้สึกเคารพรักแบบข้าน้อยไหม? แล้วท่านชอบนามปากกาของตัวเองมากน้อยเพียงใด?
กระทู้นี้เป็นเพียงกระทู้ลงลึกกับนามปากา ของความรู้สึกตัวผู้แต่งนิยายทุกคนค่ะ
{เชิญนักเขียนและนักอยากเขียนทุกคน แชร์เรื่องราวของตัวเองได้เลยค่ะ}
16 ความคิดเห็น
โหหห มีความหมายลึกซึ้งมากเลยนะคะ
นามปากกา Saber tooth ครับ
ไม่รู้ดีหรือไม่ดี เพราะไม่มีใครจำได้ 5555
อะ อ้าว.....
มาองมาอ้าวอะไรครับ
ไม่มี๊ ไม่มี ฮ่าๆๆๆ
ลิโป้ครับ
ผมก็ใช้หลักมงคลตามการตั้งชื่อตามวีรบุรุษในสมัยก่อนครับ ตอนแรกผมมีปัญหาอยู่ที่3คนที่ผมเอามาตั้งนามแฝงนี่แหละครับ เลยเอารวมกันเป็นนามแฝงนี้เลย
จริงๆเห็นเขาบอกว่าถ้าจะแต่งนิยาย ให้ใช้พวก "ขงเบ้ง" ดีกว่า แต่ขงเบ้งมีเป็นร้อย เล่าปี่ก็ไม่โอเค ผมเลยใช้ ลิโป้ นี่แหละครับ แล้วลิโป้เนี่ย เป็นคนเก่ง แล้วสูงใหญ่ รูปร่างลักษณะค่อนข้างคล้ายกับเรา เลยใช้นามปากาานี้ครับ
โอ้โห มีความหมายดีอ่ะ
Fishback
ตอนแรกที่กลับมาเขียนนิยายคิดถึง feedback ของผู้อ่านว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง จะพอมีคนอ่าน มีคนคอมเมนต์กับเขาบ้างไหม 5555
แต่จะใช้ feedback ตรงๆเลยก็ดูแปลกไป เลยเอาชื่อเลยตัวเองมาใส่เป็น fishback จะได้หมายถึงปลากลับมาแล้วค่ะ ได้ด้วย 55555
ตามนี้เลยค่ะ
ชื่อนามปากกาน่ารักดีนะคะ
นามปากกามาจากชื่อจีน สามตัว สกุล เฉิน ชื่อ เสี่ยวจู ตัดตัวกลาง เหลือชื่อเป็นนามปากกาว่า
เฉินจู
ง่ายดีไม่ต้องคิดเยอะ ฮา
เฉินจูก็เพราะดีนะคะ
จริงๆ มีทั้งหมด 4 นามปากกาค่ะ แต่ปัจจุบันใช้แค่ 2
-สิวสิ่มหลี
เป็นนามปากกาแรกทีใช้ค่ะ เขียนงานแนวกุ๊กกิ๊ก แต่ไม่ใสเสียทีเดียว
นามปากกานี้ค่อนข้างสิ้นคิด เพราะมาจากชื่อที่เพื่อนๆ สมัยมัธยมตั้งฉายา
ตอนนั้นไม่รู้จะใช้นามปากกาอะไร ก็เลย..เอาวะ อันนี้แหละ
-Diamond Pear
นามปากานี้เกิดจากตอนเขียนงานแฟนตาซีค่ะ
สมัยนั้น...มักจะมีการแยกแยะนามปากในงานเขียนที่แตกต่าง ส่วนใหญ่นักเขียนแนวแฟนตาซีมักใช้นามปากกาภาษาปะกิตแล้วเขาก็ฮิตกัน เราก็...ปะกิตก็ปะกิต ตั้งมั่วอย่างสิ้นคิดตามเคย 555
-ทิตภากร
นามปากกานี้เกิดขึ้นตอนหันมาเขียนงานโรแมนติกเรื่องแรกเป็นแนวทะเลทรายทรายค่ะ
บ.ก.บอกว่าชื่อสิวหรือสิ่วมีความหมายไม่ดี มันมีความหมายว่าทิ่มแทง ขอให้เปลี่ยนนามปากกา
เราก็ถามไปว่าจะให้เปลี่ยนเป็นอะไรดี (ออกแนวไม่มีหัวคิดเป็นของตัวเอง)
บ.กตอบว่า...หาชื่อที่มีความดีๆ มีพลังในตัวเอง ดูเลขศาสตร์ ดูอาตยนะ ดูกาลกิณีด้วย (คือเขามีความเชื่ออย่างคนจีน)
เราก็คิดว่าอะไรที่มีพลังในตัวเอง สิ่งแรกที่คิดคือ พระอาทิตย์ค่ะ
ทิต+ภากร>> แสงสว่างที่นำมาซึ่งความเจริญ SO GOOD!!
ไม่มีกาลกิณีในชื่อ เลขศาสตร์ 15 หมายถึง ความสุนทรีมีปัญญา อาตยนะ 6 เปรียบดั่งราชินี
สุดยอด...ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ออกงานในนามปากกานี้เรื่องแรก (จริงๆ เป็นผลงานอันดับที่ 4) เปรี้ยงค่ะ ติดอันดับขายดีเป็นเรื่องแรกในชีวิต (พูดแล้วน้ำตาจะไหล อารมณ์ประมาณ หนูทำได้!!)
-กันต์ระพี
นามปากกานี้เกิดขึ้นตอนมีสนพ.หนึ่งมาติดต่อค่ะ
สมัยนั้นมีการล็อกนามปากกากันเลยจำเป็นต้องหานามปากกาใหม่ เราก็อยากได้นามปากกาที่มีความหมายใกล้เคียงกับพระอาทิตย์จะได้อยู่ในกลุ่มเดียวกันกับทิตภากร จิ้มไปจิ้มมา เข้าเว็บนั้นเว็บนี้ ชอบชื่อนี้ขึ้นมา ก็เสิร์ชสิคะ
กันต์ระพี>>> พระอาทิตย์ที่งดงาม ไม่มีกาลกิณีในชื่อ เลขศาสตร์ 45 เทพีแห่งโชค อาตยนะ 6 เปรียบดั่งราชินี สุดยอด!! ชื่อนี้คงอยากให้เราเอามาใช้ตั้งเป็นนามปากกาแน่ๆ (คิดเอาเอง 555) โอเค เอาชื่อนี้แหละ และก็ใช้นามปากกานี้มาจนถึงทุกวันนี้จ้า
เรื่องก็มีด้วยประการละฉะนี้แล...
//กระทู้นี้ไม่ต้องเสียเวลาพิมพ์ คำถามนี้ตอบบ่อย ใช้ก็อปวางได้เลย
มีความเป็นไปมา เยอะมากเลยค่ะ ชื่อนามปากกาเริศมาก
ต้องย้อนความกลับไปตอนที่เริ่มอ่านนิยาย ใช้ชื่อว่า คาเรย์ ยาฉะ ผมเอาชื่อคาเรย์มาเป็นนามปากกา แต่ว่ามันก็มีการเปลี่ยนเล็กน้อย ผมสวมแว่นตา เลยเปลี่ยนเป็น มิงาเนะ ทั้งที่ความจริงมันผิด ต้องเป็น เมงาเนะต่างหาก แต่ว่าก็ใช้มันมาเป็นปีแล้วเลยไม่คิดจะเปลี่ยนจนถึงปัจจุบันครับ เห้อ
ไม่เป็นไรเนาะ ถือว่าชื่อนั้นศักดิ์สิทธิ์ค่ะ สาธุ
นามปากกาเราคือ แจกหมาก ค่ะ
มันเป็นคำโบราณที่แปลว่าต่อย ซึ่งเราชอบคำนี้มาก เหมือนกับต่อยคนอ่านที่ได้อ่านนิยายเราที่มีเนื้อเรื่องจุกๆ ซึ่งไม่ได้ต่อยด้วยกำปั้นแต่ต่อยด้วยตัวอักษรนั่นเอง
น่าจะแจกแว่น (ต่อยตา) นะครับ แจกหมากมันต่อยปากนี่ 555
ต่อยมันทุกส่วนล่ะค่ะ 555 เอาเป็นว่าชอบชื่อนี้มาาากกก
ถือว่าเป็นนามปากกาที่แปลกค่ะ มีการต่อยคนอ่านด้วย แล้วคนอ่านจะคิดว่าไงเนี่ย...
ร้างจากบอร์ดไปนาน ขอเล่นด้วยคนนะครับ
นามปากกาผมคือ 193(n)-Ikusa ครับ ที่มาก็มาจากเพลงโปรดชื่อ Ikusa ของ Wagakki Band ครับ ช่วงนั้นเเต่งนิยายแนวต่อสู้อยู่ บวกกับนามปากกาเก่ามันประหลาด ๆ อย่างไรก็ไม่รู้ ความหมายของเพลงแปลว่าสงคราม เลยเอามาตั้งเป็นนามปากกาเพราะมันเข้าท่ากับเเนวนิยายที่แต่งพอดี
ส่วนเลข 193(n) รุ่นพี่ที่รู้จักเขาสอนวิธีถอดเสียงญี่ปุ่นเป็นตัวเลขครับ เเล้วเห็นว่าเท่ดีเลยดัดแปลงเป็นของตัวเอง
เลข 1 อ่านว่า Ichi แต่ผมตัดเหลือเพียงแค่ I
เลข 9 อ่านว่า Kyuu หรือ Ku ก็ได้ แต่ผมเลือกใช้ Ku
เลข 3 อ่านว่า San แต่ใส่วงเล็บตัว n ไว้ให้รู้ว่ามันไม่ได้ใช้นะ จงเหลือเเค่เสียง Sa
รวมกันจึงอ่านว่า Ikusa ครับ ถึงมันจะซับซ้อนไปมากหน่อย แต่ผมชอบชื่อนี้มากเลยครับ จนเพื่อนที่รู้จักยังเรียกชื่อด้วยนามปากกาแทนชื่อเล่นจริง ๆ มาเเล้วละครับ 55555
ส่วนนี่เป็นเพลงที่มาของนามปากกาผมครับ
โหหห มีความเป็นรหัส(ลับ)
นามปากกา ROSE TEA ชอบค่า
จำที่มาที่แน่ชัดไม่ได้ว่าทำไมถึงลงหลักปักฐานกับชื่อนี้ แต่เหตุผลง่ายๆ มากเลย คือเราชอบดื่มชาค่ะ ชอบดอกกุหลาบด้วย ชากุหลาบก็ชอบ ทั้งสีและกลิ่นหอมมากๆ จำความประทับใจแรกที่ดื่มชากุหลาบได้ มันหอมอวลในปากมากๆ ฟินมาก ชอบตั้งแต่ก่อนที่ชาตรามือจะทำให้ดังแล้ว ตอนนั้นดื่มยี่ห้อ Mlesna กล่องไม้ลายกุหลาบ สวยมว๊าก!!!
เหตุผลอาจจะงงๆ สักหน่อยต้องขออภัยค่ะ
ชื่อนามปากกามาจากของกินนี่เอง ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ ที่ของกินทำให้ตั้งเป็นนามปากกาได้ (เราก็ชอบกินๆๆเหมือนกันนะคะ) หมายถึงเป็นสายกินน่ะ ฮ่าๆๆ
มาเพิ่มนามปากกาค่ะ คิดสดๆ ร้อนๆ วันนี้เลย LAVENDER TEA ไว้เขียนเรื่องวายโดยเฉพาะ ไม่มีเหตุผลลึกซึ้งเลย แค่มันเป็นตระกูลชาเหมือนชื่อหลัก แล้วสีม่วงสวยๆ
ชาโออิชิ.....
หิวเลย 555
ไปซื้อเลย อิอิ
ชื่อเล่น : กัน + เดือนเกิด : มีนาคม = มีกัน
ความหมาย = มีกันอยู่ตรงนี้นะคะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อย่าลืมว่ามีกัน(ผลงาน)และกัน(นักเขียน) อยู่ตรงนี้นะคะ อยู่ข้างๆกันนะ
มีกัน แต่อย่าลืมมี(ใจ)ให้กันนะคะ คริคริ
ความจริงอยากได้นามปากกาที่คนอ่านตั้งให้อะ แต่ยังไม่มีนิยายเลย
ช่วยตั้งให้ก่อนสิ
นามปากกา คริโซเบริล
ที่มาที่ไป จากนิยายเรื่องหนึ่งที่อ่านสมัยเด็กๆเลย แล้วประทับใจในชื่อพระเอก ไพฑูรย์
ส่วนนางเอกชื่อ เพทาย
ส่วนตัวชอบสีเหลือง เป็นสีประจำตัว ทีแรกตั้งแต่อ่านชื่อพระเอกตอนนั้นก็รู้สึกชอบแล้ว แต่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร พอค้นพจนานุกรมก็รู้ว่าคืออัญมณีสีเหลือง อารมณ์คือมันใช่! กำเนิดมาเพื่อเรา ประกอบกับชื่อมีคำว่าโซ เลยใช้ 'คริโซเบริล' ที่แปลว่าไพฑูรย์ เป็นนามปากกาค่ะ
โอยย ความหมายดีอ่ะ
นามปากกา หมากฝรั่งสักหน่อยมั้ย
คือที่มามันจากตอนสมัยม.ต้น เราเป็นคนที่ชอบเคี้ยวหมากฝรั่งมาก มีเวลาว่างก็เคี้ยว ทำอะไรก็เคี้ยว เรียนก็เคี้ยว เคี้ยวจนเมื่อยกราม เพื่อนก็ชอบล้อว่า "ขอหมากฝรั่งหน่อย" มันเลยดูกลายเป็นเอกลักษณ์(แม้ปัจจุบันจะเคี้ยวไม่บ่อยแล้วก็เหอะ)และคงไม่เหมือนใครด้วย
ความหมายก็คือแบบ เหมือนเรายื่นหมากฝรั่งให้ใคร เขาก็จะเคี้ยว เคี้ยวไปเรื่อยๆ เหมือนนิยาย เมื่อเราอัพ เขาก็จะอ่านของเราไปเรื่อยๆ(ตอนนี้เพิ่งเริ่มแต่ง)
โอ้! โครตถูกใจมากเลยค่ะ กับประโยคสุดท้ายนี่
นามปากกาของเรา มี 2 ชื่อค่ะ ชื่อเเรก คือ "พลิน" ออกเสียงว่า "พะ -ลิน " ความหมายเดียวกันกับ พละ หรือ พลัง
ตอนที่เราเขียนนิยายเรื่องแรก ตั้งแต่สมัยเมื่อครั้งยังไม่รู้จักเว็บ dek d ในตอนนั้นเราทั้งประหม่า ทั้งกดดัน เอาง่ายๆว่า ท้อแท้ กับการเขียน แต่ด้วยพลังน้ำใจและกำลังใจจากคนรอบข้างที่คอยสนับสนุนเรา ทำให้เราเขียนนิยายเรื่องแรกของเราจนจบ เเละก็ใช้นามปากกานี้มาเรื่อยๆ และส่วนมากเราจะใช้นามปากกานี้กับนิยายที่มีตัวละครออกแนวสิ้นหวังในชีวิต แต่ก็ต้องดิ้นรนสู้กันต่อไป
ส่วนนามปากกาที่ 2 คือ เจณิกา อันนี้เราตั้งเอง แปลว่า "สตรีผู้มีความสามารถ" ซึ่งเอามาจากคำว่า เจน ที่แปลว่า จัดเจนหรือ ชำนาญ สามารถ บวกกับคำว่า ณฺวฺ และเปลี่ยนรูปตามหลัก อิ อา (สมาส-สนธิ) จึงได้ความหมายตามนี้ เพื่อย้ำเตือนให้พัฒนาความสามารถงานเขียนของตัวเองให้ดียิ่งขึ้น คนอ่านจะได้ประทับใจและไว้ใจในฝีมือของเราค่ะ
โอ้โห~ แต่ละนามปากกาคุณนี่ สุดยอดเลยค่ะ เป็นผู้ไม่แพ้นี่เอง สู้ต่อไปนะคะ
เพียรจันทรา ค่ะ
จันทรามาจากความหมายของชื่อจริงที่แปลว่าดวงจันทร์
เพียร คือ ขยันหมั่นเพียร
ความหมายโดยรวม คืออยากให้ตัวเองขยันเขียนนิยาย แค่นั้นเอง เพราะเราขี้เกียจ ใช้นามปากกาอื่น เขียนไม่เคยถึงร้อยหน้าสักที
พอใช้นามปากกานี้ รู้สึกมีพลัง ปัจจุบันเขียนใกล้จบแล้วนะเออ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?
บทความที่คนนิยมอ่านต่อ