นักเขียนแต่ละท่านมีแรงบัลดาลใจอะไรที่ทำให้อยากเป็นนักเขียนเหรอครับ?
ตั้งกระทู้ใหม่
กระผมยอมรับเลยว่าเป็นพวกชอบเผือกเรื่องชาวบ้านแต่คือกระผมแค่อยากรู้(เผือก)ง่า!
ถ้าถามกระผม กระผมคงจะตอบแค่ว่าอยากลองเขียนฟิค+กับนิยายที่อ่านในเว็บเด็กดีมามากมายเท่านั้นแหละขอรับที่ทำให้กระผมมาเขียนนิยาย(ล่าสุดก็มาเผลอนั่งวางพล็อตนิยายแนวแฟนตาซีปราบผีจนเกรดตก....)
ถ้าให้กระผมยกตัวอย่างนิยายที่ผมอ่านแล้วทำให้อยากเขียนนิยายหรือเป็นนักเขียนก็มีมากมายแต่ถ้าเป็นแบบทำให้ผมก้าวมาเขียนฟิคหรือนิยายจริงก็มีอยู่ซัก 3-4 เรื่อง อย่างเรื่อง 'ผมก็แค่เด็กยิ้มยากเท่านั้นเอง' ของนักเขียนที่ชื่อว่า 'ปากกาไม่ใช่ปากไก่' นักเขียนท่านนี้ผมชอบเขามากๆเลยละอยากอ่านให้จบเรื่องเลยแต่เสียดายที่นักเขียนท่านนี้จากไปแล้ว
ยังมีอีกเรื่องที่ดึง(+ลาก)ผมเข้ามาในโลกแห่งนี้คือเรื่อง 'เป็นโลลิไปป่วนต่างโลก' เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่ผมอ่านและเป็นเรื่องที่ดึงผมเข้าสู่โลกแห่งนิยายถ้าให้ผมกล่าวคือถ้าไม่ใช่เพราะความอยากเสพโลลิก็คงไม่ก้าวเข้ามาแถมอีกอย่างคือผมคิดว่าถ้าผมไม่ได้อ่านนิยายเรื่องนี้นี่ผมคิดว่าคงไม่ได้มาก้าวเข้าสู่โลกแห่งใหม่(สำหรับผมนะ)แห่งนี้หรอก
ปล.เรื่องเป็นโลลิไปป่วนต่างโลกคือผมหลงเข้าไปอ่านจริงๆนะเรื่องนี้น่ะตอนนั้นน่ะคือผมนั่งหารูปโลลิอยู่ก็ไปเจอเรื่องนี้ที่แรกนึกว่าแจกภาพโลลิหรืออะไรก็เลยเข้าไปดูแต่พอเข้าแล้วเน็ตดันล้ม(โคตรถูกจังหวะ)แถมทีวีช่วงนั้นก็พังอยู่เกมในโทรศัพท์ก็มีแต่ใช้เน็ตพอไม่มีอะไรทำก็เลยนั่งอ่านสุดท้ายก็กลายเป็นนักอ่านไปซะงั้นก่อนจะไปเจอเรื่องผมก็แค่เด็กยิ้มยากเท่านั้นจากนั้นก็เลยลองเขียนนิยาย(ฮ่าๆผมเกลียดอย่างเดียวคือทุกอย่างมันช่างพอดีกันจริงๆ)
แล้วสิ่งที่ดึงพวกท่านเหล่านักเขียนเข้ามาสู่โลกแห่งนี้คืออะไรกันบ้างละ ผมอยากจะรู้ อยากจะสอด อยากจะเผือก ทุกเรื่องเลย!
ปล 2. เหตุที่ผมมาตั้งกระทู้นี้ก็เพราะว่าส่วนนึงมาจากความว่าง...เอิ่ม นั่นก็ส่วนนึงนะ แต่อีกส่วนคือผมอยากจะบอกว่าถ้าพวกท่านหมดไฟลองคิดถึงตอนที่ตัวเองได้ก้าวมาสู่โลกแห่งนี้ครั้งแรกดูสิ ลองนึกถึงความรู้สึกที่ตัวเองได้มานั่งทำตัวโรคจิตนั่งดูว่ามีคนติดตามรึยัง มีคนมาคอมเม้นท์รึยังดูสิ ลองนึกถึงความตื่นเต้นพวกนั้นดูสิ ผมไม่คิดว่าสิ่งที่ผมกล่าวมานั้นมันช่วยได้รึปล่าว? เพราะตัวผมเองก็นักเขียนหน้าใหม่ที่เพิ่งหัดเขียนมาได้ไม่กี่เดือน แถมส่วนใหญ่ที่เขียนก็เป็นฟิคด้วยอีกอย่างก็อยากจะได้คำแนะนำดีๆอยู่หรอก แต่เพราะคิดว่าอยากจะลองทำมันด้วยตัวเองดูก็เลยไม่เคยเขียนโพสที่ขอคำแนะนำเพราะผมอยากจะลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง(ทีตอนเรียนไม่เคยตั้งใจ โถ่ชีวิตผม)
และอย่างสุดท้ายผมขอกล่าวว่า สู้ๆนะนักเขียนทุกท่าน ถึงจะท้อถึงจะเหนื่อยแต่ก็พยายามเข้านะสู้ๆ เพราะเราทุกคนที่เป็นนักเรียนเอ้ย!นักเขียนต่างก็ต้องเคยเป็นอยู่แล้วละสำหรับความรู้สึกขี้เกียจหรือท้อที่จะเขียนต่อพวกนี้ เพราะงั้นทำตัวเป็นตุ๊กตาล้มลุกเข้าไว้ ถึงท้อก็แค่เดินมุ่งตรงไปข้างหน้า เหนื่อยก็พักแต่อย่าพักนานนะแบบหายไปเลยน่ะไม่เอา ส่วนขี้เกียจก็ขี้เกียจได้แต่อย่าลืมอย่างน้อยก็กลับมาเขียนต่อบ้าง ไปละ บัย!!///URkung
ปล 3 (ทำไมเรา ปล เยอะจัง) .ส่วนที่ผมมาเขียนโพสนี้อีกส่วนนึงคือ มาแอบทวงงานเขียนของนักเขียนบางคนที่มาอ่าน(ถ้าเข้ามาอ่านละก็มาเขียนซะนี่คือคำสั่ง!วะ ฮ่าๆๆ ในใจของผม : ทำไมรู้สึกเราชั่วขึ้น)
(ขำๆนะอย่าเอาไรมากเพราะผมเองก็บอกแล้วว่า 'ผมว่าง') (ว่างมากพอที่จะไปเที่ยวห้องกง)
24 ความคิดเห็น
ตอนแรกว่าจะมาถามเฉยๆไหงเราเผลอมาเขียนยาวอย่างนี้ได้ละเนี่ย.....ยูอาไม่เข้าใจสิ่งนี้
เป็นคนช่างฝัน พร่ำเพ้อ จินตนาการไปเรื่อยเปื่อย และอยากเล่าเรื่องในมุมมองที่เราคิดให้คนอื่นได้รับรู้บ้างก็เท่านั้นเองค่ะ ออกตัวก่อนว่าเราไม่ได้เขียนดีหรอกนะ 555
ส่วนนิยายที่ทำให้เรามีความบรรเจิดจนอยากก้าวเข้ามาสู้โลกนักเขียนก็มีมากมายไม่รู้จบ ส่วนใหญ่จะเป็นนิยายที่ถูกตีพิมพ์เมื่อ 10-30 ปีก่อน
และเนื่องจากถูกหล่อหลอมมาจากหนังสือยุคเก่าก็จะมีแนวคิดอนุรักษ์นิยมหน่อย ๆ เลยหานิยายใหม่ ๆ ที่ถูกใจยาก นู่นก็ไม่ชอบ นี่ก็ไม่ถูกใจ นั่นก็แต่งไม่ดี เลยต้องลองมาแต่งนิยายเอง จากนั้นก็ไม่คิดลบกับนิยายใหม่ ๆ อีกเลย ถ้าไม่ชอบก็แค่มองผ่านมันไปก็เท่านั้น เพราะกว่าผู้เขียนจะเขียนออกมาได้แต่ละเรื่องก็ใช้ความพยายามและความทุ่มเทไม่น้อยเลย
เกิดจากความอยากให้เนื้อเรื่องเป็นไปตามใจเราค่ะ
ตอนเด็กๆ หลังจากอ่านสะสมอะไรหลายๆอย่างมาสักพัก ทำให้เรารู้สึกว่าทำไมเรื่องนี้ต้องเป็นแบบนี้ ทำไมไม่เป็นอย่างนี้อย่างนั้น ทำไมไม่มีคนแต่งเรื่องแบบนี้ จนมีความรู้สึกต้องการสนองนี้ดตัวเอง
เริ่มต้นด้วยความคิดแบบนั้นจริงๆ ก็เลยลองแต่งดู ส่วนหลังแต่งแล้วถึงค่อยมาคาดหวังพวกยอดวิวและคอมเม้นท์ค่ะ
นิยายเรื่องแรกเป็นแฟนฟิคนักร้องเกาหลีซึ่งเป็นรุ่นแรกๆ เลย อันนี้สนองนี้ดตัวเองมาก
หลังจากนั้นพอมาอ่านนิยายแฟนตาซี จึงอยากแต่งแฟนตาซีแบบเลือดสาดๆ ดู ก็เลยออกมาเป็นเรื่องใหม่
จนกระทั่งตอนนี้หันมาจับนิยายวาย เพราะก่อนนี้อ่านนิยายวายเยอะมากจนน่ากลัว 555
เรียกได้ว่าการอ่านนิยายเป็นแรงบันดาลใจในการแต่งนิยายก็ได้ค่ะ
ปัจจุบันมีความสุขมากที่ได้เขียนนิยายอีกครั้ง หลังจากหายไปเป็นสิบปี และจะทำต่อไปเรื่อยๆจนกว่าจะจบแหละน้า ^^
ผมก็เหมือนกันนะครับเรียกว่าเป็นอีกส่วนที่ทำให้ผมมาเขียนนิยายบางทีอะ บางเรื่องก็ทำไมให้ตัวนี้ตายอะ ทำไมไม่เป็นแบบนี้อะ ก็เลยเขียนนิยายครับ(ความรู้สึกนี่คือไม่ค่อยกล้ากดตอบเม้นท์เลยแฮะไม่ใช่อะไรนะรู้สึกประหม่าเพราะไม่เคยตั้งกระทู้เลย)
แงงง้ ทำไมไม่กล้าตอบเม้นท์อะคะ 555
เราก็ไม่ค่อยตั้งกระทู้ค่ะ ชอบไปสิงอ่านทู้ชาวบ้านมากกว่า
ยังไงตั้งมาพูดคุยกันบ่อยๆ น้าา
คร้าาาจะพยายามมาตั้งบ่อยๆแล้วกันนะคะเดี๋ยวเราผู้ชายนี่นาลืมไปๆ
ติดใจนิยายดองค่ะ 4-5 เรื่องเลย
เลยลองแต่งให้ดู จะได้รู้ว่า...
แต่งจบก็มีนะแก555
ผมก็ด้วยฮะติดตามนิยายดองเยอะอยู่ครับแล้วส่วนใหญ่ 7 ใน 10.....ติดตามเมื่อปีที่แล้วตอนนี้ยังไม่อัพเลยแถมบางเรื่องทำให้ค้างอีก....
ของเรา....ที่เจอ เราตามหาในเมพด้วยนะ เผื่อเขาเปิดอ่านไม่เยอะ ไปตามต่อในเมพ
- แต่ก็ไม่มี
เราว่าเด็กดี ต้องปรับคำจำกัดความของ'นิยายแนะนำ'ใหม่แล้ว ....ว่าไม๊
ทำไมเรารู้สึกด้วยอย่างแรงเลยอะตัวเธอ....
เป็นคนฟุ้งซ่านครับ และเวลาฟุ้งซ่านต้องหาทางระบาย ต่อให้ไม่เขียนนิยายก็ไปตั้งสเตตัสเฟสบุ๊ค รีวิวหนัง วิพากย์วิจารณ์สังคมอยู่แล้ว
ออ...อย่างงี้นี่เองงั้นการเมืองตอนนี้เป็นบ้างครับเช่นนายงนายกอะไรประมาณนี้อะครับ(หาเรื่องไปกินข้าวแดงอีกแล้วเรา แหะๆ)
อารมณ์แบบหนังหรือการ์ตูนที่ชอบมันจบแบบค้างคาเหลือเกิน--ตูแต่งต่อก็ได้ฟ่ะ!
นิยายเรื่องแรกที่เขียนก็คือหัดเขียนสรุปจากการ์ตูนญี่ปุ่นที่แม่ซื้อมาให้แบบภาพมันสวย ผีไม่น่ากลัว...
มันเลยกลายเป็นแนวนิยายของเราที่ผี ปีศาจไม่น่ากลัว แต่จะมีอารมณ์เหมือนกับคนทั่วไปนั่นแหละ...ออกแนวยุโรปทำสัญญากับปีศาจ การล่าแม่มดอะไรทำนองนี้
ส่วนหนึ่งอาจเป็นอิทธิิพลจาการเรียนโรงเรียนคริสต์มาตั้งแต่เด็ก...เลยอ่านผ่านตาเรื่องพวกนี้มาเยอะ
ออครับ พวกผีไม่น่ากลัวเนี่ยต้องมีผีโลลิสินะครับ...ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ส่งวาร์ปให้ผมด้วยครับ!(อาการหมีเริมกำเริบ)
อนึ่ง ผีมิใช่พลเมืองหรือประชาชน ดังนั้นจึึงไม่อยู่ในขอบเขตของกฎหมาย
ผีสาว ๆ หนุ่ม ๆ ที่ไม่แก่น่ะ...
ไม่มีโลลิ...เสียใจด้วย!//เอาน้ำเย็นที่มีน้ำแข็งเต็มหนึ่งถังใหญ่สาดระงับความร้อนให้!
คุณทำลายความฝันของหมีตัวหนึ่งไปซะเเล้ว....
ปกนิยายครับ อยากได้ปกนิยายกับอยากถูกจารึกลงในประวัติศาสตร์นักเขียน
อะ...แล้วก็อยากเห็นนิยายของตนเองได้ถูกทำเป็นอนิเมครับ ถ้าได้ทำผมจะไม่คิดค่าอะไรกับทางผู้ทำเลยล่ะ
ครับ พยายามเข้านะครับยิ่งฝันสูงก็ยิ่งต้องพยายามความพยายามของคุณมันต้องนำผลตอบแทนที่คุ้มค่ามาแน่ครับแล้วผมจะรอดูวันที่นิยายของคุณถูกทำเป็นอนิเมนะครับ!สู้ๆ
อยากเผยแพร่วรรณกรรมและความคิดของตัวเองให้กับโลกใบนี้
เป็นสิ่งที่ดีนะครับการเผยแพร่วรรณกรรมและความคิดของตัวเองผมสนับสนุนครับ!
เพราะบารามอส =_=" (บอกอายุ)
อ่านแฟนฟิคแล้วรู้สึกว่า เอ๊ะเราก็น่าจะเขียนแบบนี้ได้นะ เลยเขียนมั่ง
เรายุคเดียวกัน
บะ บารามอสเลยรึนี่ท่าน!
รุ่นเดียวกันนนน
บารามอสนี่ก็อีกหนึ่งในดวงใจเลยค่ะเล่มอย่างหนามหากาพย์มากชอบบบ
บารามอสอย่างงั้นหรือ...ใช่เลย
ทำให้ภาพในหัวเป็นตัวหนังสือค่ะ จะได้กลับมาอ่านทีหลังได้ทุกเมื่อ ไม่อยากเสียดายที่ลืมมันไป
เรื่องแรกที่แต่งเพราะเล่นกับเพื่อนในบอร์ดเย็นตาโฟเป็นโรงเรียนเวทมนตร์(ดองตั้งแต่ม.ต้นแล้วกำลังเอากลับมารีเมค)
ฟิคที่ทำให้อยากแต่งฟิคบ้างเรื่องแรกน่าจะนารุโตะ กับรีบอร์น แต่ที่แต่งรอดอยู่ในปจบ.เป็นป่วยดาบ /แค่กๆๆๆ/
เคยเขียนนิยายจบไปสองเรื่องแล้วก็คิดว่างั้นปีนี้มาสานต่อความฝันเก่าๆ ทั้งหมดกันเหอะตัวฉัน จะไม่ตั้งเป้าเป็นจำนวนที่ชัดเจนหรอกนะแต่ว่าที่ต้องเขียนบทนึงใช้เวลาแค่วันหรือสองวันสปีดจะได้ทันความอยากที่มี ไม่งั้นช้ากว่านี้ได้ดองแน่ๆค่ะ
เป็นพวกรู้ลิมิตขี้เกียจตัวเองดีเลยถีบตัวเองขึ้นมาปั่นก่อนไฟจะหมอดและคอยสุมไฟเติมเชื้อเพลิงตลอด แงงงงงงงง
เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะสู้ไปด้วยกัน ถ้าทำทุกวันมันก็ต้องสำเร็จเข้าจนได้สักวันล่ะน่า!
ติ่งซีรียส์ + หาเงินเรียนต่อครับ
สู้ๆนะครับขอให้หาเงินให้ได้เยอะๆเรียนจบเอกไปเลย!ผมเอาใจช่วย!
เช่นกันครับ ขอให้ประสบผลสำเร็จตามความฝัน ยิ่งขึ้น และยิ่งขึ้นไปอีก
ตอนแรกเริ่ม ที่เริ่มเขียนเพราะอยากดังเหมือนนักเขียนท่านหนึ่ง ช่วงนั้นเขาดังจริง ๆ ก็เลยอยากเอาตาม
พอเติบโตขึ้น มองโลกกว้างขึ้น หรือแคบลงก็ไม่แน่ใจ เวลาที่ผ่านไป ทำให้มีทิศทางการเขียนนิยายใหม่ จากเดิมตามไอดอล ตอนนี้กลับอยากสร้างอะไรที่มันจะกลายเป็นตำนานบ้าง
บวกกับที่จินตนาการมันมาเรื่อย ๆ หากไม่เอาออก ก็คงเพี้ยนเข้าสักวันหนึ่ง ยังไงก็ต้องเขียน เพื่อแบ่งเบาความฟุ้งซ่านที่มันโผล่ออกมาเรื่อย ๆ
ฮะๆผมคงไม่ทันแล้วละครับเพราะผมทุกวันนี้นั่งทำท่าต่อยพร้อมพูด มุดาๆหรือไม่ก็โอราๆไปแล้วละครับ(นี่เราบ้าไปแล้วใช่มั้ย)หรืือบางครั้งก็ทำท่ากระสุนวงจักรสงสัยผมคงจะจูนิเบียวไปแล้วละสินะครับแล้วคุณเป็นแบบผมรึปล่าว(ฮ่าๆ)
เป็นคนชอบมโน เวลาเจอเหตุการณ์อะไรก็จะมโนภาพขึ้นมา จินตนาการไปเรื่อย ยิ่งเวลาอินกับอะไรแล้วก็จะจินตนาการขึ้นมาต่อจากความจริง บวกกับชอบอ่านมากจึงรู้สึกอยากสร้างเรื่องของตัวเองขึ้นมาบ้าง
ดีจังนะครับคุณเป็นคนที่รักการอ่านท่าจะได้รับความรู้เยอะแหง่มๆส่วนผมการเรียนไม่ยุ่งมุ่งแต่นิยายครับแหะๆ(หรือท่านจะรักการอ่านแต่พวกนิยายเหมือนผม?ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ขอจับมือครับฮ่าๆ)
เเค่ต้องการ "เพนซิฟ" เท่านั้นเอง
ออ...ว่าแต่...เพนซิฟ คืออะไรอ่าา บอกผมหน่อย
อ่างน้ำวิเศษชนิดหนึ่งที่สามารถรองรับความคิดเเละความทรงจำที่ใส่ลงไปได้ เเละเราสามารถเข้าไปสู่ความทรงจำได้เสมือนว่าเข้าไปอยู่ในโลกจริง ๆ
ออ เข้าใจแล้วครับขอบคุณที่ให้ความรู้ครับ!
อยากเป็นคนที่ทำให้คนอื่นมีความสุข สนุกสนานไปกับเรื่องของเรา แบบเครียดๆ มา อ่านแล้วสนุก ได้บันเทิง สรุป อยากให้คนอ่านมีความสุขครับ นั่นคือเป้าหมายของผมครับ
นิยายที่รออ่าน ไม่จบสักที เลยแต่งเองค่ะ พอแต่งเองถึงรู้ว่ามันยากนะกว่าคนเขียนเขาจะเขียนจบสักเรื่องหนึ่ง
อยากลองเขียนในสิ่งที่อยู่ในหัว มีเท่าไหร่ก็ยัดมันใส่นิยายกับฟิคให้หมด (ถึงส่วนมากมันจะกาวก็เถอะ==)เหตุผลสั้นๆไม่มากเพราะขี้เกียจค่ะ
สมัยเด็กๆเลย จุดเริ่มต้นของแรงบรรดาลใจคือ ดูหนังเรื่องหนึ่งแล้วไม่ได้ดั่งใจ นางเอกเป็นนางฟ้า พระเอกเป็นมนุษย์ มีปีศาจเป็นตัวโกง (หล่อสุดๆ หล่อแบบหล่อมากกกก เลว ร้าย เถื่อน ฮาเร็มเป็นร้อย ) คลั่งตัวร้าย อยากให้นางเอกได้เสียกัน เหอะๆ
พอหนังจบ -*- เราเลยลงมือเขียนนิยายในแบบของเรา นางเอกต้องได้กับตัวโกงสิฟระ ! แต่แล้วเขียนได้ 3 บรรทัดมันก็จอด เพราะไม่มีความสามารถในการบรรยาย มันเจ็บใจ
ฝันมาตลอดว่าต้องเขียนนิยายออกมาซักเรื่องให้ได้
ที่เขียนนิยาย เพราะอยากมีผลงานเป็นของตัวเอง เหมือนเขียนบันทึกประจำวัน ผ่านไปหลายปีอยากรู้ความนึกคิดเราในอดีตว่าเป็นยังไง กลับมาอ่าน ก็จะรู้
เข้ามาขำภาพประกอบ 5555 เราก็เป็นแฟนโจโจ้ค่ะ แต่อันนี้ไม่ใช่โจโจ้ละ เป็นตูตู้ 5555
ตอนเด็กๆ อ่านการ์ตูนเยอะ แล้วก็รู้สึกว่าคนเขียนเท่จัง อยากเท่แบบนี้บ้าง แต่ไปทางวาดรูปไม่ค่อยรอด เลยเบนมาทางเขียนนิยาย แต่ความขี้เกียจก็เยอะอีก เลยห่างหายไป บวกกับกลัวความผิดหวังด้วยถ้าเขียนไม่ดี แต่ชอบงานสายนี้ไง ได้ทำงานปรูฟ งานกองบ.ก.มาตลอด วันนึงก็คิดขึ้นมาได้ว่า "อย่าไปกลัว" แล้วก็กลับมาเขียนอีกครั้ง ตอนนี้หมดไฟอยู่ ไว้มีแรงใจแล้วเดี๋ยวจะกลับมาเขียนใหม่ค่ะ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?