ซ้อมแสตน5ชม.! หนักกว่าเรียนอีก
ตั้งกระทู้ใหม่
ประเด็นมันอยู่ตรงที่ซ้อมหนักมากกกๆ ช่วงประมาณ20วันแรก เราซ้อมตั้งแต่17:30-22:00 เป็นเวลา4ชม.ครึ่ง เราก็ว่าหนักแล้ว แต่12วันสุดท้ายก่อนแข่งหนักกว่า เพราะถึง22:30ไปเลย
คือทุกคนคิดว่าเหมาะสมไหมคะ การที่เราเรียนเสร็จเหนื่อยๆ แล้วต้องไปนั่งแหกปาก ตั้งมือ(ที่เมื่อยกว่าเขียนหนังสือ1เล่ม) ยัน4ทุ่ม กว่าจะกลับหออาบน้ำ ก็ปาไป5ทุ่ม ยังไม่ทันทำอะไรก็เที่ยงคืนตี1แล้ว หนังสืออย่าคิดว่าจะอ่านได้เลย ไม่มีสมาธิสุดๆ
เราไม่ได้แอนตี้กิจกรรมนะ แต่ซ้อมหนักเกินเบอร์ขนาดนี้มันใช่เรื่องหรอ
แถมชัยชนะที่ได้มาเราก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรเลยอ่ะ ชนะอันดับ1ไม่ได้การันตีว่าจะมีงานทำ หรือจะทำให้ม.ดังขึ้น เพราะผปค.คงไม่ส่งลูกมาเรียนเพราะรู้ว่าแข่งแสนตได้ที่1หรอกใช่ไหมหล่ะคะ
ประเด็นที่เราไม่โอเครก็คือเรื่องของระยะเวลาในการซ้อม เพราะเหมือนสำคัญผิดจุด มันไม่จำเป็นต้องซีเรียดกับการแข่งขนาดนั้นก็ได้ ชนะหรือแพ้ก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรอยู่แล้ว แทนที่จะซ้อมด้วยความสนุก ไม่กดดันน้อง เพราะน้องอุสาเสียสละเวลามาทำเรื่องที่ไม่ได้เกี่ยวกับการเรียน ซ้อมถึง2-3ทุ่มก็น่าจะพอแล้ว ไม่ใช่ซ้อมเหมือนจะไประดับโลก(ทั้งที่เป็นแค่การแข่งขันกีฬาสีเล็กๆที่คนทั่วไปก็ไม่รู้หรอกว่ามี) ซ้อมเหมือนคนบ้าแบบนี้
เราหล่ะเหนื่อยกับความคิดของพวกรุ่นพี่จริงๆ
ไม่ลงก็โดนมองแรงอีก
ปล.มี ม.ไหนให้มากกว่าเราอีกไหมคะ
ปล.2ซ้อมทุกวันยกเว้นวันอ. แต่12วันสุดท้ายที่ซ้อมทุกวันจ้า
อย่าบอกว่าทีรุ่นอื่นๆยังทนได้ ถามหน่อย มันเป็นเรื่องที่ควรทนไหม
ใครบางคน
5 ก.พ. 63 เวลา 15:34 น.
3,545
views
11 ความคิดเห็น
โครตแย่เลยค่ะ เรามาเรียนป่ะ เกินไปอ่ะ
บ้าป่าวนิ
ถามจริง? คือมันไม่ได้จำเป็นขนาดนั้นป่ะ หนักไปนะเราว่า
อีกกระทู้วิวเยอะมาก ไม่น่าลบเลยยย
มันจะมีประโยคหนึ่งที่เขาเอามาหนุนหลังการกระทำเขาก็คือ การเรียนทำให้คนมีงานทำ กิจกรรมทำให้คนทำงานเป็น
แต่ซ้อมหนักขนาดนั้นก็ไม่สมควรครับ อย่างกรณีมอผมก็เคยมี ซ้องจากหกโมงเย็นถึงตีหนึ่งตีสอง เป็นอย่างงี้ไปจนจบเทอมไม่มีใครท้วงติง หืออืออะไร จนกระทั่งเพื่อนผม(ที่ตอนนั้นอยู่ปี1) ลุกขึ้นมาพูดวันสะท้อนกิจกรรมนั่นแหละครับ มันก็พูดตรงๆไปเลยว่า มันเหมาะสมแล้วหรอที่ต้องมาทำกิจกรรมดึกๆดื่นๆแบบนี้ แถมตอนเช้าก็ต้องลุกไปเรียน การบ้านก็ต้องเคลียร์ ไม่ใช่ทุกคนในโลกที่จะสามารถบริหารเวลาได้นะ จากนั้นปีต่อมาเขาก็เลยจำกัดเวลาซ้อมแค่ถึงประมาณสี่ทุ่มเศษๆ แต่ก็ไม่หมดไปเสียทีเดียวนะครับ ยังมีบางกิจกรรมที่แอบๆทำบ้าง คงจะให้หายไปยากเพราะมันเป็น'ประเพณี' ที่สืบทอดกันมารุ่นสู่รุ่น
ใช่เลยค่ะ มันเกินไปจริงๆ อยากจะเปลี่ยนแต่ก็ทำไม่ได้ เพราะเหมือนเป็นประเพณีที่ต้องซ้อมหนัก ต้องชนะให้ได้ไปแล้ว ไม่โอเครมากๆเลย ทางมหาลัยน่าจะมีกฏไม่ให้ซ้อมเกิน3ทุ่มเนอะ เพื่อใครบ้านไกล กลับดึกอันตราย
ใช่ครับ หลุดจากประเพณีไม่ได้จริง ๆ ไม่ใช่ว่าการทำกิจกรรมแบบนี้ไม่ดีนะ แต่มันไม่ดีตรงที่ว่า มันสุดโต่งเกินไปจนรุกล้ำความเป็นส่วนตัว รุกล้ำอิสระจนอึดอัด แถมรุ่นพี่ก็ไม่ได้มาซัพพอร์ตความรู้สึกเด็กอีกอะไรอย่างนี้อีก สวัสดิภาพตวามปลอดภัยก็ถามแบบลวก ๆ ขนาดป่วยก็ยังบังคับให้ซ้อมอีกอึดอัดมากครับ
เรื่องดราม่าที่ว่า ถ้าให้เดา.... มศว ใช่ไหมคะ? อยากได้ข้อมูลหลังไมค์ค่ะ จะเอาไปรวบรวมทำblacklistมหาลัยสังคมห่วย กิจกรรมแย่ค่ะ
ม.ดังย่านชลบุรีเป็นวิทยาเขตย่อยค่ะ
ม.ดังบางพระใช่ไหม
คือ มันก็แล้วแต่คณะในมหาลัยด้วยค่ะ บอกแบบนี้ไม่รู้หรอกว่าที่ไหนค่ะ แต่ย่านศรีราชามันขึ้นชื่อเรื่องพวกนี้อยู่แล้วเลยไม่แปลกใจค่ะ เพราะไอที่พาณิชย์นาวีในสถาบันนั้นก็แหล่งรวมกากเดนที่สร้างเรื่องฉาวจนเป็นข่าวดัง กาฝากของวงการวิชาชีพเดินเรือดีๆนี่เองค่ะ ไม่รุ้ว่าตัววิทยาเขตเองมีคณะไหนบ้างที่ทำตัวเหมือนบัวพ้นน้ำ
จริงหรอคะ เพิ่งรู้นะเนี้ย ไม่น่าหลวมตัวมาเข้าที่นี้เลย การเรียนคือเฉยๆมาก รุ่นพี่บางคนยังเอาตัวเองไม่รอดเลย แล้วมาสั่งให้น้องทำนู้นทำนี้(พี่ดีๆก็มีนะ) แต่มาเอาดีด้านแสนต์กับลีด ประทานโทษนะคะ นี้ฉันเข้าคณะแสตนหรอถามจริง ก็คือหนักและจริงจังกว่าการเรียนหนังสือ
คิดจะซิ่วแล้วค่ะ ปี2ไม่อยากมาเจอดราม่าล้านแปดแบบนี้อีก
มีใครพอจะมีมหาลัยที่มีกฎห้ามทำกิจกรรมเกิน3ทุ่มบ้างไหมคะ ไม่ไหวจริงๆกับอะไรแบบนี้
อ้าว คห.6-4 เข้าเรียนพาณิชย์นาวี ของเกษตร ศรีราชาเหรอคะ? คือ สี่ปีที่แล้วข่าวนี้ดังมากค่ะคุณ คุณไปอยู่ไหนมาคะ? เอ่อ.....คณะอื่นไม่รู้นะคะว่ายังไง ต้องให้ จขกท. ออกมาเล่าค่ะว่าคณะอื่นมีอะไรหนักแบบนี้ไหม เท่าที่คิดนะคะ รับน้องค่อนข้างปัญญาอ่อนและไร้พัฒนาการเยอะค่ะในวิทยาเขตนั้น เพราะฝั่งบางเขนที่ดูลดๆไปแล้วยังบังคับรุ่นน้องเรื่องบ้าๆบอๆอยู่บ้างถมเถไปอยู่เลย แต่ที่บอกว่าเป็นข่าวทำเด็กลงบ่อละติดเชื้ออวัยวะภายในเกือบตาย/พิการตลอดชีวิต ก็คณะอย่างที่เอ่ยถึงอ่ะค่ะ มีคนมาแฉสารพัดว่าเป็นแหล่งรวมของคนที่พลาดอันดับที่ตัวเองคาดหวังไว้ ส่วนตัวก็ขอตราหน้าว่าเป็นแหล่งสุมกองกากเดนของวงการอาชีพนั้นไปละกันค่ะ
อ่ะ เสริมให้นะคะ มหาลัยที่ไม่มีบังคับรับน้องกับเชียร์ปัญญาอ่อนทั้งหลาย เท่าที่ค้นๆมานะคะมีจุฬา(ยกเว้น ศิลปศาสตร์ กับ จิตวิทยาและคณะเล็กๆย่อยๆ) กับ มธ และรามคำแหงค่ะ ส่วนที่อื่นมาในรูปแบบไม่บังคับก็กึ่งบังคับค่ะ
เราอยู่คณะวิทยาศาตร์ค่ะ ไม่เน้นการเรียน เน้นแสตนกับลีด เราถึงโมโหไง คือถ้าม.ไม่ดัง ไม่ขึ้นชื่อ มันเพราะอะไรหล่ะ ก็เพราะไม่มีคนเก่งๆเรียนไง เขาควรปรับปรุงตรงนั้น ให้ความสำคัญกับการเรียน ผลิตนวัตกรรมสร้างชื่อ ไม่ใช่เอาแสตนที่1
โอเคค่ะ คณะวิทยาศาสตร์ ม.เกษตร ศรีราชา ดิชั้นจะเข้าใจตามนี้นะคะ (จดเข้าไปในblacklist มหาลัยรับน้องดุ รุ่นพี่ห่วยแตก)
รุ่นพี่ไม่ได้ห่วย แต่ระบบไม่โอเครค่ะ พี่น่ารักๆก็มีเยอะยุ
ของเรานะ.....
-มีนโยบายมหาลัยห้ามซ้อมเกิน2ทุ่ม พวกรุ่นพี่เลยสบโอกาสเรียกมาตอนเลิกคาบหมาดๆช่วงบ่ายสี่บางวันส่วนมากนะทุกๆวันให้เวลาเดินทางมาซ้อมแค่สิบนาที ข้าวเย็นยังไม่ได้ทานเลยด้วยซ้ำ
-ที่สแตนซ้อม มีของที่แก้หิวได้แค่กระติกน้ำเปล่าถ้วยใหญ่ๆกับหลอดห้าหลอด กับเด็กที่มาซ้อมเกือบ300กว่าคน ให้ร่วมใช้หลอดห้าหลอดร่วมกัน
-ม.นั้นตั้งอยู่นครปฐม ตอนปีสองต้องไปเรียนที่เมืองกาญจน์ ยุงเยอะมากตอนพลบค่ำ ให้ซอฟต์เฟลแค่1ซองต่อสแตนครึ่งนึง เอาง่ายๆว่าปี 1 สามร้อยคนใช้ยากันยุง2ซอง ตอนจบพี่ปีสี่ กับพี่ที่จบไปแล้วมาคุมสแตนอ้างว่าเป็นกุศโลบายให้รู้จักความพอเพียง อ้างแนวคิด ร.9 สารพัด
-ไม่มีการแยกเด็กป่วยเป็นโรคประจำตัวออกจากเด็กในสแตน พอจบสแตนเด็กอาการกำเริบ บางคนออกกลางคัน รุ่นพี่บางคนยุให้เพื่อนร่วมรุ่นด่าลับหลัง
-พี่ที่จบไปแล้ว(ปัจจุบันกำลังทำงานเป็น ผู้บริการใหญ่ในธุรกิจขายไก่แถวสีลม และพยายามมาเป็น อ. มหาลัยที่คณะที่เรากำลังเล่าอยู่) เป็นคนสั่งการระบสแตนทุกอย่าง มีทั้งว้าก ทั้งใช้คำพูดข่มขู่
-รุ่นพี่ที่จบไปแล้วคนนี้ ไม่มีรุ่นน้องคนไหนกล้าแจ้งมหาลัย/ตำรวจ เพราะพี่แกรวยมาก+เป็นศิษย์เก่าดีเด่น อธิการสมัยนั้น(ปัจจุบันเป็น สว. ในสภาลุงตู่แล้ว)ปกป้องคนนี้เต็มที่เพราะเป็นศิษย์เก่าดีเด่น ถ้าศิษย์เก่าดีเด่นเสียชื่อเสียง ภาพลักษณ์สถาบันจะดูแย่ไปเลย
-กิจกรรมนี้มีคะแนนกิจกรรมที่ต้องเก็บให้ครบตามหลักสูตรนะ ราวๆ2-3คะแนน(เรียกว่า AT) ตัวกิจกรรมไม่ได้บังคับแต่รุ่นพี่บังคับ ไปหาเก็บคะแนนจากกิจกรรมอื่นยังได้
-จากกิจกรรมนั้น ทุกวันนี้เราทำเสร็จแล้วยังไม่เคยได้คะแนนกิจกรรมนี้เลยสักคะแนนเดียว
-เพื่อนรุ่นเดียวกันไม่กล้าอะไรเยอะเพราะปีนั้น ร.9 สวรรคตพอดี ใครไม่เข้ากิจกรรมจะโดนหาว่าชังชาติ
-จบกิจกรรมนี้ เกือบครึ่งเข้า รพ. เพราะติดหวัดจากคนที่ไม่สบายอยู่ก่อนแล้วจากกระติกน้ำและของสวัสดิการที่กล่าวๆไปข้างต้น
-งบจัดสแตนเหยียดแสนแต่รุ่นน้องได้แค่อุปกรณ์สแตนโง่ๆกลับบ้านมาพร้อมกับเชื้อไข้หวัด
ทำไมน่ากลัวจัง พ่อแม่จะรู้สึกยังไง ที่ลูกต้องมาเจอสภาพแบบนี้เนี้ย
เกลียดจริงๆ พวกที่ให้กินน้ำหลอดเดียวกันเนี่ย เราก็เคยโดนแต่เราไม่กินนะยอมทนหิว แล้วก็ได้แต่มองว่ากินเข้าไปได้ไงว้าาา คนเป็นร้อยเป็นโรคอะไรบ้างก็ไม่รู้ นี่ถ้ามีใครเป็นโรคติดต่อร้ายแรงได้ตายห่านกันหมดทั้งสแตนพอดี สกปรก นี่หลักสุขอานามัยขั้นพื้นฐานเลยนะ โง่หรืออะไร อ่านละมะโห
ทนหิวไม่ไหวจริงๆ สุดท้ายต้องยอมกินค่ะ ซ้อมวันล่ะห้าชม.TT เอาน้ำไปเองก็ลำบากที่วาง(ที่นั่งมันแคบ) เพราะเขาให้พักน้อย แถมไม่ให้ลุกไปไหนเท่าไหร่
ม.เราห้ามเกิน4ทุ่ม ไม่งั้นหอปิด ถ้ากลับไม่ทันหรือไม่ทำเรื่องขออนุญาต นอนข้างนอกอย่างเดียวจ้า รุ่นพี่ต้องปล่อยน้องไม่เกิน3ทุ่ม
ดีจัง เราว่า3ทุ่มควรเป็นเวลาที่มากสุดที่สามารถทำกิจกรรมที่ม.ได้อ่ะ 4ทุ่มครึ่งมันเกินไป เกิดคนอยู่หอนอก บ้านไกล กลับคนเดียวอันตรายป่ะ
ก็กลับบ้านสิ
จะไปลำบากทำไม
มัันอยู่ที่ตัวเรา
ก็อยากนะคะ แต่มันต้องทำเพราะไม่งั้นก็โดนมองแรง โดนคนอื่นว่าไม่ช่วยงานเพื่อนเห็นแก่ตัวอีก มันเป็นหน้าที่อ่ะค่ะ คือก็ไม่มีใครอยากทำแต่ก็ต้องทำ เราโอเครกับกิจกรรมนะ แต่ที่ไม่โอเครคือเวลาที่ซ้อมมันนานและหนักเกินไป อย่างที่เขียนกระทู้นะคะ
มหาลัยผมก็เป็นแบบนี้ กิจกรรมภาคนะ พี่ว็ากจะมาว็าก ถ้าไม่เข้าก็โดนเพือนแบนทั้งภาควิชา
ตอนปี1เคยอินค่ะ ตอนนี้ไม่อินแล้วจ้า อย่างแรกเป็นใครทำไมมาสั่ง เรามาเรียนไม่ได้มาทำกิจกรรม ม.เรามีบังคับทำกิจกรรม เราก็ทำเท่าที่บังคับทำ อะไรฟรีก็ไม่ทำเลย ยากค่ะถ้าเราจะบอยคอตกิจกรรมแบบนี้คนเดียว ควรหาแนวร่วม แต่ไม่ควรก้าวร้าว เพราะอาจจะให้โดนมองไม่ดี
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?