Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

[ชวนคุย] แม้ใจอยากจะแต่งให้ตลก แต่เอาจริงๆ กลับตลกฝืดซะงั้น

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
เคยมีคนบอกว่า ให้เสือคงความเป็นนักเขียนที่แต่งแนวอารมณ์ดีเอาไว้ พูดง่ายๆ คือ แนวรักคอมเมดี้   อาจเพราะเสือเคยแต่งนิยายเรื่องหนึ่งโดยพล็อตมาจากชีวิตจริงของตัวเอง คือ ให้นางเอกอ้วนและมีเรื่องราวตลกๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตจริงเอามาเขียน     คือตอนที่เขียนเรื่องนั้นมันก็แต่งเอามันส์ไม่ได้คิดมาก    ส่วนตัวไม่ได้เป็นคนตลก แต่เรื่องนั้นคนอื่นบอกว่า ตลก อ่านไปยิ้มไป    สรุปคือ เป็นเรื่องที่สร้างชื่อให้เสือ   หลังจากนั้น   ก็มีหลายคนอยากให้แต่แนวตลกๆ แบบนั้นออกมาอีก  ทว่า

แม้ใจเสืออยากจะแต่งเรื่องต่อไปให้ดูตลกๆ แต่ตัวเองเป็นคนซีเรียส  แต่งออกมาทีไรมันก็ตลกฝืดๆ   และคิดมุกตลกไม่ออกด้วย ตามนิสัยที่เป็นคนเงียบๆ (คิดว่านะคะ 555)  และจริงจังในทุกเรื่อง  แต่ก็ อยากให้นิยายตัวเองไม่เครียดจังเลยค่ะ   อยากให้คนอ่านรู้สึกสนุกและอมยิ้มมากกว่าจะต้องมาอ่านไปคิดไปน่ะค่ะ    

เพื่อนๆ เคยเป็นแบบเสือบ้างไหมคะ    มีข้อแนะนำเสืออย่างไร บอกได้นะคะ     เสือน้อมรับความคิดเห็นของทุกท่านค่ะ

แสดงความคิดเห็น

>

11 ความคิดเห็น

ซ่านจื่อ 27 ก.พ. 63 เวลา 22:02 น. 1

นึกไปแล้วก็ยากเหมือนกันแฮะ ถ้าคุณเสือเป็นคนจริงจัง

เพราะเราโดยปกติเป็นคนชอบพูดไร้สาระ กวนประสาทคนอื่น ให้เขาขำบ่อยๆ

ในนิยายก็จะมีฉากพระเอกชอบพูดหยอกนางเอก แต่งไปก็ขำไป (แต่คนอ่านขำไหมไม่รู้)

แบบว่าเป็นส่วนที่คิดง่ายกว่าอะไรทั้งมวลในนิยายของตัวเองแล้ว 555

แต่ถ้าเอาไอเดียจากซีรีส์มา ก็น่าจะได้บ้างนะคะคุณเสือ

(แงะ ไม่รู้จะแนะยังไง ขอโทษค่ะ > <)

2
พยัคฆ์ขาว 27 ก.พ. 63 เวลา 22:07 น. 1-1

มันเป็นที่นิสัยของนักเขียนด้วยแน่ๆ เหมือนคุณซ่านจือเป็นคนชอบหยอกล้อคนอื่น ก็มักจะคิดคำพูดแซวขำๆ ได้นั่นเอง สงสัยเสือต้องจดเวลาเพื่อนที่ทำงานแซวกันแล้วล่ะค่ะ แบบตัวเองคิดไม่ออก ก็ยืมคำพูดเพื่อนๆ มาใส่ในนิยายตัวเอง อิอิ


ปล. หวังว่า เพื่อนจะไม่มาขอค่าลิขสิทธิ์นะคะ (ฮา)

0
ซินเอ๋อร์ 27 ก.พ. 63 เวลา 22:19 น. 2

กลับกันกับคุณเสือ เราเป็นคนเขียนนิยายที่ติดไปทางตลก ถนัดแนวเขียนสบายๆ ตบมุกโบ๊ะบ๊ะไปเรื่อย ที่ถนัดคือการเขียนล้อเลียนและการแซว นานๆ ทีถึงจะเขียนซีเรียส การเขียนนิยายให้ขำเอาจริงๆ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะมุกที่เล่นไปไม่ใช่ทุกมุกที่จะโดนใจคนอ่าน เล่นไปสิบ แป้กสักหก โดนสักสี่ ก็ถือว่าดีแล้ว


ถ้าจะแนะนำ อยากให้คุณเสือลองดูมุกเล็กๆ น้อยๆ ที่เราประสบพบเจอในชีวิตประจำวันนะคะ ไม่จำเป็นต้องเป็นมุกที่ล้ำมาก ขำจัดก็ได้ค่ะ แต่สิ่งที่เราพบเจอในชีวิตประจำวันเนี่ยหรือสิ่งที่พบเจอได้ทั่วไป จะเป็นอะไรคนอ่านเก็ทกับเราแบบที่เราไม่ต้องพยายามเล่า และไม่ต้องพยายามปูเรื่องหนักมากนัก เอามาขยี้เล่นได้เลย เพราะมันเป็น something in common ที่เรารู้ๆ กันอยู่แล้วค่่ะ


ยกตัวอย่างเช่นแนวข้ามมิติ สมมติว่าพอนางเอกข้ามมาปุ๊บ เจอสาวใช้นั่งร้องไห้อยู่ข้างเตียง อันนี้เอามาขยี้แนวแซวได้แล้วว่า โอ้โห นี่ข้ามมิติมาแล้วสินะ มีสาวใช้นั่งร้องไห้แบบนี้ แล้วนี่ร่างนี้เป็นอะไรตายล่ะ จมน้ำตายอีกล่ะซี้ ทำไมยุคโบราณไม่หัดว่ายน้ำกันซะบ้าง ฯลฯ อาจจะไม่ได้ขำก๊าก แต่ยิ้มบางๆ น่าจะได้อยู่ค่ะ


ถ้าจะเอาไอเดียจากซีรีส์ แนะนำให้ดูเป็นพวกจังหวะมุกค่ะว่าเขารับส่งกันยังไง มีช่วงไหนที่สามารถเล่น สามารถขยี้ได้บ้าง แต่ไม่แนะนำให้เอาไอเดียมุกเขามานะคะ ก็ไม่รู้ว่าช่วยได้มากแค่ไหน เอาใจช่วยค่ะ


3
พยัคฆ์ขาว 27 ก.พ. 63 เวลา 22:27 น. 2-1

ขอบคุณมากค่ะ คุณซินเอ๋อร์ เป็นคำแนะนำที่มีประโยชน์มากๆ เลย เสือจะลองเขียนมุกเล็กๆ น้อยๆ ดูค่ะ อาจไม่ขำก๊าก แต่ก็ทำให้คนอ่านอมยิ้มได้ ก็นับว่าดีแล้ว ขอบคุณมากๆ นะคะ

0
ซินเอ๋อร์ 27 ก.พ. 63 เวลา 22:44 น. 2-2

จริงๆ อยากแนะนำให้คุณเสือลองไปฟังเพลงแร็พของคุณ TangBadVoice ทั้ง 3 เพลง ในอัลบั้ม โนวันเพลย์วิทมี ค่ะ


คุณตั้งเขียนการเล่าเรื่องเล่นมุกได้ดีเลย อารมณ์เหมือนฟัง Podcast เรื่องสั้น มีทั้งมุกเก่ามุกใหม่ การเล่นคำ การบิดของภาษา การแซวเรื่องที่คนทั่วไปรู้กันอยู่แล้ว การหักหลังความคาดหวังของคนฟัง การเล่นมุกล้ำแบบคิดได้ยังไงเนี่ย จังหวะที่ใช้ชง-ตบกันก็ดีค่ะ






0
พยัคฆ์ขาว 27 ก.พ. 63 เวลา 22:51 น. 2-3

รับส่งมุกกันได้ดีจริงๆ ค่ะ พอได้ฟังแบบนี้นึกถึงคุณโน๊ต อุดมเลยค่ะ นั่นตลกแบบขำจริงๆ เพียงแต่ไม่มีการรับส่งมุก แต่คุณโน๊ตตบมุกเอง ต้องขอบคุณคุณซินเอ๋อร์ มากๆ นะคะ ช่วยได้มากเลยค่ะ

0
Me&#039;Gan 27 ก.พ. 63 เวลา 23:14 น. 3

ว่าด้วยมุกตลกแล้ว กันคิดว่าเขียนยังไงให้ดูตลกจนขำออกมาเป็นเรื่องยากจริงๆค่ะ เพราะเป็นภาษาเขียนด้วยแล้ว ต้องเล่นเอง ชงเอง เผลอๆกินเองก็มี (กินที่ว่านี่กินน้ำตานะคะ ไม่ใช่อะไร ฮ่าๆๆ)

การคิดมุกเป็นเรื่องยากจริงๆค่ะพี่เสือ ถ้าเป็นมุกตามยุคสมัยปัจจุบันอย่างการเอาอะไรที่เป็นกระแสเป็นไวรัลมาเล่น ช่วงแรกๆมันก็อาจจะขำ แต่นานวันเข้ากาลเวลาผ่านไปมันก็ได้แต่ขำฝืดๆ เพราะแบบนั้นก็ต้องคิดมุกแบบคลาสสิคกินยาวๆหน่อยอย่างมุกเล่นคำ ถึงจะเก่าถึงจะขำฝืด แต่มันก็คลาสสิค ขำพอกรุบกริบ ขำพอไม่จืดชืด กันว่าแบบนี้น่าจะเหมาะกับเราๆชาวคนขี้อายกันนะคะ ฮ่าๆ


ป.ล. คิดถึงพี่เสือมากๆค่ะ //วิ่งกอด


4
พยัคฆ์ขาว 27 ก.พ. 63 เวลา 23:20 น. 3-1

ชอบตรงที่บอกว่า ขำพอไม่จืดชืด 55555 เอาจริงๆ ก็ไม่ง่ายเลยที่จะเขียนออกมาให้ตลก ขอบคุณน้องกันมากนะคะ


ปล. ตอนนี้น้องกันคงโอบรัดเอวพี่เสือไม่ถึงแล้วค่ะ เพราะมีห่วงยางขนาดรถสิบล้อพันเอวพี่เสือไว้ค่ะ T-T

0
Me&#039;Gan 27 ก.พ. 63 เวลา 23:39 น. 3-2

จริงค่ะพี่เสือ มุกตลกเป็นอะไรที่ไม่ตลกสำหรับเราๆเลยค่ะ ไหนจะต้องหาจังหวะใส่มุก การแทรกมุกเข้าไปช่วงไหนของเรื่อง การเตรียมมุก การเล่นคำ การเล่นกับอารมณ์ตัวละคร การหาจังหวะทำลายกำแพงที่สี่เพื่อให้ตัวละครมีจังหวะมาเล่นมุกกับคนอ่าน การที่ต้องเพ่งเล็งว่ามุกที่ใส่ไปเข้ากับสถานการณ์เนื้อเรื่องหรือปล่าว และอีกมากมายก่ายกอง แทนที่จะขำก็เลยกลายเป็นมุกฝืดๆ ขำแห้งๆ กันเข้าใจพี่เสือค่ะ เพราะกันเจอสถานการณ์นั้นบ่อย

//ถึงเอวพี่เสือจะหนาแน่นด้วยห่วงยาง แต่คนที่คอยห่วงพี่ข้างๆ พร้อมจะกอดห่วงยางและแต่งงานไปด้วยกันค่ะ~ ฮิ้ววว

0
พยัคฆ์ขาว 27 ก.พ. 63 เวลา 23:44 น. 3-3

ขอดูเงินในบัญชีก่อนนะคะว่า พอจะไปสู่ขอน้องกันไหม (ฮา) น่ารักขนาดนี้

0
28 ก.พ. 63 เวลา 00:02 น. 4

นิยายตลกคอเมดี้ ใช่ว่าจะเขียนให้ตลกได้ตลอดทั้งเรื่องนะคะ มีทั้งซีเรียสบ้างก็ไม่เป็นไรนี่คะ เราเพียงหยิบยกมุกตลกเล็กน้อยใส่ลงไป ก็แค่นั้นค่ะ

2
พยัคฆ์ขาว 28 ก.พ. 63 เวลา 00:15 น. 4-1

จ้า ไม่ใช่ว่าต้องตลกทั้งเรื่องหรอกค่ะ แต่มันแทบไม่มีเอาเลยนี่ซิปัญหา อย่างเรื่องที่เสือเขียน เป็นแนวเกิดใหม่ เรื่องอื่นเขาก็เขียนโดยแทรกมุกตลกบ้าง แต่เสือนี่คิดไม่ออกเลยค่ะ ถึงพระเอกจะเป็นฮ่องเต้มาในยุคปัจจุบัน ด้วยนิสัยคงไม่น่าจะตลก แต่ด้วยความที่ไม่รู้จักสภาพในยุคปัจจุบัน ก็ต้องหลุดทำอะไรเปินๆ ไปบ้าง ก็น่าจะตลกนะคะ แต่เสือแต่งออกมาคือ ซีเรียสในทุกฉากค่า แต่เสือจะพยายามแทรกมุกขำๆ นะคะ คุณโรส ขอบคุณมากๆ ค่ะ สำหรับคำแนะนำ


ปล. คุณโรสเปลี่ยนชื่อแล้วเรียกง่ายกว่าเดิมเลยค่ะ

0
28 ก.พ. 63 เวลา 12:26 น. 4-2

คร้าาาถ้าไง คุณก็ลองหานิยายแนวตลกๆอ่านดูนะคะ เผื่อจะได้ไอเดียจากการอ่านบ้าง ไม่มากก็น้อย ลองดูนะ

0
white cane 28 ก.พ. 63 เวลา 10:47 น. 5

ลองใช้วิธีคิดตามสถานการณ์ เช่น ในยุคสมัยนั้น คนส่วนใหญ่ชอบทำอะไรแปลกประหลาดล่ะ เราลองคิดตรงจุดนี้แล้วขยายออกมาเป็นมุกตลก ถ้าจะให้ยกตัวอย่างก็เหมือนเรื่อง “บุพเพสันนิวาส” นั่นแหละครับ

1
พยัคฆ์ขาว 28 ก.พ. 63 เวลา 13:10 น. 5-1

ขอบคุณมากๆ นะคะ คุณ white cane อาจต้องกลับกันนิดหนึ่งเพราะคนอดีตมาปัจจุบัน แต่ใช้เทคนิคเดียวกันได้ อิอิ

0
28 ก.พ. 63 เวลา 21:09 น. 6-2

ก็จริงนะ ขนาดเรายังเจอเพื่อนที่พยายามใช้มุก มาให้ตลกกันแต่แล้วกลับพาไม่ขำซะนี่ เราเลยหัวเราะเลยค่ะ

0
ถานเซียง/จันทน์ใบเล็ก 28 ก.พ. 63 เวลา 21:28 น. 7

้เราก็กำลังเขียนนิยายแนวเลิฟคอเมดี้อยู่ค่ะ เราไม่ได้เน้นความฮาของเรื่องกับพวกบทสนทนาสักเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะเน้นไปทางการกระทำของตัวละครมากกว่า ก็พอให้อมยิ้มบาง ๆ แต่คนอ่านเขาก็ขำนะ // เราเองก็คิดมุกตลกไม่ค่อยออกเหมือนกัน มันก็ยากอยู่น้า กลัวคนอ่านจะไม่คอเมดี้ไปกับเรา

1
พยัคฆ์ขาว 28 ก.พ. 63 เวลา 21:35 น. 7-1

เสือคงเอาเทคนิคที่เพื่อนๆ แนะนำมาใช้ค่ะ อาจไม่ขำจนหัวเราะแต่ก็น่าจะทำให้อมยิ้มได้ เสือเองไม่ได้เน้นท่าทางการกระทำเท่าไรค่ะ ส่วนใหญ่จะคิดคำพูดตลกๆ มากกว่าค่ะ ขอบคุณคุณ

ถานเซียง/จันทน์ใบเล็ก

0
chinchang22 28 ก.พ. 63 เวลา 22:41 น. 8

ตัวจริงเราก็ไม่ใช่สายฮานะคะ ออกจะหัวช้าไม่ค่อยทันมุกชาวบ้านด้วยซ้ำ

แต่ไม่รู้ทำไมชอบแต่งคอมเมดี้ คงเพราะจริงๆ เราแอบคิดอะไรฮาๆ อยู่ในหัว

ภายใต้มาดวิชาการมั้งคะ อะไรที่ในชีวิตไม่ค่อยทัน เวลาเขียนเรามีเวลาคิดมากกว่าตอนพูด

เออ แต่อีกอย่าง เราเป็นคนดูซิทคอมเยอะอยู่ค่ะ ไม่ใช่แค่ของไทย แต่ดูไปยัน

Friends, The Nanny, The Big Bang Theory, How I met your mother etc.

มันคงเป็นวัตถุดิบสะสมอย่างนึงที่ทำให้เขียนจังหวะคอมเมดี้ได้มั้งคะ

3
พยัคฆ์ขาว 28 ก.พ. 63 เวลา 22:47 น. 8-1

เหมือนกันค่ะ เสือ ก็ตามมุกเพื่อไม่ทันเหมือนกัน ตั้งนานกว่าจะร้องอ้อ ปกติเสือไม่ดูซิทคอมเท่าไร ดูซีรี่ย์ก็ติดคนแสดงมากกว่าเนื้อเรื่องค่ะ แต่คุณเนตรดูซิทคอมเยอะมากจริงๆ อย่างนี้มั้งที่ทำให้คุณเนตรเขียนคอมเมดี้ได้ ขอบคุณมากนะคะ

0
29 ก.พ. 63 เวลา 12:30 น. 8-2

แนะนำซีรี่ย์เรื่อง Friends เหมือนกันค่ะ บอกเลยซีรี่ย์เรื่องนี้คือที่สุดของคนเขียนบทตลก คอมเมดี้แล้วค่ะ และที่สำคัญคือทุกฉากทุกบทเข้าถึงง่ายมากกก ถ้าคุณเสือเขียนนิยายเรื่องฮ่องเต้ข้ามยุคที่ว่า อาจจะได้แรงบันดาลใจจากบทสนทนาของซีรี่ย์เรื่องนี้ก็ได้นะคะ เรานี่ขำทุกตอน บางตอนพีคจนกระทั่งหัวเราะจนร้องไห้เลยค่ะะะ

0
ชลสินธุ์ 29 ก.พ. 63 เวลา 00:25 น. 9

เรามีวิธีมาแชร์ค่าาาา ปรกติเราก็ไม่ใช่คนตลก พูดเยอะ เล่นมุก แต่เพื่อนๆ มักพูดว่าเราเป็นคนตลก !!! (อยากเถียงสุดใจขาดดิ้น แต่ต้องคีพลุคเงียบ ขรึมๆ ไว้ก่อน...เจ็บคอ เอาท่าทางเข้าข่มแทน) เราว่าเราเป็นคนซีเรียสด้วยซ้ำ จนต้องเอาความบ้ามาละเลงในนิยาย ซึ่งถ้าใครเคยอ่านจะรู้ว่า...เมากาวแหงๆ


เหล่มองข้างบน...อ้าววว ออกทะเลมาไกล อะๆๆ กลับเข้าฝั่งกันเต๊อะ...มาๆๆ เข้าเรื่องต่อ เคยอ่านหนังสือเล่มหนึ่งค่ะ เขาบอกว่าถ้าอยากเขียนตลกเราต้องอารมณ์ดีก่อน อยากได้เศร้าต้องอารมณ์อึนให้ได้ก่อน ตามนั้นค่ะ...เราไปหาหนังสือตลกมาอ่านหลายเล่ม อ่านให้อารมณ์ดีแล้วค่อยเขียนค่ะ ผลที่ได้ก็โอเคนะคะ แค่รีดเม้นท์ว่าขำ เราก็ฟินไปดาวอังคารแล้วค่ะ


คุณเสือลองดูบ้างมั้ยคะ เผื่อจะได้ผล https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-01.png


1
ผู้ลงทัณฑ์แห่งความมืด 15 มี.ค. 63 เวลา 16:11 น. 11

ผมเป็นคนเฮฮาปาร์ตี้ ทั้งมุกทั้งอะไรมาเต็ม แต่แปลกใจที่ตัวเองถนัดเขียนนิยายเครียดๆ งงใจอยู่เหมือนกันครับ หรือเนื้อในผมจะเป็นคนจริงจังก็สุดรู้ แต่ที่แน่ๆคือผมเขียนคอมเมดี้ไม่ได้เลย เขียนแล้วโคตรฝืด

3
พยัคฆ์ขาว 15 มี.ค. 63 เวลา 17:07 น. 11-1

55555 ขำตรงเขียนแล้วโคตรผิด ถถถถ


เรากลับกันเลยค่ะ เสือเป็นคนเครียดๆ ไม่ค่อยตลก แต่ชอบแต่งนิยายตลกแม้จะไม่ถนัดแต่ก็ชอบคิดหามุกตลกถึงจะมุกแป๊กก็ตาม ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นนะคะ คุณ ผู้ลงทัณฑ์แห่งความมืด

0