Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ถามเรื่องรายได้จากอาชีพนักเขียน

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
อยากทราบว่า นักเขียนที่ยึดการเขียนนิยายเป็นอาชีพหลัก เขาทำยังไงถึงมีรายได้เข้ามากันแทบทุกเดือนคะ เพราะกว่านิยาย1เรื่องจะได้ตีพิมพ์และวางแผงในร้านก็ปาไป5-6เดือน กว่าจะได้รับรายได้จากสำนักพิมพ์หลังวางแผงอีก มีบางคนบอกว่าพยายามออกหนังสือปีละ4-5เล่ม แต่อย่างที่บอกไปข้างต้นว่า นิยายเล่มนึงใช้เวลา5-6เดือนกว่าจะได้ตีพิมพ์ ถ้า1ปีมากสุดก็น่าจะได้แค่ 2เล่มนะคะ ฮ่าๆ อย่างนี้ระหว่างรอจะเอารายได้จากไหน

แสดงความคิดเห็น

>

8 ความคิดเห็น

Miran/Licht 9 มี.ค. 63 เวลา 10:06 น. 1

ตามที่คุณเข้าใจค่ะ กว่าจะได้เงินจากสนพ.ต่อหนังสือ 1 เล่มอาจจะต้องรอหลายเดือน หากเจอสนพ.จ่ายช้า/เลื่อนจ่าย/แบ่งจ่าย/จ่ายไม่ตรงก็ต้องรอไปอีกค่ะ รายได้รายทางทุกเดือนจะเป็นรายได้จากการขายอีบุ๊คค่ะ แต่อันนี้ขึ้นอยู่กับการจ่ายเงินของสนพ.ด้วยถ้าสนพ.จ่ายทุกเดือนก็ได้ทุกเดือนเพราะสนพ.จะหักส่วนแบ่งไป หรือถ้าขายเองก็รับ net ไปค่ะ แต่นั่นหมายถึงคุณต้องมีผลงานสะสมพอที่จะสร้างรายได้ที่พอเพียงต่อเดือนค่ะ เคยได้ยินบก.ท่านหนึ่งเล่าว่านักเขียนดังมีผลงานสร้างละครเขาคุยกันยอดรายเดือนที่หลักแสนค่ะ แต่นั่นคือเขามีชื่อและแฟนคลับค่ะ สร้างผลงานมานานแล้ว


กรณีเราที่เพิ่งวางขายแค่เรื่องเดียวมันก็เหมือนร้านที่มีสินค้าแค่อย่างเดียวโอกาสทางการค้าก็น้อยหน่อยค่ะ ก็ได้ค่าขนมค่ากาแฟเงือกทุกเดือนล่ะค่ะ

0
tada14mark1987 9 มี.ค. 63 เวลา 10:09 น. 2

ก็มีมาจากการทำอีบุ๊คขายค่ะ รายได้ก็นิดนิดหน่อยเดือนละแค่ 4 -5 พันบาท ถ้าคนไหนมีนิยายอยู่กับตัวหลายเรื่องแบบ 40-50 เร่ื่องขึ้นไปก็จะได้เดือนละหมื่น แล้วแต่ว่าคนไหนมีชื่อเสียง


0
TunKoB 9 มี.ค. 63 เวลา 10:35 น. 3

ก่อนอื่นผมว่าสิ่งแรกที่ต้องทำความเข้าใจก่อนเลยคือเรื่องโอกาส โอกาสของคนแต่ละคนมันไม่เท่ากัน บางคนสำนักพิมพ์เขาจองไว้เลย บางคนไม่ถูกจองก็ต้องเขียนไปลุ้นไปและพบกับความไม่แน่นอน

อาชีพนักเขียนมันไม่เหมือนการทำงานกินเงินเดือนที่ตัดสินใจได้แบบปุบปับว่าเอ้ยฉันจะทำงานนี้นะ ไปสอบเข้าแล้วทำงานได้เลย คือหลายคนก่อนที่จะมาทำอาชีพนักเขียนเป็นงานหลักได้เขาก็มีงานหลักอยู่ก่อน หรือมีฐานธุรกิจ มีที่บ้านคอยหนุน หลายคนก็เริ่มจากการเขียนเป็นงานอดิเรกทั้งนั้น ไม่มีใครแบบมาตู้มฉันจะเป็นนักเขียนอาชีพเลี้ยงชีพด้วยการเขียนแบบนี้หรอกครับ

ผมคิดว่านักเขียนทุกคนต่างรู้ดีว่าอาชีพนักเขียนมันเสี่ยงและไม่แน่นอน พอลองผิดลองถูกมานานแล้วประสบความสำเร็จขึ้นมา เกิดดังขึ้นมา นั่นแหละเขาค่อยมาเริ่มคิดจริงๆจังๆว่าจะทำเป็นอาชีพ


โลกของเราตอนนี้โอกาสมันเปิดกว้างขึ้นเยอะพอสมควรครับ การหารายได้จากงานเขียนมันไม่จำเป็นต้องผ่านสำนักพิมพ์เหมือนแต่ก่อนแล้ว แต่มันก็ปฎิเสธไม่ได้หรอกว่าการที่นิยายได้พิมพ์เป็นรูปเล่มคือจุดหมายสูงสุดอย่างหนึ่งของนักเขียน


ข้อมูลในอินเตอร์เน็ตมันก็พอมีให้สืบค้นอยู่ ยกตัวอย่างในเว็บ Dek D ปีที่แล้วนักเขียนที่มีรายได้มากที่สุดซึ่งขายผ่านช่องทางออนไลน์ของเว็บนี้เว็บเดียวมีรายได้ 800,000 กว่าบาท ซึ่งผมคิดว่ามันมากพอนะครับที่จะเรียกได้ว่าทำเป็นอาชีพแล้ว ถ้าไม่ยึดติดอยู่กับการทำเป็นรูปเล่มและส่งสำนักพิมพ์ ทำเป็น Ebook ขายก็มีรายรับเข้ามาได้ทุกเดือน หรือลงเป็นนิยายรายตอนขายผ่านเว็บอื่นๆยกตัวอย่าง Fic ก็สามารถที่จะเบิกเงินออกมาได้เลยในสามวัน [ตามใจเราว่าจะเบิกเท่าไหร่แต่มีค่าทำรายการ 30บาทต่อครั้งนะ ยอดเบิกขั้นต่ำ 500]

ยกตัวอย่างผมเขียนแนวแฟนตาซีต่อสู้คล้ายๆมังงะ ช่วงที่ติดตลาดแล้วลงหนึ่งตอนถ้าเก็บเงินก็จะมีรายได้ประมาณ 1500--2500 บาทครับ ขึ้นอยู่กับความนิยม ถ้าเราขยันลงวันละตอนเดือนละ 6-7 หมื่นทำได้และเบิกเงินออกมาได้ทันทีไม่ต้องรอ ผมก็ไม่แน่ใจว่าแนวอื่นจะขายรายตอนได้เหมือนตลาดแฟนตาซีไหมแต่ผมก็มีเห็นแนววายขายดีเป็นเทน้ำเทท่าอยู่นะครับ ผมไม่ได้บอกว่าสำนักพิมพ์ไม่ดีแต่ยิ่งเป็นนักเขียนใหม่ที่ไม่มีเส้นสายหรือไม่มีลู่ทางมากยิ่งต้องไม่จำกัดตัวเองอยู่กับแค่ช่องทางเดียว ยกตัวอย่างผม ถ้าผมยึดติดกับสำนักพิมพ์ ยึดติดกับแนวคิดที่ว่านิยายต้องส่งสำนักพิมพ์เท่านั้น ผมก็คงไม่ได้มานั่งเขียนนิยายเหมือนตอนนี้ เพราะนิยายของผมคุณภาพมันอาจจะยังไม่พอผ่านในสายตาของสำนักพิมพ์ หรือมันไม่ในแนวที่ตลาดหนังสือต้องการแต่มันยังมีความต้องการอ่านในตลาดออนไลน์จากกลุ่มคนที่เขาไม่ค่อยซื้อหนังสือหรือเข้าร้านหนังสือครับ

0
เวิ่นเว้อ 9 มี.ค. 63 เวลา 10:36 น. 4

บางคนใช้เวลาเขียน สามเดือนต่อเรื่องค่ะ. นั่นแปลว่าปีหนึ่งสี่เรื่อง(บางคนมีงานประจำทำด้วย แต่จัดสรรเวลาได้. ส่วนหกเดือนเรื่อง. น่าจะสำหรับคนที่มีงานประจำนะคะ


แต่รวมๆแล้ว. รายได้สะสมไปตามจำนวนเรื่องค่ะ

0
ทิตภากร : กันต์ระพี 9 มี.ค. 63 เวลา 11:31 น. 5

ไม่ได้เขียนนิยายเป็นอาชีพ(แล้ว)ค่ะ แต่ขอตอบจากประสบการณ์แล้วกัน


สำหรับนักเขียนที่มีสนพ.ต้นสังกัดจะได้รับการจองงานเป็นส่วนใหญ่ค่ะ โดยเฉพาะพวกที่มียอดขายอันดับต้นๆ อาจเป็นสัญญาใจปากเปล่าเชิงขอกันว่าต้องส่งต้นฉบับให้ทางสนพ.ปีละกี่เรื่องก็ว่าไป ดังนั้นนักเขียนพวกนี้จะเสียเวลาแค่ช่วงเขียนงานเท่านั้นค่ะ ซึ่งต้องปั่นกันหูดับตับไหม้ เนื่องจากการตีพิมพ์มีการจัดล็อกไว้แล้ว ไม่ต้องรอเหมือนพวกหน้าใหม่ที่ต้องคอยลุ้นและเสียเวลารอผลพิจารณา แล้วไหนจะรอการตีพิมพ์อีก


ส่วนตัว...เคยเขียนปีละ 5 เรื่องมาแล้วค่ะ เร็วสุด/เรื่องใช้เวลาเขียนเดือนครึ่งค่ะ ส่งต้นฉบับและออกตีพิมพ์ใน 14 วันเพื่อให้ทันงานสัปดาห์หนังสือ

เรื่องการเบิกจ่ายของสนพ. ปกติจะจ่ายค่าต้นฉบับหลังหนังสือวางจำหน่าย 30 วันค่ะ จะกินเปอร์เซ็นต์ เหมาจ่าย/เรื่อง หรือสำรองจ่ายกี่เล่ม อันนี้เป็นไปตามข้อตกลงค่ะ

สำหรับสนพ.ตั้งแต่ระดับกลางขึ้นไป บางสนพ.อะลุ้มอล่วยให้นักเขียนสามารถเบิกค่าต้นฉบับก่อนได้ หรือจ่ายค่าต้นฉบับให้หลังทำสัญญากันก็มีค่ะ แต่เป็นรายๆ ไปนะคะ ไม่ใช่ทุกคน

0
varunyanee 9 มี.ค. 63 เวลา 12:35 น. 6

เข้าใจเหมือนที่คุณบอกแหละ

เราเลยไม่ได้มุ่งเป้าไปที่ทำหนังสือเป็นเล่มกับ สนพ.

เราขายที่เด็กดี กับที่ meb เท่านั้น ....

รายได้.....ว่ากันเป็นรายปีดีไหม

เราแต่งแนวหวานแหวว ...เอาจริงๆไม่ใช่แนวฮิตแบบ วายกับจีนนะ

พวกนั้นเขาได้กันหลักแสนขึ้นไป....ต่อปี

ปีที่ผ่านมาเราได้ 70,000 บาท บางเดือนได้ 3,000 บางเดือนได้ 8,000 ...เอาแน่ไม่ได้

เป็นเหตุให้เรามานั่งน้ำตาตกตอนนี้ ..... //ฉ้านนนนต้องเสียภาษีเพิ่มอีก 7000+++ TT

10
Miran/Licht 9 มี.ค. 63 เวลา 12:40 น. 6-1

ขนาดเราว่างงานยังโดนหัก ณ ที่จ่ายทุกเดือนเลยค่ะ ตั้งแต่เปิดขายนิยายนี่ https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/yy-02.png

ทั้งที่ไม่ได้เยอะแยะอะไรแล้วยังโดนหักไปนี่นะ แถมกว่าจะได้คืน...ปีหน้านู่นแน่ะ // ทำหน้าเซ็งจิต

0
varunyanee 9 มี.ค. 63 เวลา 12:43 น. 6-2

เราโดนจากงานประจำ 15,000 มาเจอนี่อีก 7,000++ แล้วหักได้ทั้งหมดแค่ 10,000 เอง ......อยากร้องไห้ ....เสียดายตังค์อ่าาาาาา TT

0
TunKoB 9 มี.ค. 63 เวลา 13:02 น. 6-4

เจอหัก ณ ที่จ่ายหนักเหมือนกันครับ

0
Miran/Licht 9 มี.ค. 63 เวลา 13:29 น. 6-5

สมัยอยู่ที่ทำงานเก่านี่บริษัทจ่ายทั้งภาษี ทั้งประกันสังคมให้หมดเลยค่ะ มีแค่ถ้าเราอยากได้ภาษีคืนก็เตรียมเอกสารลดหย่อนภาษีไปให้ฝ่ายบัญชีเท่านั้นเอง

0
ทิตภากร : กันต์ระพี 9 มี.ค. 63 เวลา 13:53 น. 6-6

แวะมาหัวเราะคิกคักให้คนแถวนี้หมั่นไส้เล่น


ดีใจ ปีที่ผ่านมา...ไม่เสียภาษีเพิ่ม แล้วยังได้เงินคืนอีก ลั๊นลาๆๆๆๆๆๆ


https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-13.pnghttps://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-06.pnghttps://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-07.png

0
varunyanee 9 มี.ค. 63 เวลา 14:24 น. 6-7

TT ย้ายไปให้ทายาทรับเงินแทนดีไหมเนี่ย ปีนี้แนวโน้มน่าจะหลักแสน

0
ทิตภากร : กันต์ระพี 9 มี.ค. 63 เวลา 16:03 น. 6-8

แนะนำ...e-bookให้คนอื่นรับแทนสิเอมี่ คนในครอบครัวที่ไว้ใจได้น่ะ พ่อแม่พี่น้องที่ไม่มีรายได้ หรือรายได้น้อย กระจายๆ จะได้เงินคืนด้วยไง

(อุ๊ปส์ เค้าไม่ได้บอกให้เลี่ยงภาษีนะ ไม่ได้พูดดดดด) https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/bb-11.png

0
lilin4646 9 มี.ค. 63 เวลา 19:54 น. 7

อ่า ทำยังไงเหรอครับ เริ่มจากสำรวจตัวเองก่อน (1.) คุณเขียนหนังสือได้กี่เล่ม/ปี (2.) สำนักพิมพ์ที่ตีพิมพ์หนังสือให้คุณได้กี่เล่ม/ปี ถ้า (1.)-(2.) = 0 คุณก็ไม่ต้องคิดมาก เขียนส่งสนพ. ไปเรื่อยๆ ก็ได้ แต่ผมไม่แนะนำจริงๆ ความเสี่ยงมันสูงเพราะ "ถ้าวันนึง สนพ. ที่คุณส่งไม่รับงานคุณแล้วจะทำยังไง" ถ้าเป็นไปได้ผมอยากให้คุณเขียนนิยายได้มากกว่าที่ สนพ. ตีพิมพ์ให้ได้จะดีกว่า ตรงนี้จะเป็นรายได้ A

ถ้า (1.)-(2.) > 1 ผมมองว่าแบบนี้จะมีความยั่งยืนในอาชีพนักเขียนมากกว่าแบบแรก โดยเราเอาหนังสือที่เหลือมาทำขายเอง จะเป็น E-book หรือทำมือขายก็ได้ ถ้าไม่รู้จะทำ E-book ยังไงให้อีเมล์ไปถาม meb เลยครับ เขามีทีมงานทำให้ฟรี ตรงนี้จะเป็นรายได้ B จากนั้นแบ่งรายได้ที่จะได้ออกเป็นสองส่วน A - รายได้จากค่าลิขสิทธิ์หรือจะมาเป็นก้อนเดียวจบ B - รายได้จาก E-book ตรงนี้ต่อเดือนค่อนข้างแน่นอน แต่จะลดลงช้าๆ ถ้าไม่ออกเล่มใหม่ ดังนั้นผมสรุปว่าต่อให้คุณออกหนังสือกับสำนักพิมพ์ได้ คุณก็ควรทำ E-book ของตัวเองควบคู่กันไปด้วยครับ มันอาจจะได้ไม่มากนัก แต่ตอนที่คุณมีงานพิมพ์กับสำนักพิมพ์อยู่ คุณจะได้แรงโปรโมทจากสำนักพิมพ์ด้วยส่วนนึง ที่เหนื่อยน้อยกว่าทำเองโดยไม่พึ่งอะไรใครเยอะครับ แต่ก็ต้องพิจารณาด้วยนะครับว่า A+B มันพอเลี้ยงชีพไหม ถ้า 1 เดือนมีเงินเหลือเก็บสัก 10% ของรายได้ทั้งหมดก็โอเคแล้ว

ผมเขียนนิยายได้ปีละ 6 เล่ม ส่งสำนักพิมพ์ปีละ 2 เล่ม ทำมือเอง 3 เล่ม อีก 1 เล่มเผื่อไว้กรณีพิเศษเช่น ตันจนเขียนนิยายไม่ออก มีสำนักพิมพ์หน้าใหม่มาขอต้นฉบับ ป่วย ไม่สบาย อะไรพวกนี้อีก รายได้ก็พอเลี้ยงครอบครัวได้ครับ

4
ม่านฝน 10 มี.ค. 63 เวลา 09:19 น. 7-1

งั้นถ้าจะเขียนต้นฉบับส่งตีพิมพ์กับสนพ.และเขียนส่งอีบุ๊คแบบสลับกันไปจะโอเคมั้ยคะ อย่างเดือนนี้เขียนต้นฉบับให้สนพ.และเดือนหน้าก็เขียนสำหรับขายอีบุ๊คแบบนี้

0
lilin4646 10 มี.ค. 63 เวลา 16:44 น. 7-2

ได้ครับ อย่าไปคิดมาก หลักคือต้องมีรายได้หลายๆ ทางไว้ครับ

0
TunKoB 10 มี.ค. 63 เวลา 17:55 น. 7-3

ระวังด้วยนะครับ ถ้าเรื่องเดียวกันผมเห็นบางสำนักพิมพ์เขาไม่รับต้นฉบับที่ผ่านการเผยแพร่มาก่อนนะครับ

0
KKK 14 มิ.ย. 65 เวลา 15:49 น. 8

เราว่ายากเพราะวัฒนธรรมการอ่านในไทยไม่ค่อยแข็งแรง จำนวนคนอ่านน้อย ทำให้คนซื้อน้อยตาม ทำ Ebook ได้ แต่รายได้ก็จะมีจุดพีคช่วงหนึ่ง (ช่วงที่อัพบ่อยๆ) พอหนังสือจบรายได้ก็จะค่อยๆลดลง แต่ถ้าคุณได้ภาษาสามารถแต่งภาษาจีนหรืออังกฤษได้ รายได้อาจเพิ่มขึ้นอย่าก้าวกระโดด เพราะฐานคนอ่านหลังสือสองภาษานี้มีจำนวนมากกว่าภาษาไทย


ต้องขยันแต่งรื่องใหม่หาฐานแฟนคลับเพื่อให้ขายเรื่องเก่าๆ ได้ ส่วนมากเราเห็นคนทำเป็นงานเสริมมากกว่างานประจำ ใครยึดอาชีพนักเขียนเป็นงานหลักได้ บอกเลยว่าเก่งมาก

0