Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ประสบการณ์ GIFTED ENGLISH จาก GE4 ปีการศึกษา 2562

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่


ก็ สวัสดีค้าบ c6c6n6t ค้าบ วันนี้มาในหัวข้อการศึกษาเหมือนเดิม 5666555555 เขียนใหม่ สดๆร้อนๆเผื่อมันจะช่วยน้องๆในการตัดสินใจสอบห้องพิเศษนะค้าบ 


ห้องพิเศษสำหรับสายภาษา-ภาษาก็จะมีสองห้องด้วยกันเนอะ กิฟท์ไทย เเละ กิฟท์อังกฤษ (ภาษา-คณิตก็สอบได้นะ!)


ข้อมูลดีๆสำหรับกิฟท์ไทยในนี้เลยค้าบ!!  

https://www.dek-d.com/board/view/3965133/


ก็.... กิฟท์อังกฤษเนอะ มาเริ่มจากขั้นตอนเเรกกัน!


****มีการเปลี่ยนเเปลงกำหนดการค้าบ****


  1. การสมัคร การสอบคัดเลือก เเละกำหนดการต่างๆในปีการศึกษา 2562 ขอย้ำนะคะ ปีที่เเล้ว ไว้ดูเป็นเเนวทางค่ะ!!


ขออนุญาตเเปะข้อมูลจากบอร์ดที่เเล้วนะค้าบ ยังไม่อ่านไปอ่านได้ค้าบ อุอิ (https://www.dek-d.com/board/view/3919304/)



ห้องกิฟท์นี่มีทั้งหมด 4 วิชาหลักๆ 


วิทยาศาสตร์ มีสาขาย่อยให้นักเรียนเลือกเรียนตามความสนใจ (??) 


ข้อมูลดีๆเกี่ยวกับกิฟท์วิทย์อันนี้เลยค้าบ!!

https://www.dek-d.com/board/view/3965431/


คณิตศาสตร์

ภาษาไทย

ภาษาอังกฤษ


หากนักเรียนคนไหนสนใจก็จะต้องมาฟังบรรยายว่าเเต่ละห้องเป็นอย่างไร จะได้ตัดสินใจว่าชอบมั้ยเเละสมัครสอบคัดเลือกในวันที่ 18 มีนาคม 2562 (วันหลังรายงานตัว

แสดงความคิดเห็น

>

3 ความคิดเห็น

c6c6n6t 14 มี.ค. 63 เวลา 20:27 น. 1

คุณสมบัติผู้ที่สมัครกิฟท์อังกฤษได้!

- ปีนี้มีเเค่ ศิลป์-ญี่ปุ่น, ฝรั่งเศส, เยอร์มัน เเละคำนวนที่สมัครได้ (ศิลป์เหล่านี้มีรับรอบโควตา ปีหน้าน่าจะสลับกันนะ!)

- เกรด Eng 5 เทอมมากกว่า 3.5 

- เกรด 5 เทอมมากกว่า 3.25

- ไม่ไปเป็นนักเรียนเเลกเปลี่ยนระยะยาวในช่วง ม.4 - ม.5

เอกสารที่ต้องใช้สมัครกิฟท์อังกฤษมี...

- ภาพนักเรียน 2 นิ้ว (รู้สึกว่าใช้ได้อีกขนาดนึง 1 นิ้วถ้าจำไม่ผิด)

- ใบเกรดเฉลี่ย 5 เทอม (ปพ.7??? สำเนานะ!)

- บัตรประชาชน/บัตรนักเรียน

เมื่อตัดสินใจได้ว่าจะสมัครก็ต้องไปรับเอกสาร กรอกให้เรียบร้อยเเล้วพี่ๆก็จะตรวจเกรดให้! เเล้วก็ไม่ต่อเเถวต่อไปเพื่อตรวจเอกสาร ตรวจเอกสารเสร็จเเล้วก็จะต้องไปกรอกข้อมูลในคอมอีกรอบนึงจะ 555 กดส่งเเล้วก็จะเป็นอันเสร็จ! คืนนั้นน้องรอรับเมลล์ด้วยนะ 5555 พี่ไม่ได้เช็คเลยไม่ได้อ่าน ในเมลล์บอกสถานที่สอบ เวลา เเละเอกสารที่ใช้จะ กิฟท์อังกฤษ เหมือนกิฟท์อื่นๆ มีสอบสองรอบ คือข้อเขียนกับสัมภาษณ์

วันต่อไป ( 19 มีนาคม 2562 ) ก็ไปสอบข้อเขียน ปีนี้มีผู้สมัครทั้งหมด 119 คน ไปถึงสถานที่สอบเเล้วก็ไปเช็ครายชื่อกับที่นั่งสอบค่ะ สอบตั้งเเต่ 8:30 - 11:30 เอ่อ.... ทีนี้ก็เเนวสินะ...

- Essay 1 หน้ากระดาษค่ะ ปีนี้เรื่องเกี่ยวกับว่าถ้าหากเทคโนโลยีมาเเทนที่คุณครูที่เป็นมนุษย์มีข้อดีข้อเสียอย่างไร

- Grammar

- Listening

- Reading

 

พี่ขอโทษ พี่จำเเนวไม่ได้เลย 5555 เเต่ listening น้องห้ามสติหลุดนะ เพราะบางส่วนจะเปิดเเค่รอบเดียว พอสอบรอบข้อเขียนเสร็จก็รอประกาศผลค่ะ จะประกาศช่วงบ่ายวันนั้น ประมาณ 4 โมงนะคะถ้าจำไม่ผิด เหลือ 46 คน (+- เน่อ) ตอนผลออกพี่เดินเลือกหนังสืออยู่ เเล้วเลื่อนเร็วเกิน หาชื่อตัวเองไม่เจอ 5555 พอมีชื่อเเล้วก็รอสอบรอบต่อไป คือรอบสัมภาษณ์ รอบนี้ต้องใช้ Portfolio (ไม่เตรียมไปก็ไม่เป็นไรนะ! กิฟท์นี้ไม่เครียด)

วันสอบสัมภาษณ์ (20 มีนาคม 2562) พี่ไปถึงประมาณ 7 โมงกว่าๆ ได้คิวที่ สิบกว่าๆ มั้ง 555 ความจำสั้นมาก เเล้วสัมภาษณ์นี่ไม่เร็วนะ ถ้าน้องอยากเสร็จเร็วๆน้องไปเช้าๆ จะได้คิวเเรกๆ เเต่ไปช้าหน่อยก็หนุกดีนะ พี่ๆกิฟท์อังกฤษมาเล่าเรื่องต่างๆให้ฟัง + ให้คำเเนะนำ พี่ๆน่ารักมาก

คำถามที่ถามก็ทั่วๆไปนะคะ เเนะนำตัวเอง etc. คำเเนะนำจากพี่นะน้อง ไม่ต้องกังวล ไม่มีพอร์ตก็ช่างมัน (พี่เตรียมไปเพราะพี่ว่างจัด 5555) ทำตัวเหมือนมีความมันใจในตัวเองโดยยังคงความเป็นตัวของตนเองไว้อะน้อง สนใจเรื่องการเรียนในห้องเรียนกิฟท์ เรื่องภาษากายต่างๆก็ ยิ้ม หลังตรง ไม่พูดคนเดียว พูดให้ท่านกรรมการได้ยิน ใช้มือ (??5555) ที่สำคัญคือไม่หลบตากรรมการ มีบุคลิกโอเค เเค่นั้นก็โอเคเเล้ว! สัมภาษณ์เสร็จก็โล่งไป! คราวนี้ประกาศผลในเว็บโรงเรียนอีกครั้ง ช่วงค่ำๆเย็นๆ พี่เล่นเกมอยู่ 555555 เห็นชื่อเเล้วก็โล่งใจไปอีกรอบนึงค่ะ สรุปเเล้วมีนักเรียน 36 คนนะ (+- เหมือนเดิมนะจ๊ะ)

รายงานตัววันต่อไปค่ะ (21 มีนาคม 2561) กิฟท์อังกฤษรู้สึกว่าไม่ต้องใช้เอกสารอะไรเเล้วนอกจากบัตรประจำตัวประชาชน ไปลงชื่อเเล้วก็ฟังอาจารย์อธิบายเรื่องต่างๆ เช่นหนังสือนอกหลักสูตร การเเลกเปลี่ยน ค่ายต่างๆ กิจกรรม etc. 

____________________________________________________________________________________

2. การเรียนการสอน

ที่เด่นๆคือต้องเเยกมาเรียนในคาบภาษาอังกฤษหลักเเละอ่านเขียนค้าบ เรียนกับอาจารย์ต่างชาติสองท่านเเละอาจารย์ไทยอีกหนึ่งท่านเนอะ บรรยากาศในห้องค่อนข้างชิลล์ เรื่องที่เรียนก็จะนอกหลักสูตรค่ะ เช่น การใช้ภาษาในวรรณกรรม องค์กรต่างๆ ปัญหาโลก เป็นต้น นักเรียนทุกคนต้องอ่านหนังสือนอกเวลานะคะ ของ GE มีปีการศึกษาละ 3 เล่มเนอะ ปีเรามี Percy Jackson, The Giver เเละ Lord of the flies ค้าบ! (เเล้วก็ เเอบได้ยินมาว่าในปีต่อไปจะเปลี่ยนหนังสือด้วย รอดูไปค้าบ!)

3. การสอบ

เนื่องจากเรียนไม่เหมือนกัน ข้อสอบก็คนละชุดกันเนอะ! ก็ เราชอบที่ว่าข้อสอบ GE ไม่เน้นท่องจำค้าบ จะเน้นการคิดวิเคราะห์ซะมากกว่า!

4. ค่าย!

GE4 ก็จะมีค่ายหลักๆสองค่ายนะคะ คือค่ายกิฟท์กับค่ายภาษาอังกฤษที่เราจะได้ช่วยจัดกันช่วงปิดเทอม เป็นโอกาสที่ดีที่จะได้สะสมประสบการณ์เเละพัฒนาตัวเองด้วย!

กิฟท์อังกฤษไม่ได้ให้เเค่เนื้อหาในหนังสือนะคะ ได้เพื่อนเพิ่มเพราะเพื่อนๆที่มาเรียนด้วยกันก็มักจะมาจากคนละสายกันค่ะ

เอาเป็นว่า สงสัยอะไรเพิ่มเติมก็ถามได้เลยนะคะ!!!!

0
... 14 มี.ค. 63 เวลา 20:54 น. 2

ช่วยยกตัวอย่างการเขียน essay ให้หน่อยได้ไหมคะ? หนูอยากรู้ว่าควรจะเขียนประมาณไหน เขียนยังไงอ่ะค่ะ

1
c6c6n6t 15 มี.ค. 63 เวลา 12:05 น. 2-1



ขอบคุณคำตอบดีๆจากพี่บุ๊คนะค้าบ! สงสัย หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ไปคุยกับพี่บุ๊คได้ในวันที่ 19 เเละ 20 มีนาคม 2563 นะค้าบ (ถ้าไม่มีการเปลี่ยนเเปลง) + เราขอเเนะนำให้อ่านท่อน Eng นะค้าบ


There are 3 major parts that make up an essay: thesis (introduction), the body, and the conclusion


- Thesis (introduction) is like an introduction summarizing what you're going to write about, what question you're going to answer, or why are you talking about the matter. It doesn't have to be in 1 paragraph but it depends on the length of the essay. Thesis can be written like a narrated story with examples. It shouldn't be explain like "we're going to talk about xxx..." but something along the line of "xxx have been a part of our history since..." etc


- คำนำเป็นเหมือนกับ 'สรุป' ของเรื่องที่เรากำลังจะเขียน, *คำถามที่เรากำลังจะตอบ หรือให้เหตุผล จะมากกว่า 1 ย่อหน้าก็ได้ เเล้วเเต่ความยาวของเรียงความ จะเขียนคำนำให้เป็นเหมือนการบรรยายเรื่องราวก็ได้ โดยที่ใส่ตัวอย่างต่างๆไว้ก่อน เเต่มันก็ไม่ควรจะน่าเบื่อ เช่นเขียนว่า "** เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์เราตั้งเเต่.." เเทนที่จะเขียนว่า "เราจะมาพูดเรื่อง **" เป็นต้น


- The body is the most important part, it will try to answer the questions you had or explain points for the reader. It should be supported by factual examples and not entirely opinionated. It can be worded differently, but tje body will have explained answers to your questions.


- เนื้อเรื่องสำคัญที่สุด ใช้ในการตอบคำถามหรืออธิบายเรื่องต่างๆให้กับผู้อ่าน จะต้องมีหลักฐานหรือรับรองจากข้อมูลที่ถูกต้องเพื่อเพิ่มความหน้าเชื่อถือ การใช้สำนวนภาษาสำคัญมากในส่วนนี้ สรุปก็ เนื้อเรื่องคือการอธิบายคำตอบของคำถาม


- The conclusion summarizes your entire writing, but in contrast to the introduction, a conclusion will not talk about the questions but will summarize the answers or points you've made, plus it is where 'the moral of the story' go. (Note: the moral of the story can be your opinion or proposed way to act if it's a problem, just don't get too much unrealistic and propagating.)


- สรุปก็... สรุปที่เขียนมาทั้งหมด เเต่ต่างกับคำนำตรงที่ว่าเราจะไม่กล่าวถึงคำถามเเล้ว เเต่จะสรุปเรื่องที่เราอธิบาย เเล้วก็ ใส่ข้อคิดไว้ตรงนี้เลย (เพิ่มเติม : ข้อคิดจะเป็นความคิดเห็นของเราหรือวิธิเเก้ปัญหาก็ได้ เเล้วเเต่หัวข้อ เเค่อย่าเพ้อหรือทำให้มันเหมือนการเผยเเผ่ศาสนามากไป)

เพิ่มเติมจากพี่บุ๊ค : อันนี้คือพื้นฐานสุดๆนะค้าบเเล้วก็ ขอให้โชคดี!

0
มีคำถาม 16 มี.ค. 63 เวลา 13:55 น. 3

สงสัยครับว่า ห้องgiftมันต่างจากห้องธรรมดายังไงเหรอครับ? ความพิเศษกว่าของมันคืออะไรครับ? แล้วการมีห้องgiftมันคือการเพิ่มห้องในระดับชั้นขึ้นมา1ห้อง(ตามสายการเรียน?) หรือว่าไปจับหาห้องสายการเรียนที่มีอยู่แล้วมาปรับเป็นห้องgiftครับ?

2
c6c6n6t 16 มี.ค. 63 เวลา 17:28 น. 3-1

สวัสดีค้าบ! อันนี้ก็เเล้วเเต่นะค้าบว่าเป็นกิฟท์อะไร ความเเตกต่างหลักๆก็จะอยู่ที่เนื้อหาที่เรียนเเละกิจกรรมที่ร่วมเพิ่มเติมค้าบ เช่น เนื้อหาในบางส่วนอาจลึกกว่าหรือเป็นการต่อยอด เเละกิฟท์ทุกกิฟท์จะมีค่ายค้าบ


ส่วนในเรื่องห้องเรียน ถ้าหากเป็นกิ๊ฟท์ที่เรียนในตารางเช่นกิฟท์อังกฤษ กิฟท์วิทย์ กิฟท์คณิต นักเรียนก็จะมาอยู่รวมกันในห้องเดียวกันเพื่อความสะดวกในการจัดตารางเรียนค้าบ ส่วนกิฟท์ไทยที่เรียนนอกตารางก็มักจะอยู่คละห้องกันค้าบ กิฟท์วิทย์มีนักเรียนมาจากสายเดียวกันก็จะเเบ่งเป็นห้องสำหรับกิฟท์นั้นๆไปเลย ('จับหาห้องสายการเรียนที่มีอยู่แล้วมาปรับเป็นห้อง gifted') สำหรับกิฟท์อังกฤษที่มีนักเรียนคละสาย ในสายที่มีนักเรียนกิฟท์ก็จะมีห้องที่รวมนักเรียนกิฟท์ไว้ด้วยกัน (ไม่จำเป็นต้องกิฟท์ทั้งห้อง ; เพื่อความสะดวกในการจัดตารางเรียน) ถ้าหากตอบไม่เข้าใจตรงไหนขอโทษล่วงหน้าค้าบ ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมจะมาอัพเดทนะค้าบ

0
c6c6n6t 16 มี.ค. 63 เวลา 20:33 น. 3-2

อันนี้ส่วนของกิ๊ฟท์วิทย์นะค้าบ จากพี่ Heart!


1. แยกห้องครับ เป็นห้อง GS เลย

2. ความพิเศษคือ คาบที่สายอื่นเรียนภาษาที่ 2 เราเรียนวิทย์กันเพิ่มตามสาขา ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา และโครงงาน (ม.4-5)

3. มีกิจกรรมที่พิเศษกว่าห้องอื่นเช่น ไปดูงานภายนอก(ทั้งในและนอกประเทศ) ค่ายกิฟต์วิทย์

0