How to เขียนอย่างไรให้นิยายจบ
ตั้งกระทู้ใหม่
คุณต้องการจะลบกระทู้นี้หรือไม่ ?
21 ความคิดเห็น
-คิดตอนจบไว้แล้ว
-ไม่เทเมื่อเขียนโมเม้นต์ที่อยากเขียนเสร็จ
-เข็นตัวเองเมื่อถึงตอนเชื่อมพล็อตที่ไม่มีฉากเด็ดเป็นเชื้อเพลิงให้ฟิน
.
จริงๆเยอะ แต่สำหรับเรา ส่วนตัวแล้วเน้นสามข้อนี้ก่อน 5555555
ขอบคุณนะตัวเอง
เขียนเมื่อนานมาแล้วค่ะ ไม่รู้ว่าตอบคำถามไหม แต่เป็นไอเดียค่ะ
<บทความ> "การเขียนจบ" ทักษะที่นักเขียนมือใหม่มองข้าม
https://www.dek-d.com/board/view/3831383/
ขอบคุณมากค่ะ
ตอนเราอยู่ ม.2 เรามีพล๊อต มีกลางเรื่อง แต่ดำเนินต่อเป็นฉากๆไม่ได้ และทำให้จบไม่เป็น
พอเราเรียนระดับปริญญาตรี .....เราทำได้ทั้งหมด ตั้งแต่ เริ่มเรื่อง การดำเนินเรื่อง และการสรุปปิดเรื่อง // อยู่ที่การเรียนรู้
ปัจจุบันเราถึงชื่นชมน้องๆมัธยมที่แต่งนิยายจบ แถมได้เงินค่าขนมด้วย ...สุดยอด
แต่เอาจริงๆสมัยนี้เด็กเขาทำโครงการแล้วนะ การทำ IS ช่วยเด็กได้เยอะ
อีกเรื่องที่ช่วยได้ คือการอ่านบ่อย
เรื่องสั้นกับเรื่องยาว บางเรื่องโครงสร้างคล้ายกัน
บางเรื่อง มีแค่เนื้อหาที่อยากนำเสนอ
เอาจริงๆวิธีการนำเสนอสำคัญนะ แม้ว่าพล๊อตเรื่องจะคล้ายกัน
ขอบคุณค่ะ
อย่าขี้เกียจ วาดตอนจบในใจให้ชัดเจน และมีสมาธิค่ะ
ขอบคุณค่ะ
จะให้แนะนำอะไร? ก็มันอยู่ที่ตัวคุณเองที่ไม่อดทนพยายาม
ผมก็ไม่รู้จะแนะนำคนขี้เกียจให้ขยันได้ยังไง? บางคนโลเลไม่หนักแน่นก็ไม่รู้จะไปบอกแนะนำเขาได้ยังไงเหมือนกัน? มันก็เหมือนกับเราต้องบังคับตัวเองให้ได้ คำตอบมันก็มีแค่นั้น การเขียนไม่มีทางลัด
เขียนนิยายเปิดเรื่องมันง่ายเพราะไอเดียมันผุดขึ้นมาตลอด ไปอ่านการ์ตูนมาก็ไปรับอิทธิจากพลอตมาเขียนเริ่มเรื่องได้ ไปอ่านนิยายมาเออสนุกดีก็ขโมยแนวคิดเขามาเปิดเรื่องได้เหมือนกัน ขโมยไอเดียคนอื่นมาเปิดเรื่องมันง่ายนะบางที [เรียกอีกอย่างมันคือแรงบันดาลใจมั้ง] แต่การจะคิดแต่งต่อจนจบความยากมันคนละเรื่องกับการเอาไอเดียมาเปิดเรื่องเลย เพราะแบบนั้นจิตใจของคุณมันเลยหลีกหนีความยากลำบากโดยไม่รู้ตัวแล้วไปเปิดเรื่องใหม่เรื่อยๆ เพราะมันง่าย สบาย สนุก ไม่เหมือนกับการที่ต้องมานั่งคิดเนื้อหาหรือต้องมานั่งเชื่อมข้อมูลเพิ่มเข้าไปในเรื่องเก่าซึ่งระดับความยากมันจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ถ้าอยากจะบังคับตัวเองเขียนให้จบให้ได้ ก็คิดให้เยอะ พยายามให้มาก อ่านเยอะๆ อย่าขี้เบื่อ อย่ายอมแพ้ง่าย ประมาณนี้จริงๆครับ ถ้านึกภาพไม่ออกการบังคับตัวเองให้แต่งนิยายเรื่องยาวให้จบมันยากพอๆกับการบังคับตัวเองให้ทำงานหรืออ่านหนังสือสอบเลยนั่นแหละ [ซึ่งผมเองก็ยังทำไม่สำเร็จ 5555]
เอาซะเห็นภาพเลย555ขอบคุณมาก
นิยายต้องดีเลิศประเสริฐศรีมากพอที่เราจะอยู่กับมันไปจนจบ
แปลง่าย ๆ ก็คือ ไม่มีนิยายเรื่องไหนในหัว (ที่คิดได้ในอนาคต) จะดีไปกว่าเรื่องที่กำลังแต่งอยู่
พูดเหมือนง่าย แต่การคิดนิยายที่ยากจะหาใครเทียบได้ (เอาแค่นิยายของตัวเอง) มันแทบเป็นไปไม่ได้เลย สุดท้ายก็จะมีเรื่องใหม่ที่น่าตื่นเต้น น่าสนใจกว่าปรากฎขึ้นมาอยู่ดี
มันจึงต้องรอ... รอจนกว่าเราจะแน่ใจว่าเรื่องนี้ดีที่สุด และจะไม่มีเรื่องใดดีกว่านี้ แล้วจึงค่อยแต่ง เชื่อว่า ปัญหาเปิดเรื่องใหม่อยู่เรื่อย ๆ จะลดลง
ต้องเลือกแฟนที่ดีที่สุด ไม่ใช่เลือกคนที่อยู่ใกล้มือที่สุด เพราะมันจะมีปัญหาได้ในอนาคต
ก็ประมาณนั้น
ขอบคุณมากจ้ะ
พึ่งเขียนจบกับเขาหนึ่งเรื่องค่ะ อดทนมา 4 ปี จบพอดี
อย่างแรก ที่ต้องมีก็คือจุดหมายปลายทางของเรื่องค่ะ
หลายๆ คน มักจะแต่งนิยาย โดยคำนึงถึงแค่จุดเริ่มต้นว่าฉันจะเขียนแบบนี้ แต่ไม่เคยคำนึงถึงตอนจบเลย ว่าควรจะต้องให้จบยังไง เพราะงั้นก่อนจะเขียน ก็ต้องมี 3 ส่วนก่อน คือ ต้น > กลาง > ท้าย ค่ะ ต้องมีเนื้อหา 3 ส่วนนี้ค่ะ สำคัญสุดๆ เลย
เห็นด้วยอันนี้จะพยายามนะตัวเอง
ไม่รู้
ห้ามเล่นเกม, ห้ามติดซีรีส์, ห้ามคอมพัง
3อย่างนี้มาทีไรเขียนไม่จบสักที โดยเฉพาะอันหลัง ตอนนี้เรื่องที่ค้างชักจะเยอะกว่าเรื่องที่จบละ(ฮา)
ยากอยู่นะห้ามเล่นเกมส์ ห้ามติดซีรีย์ จะพยายามแล้วกันนะ
ไม่รู้จะแนะนำอย่างไร จึงอยากแชร์ประสบการณ์นะคะ
- เรื่องแรก จบเพราะคอมเมนต์ของคนอ่าน รู้สึกมีพลังงานเพิ่มขึ้น
- เรื่องต่อๆ มา บางเรื่องจบเพราะมีพล็อตวางไว้เป็นตอนๆ ตั้งแต่ต้นจนจบ แต่เรื่องนี้ค่อนข้างเถรตรงและครอบงำจินตนาการพอสมควร
- บางเรื่อง วางแค่พล็อตคร่าวๆ ตอนเริ่มต้นกับตอนจบแค่นั้น ระหว่างทางหาพลังงานจากคอมเมนต์และความรู้สึกในช่วงเวลาใดๆ
แต่ไม่ว่าทางเลือกไหน สิ่งที่ต้องมีคือ 'ความชอบ' ถ้าเราชอบนิยายตัวเองมากพอ ไม่มีเหตุผลเลยว่าทำไมเราจะไม่แต่งต่อให้จบ ยิ่งถ้าเราผูกพันกับตัวละคร เราจะยิ่งอยากเห็นตอนจบของเค้าในแบบที่เราพึงพอใจ
สู้ๆ นะคะ :)
ขอบคุณค่ะเราจะสู้นะ
แทงบอลออนไลน์ FIFA55
https://55fifabet.com/
การจะทำอะไรให้สำเร็จหรือเสร็จได้ เราว่ามันแค่ลงมือจริงๆ นะ การตื่นเช้ามาออกกำลังกายให้ได้ การเปิดหนังสืออ่านเตรียมสอบให้ได้ การลงมือเขียนนิยายให้จบ เป็นคนละเรื่องกันแต่ใช้หลักการเดียวกันเลยค่ะ คือ ลงมือทำทันที เดี๋ยวนี้ ไม่ใช่ เดี๋ยวก่อน อย่าให้สมองเกิดข้ออ้างผลัดมันออกไปเกิน 5 วินาที แม้จะขี้เกียจ แม้จะตันคิดไม่ออก ก็เปิดคอมขึ้นมาก่อน เปิดสมุดหยิบดินสอมาก่อนแล้วขยับนิ้วค่ะ แล้วหลังจากนั้นร่างกายและสมองมันจะดำเนินการโดยอัตโนมัติ แต่ค่ะ ในเวลาที่เรากำลังขี้เกียจ เฉื่อย เนือย ไม่มีอารมณ์แต่ง มันออกมาได้ไม่ดีหรอก แต่มาเกลาทีหลังได้ค่ะ ซึ่งได้ผลลัพธ์ที่แตกต่างจากผลัดไปเรื่อยรอขยัน รอมีอารมณ์แน่นอน
ปล.ยังแต่งไม่จบเหมือนกันค่ะ แต่มั่นใจว่าอีกสองสามตอนโดยประมาณจบแน่
ปล.สอง ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจนะคะ
ขอบคุณมากค่ะ
คิดตอนต้นและตอนจบไว้ก่อนครับ แล้วลงพล็อต กับทำเนื้อเรื่องย่อเอาไว้ จะช่วยได้ระดับหนึ่งครับ เราใช้วิธีนี้ แต่ที่ชอบคือคิดตอนต้นกับจบแล้วลงโครงเรื่องไม่ใส่เนื้อเรื่องย่่อ เพราะเรื่องในลงเรื่องย่อก็คือแต่งไม่จบตลอด เพราะมันดันจบในเรื่องย่อไปแล้ว 5555555
เป็นเหมือนกันบางครั้ง
ส่วนใหญ่เราจะวางแพลนของนิยายที่จะแต่งไว้ก่อนค่ะ
แหะแหะเราก็เป้นง่า
โครงเรื่องและพล็อตต้องชัดเจนครับ เอาแต่ความรู้สึกคันมือเขียนมันไม่สามารถปิดเรื่องได้
ตอบแบบไม่อ้อมค้อมเลยนะคะ พล็อตใหม่ที่เริ่มเขียนไม่มีเรื่องไหนเขียนจบสักเรื่องเลยค่ะ เราเลยเลือกเขียนแค่พล็อตที่น่าสนใจที่สุด และตอนนี้ก็ผ่านมาสองปีแล้ว เขียนได้แค่เจ็ดสิบเปอร์เอง รู้สึกเครียดเหมือนกันค่ะ
<a href="https://www.gclubmvp.com/" rel="nofollow">gclub</a>
<a href="https://www.doomovies-hd.com/" rel="nofollow">ดูหนัง</a>
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?