Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

รีวิวคณะแพทย์ 6 ปี สิ่งที่ต้องเจอถ้าอยากเป็นหมอ!!! Part1

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีครับน้องๆ ก่อนหน้านี้พี่เคยเขียนเกี่ยวกับประสบการณ์การสอบเข้าแพทย์ของพี่ไปแล้ว และจากตอนนั้นผ่านมาแล้ว3ปี ในที่สุดพี่ก็เปลี่ยนจาก นศ.พ. กลายเป็น นพ. ได้ในที่สุด เย่ๆๆๆ(น้ำตาจิไหลT^T) แต่กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย และความเป็นจริงมันก็ไม่ได้สวยหรูดูดีเหมือนในนิยายหรือละครเลยแม้แต่น้อย พี่เลยอยากจะมาขอแชร์ประสบการณ์ตลอด6ปีให้ฟัง ก่อนที่น้องๆจะตัดสินใจ เพื่อให้น้องๆได้ถามตัวเองอีกครั้ง ว่าเราอยากเรียนแพทย์จริงๆหรือเปล่า และได้เตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อม^^

ปล1.จะเป็นประสบการณ์การเรียนแพทย์ในโรงเรียนแพทย์แห่งหนึ่งเท่านั้น ซึ่งแต่ละที่ก็แตกต่างกันออกไป ดังนั้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคับ^^
ปล2. เนื่องจากเนื้อหาค่อนข้างยาว อาจตัดรายละเอียดบางอย่างออกไปบ้าง แต่รับรองว่าไม่พลาดจุดสำคัญๆแน่นอน
ปล3.นี่เป็นประสบการณ์มุมมองในฐานะคนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น ให้คนอื่นมาเล่าก็อาจได้คนละfeelingคนละประสบการณ์ครับ

>>ปี1 ชีวิตดี๊ดีย์ในฐานะ fresshy คณะแพทย์สุดปัง!!

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ทันทีที่เราสอบติดคณะแพทย์ เราจะกลายเป็นคนที่ทุกคนให้ความสนใจในทันที เป็นความรู้สึกที่ proud มากกกกก ให้ความรู้สึกแบบเป็น cerebrityคนดัง iเป็นnfluenzerคนสำคัญของโรงเรียน มีป้ายติดหน้าโรงเรียน ถูกเรียนเชิญขึ้นไปพูดหน้าเสาธงต่างๆ เป็นความรู้สึกที่แบบเหมือนเราตัวลอย หล่อขึ้นเป็นพันเท่าหมื่นๆเท่า และถึงแม้เราเข้าไปในมหาลัยก็จะยังเป็นที่ต้องตาต้องใจสนใจของใครๆหลายคน(ถึงแม้จะน้อยกว่าตอนม.หกก็ตาม) หลายๆคนอยากเรียนหมอ เพราะอยากมีช่วงเวลาแบบนี้ แต่!!พี่บอกเลยว่าความรู้สึกแบบนี้มันอยู่ได้แค่แปปเดียวเท่านั้นคับ555 เดี๋ยวสักพักทุกคนก็เบื่อก็ชิน เวลาผ่านไปรุ่นใหม่ๆก็จะมาและก็เป็นวัฏจักรแบบนี้ไปเรื่อยๆ ยิ่งในคณะเองถือว่าเป็นเรื่องธรรมดามาก เพราะทุกคนก็ปังเหมือนๆกัน5555 เพราะงั้นถ้าใครเคยเห็นรุ่นพี่เป็นแบบที่พี่ว่าแล้วอยากสอบหมอเพราะแบบนี้ ให้หยุดความคิดนั้นเดี๋ยวนี้เลย!!555

แต่ชีวิตปีหนึ่งดีมากๆจริงๆ(คิดถึงตัวเองตอนปีหนึ่งจัง555)

การเรียนปีหนึ่งไม่ต่างจากม.ปลายเลย คือเป็นการไปนั่งเรียนในห้อง พอเรียนเสร็จก็กลับหอ สบายกว่าม.ปลายด้วยซ้ำ เพราะอย่างเทอมแรกคือเริ่มเรียน 9 โมงเช้า และบางวันเลิกเที่ยงเลิกบ่ายก็มี วิชาที่เรียนเทอมแรกก็จะเป็นวิชาคณะวิทย์ พวกคณิต ฟิสิกส์ เคมี คนมีต้นทุนเก่าก็จะได้เปรียบหน่อย แต่ว่าไม่ต่างกันมากหรอกครับ และก็จะมีพวกวิชาสังคม ศิลปะ ให้เรียนสบายๆด้วย มันเริสมาก^^

พอเทอม2 จะเริ่มเหนื่อยหน่อย เพราะจะเริ่มเรียน"วิชาคณะ"ครับ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเป็นนักศึกษาแพทย์อย่างแท้จริง

พี่มีศัพท์ใหม่ให้น้องๆรู้จักคือ 1. คำว่า "blockหรือmodule" ก็คือวิชานั่นแหละครับ เวลาเรียนคณะแพทย์จะเรียนทีละวิชา พอเรียนจบก็จะสอบตัดเกรด แล้วก็เริ่มเรียนวิชาใหม่ต่อทันที ซึ่งจะมีสิ่งที่ขั้นระหว่างวิชาคือเสาร์อาทิตย์ให้หยุดพักหลังสอบเสร็จนั่นเอง ซึ่งเรามักจะเรียกว่าปิดเทอมสองวัน555 พอเรียนไปได้ประมานสองสัปดาห์เกรดของวิชาที่สอบไปก่อนหน้านี้ก็จะออก ชีวิตก็จะเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆจนจบปีหนึ่ง เวลาเรียนของแต่ละบลอคจะไม่เท่ากัน บางblockเรียนสามสัปดาห์สอบ เรียนสองสัปดาห์สอบก็มี จะแตกต่างกันไปครับ 

วิชาคณะที่ต้องเรียนในปีหนึ่ง จะมี biochemistry เรียนเกี่ยวกับกระบวนการระดับcell วัฏจักรต่างๆ kreb cycle การสันดาปน้ำตาล การสันดาปnucleotide ให้ได้พลังงานให้ได้ waste product ต่างๆ เป็นวิชาที่เนื้อหาเยอะอันดับหนึ่งในปีหนึ่งเพราะต้องมานั่งจำวัฏจักรต่างๆ จำ enzyme จำตัวตั้งต้นแล้วต้องจำ product อีก เห้ออออออออT^T เยอะแยะไปหมด// ต่อมาก็เรียนเกี่ยวกับ basic ของ cell องค์ประกอบต่างๆใน cell อวัยวะนี้ๆจะพบcellชนิดไหนหน้าตายังไง// เรียนเกี่ยวกับ genetics และ เทคโนโลยีต่างๆ เช่น การทำ pcr คืออะไร(ไม่ใช่ cprนะ) // เรียนเกี่ยวกับ embryo อันนี่ก็ยาก ต้องจำว่า embryo อายุกี่วันๆอะไรเจริญแล้วบ้าง อะไรเจริญเป็นอะไร และยังต้องเรียนเกี่ยวกับจิตวิทยาเบื้องต้นด้วย ซึ่ง มัน เยอะ มากกกกกกกก T^T 
คำที่ 2 ก็คือ " small group " เป็นการเรียนแบบกลุ่ม จะมีตัวอย่างเคสมาให้เป็น sceneๆ แล้วให้หารือกันในกลุ่ม และจะมีอ.ในห้องคอยนั่งฟังและคอยไกด์เราหากเราไปผิดทางและไม่ได้เรียนในสิ่งที่ควรรู้ เป็นการเรียนที่ค่อนข้างใหม่มาก ฝึกการเป็นผู้นำ ผู้ฟัง และการค้นคว้าหาข้อมูล คนที่ไม่พูดเลยก็จะไม่มีคะแนน เพราะงั้นต้องพูด!! ถึงแม้จะไม่มีความรู้อะไรในหัวเลยก็ต้องพูด!! ครับๆ ใช่ครับ เห็นด้วยครับๆ เพื่อนพูดมีเหตุผลครับๆ 55555, คำที่3 4 5 ที่ควรรู้สำหรับปีหนึ่งคือการสอบ mcq meq และ lab กริ๊ง ถ้าจะมาเรียนต้องเตรียมเจอสิ่งเหล่านี้ไว้เลยเพราะจะเจอตลอดชีวิตการเรียน mcq = ข้อสอบ choice กาๆฝนๆ เดาได้ ,lab กริ๊ง คือ ข้อสอบจับเวลา ก็จะมีฐานต่างๆมาให้ ก็พอทำโจทย์ฐานนั้นไม่ว่าจะเสร็จหรือไม่เสร็จก็ตาม พอกริ๊งแล้วต้องเปลี่ยนฐานต่อไปทันที และ meq = ข้อสอบเขียน+จับเวลา (งงละสิ) ก็คือ เขาจะมีเคสมาให้ และจะมีคำถามให้เราเขียนตอบ พอหมดเวลาเราก็ส่งคำตอบ และก็เปิดข้อสองต่อก็จะมีเหตุการณ์ของเคสต่อจากข้อแรกที่เราเขียนไปมาให้ ทำต่อไปเรื่อยๆจนจบเคส โดยส่วนตัวเป็นการสอบที่พี่ไม่ชอบที่สุด เพราะเขาจะเอาเคสแบบไหนมาออกก็ได้(แต่จะเป็นเคสที่เกี่ยวกับblockนั้นๆที่เราสอบ)ซึ่งบางครั้งเราไม่ได้เตรียมมาก็ไม่รู้จะเขียนอะไร feelingส่งกระดาษเปล่าคือแย่มาก และที่ชิฟหายที่สุดก็คือ พอเราเขียนคำตอบข้อแรกไปแล้วพอเปิดข้อสองมามันมักจะมีเฉลยข้อแรกอยู่ด้วย ซึ่งถ้ามันไม่ตรงกับคำตอบเราที่ส่งไปเมื่อกี้ก็ชิฟหาย แต่เราทำไรไม่ได้ กลับไปแก้ไม่ได้ นอกจากเดินหน้าบืนต่อไปจนจบเคสT^T ชีวิตปีหนึ่งเทอมสองก็จะเรียนไปแล้วก็สอบพวกนี้ไปเรื่อยๆ จบblockนึงก็สอบ จบblockนึงก็สอบ เพราะงั้นต้องอ่านหนังสือและสอบบ่อยมาก และที่สำคัญคือ การตัดเกรดตัดในรูปแบบ"อิงกลุ่ม" หมายความว่า เกรดจะขึ้นอยู่กับค่าเฉลี่ยเพื่อนในรุ่น ถ้าเราอยู่ใน percentile ที่ 95 ก็จะได้ A และถ้าน้อยกว่า percentile ที่ 5 ก็จะตกหมายความว่ายังไง!? หมายความว่า บางครั้งน้องสอบได้คะแนน 92 คะแนนน้องก็อาจจะไม่ได้ A ถ้ามันง่ายจนทุกคนทำได้พอๆกัน และทุกblockต้องมีคนตกและบางครั้งคะแนนคนตกก็อยู่ที่ 70 คะแนนก็มี เพราะคณะเราประกอบไปด้วยเหล่าเทพเหล่าตัวท็อปของแต่ละโรงเรียน ถ้าblockไหนเราขี้เกียจเราไม่อ่านหนังสือก็ตกพร้อมได้ทุกเมื่อนั่นเอง(เพราะทุกคนจะคะแนนดีมาก ยกเว้นเรา)

เอ่าพี่แล้วชีวิตปีหนึ่งมันดีตรงไหนล่ะ?

ถึงแม้ตอนเรียนและตอนสอบจะดูโหดร้ายไปบ้าง แต่จริงๆเนื้อหาปีหนึ่งไม่ได้เยอะขนาดนั้น ถ้าไม่ขี้เกียจจริงๆก็มีเวลาถมเถให้อ่านสบายๆ และที่สำคัญมันมีกิจกรรมให้เราทำเยอะมาก และนี่แหละคือสีสันและเป็นชีวิตของพวกเรา freshy คณะแพทย์นั่นเอง^^ เป็นชีวิตที่สนุกมาก ได้ทำกิจกรรมกับเพื่อนๆ ได้เห็น skill เพื่อนที่แบบว่า โอ้โหหหหหหห -เก่งมาก เก่งขนาดนี้ไม่ต้องมาเรียนแพทย์หรอก เช่น บางคนแต่งเพลงได้ เล่นดนตรีไทยได้ เย็บชุดทำชุดได้ ถ่ายวิดีโอตัดต่อได้ ทำฉาก สร้างสันประติมากรรมได้ ฯลฯ อีกมากมาย หลายๆคนก็จะมีซีนและโดดเด่นมาก เพื่อทำกิจกรรมแต่ละกิจกรรมใหัปัง แต่ถ้าน้องไม่มี skill อะไรเหมือนพี่เลย555 งานแรงงานก็สนุกไม่แพ้กัน เราจะได้คุยได้กินได้อดนอนได้เม้ามอยกัน เป็นความสุขและความทรงจำที่มีค่ามาก

 กิจกรรมต่างๆที่น้องๆจะได้เจอ เช่น งานรับน้อง(เป็นงานที่เละเทะมากเพราะพี่ๆแกล้ง555 แต่โคตรสนุก ปิดท้ายมีวงดนตรีเล่นด้วย) งานร้องเพลงเชียร์มหาลัย(ไม่อยากสปอยล์ อิอิ) งานเชียร์คณะ(sotus นั่นเอง อีกหนึ่งประสบการณ์ในชีวิตมหาลัยที่ลืมไม่ลง555) งานดาวเดือน(งานนี้หูดับมาก สวยหล่อมากกก บางคนก็ได้เป็นดาราไปละ)งานสันทนาการ งานเดินขบวนต่างๆ งานลอยกระทง งานเชียร์กีฬาระหว่างคณะ(สนุกมากกก มันส์โคตรๆ ลุ้นไปกับเพื่อน และเป็นช่วงที่ได้ส่องและคุยกับเพื่อนต่างคณะ) งานละครเวที ( แพทย์ศาสตร์เอกการแสดง555) งานค่ายอาสาต่างๆ(ลงสู่ชนบท ใช้ชีวิตร่วมกันกับพ่อแม่พี่น้องในพื้นที่ ตอนไปสนุก ตอนขากลับกลับซึ้งจนน้ำตาไหล) งานmusic video งานcover dance งานดนตรี3คณะ และอื่นๆอีกมากมายที่มาพูดไม่หมด ชีวิต 70% ใช้ไปกับกิจกรรม 5555 และทุกๆกิจกรรมจะให้ประสบการณ์และความทรงจำมากมาย ที่ขนาดพี่ผ่านมานานถึง6ปี แต่พอมานึกย้อนเล่าให้น้องๆฟังเองกลับเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้เอง^^ 

หมายเหตุ : ตอนแรกไม่คิดว่าจะยาวขนาดนี้ แต่พอพิมพ์ไปพิมพ์มา เพลินไปหน่อย555 เพราะต้องปูเรื่องในคณะแพทย์เยอะและส่วนตัวพี่ค่อนข้างชอบตอนปีหนึ่งมาก5555 หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับน้องๆ ถ้าสงสัยอะไรถามได้นะครับ ถ้างงตรงไหนก็ถามได้นะครับ ^^

แสดงความคิดเห็น

>

2 ความคิดเห็น

กิว ฟา 4 เม.ย. 63 เวลา 15:09 น. 2-1

จิงๆมันก็พอจะมีเวลาว่าง แต่จะน้อยกว่าคนอื่นเขาอ่ะครับ ยิ่งปีสูงขึ้นเวลาว่างยิ่งลดลง และจะใช้ไปกับการนอน55555 เลยไม่ได้ทำอะไรเลยคับ555

0