Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

อยากเข้าเภสัชค่ะ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่



ตามหัวข้อเลยเราอยากเข้าเภสัชสาขาอุตสาเราศึกษาข้อมูลมาเกือบทุกอยากเลยแต่อีกหลายอยากที่อยากรู้คือว่าเขาบอกว่าGat250+ pat200+ 
1) เราสามารถสองแค่pat2 ได้ไหมค่ะ
2)แล้วเขาบอกว่า คะแนนเฉลี่ยรวม22,000ขึ้นไป
นี่คือคะแนนอะไรบ้างค่ะ
3)คือเราต้องใช้คะแนน gatx 20% gat 10% o-net 30% pat2 40% ละก็pat2 ต้องได้12,00 ใช่ไหมค่ะ
4)แล้วต้องใช้5วิชาหรือ7วิชานั่นไหมค่ะ
5)เขาบอกว่าจบเภสัชแล้วหางานยากไหมค่ะ
6)เราจะเรียนเภสัชที่จุฬา คือต้องเลือกสายเลยแล้วเวลาฝึกงานคือฝึกแค่โรงงานไหมค่ะคือฝึกที่โรงบาลด้วย
7)คือเราจะเลือก6อันดับยังไงดีค่ะเรามีในใจแค่3,4อันดับเอง
 รบกวนหน่อยนะคะถามเยอะไปหน่อย


แสดงความคิดเห็น

>

7 ความคิดเห็น

งงงงงง 16 เม.ย. 63 เวลา 09:18 น. 1

เขาบอกว่าGat250+ pat200+

ใครบอกมา? ไปเอามาจากไหน หาข้อมูลมาจริงหรือเปล่าดูไม่มีความรู้อะไรเลย เภสัชไม่ใช้gatpat ซักคะแนน ไปหาข้อมูลมาให้ดีกว่านี้นะ

0
คนมองดิน 16 เม.ย. 63 เวลา 09:20 น. 2

ตอบแบบรวบทุกข้อเลยนะครับ ระเบียบการของแต่ละมหาวิทยาลัยกำหนดเกณฑ์การคัดเลือกไม่เหมือนกันครับ น้องต้องเข้าไปดูระเบียบการของแต่ละมหาวิทยาลัยเองนะครับ


เภสัช จะรับมากที่สุดในรอบที่ 3 ผ่าน กสพท. (ซึ่งจุฬาฯ เข้าร่วมด้วย) ใช้คะแนนวิชาสามัญ 7 วิชา และวิชาเฉพาะทางแพทย์ ถ้าเป็นนักเรียน ม.6 ที่จะจบ ต้องได้คะแนน 5 วิชารวมกัน 60% ขึ้นไปด้วยนะครับ รายละเอียดการรับสมัครตามนี้ http://www9.si.mahidol.ac.th/ ต้องมีคะแนนให้ครบ คะแนนต้องถึงตามเกณฑ์ ถ้าตัวใดตัวหนึ่งไม่ถึงปัดตกทันทีครับ

เทียบคะแนนสูง-ต่ำ ปีที่แล้ว ตามนี้ครับ http://www9.si.mahidol.ac.th/cotmes_stat.php


ส่วนรอบที่ 4 แอดมิชชั่น จะรับไม่เยอะเท่ารอบที่ 3 ใช้คะแนน GPAX 20% GAT10% PAT2 40% เหมือนกันทุกมหาวิทยาลัย (ของจุฬาฯ กำหนดเกณฑ์ขั้นต่ำ ต้องได้คะแนน O-NET 5 วิชา วิชาละ 30% ขึ้นไป ทุกวิชา ถ้าตัวใดตัวหนึ่งไม่ถึง ปักตกทันทีครับ) เทียบคะแนนรอบที่ 4 ปีที่แล้วได้ที่ http://www.cupt.net/docs/stat62-4/stat62r4.pdf


ติดตามการรับเข้าในแต่ละรอบของจุฬาฯ ได้ที่ http://www.admissions.chula.ac.th/

0
Mille 17 เม.ย. 63 เวลา 01:10 น. 3

ผมขออธิบายให้เข้าใจได้ง่ายๆนะครับ

1.สามารถสอบแต่ PAT2 ได้ไหม--> ไม่ได้ครับ โดยขอชี้แจงดังนี้นะครับ สำหรับรอบ 3 คณะเภสัช มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่จะเข้าร่วม กสพท โดยรอบนี้จะดีสำหรับน้องที่มีเกรดไม่ค่อยสวย โดยจะสอบวิชาสามัญคิดเป็นสัดส่วน 70 เปอร์เซ็นต์ วิชาเฉพาะแพทย์สัดส่วน 30 เปอร์เซ็นต์ แต่ถึงแม้จะไม่ใช้เกรดแต่น้องก็ยังต้องผ่านเกณฑ์ที่เขากำหนดไม่ว่าจะเป็นคะแนนโอเน็ตรวมแล้วต้องเกินเกณฑ์ที่เขากำหนด คะแนนวิชาสามัญต้องเกิน 30 เปอร์เซ็นต์ในทุกๆวิชา ยกเว้นวิชาวิทยาศาสตร์ซึ่งจะประกอบด้วย เคมี ฟิสิกส์ ชีวะ จะนำคะแนนทั้งสามมาบวกกันก่อนแล้วค่อยคิดว่าผ่านเกณฑ์ 30 เปอร์เซ็นต์ไหม โดยคะแนนรอบนี้ทั้งหมดจะเต็ม 100 คะแนน โดยข้อดีของรอบนี้จะรับค่อนข้างเยอะมากเลยทีเดียว ซึ่งรอบนี้ถ้าหากยึดตามเกณฑ์ปีนี้จะสามารถเลือกได้หกอันดับนั่นเอง ซึ่งน้องไม่จำเป็นต้องยื่นทั้งหกอันดับก็ได้ โดยถ้ายื่นน้อยน้องก็จะเสียเงินค่ายื่นน้อยลงไปด้วย

2.ที่เขาบอกว่าต้องได้คะแนนรวม 22000 ขึ้นไป นี่คือคะแนนอะไรบ้าง---> โดยถ้าหากรอบ 4 คือหลังจากรอบ 3 จบลงแล้ว โดยจะมีการคิดคะแนนหลายอย่างมาก เช่น เกรด โอเน็ต แกท และ แพท2 เป็นต้น สำหรับคณะเภสัชนะครับ ซึ่งคณะอื่นก็จะแตกต่างกันไปอีก ส่วนคะแนน 22000 นั้นถือว่าเป็นคะแนนที่สูงมาก ถามว่าสูงขนาดไหนสูงขนาดที่ว่าเกิน max ของคณะเภสัช ของจุฬาในปีก่อนๆเลยทีเดียว ยกตัวอย่างเช่น ปี 2559 max เภสัช (บริบาล) ฬ อยู่ที่ 21552 และอย่างปีล่าสุด max อยู่ที่ 21860.6 ซึ่งจะเห็นได้ว่าก็ยังไม่ถึง 22000 ดังนั้นน้องไม่จำเป็นต้องทำให้ได้ถึง 22000 น้องก็สามารถติดเภสัชได้ ถ้าหากคะแนนไม่เฟ้อมากๆขนาดนั้น

3.สัดส่วนของคะแนนรอบ 4 ก็เป็นไปตามที่บอกคือใช้ เกรด โอเน็ต แกท และ แพท2 ซึ่งน้องจะได้แต่ละอันเท่าไหร่ก็ได้ขอแค่รวมแล้วน้องได้เยอะพอที่จะติดก็พอ โดยไม่มีเกณฑ์ขั้นต่ำเหมือนรอบ 3 ส่วนสัดส่วนน้ำหนักการคิดคะแนนน้องต้องไปดูว่าเป็นสัดส่วนอย่างไรจากประกาศในแต่ละปีเพราะบางทีอาจจะเปลี่ยนสัดส่วนเปอร์เซ็นต์ในการคิดคะแนนได้ สำหรับข้อเสียของรอบ4นี้คือจะรับค่อนข้างน้อย

4. 9 วิชาสามัญนั่นจะใช้สำหรับรอบ 3 ที่ผมได้อธิบายไปในข้างต้นซึ่งตรงกับข้อ 1 โดยจะมีคะแนนเต็ม 100 คะแนนนั่นเอง โดยน้องต้องสอบ 7 วิชาจาก 9 วิชานะครับ โดยอีกสองวิชาเป็นทางเลือกสำหรับสายศิลป์

5.ส่วนการฝึกงานนั้นผมไม่ค่อยชัวร์ อาจจะต้องลองหาข้อมูลเพิ่มเติมนะครับ

6.ถ้าหากมีในใจเพียงสามอันดับและมั่นใจว่าอันดับสุดท้ายเราจะติดแน่นอนหรือไม่ซีเรียสถ้าหลุดก็ไปรอบ 4 ได้ก็สามารถเลือกแค่ 3 อันดับได้เลยไม่จำเป็นต้องเลือก 6 อันดับให้ครบ และยังสามารถประหยัดค่าสมัครไปได้อีกด้วยเพราะการยื่นแต่ละอันดับก็จะมีค่าใช้จ่ายในการยื่นที่เพิ่มมากขึ้นนั่นเอง ท้ายที่สุดแล้วขอให้น้องโชคดีครับ ถ้าหากมีข้อมูลที่ผิดพลาดประการใด ผมต้องขอโทษมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

0
ผ่านมาอ่านพอดีครับ 17 เม.ย. 63 เวลา 14:22 น. 4

ตอบเฉพาะข้อ 5 นะครับ เพื่อประกอบการตัดสินใจ ในสถานการณ์ปัจจุบันและแนวโน้มในอนาคตข้างหน้า อาชีพที่มีโอกาสเสี่ยงตกงานน้อยกว่าอาชีพอื่นคือ อาชีพที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับทางด้านสุขภาพทางการแพทย์และมีใบประกอบวิชาชีพ เช่น แพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร เป็นอาชีพที่ยังเปิดกว่้างสำหรับคนรุ่นใหม่ สังคมทุกวันนี้สัดส่วนเด็กเกิดใหม่น้อยกว่าการเพิ่มขึ้นขึ้นของผู้สูงอายุซึ่งยิ่งอายุมากยิ่งมีปัญหาด้านสุขภาพ ประกอบกับการเกิดขึ้นใหม่ของโรคต่างๆ เช่น โควิค -19 การป้องกัน การควบคุม การรักษา การค้นหาคิดสูตรยาในการนำมาป้องกัน(วัคซีน) หรือการรักษา เป็นเรื่องที่ท้าทายในอนาคต ถ้าจะคิดแบบนั้น ตรงกันข้าม เด็กเกิดใหม่น้่อยลงอาชีพที่ทำงานเกี่ยวกับเด็กเช่น งานด้านการศึกษาระดับประถมศึกษามีโอกาสเสี่ยงต่อการที่จบมาล้นงานมากกว่าอีกครับ

0
1234 17 เม.ย. 63 เวลา 16:43 น. 5

รับข้อมูลไม่เพียงพอ การพิมพ์ยังผิดพลาดในจุดที่ไม่ควรพลาด 12,00 เป็นต้น

ต้องแม่นยำ และละเอียดให้มากขึ้นครับ

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ข่าว ค่าย กิจกรรม กรุณาไปที่ www.dek-d.com/activities

เพิ่มเต 25 เม.ย. 63 เวลา 21:07 น. 7

เพิ่มเติม สำหรับรอบ 4 นั้น นอกจากจะรับน้อยมากๆ แล้ว เปิดรับรอบ 4 บางมหาวิทยาลัยเท่านั้น ควรจะเน้นไปที่ รอบ 3 ถ้าเป็นปี 64 ได้ข่าวว่าจะรวม รอบ 3 และรอบ 4 เข้าด้วยกันนะ คือเลือกได้ 6 อันดับ แต่ใช้เกณฑ์แยกกัน (สมัครพร้อมกัน ใน 6 อันดับนั้นแหละ) แล้วแต่เราจะเลือกแข่งขันด้วยเกณฑ์ไหน แต่จำนวนรับที่ใช้เกณฑ์ของรอบ 4 ก็คงจะน้อยเหมือนเดิม แต่มีข้อดีอย่างคือ ประมวลผล 2 ครั้ง คือครั้งแรกเผื่อมีคนสละสิทธ์ ก็ประมวลผลครั้งที่ 2 แต่สายวิทย์สุขภาพมีสละสิทธิ์น้อยอยู่แล้ว

0