ทำยังไงให้รักตัวละครของตัวเองคะ
ตั้งกระทู้ใหม่
ล่าสุดเราคิดพล็อตใหม่ได้ ให้เพื่อนช่วยดูแล้วก็แก้จนไม่มี plot hole แล้ว นิสัยตัวละครก็คิดไว้คร่าวๆแล้วแต่ยังไม่ได้ทำแบบฟอร์มตัวละคร (นิสัย ภูมิหลัง ความชอบ ฯลฯ) ทีนี้ปัญหามันมาติดตรงที่เราแต่งไปสิบกว่าเรื่อง คิดชื่อมาเป็นร้อย บางเรื่องก็ชื่อซ้ำ พอมาเรื่องนี้เราคิดชื่อไม่ออกแล้วค่ะ ที่คิดออกก็ไม่ค่อยถูกใจ (หรืออาจจะยังไม่ชิน อย่างเรื่องคั่นกูที่กำลังฉายเป็นซีรี่ย์ ตอนอ่านนิยายเราก็รู้สึกแปลกๆกับชื่อสารวัตร แต่เรียกไปเรียกมาก็ชิน) พอเราไม่ค่อยถูกใจชื่อปุ๊ปเราก็ไม่ค่อยอยากแต่งแล้วอะ แต่ยังมีความรู้สึกว่าอยากให้ตัวละครได้ลองใช้ชีวิตตามพล็อตของเรา เราก็เลยคิดว่าถ้ารักตัวละครมากขึ้นอีกนิด เรื่องนี้ก็น่าจะเขียนให้จบได้ เพื่อนๆมีวิธีไหนพอจะแนะนำได้บ้างมั้ยคะ ที่ทำให้รักตัวละครเหมือนลูก อยากเห็นเขาเติบโตอะไรพวกนั้น
9 ความคิดเห็น
ปกติการรักตัวละครซึ่งเราสร้างเขาขึ้นมา ไม่มีวิธีที่จะต้องคิดขึ้นมาเพื่อรักเขา
มันจะรักแบบไม่มีเงื่อนไขและวิธีการ อันนี้พูดจากใจจริง ไม่ได้พูดให้ดูดี ต่อให้ตัวละครที่สร้างขึ้นมาร้ายเพียงใด เราก็รักเขาค่ะ
ดังนั้น จงรักเขาโดยออกมาจากใจ ไม่ใช่วิธีการ
ลองปล่อยไหลไปตามสบายค่ะ ในเมื่อเขียนแล้วดอง ก็ลองเปลี่ยนวิธีเขียนใหม่ นั่นคือ ลดจำนวนตอนให้น้อยลง ไม่เคยเขียนเกินสิบสามตอน ถ้าอย่างนั้นก็ต้องทำให้จบได้ภายในสิบสามตอน
เราก็แนะนำไม่ได้มาก เพราะของแบบนี้มันเกิดจากใจล้วน ๆ สู้ ๆ นะคะ
ขอบคุณค่ะ จะลองดูนะคะ
เลิฟมาก คห.นี้ ไม่ต้องคิดหาวิธีที่จะรักเขา
ก็เรารักเขาไปแย้วว.. ง่อววว
การคิดว่าอยากให้เค้าใช้ชีวิตตามพล็อตของเขานั่นแหละค่ะคือการอยากเห็นเค้าเติบโต คุณน่าจะเป็นคนที่คิดอะไรละเอียดอ่อน ละเอียดอ่อนแล้วก็คัดสรรสุด ๆ แก้วก็เป็นนะคะ คิดอะไรแล้วมันไม่ได้ดั่งใจสักที หาความเพอเฟคได้ยาก ถ้าแต่งไม่จบก็เผ็นพล็อตไปก่อนยังไม่ต้องคิดเนื้อเรื่องค่ะ วางพล็อตตั้งแต่ต้นจนจบไปก่อน เริ่มจากเขียนเรื่องสั้นเล็ก ๆ ไปก่อนก็ได้นะคะ เขียนไปเรื่อย ๆ ขอแค่อย่าหยุดเขียน อย่าหมดแพชชั่นกับตรงนี้ หมดไฟให้เติมไฟค่ะ สู้ ๆ นะคะ แก้วเป็นกำลังใจให้
โหยยย ใช่เลยยยย บางทีเราอยากให้มันเพอร์เฟกแต่มันก็ยังไม่เพอร์เฟก แล้วเราก็ไม่รู้จะทำยังไงจนเลิกเขียนไปเลย แล้วแพสชั่นเราหมดเร็วมากๆ ครั้งนี้เราจะลองใจเย็นดูนะคะ555555 ขอบคุณคุณแก้วมากๆเลยค่ะ
ตอนเราเขียนเรื่องสั้น 31 เรื่อง เราพยายามไม่ตั้งชื่อตัวละครค่ะ ขี้เกียจคิดเพราะใช้แล้วทิ้ง สำหรับเราจึงไม่ได้ยึดติดที่ชื่อค่ะ
สำหรับเราแค่นี้ก็พอที่จะดำเนินเรื่องไปให้จบ
ป.ล. เรื่องสั้นเรากำหนดเวลาเขียนไว้ 2 เดือนต้องออกอีบุ๊คให้ได้ค่ะ ตอนนั้นไฟแรงเฟอร์ ได้หวยออกที่ 326 หน้า A5 ค่ะ จะทำอย่างไรให้รักตัวละคร ตอบยากค่ะ เพราะตอนเขียนเรื่องสั้นต้องเขียนให้ได้วัน-สองวันต่อเรื่อง เราไม่มีเวลามาเจาะลึกวางแผนในตัวละคร แต่เราเขียนจากอินเนอร์ตัวละคร (มันมาเอง) สับสวิทช์ปุ๊ปลุยไปโลด
สำหรับเรื่องชื่อก็พอเข้าใจที่บางคนนึกชื่อไม่ออก แต่ถ้าให้คนอื่นตั้งให้ระวังจะเจอแบบนี้
เดี๋ยวนะ เรารู้จักคนชื่อ Massy cg 555555555 ตอนแรกเราก็กะจะไม่ตั้งชื่อ (ในพล็อต เราเขียนแค่พระเอก นายเอก 55555) แต่ไม่ได้จริงๆง่ะ ตอนต้องกรอกแบบฟอร์มตัวละครเรารู้สึกมันไม่สมบูรณ์ ไปต่อไม่ได้ ฮือ แต่เราก็เคยเขียนเรื่องสั้นนะ อันนี้เขียนจบ แต่ได้ไม่กี่หน้าเองค่ะ เหมือนเป็นตอนพิเศษของนิยายซักเรื่องมากกว่า
นักวาดค่ะ วาดปกนิยายหลายปกอยู่ เป็นทีมงานทำ CG เรื่องนาคี 2 ด้วย
เราเป็นคนที่เลิกละเอียดอ่อนไปแล้วค่ะ5555 เราเป็นคนไม่ได้เครียดเรื่องนี้เท่าไร เคยนะคะแต่เลิกไปแล้ว บางทีการไปพยายามทำให้เรื่องมันเพอร์เฟ็คมากเกินมันเหมือนจะไม่ใช่แนวทางของเราค่ะ มันทำให้ไม่อยากจะเขียน ตรงนี้ไม่ได้นิดไม่ได้หน่อยอารมณ์ก็หมดละ หลังๆเราค่อนข้างปล่อยไหลค่ะ มีรูโหว่บ้างก็ค่อยๆแก้กันไป ใส่ใจรายละเอียดต่างๆทุกอย่างมันก็ดีนะคะแต่อย่ามากเกินจนมันมากดดันตัวเอง พอเครียดแล้วมันเขียนไม่ออกค่ะ สำหรับเราเรารักตัวละครตัวเองง่ายมาก เหมือนสร้างขึ้นมาแล้วก็สามารถรักเขาได้เลย เราใส่ใจเรื่องความสมเหตุสมผลในสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นกับเขาและผลลัพธ์มากกว่าชื่อหรืออะไรหลายอย่าง ให้เขาค่อยๆโตไปกับเนื้อเรื่องของเรา พอเราเขียนจบได้เราก็รู้สึกเราเองก็โตขึ้นเหมือนกับตัวละครของเรา
ตัวละครทุกตัวที่สร้างขึ้นก็เปรียบเสมือนลูก เมื่อเป็นลูกก็ไม่มีความจำเป็นต้องไปคิดว่ารักหรือไม่รัก ถ้าไม่รักแล้วจะทำยังไงให้รัก ทุกอย่างปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติค่ะ
ส่วนเรื่องชื่อซ้ำเราว่าไม่แปลกนะ บางครั้งเราก็ตั้งชื่อตัวละครซ้ำกัน(เพียงแต่คนละแซ่)
สำหรับเราเหมือนเขายังเป็นแค่ตัวละครที่เราสร้างขึ้นอะค่ะ แล้วถ้าเรายังรู้สึกแบบนี้ต่อไปเรากลัวว่านิยายเรามันจะไม่มีชีวิตชีวา กลัวคนอ่านรู้สึกได้ว่าคนเขียนไม่ได้แคร์ตัวละครเลย กลัวไม่จบด้วย5555 รู้สึกอยากทำให้สำเร็จสักครั้ง
อืมมม สำหรับเรา เรารักทุกตัวละครของเราหมดเลยค่ะ แม้แต่ตัวร้ายและตัวประกอบ5555
ถามว่าทำยังไง เราคิดว่าใจความสำคัญของนักเขียนคือต้องมีความสามารถที่จะ 'Empathy' หรือ 'เข้าอกเข้าใจ' ตัวละครน่ะค่ะ
เราคิดว่าการที่คุณจะรักใครสักคนได้นั้น ต้องสามารถเห็นอกเห็นใจเขาได้ และสามารถแชร์ความรู้สึกและประสบการณ์กับเขา อย่างเช่นตัวร้าย ถึงเธอจะร้าย แต่คนเราไม่มีใครร้ายอย่างไม่มีเหตุผล ต้องมองย้อนกลับไปว่าเธอพบเจอเหตุการณ์อะไรที่ทำให้กลายเป็นคนร้ายกาจอย่างนี้ ลองสมมติสร้างเรื่องบางอย่างขึ้นมาโดยที่ไม่จำเป็นต้องบอกผู้อ่านก็ได้ค่ะ > คิดว่าหลังจากนั้นเราก็จะสามารถเข้าใจเธอ และเห็นใจเธอได้ คำว่ารักถึงตามมาค่ะ
ส่วนตัว เราเชื่อว่าทุกตัวละครย่อมมีจุดหนึ่งของชีวิตที่ติดขัด พบอุปสรรค และผิดหวัง / และการที่คนเขียนและคนอ่านจะรักตัวละครสักตัวนั้น เราคิดว่าต้องเขียนถึงแง่มุมตรงนี้ให้ทุกคนเอาใจช่วยให้ตัวละครพยายามที่จะก้าวเดินต่อไป ประมาณนี้มั้งคะ
55555 รู้สึกตัวเองพูดไม่รู้เรื่ง ไม่รู้คุณจะอ่านแล้วเข้าใจสิ่งที่เราต้องการบอกไหม แต่ประเด็นสำคัญคือ 'การเข้าอกเข้าใจ' 'การเห็นอกเห็นใจ' ตัวละครของคุณค่ะ หลังจากนั้นคุณถึงจะรักเขาได้
อ่านแล้วเข้าใจดีค่ะ ขอบคุณมากๆค่ะ เราชอบความเห็นคุณมากเลย จะลองนำไปใช้นะคะ
ยินดีค่ะ ^^
เข้ามาชื่นชม จขกท. ว่าเขียนได้เยอะเรื่องมาก มีพล๊อตในหัวเหลือล้ำจริงๆ ค่ะ
นี่เราแค่เรื่องเดียวยังตั้งชื่อตัวละครยากเลย แต่ก็ต้องตั้งให้ดีที่สุดสำหรับตัวเอก ตอนนั้นเหมือนตั้งชื่อน้องประมาณนี้ค่ะ คิดนานอยู่เหมือนกันกว่าจะได้สักครึ่งชั่วโมงมั้ง 2-3 ชื่อ
เราแนะอะไรคุณไม่ได้เลยค่ะ เพราะเรามีตัวละครอยู่แค่เรื่องเดียว มันชัดเจนว่าเราไม่มีเรื่องอื่นให้ต้องแบ่งใจไปรักหลายๆ ตัว อิอิ ได้แต่ตั้งใจปั้นพวกเขาให้ดีที่สุด ให้มีชีวิตชีวา ให้ดูเป็นมนุษย์คนนึงจริง
มีนักอ่านสงสัยว่านิยายที่เขียนนี้เป็นเรื่องที่เอาชีวิตของใครบางคนมาเขียนหรือเปล่า อาจจะเป็นชีวิตของคนตาบอดคนหนึ่ง หรือ คนที่ดูแลคนตาบอดคนหนึ่ง จริงๆ คือเราเอาชีวิตของคนตาบอดและกลวิธีการดูแลของคนช่วยเหลือคนตาบอดหลายๆ คนมายำรวมกัน ทำให้ดูพอเนียนๆ อิอิ
เราว่าสิ่งที่คุณ จขกท. ทำก็เหมาะสมดีแล้ว แต่เมื่อสร้างลักษณะให้เขาแล้ว เราต้องเอาตัวเราคิดในรูปแบบการคิดของตัวละครที่เราวางไว้ เมื่อไม่หลุดคอนเซ็ปและอินกับความเป็นตัวตนของตัวละคร เราจะเชื่อมั่นว่าเขาโลดแล่นเป็นตัวจริงในใจเราและใจของนักอ่านได้ไม่ยากค่ะ
สู้ๆ นะคะ
ต้องผูกพันธ์กับตัวละครนั้นๆครับ
เหมือนกับดูหนังแล้วเกิดชอบตัวละครในตัวหนึ่ง เราก็รู้สึกชอบและไม่อยากให้เขาตายอะไรประมาณนี้
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?