[แชร์เทคนิค] ทำข้อสอบBMATแบบที่คนฉลาดเลือกทำ

[ชุ้นคือฮูม]

สวัสดีค่ะ จขกทไม่คิดเลยว่าตัวเองจะมาทำะไรแบบนี้55555 แต่พอดีว่าเจอเหตุการณ์มานิดหน่อยเลยทำให้คิดได้ไหนๆตัวเราก็สอบเข้ามหาลัยครั้งเดียวในชีวิต ถ้าจะมาแชร์เทคนิคแบ่งปันให้น้องๆก็ไม่ได้เสียหายอะไร ชีวิตควรจะทำความดีบ้าง555

**ก่อนอื่นขอเตือนกันก่อนนะ นี่เป็นเพียงเทคนิควิธี+ไอเดียความคิดที่พี่ใช้ ทั้งหมดนี้เป็นเพียงการแนะนำเท่านั้นค่ะ ไม่ได้บังคับว่าให้ทำตามนี้เป๊ะๆ ดูไว้เป็นแนวทางแล้วประยุกต์ใช้ให้เหมาะกับแต่ละคนจะดีที่สุดนะ ให้เข้าใจตรงกันนะคะ**

มาเริ่มกันเลย
V
v

ทุกคนคงรู้จักคำวารู้เขารู้เราใช่ไหมคะ นั่นแหละคือ keyword
สำหรับเทคนิคนี้เราต้องรู้เขา(ข้อสอบA)และรู้เรา(ตัวเองB)

[A]
ในเรื่องรายละเอียดข้อสอบจะขอยกมาแค่คร่าวๆนะ เป็นหน้าที่ของน้องเองที่ต้องไปเสิร์จหาข้อมูล ลองอ่านดูแนวโจทย์เอง ข้อสอบBMATมีรูปแบบดังนี้

1.Aptitude&Skill
-Problem solv : เชาว์ คำนวน
-Critical Think : อ่านจับใจความ
-Data analyz : วิเคราะห์ข้อมูล

2.Scien Knowledge
-ฟิสิก เคมี ชีวะ คณิต

3.เขียนเรียงความ


[B]
การเลือกที่จะทำการใหญ่เช่นสอบบีแมท 'เวลา' คือสิ่งที่สำคัญมากกกกกกก มากๆๆ ถึงมากที่สุด ในเวลาที่จำกัดนี้ความถนัดของตัวบุคคลคนเป็นสิ่งที่จะช่วยให้เราเอาชนะมันได้ ดังนั้นจงตอบซะว่าสไตล์ของน้องๆเป็นแบบไหน
ก.คิดไว สายคำนวณ
ข.จำแม่น สายภาษา


หลังจากรู้เขารู้เราแล้วก็มาลงมือกัน (จะเน้นแนะนำพาร์ท1นะคะ)

V
v

====เทคนิคในการออกรบทำคะแนนสำหรับคนแต่ละประเภท====

Part 1 Apt&Sk
: เลือกสิ่งที่ถนัดตั้งเป็นจุดแข็ง เวลาทำข้อสอบเก็บสิ่งที่ตัวเองคิดว่าถนัดที่สุดก่อน แล้วค่อยไล่ทำสิ่งที่มั่นใจรองลงมา ย้ำว่าบริหารเวลาให้ดี เวลาสำคัญมาก

-ถ้าเป็นประเภท ก. คิดว่านี่คือข้อสอบที่เปิดโอกาสให้น้องมาก ใช้ตัวเลขเป็นอาวุธหลัก แค่แปลให้มันถูกแล้วก็ระวังเรื่องสะเพร่าก็พอ ลองวิธีอันนี้นะ
1.Problem มีสติเท่านั้น อย่าติดกับข้อเดียวนานๆ
2.Criti แล้วแต่คนว่ามีทักษะทางภาษามากแค่ไหน คำถามมีหลายแบบ ถามหาข้อสรุป ข้อหักล้าง บลาๆ ลองดูตัวเองว่าชอบคำถามแบบไหน แล้วพยายามพัฒนาตรงจุดนั้นให้เป็นอาวุธเสริม +แถม อย่าตอบพวก will must only เลือกพวก Should be งี้ไว้ (แต่ไม่ใช่ว่าห้ามตอบนะ ใช้ตอนฉันไม่รู้อะไรเลยจริงๆ)
3.Data เลือกเก็บคำถามที่มีตัวเลขก่อน

-น้องแบบ ข. อาจจะต้องทุ่มเวลาให้คำถามคำนวนที่ไม่ถนัด เพราะPatternการเก็บคะแนนที่เน้นตัวเลขเหมือนที่บอกไปก่อนหน้าถือว่ามีประสิทธิภาพมากๆ* แต่สิ่งที่น้องได้เปรียบเลยคือจุดของภาษาค่ะ ศัพท์ในข้อสอบมีไม่กี่ตัวหรอกไล่ท่องให้แม่นๆเลย เช่นเดียวกับรูปแบบโจทย์Problemที่มีออกแนวเดิมด้วยแค่อาจจะเปลี่ยนคำถามบางจุดอย่าโดนหลอกล่ะ 'ย้ำว่าทำพวกโจทย์ที่มีตัวเลขให้บ่อยๆๆ บ่อยที่สุด ฝึกวนไปจนเป็นเพื่อนกับมัน' ความจำของน้องคือสิ่งมีค่า แต่เตือนอีกครั้งว่าอย่าโดนเขาTrickหลอก!

*ที่บอกแบบนี้เพราะดูขากข้อสอบปีหลังๆCritค่อนข้างซับซ้อนขึ้นมากเลย ขนาดเฉลยแล้วยังงงอยู่ว่าทำไมตอบข้อนี้วะ เลยแนะนำให้เก็บสิ่งที่เป็นตัวเลขเป๊ะๆดีกว่า

Part 2 Sci
: เนื้อหาสามวิทย์กับคณิตไม่ยากเลย ดูScopeเนื้อหาในแต่ละปีได้ บทเรียนบางอย่างไม่มี(เช่นแคลคูลัส) บทเรียนบางอย่างมีเสริมเข้ามา(เช่นEM) อันนี้เป็นรูปแบบตามที่พี่เคยจดไว้(แค่ส่วนที่น่าสนใจ) ให้ไว้เป็นตัวอย่าง อย่ายึดอันนี้เด็ดขาดเพราะไม่ครบ! เสิร์จดูปีที่จะสอบแล้วเขียนเองดีกว่านะ
Phys
-ไฟฟ้า /statistic+- /Generation /แม่เหล็ก
-งานพลังงาน /ความร้อน
-คลื่น /กราฟต่างๆ /EMwave
-นิวเคลียร์
Chem
-ตารางธาตุ ความไว
-พวกปัจจัยต่อrateหรือสมดุล
-สีอินดิเคเตอร์ กรดเบส
-ไฟฟ้าแยกสาร
Bio
-ไซเคิลCO2 N
-ทำความเข้าใจการทำงานของสิ่งมีชีวิต อิงเนื้อหาตรงจุดที่เขาเขียนไว้เลย มีเยอะเกินยกมาไม่ไหว5555
Math
-อย่าสะเพร่าก็พอ เห็นโจทย์แล้วจะอึ้ง มอต้นทำได้

Part 3 เขียนเรียงความ
: รูปแบบการเขียนแบบที่คุ้นเคยเลย บทนำ เนื้อหา สรุป ในย่อหน้านึงอาจเริ่มด้วย
1____ประโยคใจความของย่อนั้น____. 2____เหตุผลสนับสนุน____. 3____ยกตัวอย่างประกอบ____
-ใช้คำเชื่อมหลายๆแบบ
-มีคะแนนให้คำศัพท์ด้วยนะ
-อย่าหลุดประเด็น ฝึกเขียนบ่อยๆ จับเวลาด้วย

======สรุปเทคนิค======
1.ตัวเลข = ดี ควรทำก่อนรอบแรก พบเจอได้ในProblem /Dataเลือกบางคำถาม / Sci เก็บอาวุธหลักนี้ได้หมดก็ใกล้ความจริงแล้้ว
2.วนรอบสองทำสิ่งที่เลือกเป็นอาวุธเสริม เช่น คำถามCritที่ถามหาข้อสรุป หรือพวกคำถามข้อมูลในData
3.พึงระลึกมีสติรู้ตัว จัดสรรเวลา ตอนทำมองนาฬิกาด้วย


4.ต้องขยันนะ วางตารางอ่านหนังสือ กัดฟันสักนิด


สุดท้ายนี้ไม่รู้ว่ากระทู้ยืดยาวนี้จะเป็นประโยชน์กับใครไหม จะอานรู้เรื่องกันไหม แต่ก็อย่าด่ากันเลยใจบาง55555

ฝากประโยคนี้เอาไว้


'การวางแผนเท่านั้นจะสู้กับเวลาได้'


ขอบคุณค่ะ

Comments

[Tom99wat]

มีประโยชน์มาก ขอบคุณครับ