แชร์ประสบการณ์ ติดบัญชีจุฬา รอบ3 #Dek63
ตั้งกระทู้ใหม่
เราเริ่มรู้ตัวเองว่าอยากเข้าบัญชีตั้งแต่ประมาณม.4 เราก็เริ่มหาข้อมูลต่าง ๆ อีกหนึ่งเว็บที่เราใช้ในการหาข้อมูลก็คือเว็บDek-D นั่นเอง วันนี้เราก็เลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ให้กับเพื่อน ๆ น้อง ๆ ในนี้เหมือนกัน เผื่อว่าจะได้เป็นแรงบันดาลใจไม่มากก็น้อยนะคะ
ก่อนอื่นเราก็มาดูเกณฑ์คะแนนในการรับบัญชี-บัญชีจุฬากันเลย
ปีนี้ 2563 บัญชีจุฬา ใช้คะแนน 2 อย่างนะคะ
1.Gat 40 %
2.Pat1 ความถนัดทางคณิตศาสตร์ 60 %
(โดยGPAX 6 เทอม จะต้องได้ไม่ต่ำกว่า 3.00 )
รายละเอียดเว็บนี้เลย http://www.admissions.chula.ac.th/images/stories/tcas63_cu_admission1.pdf
อันนี้เป็นคะแนนของเรานะคะ
วิธีการเตรียมตัว
- เราเริ่มวางแผนตั้งแต่ม.5 เทอม 2 แต่ตอนนั้น แต่ละวันก็อ่านไม่หนักมากนะคะ ทำได้ตามแผนบ้าง ทำไม่ได้บ้าง ตามประสา5555
- แต่พอปิดเทอมมีนาที่จะขึ้น ม.6 เราจริงจังมาก ๆ แต่ละวันเริ่มอ่านหนักขึ้น มีวินัยกับตัวเองมากขึ้น ถ้าจะให้นับที่ จริง ๆจัง ๆ กับการอ่านหนังสือก็คือใช้เวลา 1 ปีค่ะ สู้ ๆ นะ
GAT เชื่อมโยง ( GAT ภาษาไทย )
• วิชานี้เราอ่านเองทั้งหมดเลยนะคะ ไม่ได้เรียนพิเศษใด ๆ
• สำหรับ Beginner เราแนะนำหนังสือ “พิชิต 150 คะแนนเต็ม!! GAT ภาษาไทย โดย อ.ขลุ่ย” เล่มนี้เป็นเล่มที่ฮอตฮิตมาก ๆ เด็กม.ปลายต้องมี!! และมันก็ดีสมคำร่ำลือจริง ๆ ค่ะ
โดยข้างในหนังสือเล่มนี้จะอธิบาย• ความหมายของ GAT
• หลักการทำข้อสอบ GAT ไทย
• แบบฝึกหัดโยงข้อความจากแบบเบื้องต้นก่อน
• มีบทความตั้งแต่ สั้น ปานกลาง และยาว
• มีเทคนิคในการทำข้อสอบที่เข้าใจง่าย
หลังจากฝึกเล่มนี้จบเราก็มาต่อที่การทำข้อสอบเก่า ๆ เพราะข้อสอบเก่า ๆ จะทำให้เราประเมินตัวเองได้ว่า เราใกล้เคียงความจริงแล้วหรือยัง หรือยังคงต้องฝึกฝนต่อไปอีกหน่อย ถ้าน้อง ๆ มีเวลา พี่แนะนำให้ฝึกทำข้อสอบเก่าทุกปี พร้อมฝึกฝนในกระดาษคำตอบ และจับเวลาไปในตัวด้วยนะคะ
GAT ภาษาอังกฤษ
- วิชานี้เราเรียนพิเศษควบคู่ไปกับการอ่านหนังสือเองนะ
- ที่เรียนพิเศษ ตอนม.ปลายเราเรียนที่ Enconcept เด้อ เคยเรียนกับทั้งพี่แนน พี่กิ๊ฟ(ทั้ง 2 กิ๊ฟ) พี่หวาย พี่หมอเต้ (เอ๊ะ ทำไมดูได้เรียนกับหลายคน5555) คือที่ได้เรียนกับหลายคน เพราะว่าบางคอร์สที่เราลง มีครูสอนหลายคนนะเตง
คือสำหรับเราที่เรียนพิเศษทุกที่ก็ดีหมดนะ เพราะทุกที่ให้ความรู้กับเราหมด แต่ แต่ละที่ก็มีเทคนิคการสอนไม่เหมือนกัน ฉะนั้น ถ้าเราถูกจริตกับที่เรียนพิเศษที่ไหน ก็ลุยโลด ไปให้สุดทางค่ะทุกคน สำหรับเราEncon สอนเนื้อหาที่ค่อนข้างแน่นใช้ได้เลย ถ้าใครที่ยังอยู่ ม.4-5 แนะนำคอร์ส Ultimate เลย มีทั้ง grammar และ vocab เนื้อหาแน่น ลงลึกอย่าบอกใคร
ถ้ามีเวลาแนะนำมาก ๆ แต่ถ้าใครอยู่ ม.6 แล้ว แนะนำคอร์สตระกูล Tcas ไปเลย เพราะใช้เวลาเรียนค่อนข้างนาน ต้องเผื่อเวลามาทบทวนด้วยนะคะ แต่คอร์สนี้ก็ไม่ได้มีตะลุยโจทย์อย่างเดียวนะคะ จะมีการสอนเทคนิคต่าง ๆ ก่อนด้วย
- สำหรับหนังสือ Gat Eng เราแนะนำตระกูล ดร.ศุภวัฒน์ พุกเจริญ เลย จบ ครบทุกพาร์ทของข้อสอบ ส่วนตัวเรามีแค่เล่มต่อไปนี้นะคะ ที่จริงหนังสือตระกูลนี้คือมีเยอะมาก ๆ
Part Vocabulary
คำศัพท์ต้อง 2 เล่มนี้เลย
• เล่มซ้าย มีคำศัพท์ synonym ให้ท่องกันแบบจุก ๆ ด้านหลังมีแบบฝึกหัดด้วย
• เล่มขวา ถ้าใครยังไม่สะใจกับเล่มซ้าย แนะนำเล่มนี้เลยค่ะ ตะลุยโจทย์คำศัพท์กันไปยาว ๆ
Part Reading
• มี Passage ให้ฝึกเยอะมาก ๆ
• เราชอบตรงที่เฉลยแต่ละ Passage มีคำศัพท์ให้ท่องด้วย
• เราชอบตรงที่เฉลยแต่ละ Passage มีคำศัพท์ให้ท่องด้วย
((แนบรูป))
Part Error
• จริงๆเล่มนี้มีทั้ง part error และ sentence completion นะ แต่เราเน้นไปที่ error ไปซะส่วนใหญ่
• ในส่วนของ error มีการฝึกให้เราจับผิด noun pronoun verb adjective ฯลฯ เป็นพาร์ทย่อย ๆ ก่อน
• แล้วหลังๆ จะมีแบบ error รวมเหมือนข้อสอบจริงเลย
Part Conversation
- พาร์ทนี้ เราเน้นทำข้อสอบเก่า เสร็จแล้วก็ดูเฉลย ละก็พยายามจำสำนวนที่ออกบ่อย ๆ เอาน้า
หนังสือที่แนะนำมาก ๆ
- เล่มนี้ข้างในจะเป็นการตะลุยโจทย์Gat Eng นะคะ มีทั้งหมด 10 test ทำกันแบบจุก ๆ ไปเลย
PAT 1 ความถนัดทางคณิตศาสตร์
• พาร์ทนี้ถือว่าเป็นพาร์ทที่ยากมาก ๆ สำหรับเรา เรากลัวมันมาก ๆ 5555
• ครั้งแรกที่ลองไปสอบ Dek-D’s Pre ad คือทำไม่ได้เลย ที่ยังพอมีคะแนนคือเดาถูกล้วน ๆ
• แต่ทุกคนอย่าเพิ่งตกใจไปนะคะ หลัง ๆ Pat 1 มันเริ่มใจดีขึ้นมาหน่อยแล้วค่ะ
• Pat 1 63 ที่ผ่านมา ถือว่าง่ายกว่าทุก ๆ ปีที่ผ่านมาอยู่นะคะ แต่ก็ไม่ได้ง่ายซะจนทำได้ทุกข้อขนาดนั้น
• เพียงแต่ว่า ที่อยากจะบอกก็คือ ข้อสอบมันเริ่มมีเมตตากับเราบ้างแล้วค่ะ
• คณิตเราเรียนพิเศษที่ We by the brain นะคะ
** รีวิว We by the brain คร่าวๆ **
เราชอบเรียนที่นี่ เพราะว่าเราถูกจริต แล้วก็เรียนเข้าใจ ทำข้อสอบได้มากกว่าตอนที่ยังไม่ได้เรียน
อีกสิ่งที่ชอบของที่นี่ คือพี่ๆที่สอน เราเคยเรียนกับทั้งพี่ช้าง พี่เอ๋ พี่กอล์ฟ พี่ภูมิ (นี่ก็ได้เรียนกับหลายอีกแล้ว ฮ่าๆ ) เรายอมรับเลยว่า 1 ปีตอนม.6 มันเป็นอะไรที่หนักมาก ๆ หนักที่สุดในชีวิตที่ผ่านมาของเราเลยก็ว่าได้ แต่หลาย ๆ ครั้ง ที่เราได้ฟังคำพูดของพวกพี่ๆเค้า แล้วมันทำให้เราขับเคลื่อนชีวิตตัวเองต่อไปได้ ได้ทั้งวิชาการแล้วก็ยังได้กำลังใจอีกด้วย
เราเริ่มเรียนที่นี่ตั้งแต่ตอน ม.5เทอม2 ตอนนั้นก็ลงคอร์สเนื้อหาธรรมดาปกติค่ะ พอขึ้นม.6เราก็ลงคอร์ส Utimate math ที่จะเจาะลึก Pat1 และคณิตสามัญ ซึ่งคอร์สนี้สอนก่อนแล้วก็พาทำโจทย์นะคะเราไม่ได้ลงทุกบท เราลงเฉพาะบทที่เราคิดว่าพอจะเก็บได้ คอร์สสุดท้ายที่เรียนคือตะลุยโจทย์ Pat 1 คอร์สนี้แทบไม่มีสอนเนื้อหาแล้ว จะตะลุยโจทย์ล้วนเลย
- หนังสือที่เราอ่านส่วนใหญ่จะเป็นของตระกูล ณัฐ อุดมพาณิชย์ นะคะ เพราะด้วยเนื้อหาที่แน่น กระชับ ภาษาที่ใช้ก็เข้าใจง่าย เวลาเฉลยโจทย์ก็ดีด้วยค่ะ อันนี้เป็นหนังสือที่เรามีนะคะ แต่เล่มอื่นๆของตระกูลนี้ก็ดีมาก ๆ เช่นกัน
- • เล่มนี้จะเน้นไปที่เนื้อหาของคณิตม.ปลายทั้งหมด (ทั้งคณิตพื้นและเพิ่ม)
• เป็นการสรุปหัวใจสำคัญ ๆ conceptหลัก ของแต่ละบท
• นี่เป็นเล่มแรก ๆ ที่เราอ่านเลย เพราะเราเริ่มจริงจังอ่านหนังสือตอนขึ้นม.6 ทำให้เนื้อหาม.4-5 เราต้องมาทบทวนก่อน เริ่มแรกเราจะทวนจากเล่มนี้ เอาให้เข้าใจconcept ก่อน แล้วเราก็จะเริ่มไปฝึกทำแบบฝึกหัดแบบกลาง ๆ ไม่ยากมากก่อน นั่นก็คือเล่มต่อไปค่า - • เล่มนี้ช่วงแรก จะเป็นแบบฝึกหัดแยกเป็นบทๆ ไป ความยากจะอยู่ที่ปานกลาง อาจจะประมาณข้อสอบที่รร. หรือยากกว่า แต่ไม่ถึงขั้น Pat 1 ซะทีเดียว
• ถือว่าเป็นการฝึกทบทวนบทเก่าๆ ที่เราเคยเรียนไปแล้วที่ดีมาก
• แต่ช่วงหลังของเล่มนี้จะเป็นข้อสอบ มีทั้งหมด 9 ชุด ชุดละ 20 ข้อ มีทั้งแบบที่คล้ายกับ Pat1 และคณิต9วิชาสามัญ - • เล่มนี้ข้างในจะเป็นตะลุยโจทย์ Pat 1 ทั้งหมด (เหมือนได้ลองทำข้อสอบPat 1 จริง ๆ )
• มีทั้งหมด 4 ชุด แต่ละชุดมี 45 ข้อ เท่ากับของจริงเลย - • ถ้าใครยังไม่สะใจ อยากฝึกโจทย์อีก แนะนำเล่มนี้เลย
• แต่เราทำเล่มนี้ไปไม่ค่อยเยอะนะ เพราะบางครั้งเรารู้สึกว่ามันแอบยากก็ข้อสอบจริงซะด้วยซ้ำ555
แต่ถ้ามีเวลาก็ลุยโลดดด
• เล่มนี้ก็เป็นตะลุยโจทย์ มีทั้งข้อสอบแนว Pat1 4 ชุด และแนวคณิตสามัญ 4 ชุด แต่ละชุดมี 20 ข้อนะคะ
• ข้อสอบมีทั้งหมด 45 ข้อ มีเวลาทำ 3 ชั่วโมง
• ล่าสุดปี 63 45 ข้อนั้นประกอบไปด้วย 2 ตอน 1.ปรนัย(มีchoice) 35 ข้อ ข้อละ 6 คะแนน คิดเป็น 210 คะแนน
• 2.อัตนัย(เติมคำตอบ) 10 ข้อ ข้อละ 9 คะแนน คิดเป็น 90 คะแนน รวมทั้งหมดก็จะเป็น 300 แนนนั่นเอง
• ดูเหมือนจะมีเวลาทำเยอะนะคะ แต่เอาจริงมันเป็นไปได้ยากมาก ๆ ที่จะทำได้และทันทั้ง 45 ข้อ (ยกเว้นคนที่เก่งและพยายามมาก ๆ ก็ทำได้แน่นอน เพราะต่อให้ข้อสอบยากแค่ไหนก็มีคนได้เต็มแทบทุกปีเลยนะคะ!!)
• ฉะนั้นเราต้องเลือกเก็บบางบท และทิ้งในบางบทค่ะ (แล้วแต่ความถนัดและความชอบส่วนบุคคลเลยนะคะ เพียงแต่คำนวณสัดส่วนคะแนนให้ดีค่า)
บทที่เราเลือกเก็บนะคะ
• เซต
• ตรรกศาสตร์
• เมทริกซ์ (อันนี้เราแบบบทจะได้ก็ได้ ไม่ได้ก็คือไปไม่เป็นเลยค่ะ แล้วแต่ข้อ TT )
• จำนวนจริง
• ฟังก์ชัน
• กำหนดการเชิงเส้น
• Expo & log
• จำนวนเชิงซ้อน
• เวกเตอร์
• แคลคูลัส
• สถิติ
• ความน่าจะเป็น
บทที่เราเลือกเท
• เรขาคณิตวิเคราะห์
• ภาคตัดกรวย
• ตรีโกณ
• ลำดับและอนุกรม
เหมือนเราจะพยายามเก็บหลายบทนะคะ แต่พอถึงเวลาสอบจริง ๆ บทที่เราคิดจะเก็บบางครั้งก็ทำไม่ได้ หรือทำผิดนะคะ และบางบทที่เราคิดจะเท แต่พอไปเจอข้อสอบจริง บางข้อกลับคิดออกเฉย อะไร ๆ ก็ไม่แน่ไม่นอนจริง ๆ ค่ะทุกคน แต่บทที่เราไม่ได้แตะในการทำข้อสอบเลยทั้งตอนฝึกและตอนสอบจริงก็คือ เราขาคณิตวิเคราะห์ ภาคตัดกรวย ลำดับและอนุกรม คือเราอ่านเนื้อหา และฝึกไปบ้างนิดหน่อยนะคะ แต่พอลองทำข้อสอบเก่า ๆ กับตอนทำข้อสอบจริง พอเราเห็นข้อพวกนี้คือเราข้ามแบบไม่คิดเลยค่ะ ยังมีอีกหลายข้อที่เราควรจะไปเก็บนะคะ
ถ้าเราติดข้อไหน คิดข้อไหนไม่ออก ข้ามเลยค่ะ หาไปจนกว่าจะเจอข้อที่เราทำได้ ท่องเอาไว้ค่ะ “เราหวังติด ไม่ได้หวังเต็ม”
• ช่วงแรกเราไม่ได้จับเวลาแต่ละข้อเลยค่ะ (ในใจคือ อย่าว่าแต่ทำให้เร็วเลย ทำให้ได้ก่อนก็บุญแล้วฮือ)
เว็บไซต์รวมข้อสอบคณิตทุกสิ่งอย่างแนะนำ http://www.rathcenter.com/ มีทั้งแยกเป็นบท ๆ หรือแยกตามปี มีทั้ง Pat 1 คณิตสามัญ onetคณิต ฯลฯ
• ถ้าฝึกไปสักพัก ลองทำข้อสอบที่ยำรวมหลาย ๆ บทดูค่ะ จากเล่มที่แนะนำไปตอนต้นก็ได้ ถ้าเกิดว่าฝึกไปสักพัก พอทำแบบรวมดู คือทำไม่ได้เลย งง ลืมสูตรไปหมด ไม่ต้องกังวลนะคะ เราก็เป็นมาหมดแล้ว ตอนนั้นก็ท้อมาก ๆ เราทุกคนก็ท้อได้นะคะ แต่สิ่งที่สำคัญคือ ห้ามถอย !! ท้อได้ เหนื่อยได้ ร้องไห้ได้ แต่เราต้องก้าวต่อไป คิดถึงความภาคภูมิใจที่เราจะได้ใส่ชุดนักศึกษามหาวิทยาลัยที่เราฝันดูสิคะ มันจะเท่ จะภูมิใจแค่ไหน
• หากพอลองมาทำแบบคละบทแล้วงง ค่อย ๆ จับจุดไปค่ะ ว่าบทนี้เราชอบลืมตรง ผิดตรงไหน ยังไม่เข้าใจตรงไหน
พอเราทำไปเรื่อย ๆ ฝึกไปเรื่อย ๆ สักพักเราก็จะเริ่มจับจุดได้ เพราะหลาย ๆ ครั้งข้อสอบมันก็จะมี pattern ของมัน สู้ ๆ ค่ะ
• เราพยายามเก็บเนื้อหาทุกอย่างให้ทันภายในสิ้นปี พอปีใหม่ เราก็จะตะลุยโจทย์แบบข้อสอบเก่าจริง ๆ จับเวลาจริง ฝนจริง
• อีกสิ่งหนึ่งที่เราว่าสำคัญก็คือ การทำซ้ำ ๆ อ่านซ้ำ ๆ ทวนซ้ำ ๆ มันจะค่อย ๆ ซึมซับสู่สมองของเราเรื่อย ๆ ค่ะ เราก็จะเริ่มเข้าใจมากขึ้น รู้จักแก้ไขจุดบอดของตัวเองมากขึ้น
• สิ่งสุดท้ายที่เราว่าสำคัญไม่แพ้การอ่านหนังสือ ก็คือ สุขภาพ เราอ่านเยอะได้ แต่ต้องแบ่งมีเวลาให้ดี พักผ่อนให้เพียงพอ ดูแลสุขภาพตัวให้แข็งแรง ยิ่งช่วงใกล้สอบยิ่งต้องระวังเลยนะคะ
ปล. หากใครอยากลองทำข้อสอบแบบเสมือนจริง แนะนำโครงการ Dek-D’s Pre-Admission เพราะมันจะทำให้เราได้ทดสอบความพร้อมของตัวเอง เห็นจุดแข็ง จุดบอด แถมยังได้ข้อสอบกลับบ้านอีกน้า ต่อให้เรายังไม่พร้อมเท่าไหร่ ก็ลองไปสอบได้นะคะ ถือซะว่าเป็นประสบการณ์ชีวิต ได้จำลองบรรยากาศ ตื่นเต้นจริง กดดันจริง
ขอให้ทุกคนทำตามความฝันที่ตั้งไว้ได้นะคะ พี่ขอเป็นกำลังใจเล็ก ๆ อยู่ตรงนี้น้า สู้ ๆๆๆ เชื่อมั่นในตัวเองนะคะ ไม่มีอะไรเกินความพยายามของเราค่ะ!!!
Pichamon
11 พ.ค. 63 เวลา 21:49 น.
8,497
views
3 ความคิดเห็น
คอร์ส ultimate ดีมั้ยคะะ
ดีนะคะ แต่คอร์สเนื้อหาจะค่อนข้างละเอียด ลงลึกมาก แนะนำเผื่อเวลาด้วยน้า
ขอบคุณที่นำประสบการณ์มาแบ่งปันน้องๆนะคะ รีวิวละเอียดสุดๆ แล้วก็ขอแสดงความยินดีกับเจ้าของกระทู้ด้วยนะคะ><
ทำโจทย์วันละกี่ข้อหรอคะ
ไม่ได้นับจริงจังมากค่ะ อาจจะดูเป็นบท ๆ ไป ว่าบทนี้มีโจทย์กี่ข้อ สมมติว่าตั้งใจว่าจะทำโจทย์บทนี้ให้เสร็จภายในอาทิตย์นี้ ก็จะเอาจำนวนข้อมาหารด้วยจำนวนวันค่ะ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?