เตรียมตัวสอบเข้าคณะพาณิชศาสตร์และการบัญชี บริหารธุรกิจ จุฬา แบบไม่ได้เรียนพิเศษGAT PAT1
ตั้งกระทู้ใหม่
อันดับแรกขอบอกก่อนนะคะว่าเราไม่ได้เก่งอะไรขนาดนั้น เป้าหมายแรกของเราก็คือคณะทันตแพทย์นะคะ หลายคนที่ตามเรามาแต่แรกก็คงจะงงๆกับเราแหละตอนนี้ เพราะตอนนี้เราติดคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี บริหารธุรกิจของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยแล้วค่ะ เย้ๆๆๆๆๆๆ
ก็มีคนขอให้เรามาทำรีวิวก็มาเริ่มกันเลย!!!!!!
วิชาแรกที่สำคัญกับคนจะเข้าคณะนี้ก็คงจะเป็นวิชาเลข ที่เราใช้ของรอบ3 ก็คือ PAT1 นะคะ
เราอ่านเองหมดเลยถ้าเป็นของPat1 คือเราเองไม่ได้ลงคอร์สเอนสำหรับตัวนี้เลย ไม่คิดว่าจะได้ใช้ด้วยตอนแรก นี่คือหนังสือที่เราใช้ในการเตรียมนะคะ จริงๆที่เราใช้คือจะเตรียมสอบของสามัญฯค่ะ
ทั้งหมดนี่ก็จะป็นหนังสือของพี่ณัฐ เราว่าหลายๆคนก็คงรู้จักกันนะ
STNTAX : เป็นเล่มแรกๆที่เราทำเลย ก็จะรู้ว่ายังอ่อนตัวไหน บทไหน ยังไม่ยากมาก ค่อยๆอัพเวเวลตัวเองไป
Vaccine : อันนี้ก็จะเริ่มเป็นข้อสอบที่ยากขึ้นมาแล้วอีกเลเวล เราก็ทำตามมาเรื่อยๆเลย
Crack : อันนี้เป็นข้อสอบชุดๆ ก็มีข้อที่ยากแบบยากมากๆสำหรับเราอยู่ อ่านเฉลยบางทีก็ใช้เวลาในการทำความเข้าใจอยู่พอตัว แต่ก็ดีได้ฝึกเราไปในตัว จะได้มีภูมิคุ้มกัน
ต่อไปก็คือวิชาอังกฤษ ที่เราใช้ก็คือGAT
ตัวหนังสือที่เราใช้ก็เป็นของดร.ศุภวัฒน์ หลายคนน่าจะใช้อยู่นะ ดังเหมือนกันนะ คือเข้า B2S ก็ต้องเจอเลยถ้าไปหมวดหนังสือที่ใช้สอบ
Vocab : เล่มแรกเลยที่เราเริ่มใช้ ก็จะเป็นคำศัพท์ที่เป็นหมวดๆถูกจัดไว้ในความหมายเดียวกัน จำไม่ยากเลย เพราะรวมเป็นกลุ่มๆไว้แล้ว เราชอบเอามาท่องช่วงเดินทาง ก็จะจดไว้ตรงไหนจำไม่ได้ ช่วงนี้สอบเสร็จก็ยังเอามาทวนนะ คือเราต้องสอบcu-tep ไรพวกนี้ด้วยเลยทวนๆไว้
Error : เป็นอีกพาร์ทที่เรายังแบบกาก แบบว่าย่ำแย่มากๆ ก็เลยซื้อมาทำ แต่ก็ยังไม่ค่อยได้เท่าไหร่ เลยต้องทำควบกับเล่มแกรมม่าเลย เราอ่อนพวกแกรมม่ามากๆ เราถนัดพาร์ทศัพท์มากกว่า
จบแล้วนะคะ รีวิวของเรา เดี๋ยวขึ้นตัวคะแนนแกทแพทไว้ให้น้าาาา
Timeline ชีวิตของเรา
- เรามาจริงๆจังๆก็ช่วงปิดเทอมขึ้นม.6 เนี่ยแหละ ก็ลงคอร์สเอนเคมีไปของพี่เคนออนดีมานต์ พี่เค้าตลกดีเราชอบ แต่สั่งการบ้านโหดเหมือนกัน... แล้วก็เรียนเลขแต่เราเรียนเป็นคอร์สแยกบท เพราะเราเรียนที่รร.ไม่รู้เรื่อง คือแยกบทเราเรียนมาตั้งแต่ม.4 แล้วก็เรียนเรื่อบๆ จบเนื้อหาทั้วหมดก็น่าจะช่วงม.5 ถ้าเป็นเลขแยกบทนะ หลังจากนั้นเราก็เริ่มเก็บเนื้อหาเอง มีเรียนพิเศษวิชาอื่นจะเป็นของสามัญซะส่วนใหญ่ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ใช้ซะงั้น//น้ำตาไหล เสียดายเงินมากๆ
- เราเริ่มจากทำตัวให้ชินกับการอ่านหนังสือ คือเริ่มจากวันละ30นาที 1ชม. 2ชม. แล้วก็เรื่อยๆจนสามารถอ่านได้ทั้งวัน ตกใจตัวเองเหมือนกัน เราจะใช้ทฤษฎีเปลี่ยนพฤติกรรม21วัน มันใช้ได้จริงนะ แล้วก็ใช้แอพนี้เลย เวลาจับเวลา แอพเสียเงินนะ ใครที่ตามเราอยู่ก็จะเห็นบ่อยมากๆ เราลงแทบทุกวันเลยช่วงนั้น
- พอช่วงเปิดเทอม เวลาอ่านหนังสือเราก็จะน้อยลง เวลาครูสั่งงานหรือการบ้าน เราก็จะทำในห้องไปเลย วิชาไหนเราไม่อยากเรียนไรงี้ ก็ชอบเอนู่นนี่มาทำ หลังเทอมสองคือเอาหนังสือไปอ่านที่ห้องด้วย(ไม่แนะนำเท่าไหร่ เดี๋ยวมีปัญหากับครูเอา) อีกวิธีที่หลังๆเราเป็นก็คืออ่านจนถึงเที่ยงคืน ตี1 แล้วแต่ความคึกเลย แล้วก็จะไปนอนที่รร. ยิ่งวิชาอ่านๆคือหลับเกือบทั้งคาบ ตลกดี (ย้ำอีกรอบ!!!! ไม่แนะนำให้ทำนะ555555)
- จะตอบว่าไม่เสียใจก็ยากนะตรงๆ เราตั้งเป้าหายนี้ และอยากเข้ามาตั้งแต่ ม.4 เลย แต่พอคะแนนออกก็รู้ชะตากรรมเลยอ่ะ มันไม่ได้ถึงกับร้องไห้โฮออกมาทันทีที่รู้คะแนนนะ มันจุกๆ เหมือนเราผิดหวังในตัวเอง คือพอเราหรือไม่ว่าใครก็ตามที่ ตั้งใจทำอะไรสักอย่างมากๆ แต่มันไม่สมหวัง พอผิดหวังมันก็จะเศร้าๆ แต่เราไม่อยากให้โทษตัวเองนะ(เราก็มีแว้บโทษตัวเองเหมือนกัน) แต่สุดท้ายก็ทำใจได้ เราร้องไห้น้ำตาแตกเหมือนเล่น mv เลยแหละช่วงแรกๆ เราเป็นประเภทร้องไห้แล้วจะรู้สึกโล่งขึ้น เลยระบายแบบนี้ ตอนนั้นก็เศร้าเป็นสัปดาห์เลย แนวซึมๆ เลยรีบคิดหาคณะอื่นไว้ เราโชคดีที่คนที่บ้านเราโอเคกับทุกอย่างที่เราตัดสินใจ พอเราไม่ได้ จะยื่นอย่างอื่นที่บ้านและคนรอบตัวเราก็ไม่เคยว่าเรา เหมือนจะดีใจกับเราด้วยซ้ำ แต่ถ้าใครที่บ้านไม่โอเค เราอยากให้สู้ๆนะคะ ชีวิตเรา เราควรตัดสินใจเองนะ อันนี้ความคิดเรา แลดูหึกเหิม555555 แต่ก็อย่าไปก้าวร้าวกับที่บ้านนะ เดี๋ยวบ้านแตก
- บอกก่อนว่าเราอ่ะเป็นติ่ง เวลาเครียดๆเราก็จะดูพวกติ่งต่างๆของเราไป เราชอบฟังเพลง ก็จะหาเพลงความหมายดีๆ ให้กำลังใจเรา เราเป็นarmy ด้วย เพลงให้กำลังใจเยอะมากจากบังทัน ขอขายของ55555 เพลง magic shop, answer : love myself , never mind, epiphany, tommorrow ความหมายเพลงแนวนี้ฮีลเราได้ดีเลยแหละ ทุกคนก็ลองหาความสุขของตัวเองเวลาเครียดๆดูนะคะ อาจจะอ่านนิยาย ดูหนัง ซีรี่ย์ต่างๆ
- อีกอย่างเราชอบอ่านหนังสือจิตวิทยา กับแนวพัฒนาตนเอง ไม่ก็อ่านพวกโควทดีๆ ชอบประโยคนึงมากๆ เขียนว่า “สิ่งที่เราต้องการ อาจจะไม่ใช้สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเราก็ได้” มากจากหนังสือเรื่อง magic shop แหละ อ่านตามจองกุก55555
2 ความคิดเห็น
มีความรู้สึกว่าคนที่ควรจะทำcrackกับvaccineมันเหมือนเป็นพวกที่น่าจะได้240ขึ้นไปแล้วนะ เพราะมันเหมือนเป็นแบบข้อยากๆที่ถ้าไปเจอในห้องสอบแบบไม่เจอมาก่อนแล้วจะทำไม่ทันมากกว่า
แบบถ้าคนพื้นฐานยังไม่แน่นเราว่าไม่ค่อยได้ประโยชน์
ขอบคุณที่มาแชร์เทคนิคการฝึกทำโจทย์และบริหารเวลาที่ดีนะครับ เราใช้แอพ focustimer เหมือนกัน ใช้แล้วคุมเวลาได้ดีมาก แล้วเราก็เห็นด้วยเรื่องการติ่งเพื่อผ่อนคลาย เพราะเราก็เป็นติ่งเหมือนกัน55555 ยินดีด้วยอีกครั้งนะค้าบ
ไม่คิดว่ากัปตันจะมาเห็นกระทู้เราด้วย ยินดีกับกัปตันโปเต้เหมือนกันนะค้าาาาา
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?