
(ผมอยากให้ทุกคนลองติชมจริงๆนะ อาจจะดูมีปริศนาเยอะเเยะเต็มไปหมดเเต่ท้ายเรื่องเตรียมเฉลยไว้ทุกสถานการณ์ครับ:))
1. กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง ห้ามคัดลอก/เผยแพร่ ก่อนได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูล
2. กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้ทำการคัดลอกมาจากของบุคคลอื่นๆ ผู้ลงข้อมูลต้องขออนุญาต และอ้างอิงอย่างเหมาะสม
3. ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ เป็นการส่งข้อความโดยผู้ใช้ หากพบเห็นข้อความหรือรูปภาพที่ไม่เหมาะสม, ละเมิดลิขสิทธิ์ โปรดแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการโดยเร็ว
กระทู้หมายเลข : 3980293
ชื่อกระทู้ : อยากให้ช่วยวิจารณ์นิยายครับ
6 ความคิดเห็น
สั้นมาก สั้นจนไม่พูดอะไรดีกว่า
ถ้าสั้นขนาดนี้เขียนได้ 10 ตอนแล้วค่อยโฆษณาใหม่เถอะนะ
ประโยคเดียวนะครับ
"จงยาวกว่านี้"
ลองอัพอีกหลายๆตอนนะคะ แล้วอาจส่งข้อความลับแจ้งไปที่ไอดีพี่ก็ได้จะแวะไปดูให้ใหม่ค่ะ สำหรับตอนแรกแวะไปดูแล้วยังบอกอะไรได้ไม่มาก แต่บางช่วงที่บรรยายยังสับสนอยู่ เช่นบอกว่าเด็กชายอายุแปดขวบ แต่พออีกประโยคที่ใช้บรรยายลักษณะกลับบอกว่า ชายคนนั้น ซึ่งน่าจะเปลี่ยนไปใช้คำที่บ่งบอกวัยเขาได้ดีกว่า เช่นคำว่า เด็กคนนั้น แทน เป็นกำลังใจให้นะ อัพต่อไปค่ะ
อ๋อ โอเครครับผม ขอบคุณนะครับ
เพื่อให้เข้าใจตรงกัน ผมอยากจะให้คุณรับรู้ไว้ก่อนนะครับว่าที่ผมเขียนต่อไปนี้ 'ไม่ได้มีเจตนาแดกดันหรือไม่ชอบเป็นการส่วนตัว' แต่อย่างใด และหวังว่าคำวิจารณ์ของผมจะสามารถให้คุณนำเอาไปพัฒนาต่อได้
เนื่องจากสามารถอ่านได้เพียงตอนเดียวผมเลยจะวิจารณ์ตามที่ผมเห็นนะครับ ผมใช้เวลาอ่านทวนถึง '5' ครั้ง กว่าจะเริ่มสามารถทำความเข้าใจกับเรื่องราวของตอนได้ มันอ่านยากมาก
จะสับละเอียดและบอกถึงข้อผิดพลาดที่ผมเห็นนะครับ
สับแรก อันนี้เป็นสไตล์การเขียนของแต่ละคนเพราะงั้นคุณอาจจะไม่ได้ผิดก็ได้ ในโคด ("_") ของนิยายไทยส่วนใหญ่จะใช้แทนประโยคคำพูดของตัวละคร สิ่งที่ผมอ่านได้คือคำบรรยายถึงเรื่องราวต่างๆเสียมากกว่า และไม่ได้แตกต่างจากส่วนที่ไม่ได้อยู่โคดเลย
สับสอง ต่อจากข้อแรกเลย ผมไม่เห็นถึงความต่อเนื่องของบท มันพูดถึงคนละเนื้อหา คุณควรจะทำการขึ้นย่อหน้าใหม่เพื่อให้นักอ่านสามารถรีเซ็ตเพื่อรับเนื้อหาที่แปลกแยกจากเดิม ไม่ควรเขียนต่อกันจนทำให้ผู้อ่านสับสน เช่นเดียวกับช่วงท้ายของย่อหน้าที่สอง
สับที่สาม คำบางคำเป็นคำที่ผู้อ่านไม่รู้ความหมายของมันเลย อย่างเช่นอิชูจิที่น่าจะเป็นคีย์ของเรื่องก็ไม่ได้มีการอธิบายเลยว่ามันคืออะไร 'ทั้งๆที่มันเป็นคีย์ที่มีอยู่ในชื่อเรื่องและเนื้อหานิยาย'
สับสุดท้าย เมื่อเริ่มการพูดคุยใหม่ แนะนำให้เริ่มบรรทัดใหม่เลยเพื่อให้คนอ่านไม่สับสนระหว่างบทบรรยายและบทพูด และควรทำเช่นกันเมื่อเปลี่ยนตัวละครที่จะเล่าเพื่อให้นักอ่านสามารถโฟกัสกับตัวละครได้ถูกต้อง
หวังว่าคำวิจารณ์นี้จะช่วยให้คุณพัฒนาการเขียนของตัวเองได้นะครับ
ด้วยความปราถนาดี
ขอบคุณมากๆครับTuT
ส่วนตัวนะคะ คิดว่าตอนมันสั้นเกินไป ควรจะมีอะไรๆให้มากกว่านี้
แล้วก็เรื่องเครื่องหมายคำพูดเราคิดว่าในเครื่องหมายคำพูดควรจะใส่คำพูดของตัวละครมากกว่า แต่อันนี้เหมือนจะเป็นประโยคบอกเล่าธรรมดา ทำให้ดูอ่านยากไปนิดค่ะ
อ๋อ ขอบคุณมากนะครับ จะนำไปพัฒนาให้ตอนต่อต่อไปครับ^^
ขออนุญาตปรับปรุงไว้ให้ดูเป็นแนวทางครับ
มีบ้างที่ผมยังใช้คำฟุ่มเฟือยเยิ่นเย้อเกินไป ยังไงก็ขออภัยด้วย
*--------- จากตอนที่ 1 ทากะและจุดเริ่มต้น ---------*
ท่ามกลางคืนที่หมู่ดาวพร่างพราวเต็มผืนฟ้า ปรากฎเสียงเล็ก ๆ ของทารกน้อยดังขึ้นราวกับรับรู้ได้ถึงบางอย่าง ทันใดนั้นแผ่นไม้ที่บางจนเป็นเสี้ยนอันประกอบกันเป็นสะพานที่ทอดตัวยาวหายไปในม่านหมอก ก็พังครืนพร้อมกับพาร่างทารกน้อยจมหายไปในหมอกอันมืดมิด
จากเรื่องเล่าปรัมปราของผู้เก่าแก่เรื่องราวดังจินตนาการมีให้ฟังมากมาย หนึ่งในนั้นเกี่ยวข้องกับศาสตร์ลึกลับอย่างเวทมนต์ เล่าย้อนกลับไปยังช่วงแรกเริ่มนับตั้งแต่มนุษย์มีความหยิ่งทะนง เหล่าผู้มีอิชูจิกับผู้ที่ไม่มีเกิดความขัดแย้งต่อกันสร้างความบาดหมางจนต้องแยกกันอยู่ ผ่านมาแนินนานจวบจนปัจุบันต่างฝ่ายก็นึกว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงแค่ตำนานเรื่องเล่าอันหามูลความจริงไม่ได้
ทากะ เด็กชายร่างเล็กวัยแปดขวบผู้มีแผลเป็นชวนสยดสยองที่ลำคอข้างซ้าย เขาเป็นเด็กกำพร้าที่ถูกช่วยไว้ก่อนทิ้งให้อยู่ตรงชายคาบ้านของยายแก่ผู้หนึ่ง ก่อนจากไปชายผู้นั้นได้กล่าวกับทารกน้อย "โชคชะตานำเรามาพบกัน ถึงตอนนั้นเจ้าจะเป็นนักรบอันดับหนึ่งของจักรวาลก็ตาม" เขาจากไปทิ้งไว้เพียงพื้นหลังหุบเขาอันสูงชัน และชนเผ่าผู้มีตำนานเกี่ยวกับผู้กล้าตั้งแต่หลายพันปีก่อนกับทารกน้อยผู้หนึ่ง
ภายในกระโจมแห่งหนึ่งแว่วเสียงแหบลึกยังดังอยู่ "...พวกเขาไม่ใช่ทหารธรรมดา แต่พวกเขาคือผู้ฝึกยุทธผู้แกร่งกล้า ...แต่ละรุ่นเมื่ออาจารย์อายุครบสี่สิบเก้าปีก็จะต้องเลือกศิษย์คนหนึ่งมาสืบต่อเป็นอาจารย์รุ่นถัดไป ส่วนที่เหลือจะได้รับอิสระ ...บ้างก็เลือกที่จะกลับไปยังมาตุภูมิ" สิ้นสุดเรื่องเล่าครูชราก็ผ่อนลมหายใจคราหนึ่งพร้อมรอยยิ้มที่อบอุ่น เขาปล่อยให้เด็ก ๆ ออกจากกระโจมไป เขามองเด็กบางคนที่วิ่งไล่จับกัน บ้างก็ร้องเล่นเต้นระบำไปตามประสา ก่อนหันกลับมามองเด็กชายผู้หนึ่งที่ยังคงจ้องภาพวาดนักรบอย่างตกเข้าห้วงภวังค์ ครูชราต้องเรียกอยู่หลายครั้งถึงจะปลุกสติของเด็กน้อยกลับมาได้ ทากะได้ลุกและออกจากกระโจมไปแล้วอย่างช้า ๆ ปล่อยให้ในใจครูชราได้ถามซ้ำกับตนเองว่าเด็กคนนี้นั้นเป็นใครกันแน่
ทากะนั้นไม่มีเพื่อนมากนัก เพราะบาดแผลที่ชวนเสียวไส้เกินกว่าใครจะกล้ามองตรง ๆ เขาเป็นเด็กชายที่มีเพียงขลุ่ยไว้บรรเลงเพลง และน้ำเต้าลูกใหญ่ที่มักพกติดตัวไว้เป็นประจำ
*-----------------------------------------------*
โหห ขอบคุณมากๆเลยครับ จะเอาไปปรับปรุงครับผม