Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

แชร์ประสบการณ์สอบเข้าม.4

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่































สวัสดีค่าาา กระทู้นี้เราจะมาแชร์ประสบการณ์การสอบเข้าม.4กันนะคะ เราสัญญากับตัวเองไว้ว่าถ้าสอบติด จะมาตั้งกระทู้เพื่อเป็นแนวทางให้น้องๆหรือใครหลายๆคนในการสอบไม่มากก็น้อย ก็อาจจะเป็นทำนอง แก้บนแหละค่ะ แต่เราแค่คิดว่าถ้าเราต้องแก้บนด้วยการนำผลไม้ อาหาร และอื่นๆ ไปถวาย ซึ่งเห็นเยอะมากๆ เราเลยอยากทำให้เกิดประโยชน์มากกว่านี้ค่ะ (ไม่ได้ลบหลู่นะคะ)โดยการมาแชร์ประสบการณ์ของตัวเอง ไม่ได้หวังจะได้บุญหรืออะไรขนาดนั้น แต่อยากเป็นแนวทางให้น้องๆ เพราะตอนเราหาข้อมูลเราก็มาหาอ่านตามกระทู้เหมือนกันค่ะ 
    เราสอบติดรร.พิบูลวิทยาลัย จังหวัดลพบุรี เป็นรร.ที่หลายๆคนในจังหวัดและจังหวัดใกล้เคียงใฝ่ฝันอยากเข้า ซึ่งเราก็เป็น1ใน1500กว่าคนที่มาสมัครสอบ ทางรร.รับแค่ประมาณ800กว่าคน เราเลือกแผนการเรียนศิลป์-คำนวณ(อังกฤษ-คณิต) ค่ะ สายเรารับ116คน จำนวนคนสมัครขึ้นลงไม่คงที่ แต่ผลปรากฏว่าตอนประกาศผลเหลือแค่106 คน ซิทคอมมาก55555 สรุปก็คือเราติด1ใน10คนแรกของสายนี้ แสดงว่าไม่ได้ฟลุ๊กละ5555
















-ทำไมถึงเลือกเรียนสายนี้ 
จริงๆตอนแรกไม่ได้กะจะเลือกสายนี้หรอกค่ะ ตั้งใจว่าจะเลือกศิลป์-จีน แต่ก็มีเพื่อนๆทักว่าทำไมไม่เลือกวิทย์คณิตล่ะ มันไปได้กว้างพร้อมบอกเหตุผลมากมาย เราเลยกลับมาคิดและถามพ่อแม่ค่ะ บวกกับศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับสายอื่นๆ คือเราเป็นคนชอบภาษาอังกฤษเป็นทุนเดิม เกรดก็ใช้ได้ แต่ใจเรายังไงก็ไม่ไปวิทย์คณิตแน่นอนตั้งแต่แรกค่ะ ไม่รู้ทำไม แต่ใจสั่งมา5555 เราไม่ได้อยากเป็นพวกหมอ วิศวะ อะไรทำนองนี้ เลยไม่พาตัวเองไปอยู่ตรงนั้น ให้คนที่เค้าพยายามเพื่อสิ่งนี้จริงๆได้เรียนดีกว่า(ขอย้ำว่าเป็น คหสต นะคะ)เเล้วเราก็หันมาให้ความสนใจกับสายศิลป์คำนวณ พอเข้าไปหาอ่านบางคนก็บอกว่าโอบางคนก็ไม่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราเชื่อใจตัวเองค่ะ ทุกสายไม่ได้ดีหรือแย่ไปกว่ากัน ขึ้นอยู่กับตัวเราเองมากกว่า อย่างภาษาที่3ในความคิดเราถ้าเราสนใจก็ไปหาศึกษาเพิ่มเติมเอาได้อาจจะไม่ลงลึกเหมือนสายนั้นโดยตรง แต่ถ้าเรามุ่งมั่นหรือสนใจในอนาคตเราก็ต้องพยายามค่ะ แต่ในตอนนี้เรากำลังสับสนอยู่บ้างว่าจะเป็นอะไรดี ดังนั้นของแบบนี้ต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไป แต่ถ้าใครรู้ใจตัวเองได้เร็วก็ยิ่งดีเลยค่ะ เราจะได้มุ่งมั่นกับสิ่งนั้นทำให้ดีที่สุดไปเลยย!!
















- เตรียมตัวอ่านหนังสือยังไง?
อยากแนะนำน้องๆนะคะว่าการจะสอบเข้า สอบย่อย หรืออะไรต่างๆ ขอแนะนำให้เราตั้งใจเรียนในห้องให้เข้าใจ แล้วกลับมาทบทวนว่าจุดไหนที่เรายังไม่เก็ท ย้ำไปเลยค่ะ ย้ำทำแบบฝึกหัดให้ได้ เพราะบทเรียนที่เราเจอมากับตัวคือบางเรื่องเรียนไม่เข้าใจแต่ไม่ทบทวน พอจะสอบกลางภาค ค่อยมาอ่าน+ทำความเข้าใจใหม่ มันมีทั้งข้อดีและเสียค่ะ ดีคือเราจะได้รีเซ็ทใหม่ แต่มันจะเปลืองเวลามาก ในการอ่านวิชาอื่น ซึ่งไม่แนะนำ แต่สำหรับเราถ้าสอบครั้งไหนวิชานี้มันไม่ได้จริงๆ เราก็จะไม่เสียเวลากับมันค่ะ ไปทบทวนอ่านวิชาที่มันเป็นไปได้สูงกว่า ส่วนในการสอบเข้า แน่นอนมันงานช้างกว่าอยู่แล้ว ช่วงก่อนสอบสัก3-4เดือนอยากให้มั่นทบทวนอ่านเยอะๆ อย่าคิดเผื่อใจว่ากว่าจะสอบมีเวลาตั้งเยอะ ไม่จริงเลยค่ะ เจอมากับตัว5555
















- ช่วงใกล้สอบ + หนังสือที่อ่าน
ยอมรับเลยค่ะว่าเราเป็นคนไม่ค่อยกระตือรือร้น  ติดโซเชียล มาจริงจังกับการอ่านก็1เดือนก่อนสอบ (ขอร้องว่าอย่าทำตาม) เราเลยรู้สึกว่า เห้ยนี่เราเรื่อยเปื่อยมากๆ จะทำยังไงดี งดเล่นโซเชียลไปพักนึง มีจับบ้างนิดหน่อย แต่ห้ามใจตัวเองได้ แล้วก็มาคิดว่าถ้าเราจะมานั่งอ่านเนื้อหาที่เรียนมาตั้งแต่ม.1-3 5วิชาภายในเวลาแค่นี้ ตายแน่ๆ ไม่ไหวแน่ๆ เราเลยเข้าไปอ่านตามสรุปเนื้อหาสอบเข้า หนังสือโจทย์(ซื้อมา5เดือนก่อนสอบ แต่ไม่แตะ) บวกกับมีกลุ่มที่ทางเพจของสถาบันสอนพิเศษติวให้ฟรี หลายๆคนที่สอบเข้าสนใจเยอะมากๆ อันนี้ก็คือช่วยได้เยอะ แถมยังได้เพื่อนใหม่อีก ต้องขอบคุณจริงๆค่ะ ที่สำคัญเน้นทำโจทย์ ขอขีดเส้นใต้เน้นย้ำคำนี้เลยค่ะ ข้อนี้สำคัญจริงๆ ที่เราทำได้เพราะข้อนี้เลย อยากแนะนำมากๆ 
วิธีของเราก็คือ เสิร์ชอากู๋เลยค่ะว่าเนื้อหาสอบเข้าม.4 ประมาณไหนบ้าง ใช้ให้เป็นประโยชน์ เพราะถ้าทำแบบทดสอบตามในเน็ตนี่แทบไม่ต้องเซื้อหนังสือโจทย์มาทำเลย เซฟเงินไปได้อีก พอได้มาเราปริ้นท์ค่ะ แล้วมานั่งทำ ทำหลายๆบท หลายๆเรื่อง ของแต่ละวิชา พอเราทำก็มาตรวจคำตอบว่าข้อไหนที่เราผิดซ้ำผิดบ่อย แปลว่าเราอ่อนในเรื่องนี้ ก็มาทบทวน แล้วทำโจทย์ซ้ำอีก อยากให้น้องๆลองคิดดูนะคะ ถ้าเราอ่านเฉพาะเนื้อหา มันจะออกทะเลไปไกลมาก อ่านให้ทันภายในเวลาอันสั้น เป็นไปได้ยากค่ะ ยิ่งถ้าเราอ่านทำความเข้าใจช่วง3เดือนก่อนสอบ แล้วมาทำโจทย์ซ้ำอีก ไม่ติดก็ไม่ได้แล้วค่ะจังหวะนี้ 
















- วันสอบ
ก่อนนอนสวดมนต์ไหว้พระค่ะ (จริงๆเป็นคนสวดมนต์อยู่แล้ว) แต่คืนนี้คงพิเศษกว่าคืนไหนๆ เข้านอน4ทุ่มหลังจากที่นอนตี2มาเกือบเดือน ตื่นตี4ค่ะ ตื่นเต้นมาก ออกจากบ้าน7.30น. กินข้าว ไหว้พระที่บ้าน ไหว้พ่อแม่ ศักดิ์สิทธิ์กว่าที่ไหนๆใช้เวลาเดินทางประมาณ40นาที (บ้านไกลแต่ใจรักเรียน) เข้าสอบ9โมงถึงเที่ยง ใช่ค่ะ แค่3ชม. ปีนี้ติดสถานการณ์โควิด-19 ทุกอย่างเลยปรับเปลี่ยนไปหมด ข้อสอบเป็นฉบับเดียวรวม5วิชา 
ภาษาไทยวิชาแรก 25ข้อ 25นาที ไม่มีเวลาได้ตรวจทานเลยค่ะ เกือบทำไม่ทันด้วยประเด็น ที่จำได้จะเป็นพวกคำเป็นคำตาย บทประพันธ์ กลอน ประโยค
คำสมาส คณิตจะออกพวกความน่าจะเป็น เรขาคณิต อัตราส่วน โจทย์ปัญหา วิทย์ สารละลาย ทดสอบแป้ง กลุ่มดาว อังกฤษ พวกverb tense มีป้ายสัญลักษณ์มาให้แล้วตอบ ให้เนื้อเรื่องยาวๆมาแล้วตอบคำถาม  บอกเลยถ้าอ่านแล้วทำความเข้าใจคือทำไม่ทันแน่นอน เราใช้เซ้น+การเดา เพราะมีเวลาแค่30นาที 25ข้อ สังคมจำได้แค่กฎหมาย สรุปคือไม่ยากเกินไป แต่ก็ไม่ง่ายส้ะทีเดียว เนื้อหาคือแค่ม.1-3 จริงๆ แต่รู้สึกได้ว่าจะเน้น.3เยอะ โจทย์ไม่ซับซ้อน อาจจะเป็นเพราะเวลาที่กำหนดมาให้มีจำกัด ไม่รู้ว่าปีอื่นๆเป็นยังไงนะคะ คือถ้าอ่านและเตรียมตัวดีๆ ทำได้แน่นอน ต้องขอซอรี่หน่อยน้าา ที่จำไม่ค่อยได้ แต่ไม่ยากเกินไปจริงๆค่ะ เป็นข้อสอบกลาง สู้ๆ!!!
















วันรู้ผลนี่คือดีใจมากๆๆๆๆ คือเราทำเต็มที่ รู้สึกแบบความพยายามเรามันทำให้เราประสบความสำเร็จ ต่อจากนี้เราก็ต้องตั้งใจเรียน พร้อมที่จะก้าวในขั้นต่อๆไป ทำทุกอย่างให้ดีที่สุด แล้วอยากพิสูจน์ให้หลายๆคนรู้ว่าสายศิลป์ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าใคร จงเชื่อมั่นในตัวเองเข้าไว้!!
สุดท้ายและท้ายสุด อยากให้น้องๆทุกคนที่อยากเข้ารร.ในฝัน ทำตามฝันให้สำเร็จด้วยความตั้งใจ พยายาม ไม่ย่อท้อ เชื่อมั่นในตนเองอยู่เสมอค่ะ
ส่วนน้องที่อยากจะมาเป็นลูกศิษย์รั้วเขียวเเดง ก็ขอให้สู้ๆทุกคนนะคะ แล้วมาเจอกันค่ะ 
ขอฝากคำนี้ดีไว้ประโยคนึงนะคะ เป็นคำที่เตือนใจเราอยู่เสมอเลย แล้วอยากให้หลายๆคนคิดเหมือนเราค่ะ  
                    " Be what you wanna be,
                   not what other wanna see"
                  
                 '' จงเป็นในสิ่งที่เราอยากจะเป็น
                   ไม่ใช่สิ่งที่คนอื่นอยากจะเห็น "
ขอบคุณทุกๆคนที่เข้ามาอ่านนะคะ ยาวมากๆ ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้ขอบคุณมากๆเลยค่ะที่อ่านจบ
สงสัยตรงไหนสอบถามหลังไมค์ได้นะคะ :)

































































































แสดงความคิดเห็น

>

2 ความคิดเห็น