สนพ. หรือ ทำอีบุ๊ก เอง
ตั้งกระทู้ใหม่
** สำหรับนักเขียนที่อยากตีพิมพ์ เป็นกำลังใจให้ค่ะ ทุกอย่างมีจังหวะเวลาของมัน
xoxo
28 มิ.ย. 63 เวลา 00:53 น.
1,676
views
8 ความคิดเห็น
กำลังคิดถึงเรื่องนี้อยู่เลยค่ะ ว่าจะลองส่งไปให้ สนพ. พิจารณาดูบ้าง แต่เราสงสัยอย่างหนึ่งค่ะ ถ้าหากเราจะส่งนิยายไปให้ สนพ. จำเป็นต้องอัปเป็นนิยายลงในเว็บเด็กดีไหมคะ หรือสามารถส่งเป็นเนื้อหานิยายจากเวิร์ดผ่านอีเมลไปได้เลย หรือต้องทำยังไงคะ อันนี้คือสับสนมาก ว่าจะตั้งกระทู้ถามจากผู้มีประสบการณ์อยู่ ช่วยแนะนำหน่อยได้ไหมคะ
อัปค่ะและส่งไฟล์เวิร์ดต้นฉบับให้สนพ.ด้วย ยอดวิวจะเป็นตัวชี้วัดด้วย ถ้ายอดวิวสูง สนพ.ตัดสินใจง่ายค่ะ
ถอดมาตอบบ้าง
จริง ๆ สำหรับเรา ทำอีบุ้คสบายใจสุดค่ะ ทำกะ สนพ ครั้งหนึ่งเหมือนกัน คิดว่าน่าจะได้ประสบการณ์เพิ่ม แต่ไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไปค่ะ แต่ก็นะ แต่ละ สนพ คงมีการทำงานแตกต่างกัน ประสบการณ์ที่ได้ก็ตามนั้น สนุกไปอีกแบบแค่ช่วงต้น
ส่วนอีบุ้ค ก็ใส่ใจมากหน่อย เราชอบแบบอีบุ้คมากกว่า ส่วน สนพ อันนี้ก็แล้วแต่ ติดต่อมาถึงจะคิดว่าจะทำไหม แต่การส่งไปพิจารณา อันนี้ไม่ดีกว่า
ยินดีด้วยนะคะ โอกาสเข้ามาก็คว้าไว้ พอได้ทำละต่อไปก็จะมีทางเลือกเพิ่ม ทำเอง ทำมือ อีบุ้ค หรือ สนพ
ตอบเรื่องนี้ก็ต้องถอดมาด้วยอีกคน
ถามตัวเองก่อนว่าคนติดตามเยอะไหม คนอ่านเยอะหรือเปล่า ถ้าเยอะขายเองก็ไม่แย่
ถ้าน้อยให้ไปขายกับสำนักพิมพ์
แต่ต้องทำใจก่อน ถ้าเป็นสำนักพิมพ์เล็กจะได้เงินช้าถึงช้ามาก เป็นหน่วยเดือน บางคนเซ็นไปแล้วหนังสือก็ไม่ได้ออก สัญญาก็ฉีกไม่ได้ ถ้าสำนักพิมพ์ใหญ่ก็ไวหน่อย น่าเชื่อถือหน่อย
ถ้าขายอีบุ๊คก็เป็นพาสซีฟอินคัม ถ้าคนตามเยอะเดือนแรกจะได้เงินก้อน และได้ไปอีกเรื่อย ๆ ประมาณสามถึงหกเดือน
มีแต่คำว่า ถ้า ขึ้นอยู่กับว่าชอบ ถ้า แบบไหน หากมีฝีมือเพียงพอ ลองทำเองออกเองซักเรื่องก็ไม่ยาก ถ้าไม่โอเค ค่อยขายเรื่องหน้า แล้วแต่ถนัด
ตอบในฐานะเคยออกกับสนพ. อันดับต้นๆ 2 แห่ง
ข้อดี คือจ่ายเงินดี ตรงเวลา เงินก้อนแรกได้รับแบบไม่ต้องลุ้นยอดขาย ขายดี-ไม่ดี ก็รับเงินก้อนไป ไม่ต้องทำการตลาดโปรโมทเพราะสนพ.จัดให้
ข้อเสีย ไม่เคยมีคอมเมนต์ใดๆ จากบก. เขียนจบ ส่ง ผ่าน เข้าสู่กระบวนการผลิต รับเงิน บางทีก็งงว่าที่นิยายผ่านพิจารณานี่คือผ่านตรงไหน เค้าชอบอะไรในนิยายของเรา
แต่จุดที่เริ่มทำให้ตัดสินใจไม่ส่งสนพ.อีกต่อไปก็คือรายได้จาก ebook
เมื่อทำ ebook ออกเองเล่มแรกถึงได้รู้ว่ารายได้เยอะมาก ได้เนื้อๆไม่ต้องแบ่งใคร ก็เลยเริ่มคิดว่าจะหยุดส่งสนพ. แต่ในใจก็กลัวว่าถ้ายอดขายไม่ดีก็เท่ากับไม่มีตัวเล่มจากสนพ.มา support รายได้เลยนะ
แต่เท่าที่คำนวณเองคิดว่ารายได้ ebook เอาอยู่ก็เลยเลิกส่งแล้วลุยเอง ฐานแฟนคลับพอมี รู้สึกเป็นอิสระกว่ากันมาก ทั้งในเชิงโปรโมทนิยาย การขาย การออกแบบปก (เรื่องนี้เคยหัวเสียกับสนพ.มาก)
คำแนะนำสำหรับนักเขียนหน้าใหม่ - ก้าวแรกควรส่งสนพ.เพื่อเรียนรู้ระบบการทำงาน การทำรูปเล่ม การตลาด และฐานแฟน
ขอให้โชคดีฮะ
แต่เรามีฐานแฟนแล้วไง 5555 เด็ก ๆ เขาไม่มี แล้ว-ฐานนี่ใช้เวลาหานะ อีกอย่างรายได้จากเด็กดีเจอะกว่าอีบุ๊คอีกนะ ทำไมคนมองข้ามกันล่ะ
รายได้ในเด็กดีของเราจุ๋มจิ๋มน่ารักมาก ผิดกับอีบุ๊คลิบลับ เราเลยคิดว่าอีบุ๊คดีกว่าค่ะ อาจจะเป็นเพราะฐานแฟนคลับของเราส่วนใหญ่เป็นวัยทำงาน จึงมีกำลังเปย์มากกว่าเด็กๆ มั้งค่ะ แล้ววัยทำงานส่วนใหญ่ชอบอ่านอีบุ๊คกับเล่มมากกว่าอ่านตามเว็บ ตามเว็บส่วนใหญ่มีแต่สายอ่านฟรีค่ะ เราก็ติดเหรียญทิ้งๆ ไว้ ก็พอได้ค่าเน็ตอยู่ค่ะ สรุปคือ ช่องทางไหนขายได้ เราก็เปิดขายมันทั้งหมดนั่นแหละ (ความงกก็มา555)
ขอตอบจากประสบการณ์ของตัวเองเช่นกันค่ะ เราเพิ่งเริ่มเขียนนิยายได้ปีเดียว เรื่องแรกลงเว็บได้ไม่เท่าไหร่ก็มี สนพ. ใหญ่อันดับต้นๆ มาจีบ เราดีใจมากเพราะไม่เคยคาดหวังอะไร คิดเพียงแต่จะเขียนเล่นๆ เท่านั้น เราตกลงเซ็นสัญญาเพราะหวังว่าจะได้รับคำชี้แนะจาก บก. แต่ปรากฎว่า บก. ของ สนพ. นี้ไม่มีฟีดแบ็คอะไรเลย หลังจากส่งต้นฉบับไปแล้วผ่านไปสักหนึ่งเดือน(อยู่ในช่วงตรวจต้นฉบับ บก. บอกว่าต้องใช้เวลาตรวจ 1-2 เดือน) เรากลับไปอ่านต้นฉบับอีกครั้ง ถึงได้รู้ว่าสำนวนภาษาป่วยมาก คำผิด คำซ้ำ คำฟุ่มเฟือยเยอะมาก เราแจ้ง บก. คำตอบที่ได้มาคือไม่เป็นไร เรางงมากว่าไม่ต้องแก้ไขเพื่อให้นิยายดีขึ้นเหรอ? เราถามตลอดว่ามีส่วนไหนที่ต้องปรับปรุงแก้ไขไหม สิ่งที่ได้ก็คือไม่มี เราส่งต้นฉบับเดือนไปตั้ง 8 เดือนกว่าจะได้วางจำหน่าย รอนานมากจนเราคิดว่าถูกดองไปแล้ว (นิยายเรายอดวิวนิดเดียวเท่านั้น) ความคาดหวังว่าจะได้ประสบการณ์จากตรงนี้แต่ก็ไม่มีเลย
เราเขียนเรื่องที่สองจบในขณะที่รอเรื่องแรกตีพิมพ์ พอเขียนจบก็จัดหน้าพิสูจน์อักษรเอง เพื่อทำ E-book ขาย (ไม่กล้าจ้าง กลัวอีบุ๊คขายไม่ได้ เดี๋ยวขาดทุน555) ปรากฏว่ายอดโหลดปังมาก รายได้เดือนแรกเยอะกว่า สนพ. รายได้รวม 3 เดือน เท่ากับรายได้เกือบทั้งปีของเราตอนที่ทำงานบริษัทเอกชนเลย คือดีใจมาก เราคิดว่าทำอีบุ๊คเองมันเป็นอิสระ ได้เต็มๆ ไม่ต้องแบ่งใคร ฐานแฟนคลับเราก็มีอยู่นิดหน่อยเพราะเป็นนักหัดเขียนหน้าไป(คงต้องสะสมไปเรื่อยๆ ) แต่สบายใจกว่าออกกับ สนพ. ตรงที่ไม่ต้องมารอลุ้นว่าจะถูกดองงานไหม จะถูกเบี้ยวค่าต้นฉบับไหม เราไม่คิดส่งต้นฉบับไปให้ สนพ. พิจารณา แต่หากมีเข้ามาจีบอีกก็จะรับไว้พิจารณา
หากใครลังเลว่าจะออก ebook ดีหรือไม่ เพราะกลัวว่าจะไม่มีคนซื้อหรือฐานแฟนคลับน้อย เราแนะนำว่าออกขายไปเลยค่ะ ฐานคนอ่านอีบุ๊คกับฐานคนอ่านในเว็บมันคนละฐานกัน อย่างไรก็ขายได้ แต่จะได้มากได้น้อยก็อีกเรื่องหนึ่ง
สำหรับเราแล้ว อีบุ๊คและทำมือเวิร์คสุด ถึงจะเหนื่อยมากเวลาต้องมาบรู๊ฟเล่มเองก็ตาม แต่พอเห็นค่าตอบแทนแล้วก็หายเหนื่อยทันที 555(ความหน้าเงินก็มาค่ะ)
จริงค่ะสำนักพิมพ์ช้ามาก บางที่เอาเงินพรีไปทำทุนพอได้กำไรถึงจะมาแบ่งนักเขียน ทั้ง ๆที่การตีพิมพ์เล่มใช้เวลาไม่นาน (เราเคยพิมพ์เองตรวจเอง ยังไงก็ไม่ถึงเดือน) แต่สำนักพิมพ์เอาไปดองไว้เกือบครึ่งปี บางที่เป็นชาติแล้วยังไม่ออก
แต่ถ้าทำอีบุ๊ค ขายวันนี้ วันที่ 20 ก็ได้เงินแล้ว เงินเป็นกำด้วย
โอ้ คนตอบเยอะจัง
สนพ.ที่ติดต่อเรามาใช้เวลาพิจารณาไม่ถึงอาทิตย์ค่ะ ทุกอย่างค่อนข้างเร็ว มีคอมเมนต์ให้แก้ตรงไหนๆ แถมบอกแนวทางการเขียนเล่มต่อๆ ไปด้วย เราก็ไม่รู้ว่าสนพ.นี้ใหญ่ขนาดไหน อยากบอกชื่อจัง เผื่อได้ข้อมูลเชิงลึก เดี๋ยวหนังสือออกเป็นเล่มแล้วจะมาเปิดหน้านะคะ อิอิอิ
ถ้าเจอดีๆก็ดีใจด้วยค่ะ 5555 สู้ๆค่ะ
คนมาตอบเยอะ และเป็นประโยชน์มาก
ขี้เกียจถอดล็อกอินเพราะไม่ได้มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอันอะไร ในยุคนี้ทำเองมันได้เนื้อได้หนังมากกว่าจริง ๆ แหละค่ะ ไม่ต้องรอ ไม่ต้องแบ่งชิ้นเค้กให้ใคร ในกรณีที่คุณมีแฟนคลับพร้อมซัพพอร์ต เราสนุบสนุนให้ทำเองเลย มีฟรีแลนซ์ที่มารองรับงานทุกขั้นตอนพร้อมเลย แถมมีแม้กระทั่งที่รับทำให้เสร็จตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ นำต้นฉบับคุณไป บอกว่าอยากได้ปกแบบไหน เขาจะหานักวาด ติดต่อให้ทำทุกออย่างออกมาเป็นเล่มพร้อมส่ง ขอแค่คุณมีเงินจ้างเขาก็พอ
ส่วนพวกที่คิดว่าจ้างแล้วไม่คุ้มอย่างเราก็เลยต้องฝึกหัดทำเองกันไป ดีที่เมื่อก่อนเคยไปลงเรียนทั้ง Photoshop, Illustrator, Page Maker ที่ปัจจุบันคือ InDesign มาก่อนดังนั้นส่วนของกราฟิกเราไม่มีปัญหา แค่ลับฝีมือให้ออกมาสวยดูดีโดดเด่นก็พอ ก็ได้อีบุ๊กออกมาเล่ม แค่ขายได้สักเล่มก็ดีใจ และดีใจที่ยอดมันไม่เป็น 0
สำหรับตัวเราเองก็มีความคิดอยากไปลองเสี่ยงกับสนพ.ดูสักครั้ง (ฮา) มันไม่เสียอะไรนอกจากเวลา จะส่งประกวด ก่อนหน้านี้ก็ทำงานเสียจนไม่ได้โงหัวขึ้นมาดูโลกภายนอกเท่าไร อยู่แต่ในถ้ำ ภชถ้าผ่านก็ดีไม่ผ่านก็ดี หลังหมดสัญญาก็ยังมาทำอีบุ๊กต่อได้อีก
เข้ามาอัปเดตไว้เป็นrecordเผื่อคนอื่นเข้ามาอ่าน
สนพ.ใช้เวลาอ่านต้นฉบับ5วัน
เราปรับแก้วันเดียว(เพราะเขียนไปรีไรต์ไป คำผิดน้อย มีปรับบางจุดเท่านั้น)
วันต่อมาแจ้งผลทางอีเมลเป็นทางการว่าผ่านและขอเอกสารทำสัญญา
ปัจจุบัน กำปากกาลูกลื่นมูจิเตรียมเซ็น
หนังสือออกเดือนนี้ค่ะ
จะมาเปิดหน้าหลังวางขายซีเอ็ด นายอินทร์
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?