เเม่ชอบเภสัช ฉันชอบรัฐศาสตร์ ทำไง?
ตั้งกระทู้ใหม่
หละตอนนี้ไม่รู้จะปูทางยัง ทำยังให้ลงเอย ตอนนี้อนาคตมืดมิด ขอคำเเนะนำหน่อยค่ะ
xxcs16
30 มิ.ย. 63 เวลา 22:05 น.
1,408
views
5 ความคิดเห็น
หนูเป็นตัวแทนของแม่รึ? ทำอะไรก็ต้องตามใจแม่ ห้ามขัดใจแม่?
แม่ไม่ได้อยู่กับเราทั้งชีวิตนะ แต่สิ่งที่เราชอบ ที่เราเรียน จะอยู่กับเราไปตลอดชีวิต
อนาคตของตัวเองแท้ๆ จะกล้าหรือจะกลัว เลือกเอา
ชีวิตใครชีวิตมันครับ คือถ้าน้องไม่กล้าพูดตั้งแต่วันนี้อาจจะลำบากทีหลังนะ พี่ไม่รู้ว่าแม่น้องเป็นคนแบบไหน ถ้าเจอแบบที่พี่ลาเต้มาโพสในทวิต คือเอารหัสเข้าระบบแล้วมาเลือกคณะใหม่ให้ลูกนี่เศร้าเลยนะครับ
จริงๆเรื่องแบบนี้มันคุยกันได้ บอกกันแต่เนิ่นๆก็จะได้แลกเปลี่ยนความคิดกันนนะ
ถ้าคุณไม่กล้าบอก เรื่องมันก็ไปต่อไม่ได้ครับ เลือกเอาระหว่างกลัวโดนว่า กับ ต้องทรมานกับคณะที่ไม่ชอบ หรือถ้าเอาแบบประนีประนอม 1. คุณก็เรียนเภสัชให้แม่แบบแค่พอผ่านไม่ต้องสนเกรดสวย แล้วก็เรียนควบรัฐศาสตร์ ม เปิดแบบสนุก หรือ 2. จบตรีเภสัช แล้ว ต่อโทรัฐศาสตร์ หลักสูตรที่รับคนจบ ป ตรีทุกสาขา 3. สอบติดเภสัช TCAS รอบแรกๆ ให้แม่แต่สละสิทธิ์ แล้วคุณก็ไปสมัครรัฐศาสตร์รอบ TCAS หลังๆ เพื่อตัวเอง อย่าลืมว่า คนที่เรียนคือคุณ ไม่ใช่แม่คุณ ถ้าแม่ชอบ แล้วทำไมแม่ไม่ไปเรียนเอง
ถ้าไม่ถึงขนาดเกียจ เคมี ชีวะ มากๆ ก็เรียนเภสัชเถอะ รัฐศาสตร์ หางานยาก ถ้าได้งานต่อไปข้างหน้าถ้าเกิดปัญหาในที่ทำงาน เช่น ปัญหากับหัวหน้า ปัญหากับเพื่อนร่วมงาน ปัญหาการเมืองในที่ทำงาน ต้องฝืนทำต่อไป จะลาออกก็ไม่ได้เพราะหางานใหม่ลำบาก ยกเว้น รัฐศาสตร์ ม.ดังๆ เช่น จุฬาฯ เพราะสาขาแนวนี้ต้องอาศัยเครดิตชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยพอสมควร แต่ต้องเก่งภาษาอังกฤษมากๆ ด้วย
ถ้าไม่ชอบ เคมี ชีวะ เอามากๆ ก็ไปรัฐศาสตร์แต่ต้อง ม.ดังๆ นะ ยกเว้นมีกิจการที่บ้านจะจบอะไรที่ไหนก็ได้จบแล้วไปทำกิจการที่บ้านต่อจากพ่อแม่
คุยกับแม่ตรงๆ แต่ต้องมีวิธีการพูดพบกันครึ่งทางแบบบัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่น ค้นหาตัวเองก่อน เช่นถ้าฟิสิกส์ เคมี ชีวะ เกรดไม่ค่อยดี เรียนไม่ไหว ก็บอกแม่ เพราะการเรียนเภสัชเน้นหนักเคมี ชีวะ หรือถ้าคะแนนพอไปได้ ก็บอกแม่ว่าหนูจะลองสอบและทำคะแนนให้ดีที่สุด แต่อยากให้แม่ฟังหนูด้วยว่าหนูอยากเรียนรัฐศาสตร์ พร้อมทั้งให้เหตุผลที่อยากเรียน รัฐศาสตร์จบมาสามารถมาได้ทางสายปกครอง ปลัดอำเภอ พัฒนากร(ซึ่งแน่ๆต้องมีทุกจังหวัด อำเภอ ตำบล) หนทางของรัฐศาสตร์ก็ไม่ได้ตีบตัน ถ้าเรามุ่งมั่นก็ต้องเก่งและแกร่งจริง เพราะคนจบเยอะมากในแต่ละปี ทำให้การแข่งขันสูง
ในมุมมองของผู้ใหญ่ อยากให้ลูกเรียนจบมาแล้วมีอาชีพที่มั่นคง ดูแลตัวเองได้ โดยส่วนตัวพี่ก็คุยกับแม่ตรงๆ แม่อยากให้พี่เป็นหมอ เอาคะแนนไปยื่นในรอบรับตรง(ปี 60) และพี่ติดแพทย์ Cpird นั่งคุยกับแม่ 3 ชม.เต็ม จนแม่ยอมรับเข้าใจถึงเหตุผล (มีเสียน้ำตาทั้งแม่ - ลูก) แต่อย่างที่บอก พบกันครึ่งทาง แม่อยากให้ลูกมั่นคง จบแล้วมีงานทำ งั้นลูกขอเลือกเรียนทันตแพทย์ ในรอบกสพท.พี่เลือกทันตแพทย์ทุกอันดับ ปัจจุบันก็เรียนทันตแพทย์ เราสามารถพบกันครึ่งทางได้ โดยคุยกันอย่างเปิดใจ ทุกวันนี้แม่ Happy พี่ Happy อย่าคิดอะไรไปก่อนล่วงหน้าว่าพ่อ แม่จะว่า พี่เชื่อว่าถ้าเรามีเหตุผลพอ ผู้ใหญ่จะรับฟัง
ขอบคุณสำหรับคำเเนะนำค่ะ️
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?