Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

สอบกสพท.

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
คืออยากเป็นหมอแต่เข้าสายวิทไม่ได้เพราะคะแนนไม่ถึงก็เลยเลือกศิลป์จีนค่ะแต่อยากรู้ว่าสอบ
กสพท.มันยากง่ายหรือยังไง แล้วก็สมัครสอบยังไงคะ

แสดงความคิดเห็น

>

12 ความคิดเห็น

ไม่ได้กวนนะ 2 ก.ค. 63 เวลา 12:24 น. 1

กสพท หมอ ใช่ไหม (ไม่กำหนดสายการเรียน)


ยากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก



คณะแพทย์ ไม่ใช่คณะและอาชีพที่ใครนึกจะสอบก็สอบเข้าได้อะ

หมอ นะ หมอ

ไม่ต้องถาม ก็ต้องรู้คำตอบ


ยกเว้นตัวเองเป็นอัจฉริยะ ที่บังเอิญขี้เกียจจจจจมากจนสอบสายวิทย์ไม่ได้เฉยๆ

0
กัลย์ 2 ก.ค. 63 เวลา 13:33 น. 2

สอบแพทย์ กสพท. ไม่กำหนดสาย ไม่กำหนดเกรด ไม่กำหนดอายุ

ขอให้มีความสามารถ สอบติดแพทย์ได้ ก็เรียนได้


ต้องสมัครสอบและได้คะแนนดีๆ ในวิชา ดังนี้

1.วิชาเฉพาะ(ความถนัดแพทย์) ไม่น้อยกว่า 20% ตุนไว้

2.วิชาสามัญ 7 วิชา คณิต 1/ อังกฤษ/ ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ/ ไทย/ สังคม /ไม่น้อยกว่า 60%

(แต่ละกลุ่มสาระไม่ถึง 30% ตัดออก)

3.โอเน็ต คะแนนรวม ไม่น้อยกว่า 60% (น้อยกว่า 60% ตัดออก)


เด็กเก่ง สายคณิต-วิทย์ เกรดโรงเรียนดัง ไม่มาก 3.5 ขึ้นไป ทั้งใน กทม.และต่างจังหวัด สอบไม่ติดแพทย์ กสพท. เป็นเรื่องปกติ-ธรรมดา

ถ้าเป็นโรงเรียนไม่ดัง ดูประวัติโรงเรียนย้อนหลังไปถึง 10 ปี ยังไม่เคยมีเด็กสอบติดแพทย์ กสพท.เลยแม้แต่คนเดียว เยอะแยะไป แบบนี้จะเรียกว่า ยากหรือง่าย ลองคิดดูเอาเอง

ยิ่งเป็นเด็กสายศิลป์จีน ไม่รู้จะต้องแบกน้ำหนัก ต่อให้เด็กสายคณิต-วิทย์ มากเท่าใด

0
งงง 2 ก.ค. 63 เวลา 13:35 น. 3

แค่สอบเข้าสายวิทย์ไม่ได้นี่ก็เป็นขั้นนึงที่บอกแล้วนะคะว่าไปไม่รอดกับทางนี้ แล้วยิ่งไปเรียนภาษาอีก หนทางจะไปต่อกับกสพท.บอกเลยว่ายาก ถ้าไม่ใช่อัจฉริยะแบบที่คห.1บอกน่ะ

0
ABCDE 2 ก.ค. 63 เวลา 15:39 น. 4

ขยันๆก็เข้าได้ อยู่ที่ตัวเองเเต่เนื่องจากไม่ได้เรียนวิทย์-คณิต ต้องขยันกว่าคนอื่นเป็น 2 เท่า ถามว่าเอาเวลาว่างไปอ่านวิทย์-คณิต ได้ไหมหละ (เวลาที่คนอื่นเอาเวลาไปทำสิ่งที่ชอบ) ถ้าได้ก็ไม่ยากเกินไปหรอก เเต่ถ้าไม่ได้ก็ยาก ของเเบบนี้มันอยู่ที่ตัวเรา อย่าถามคนอื่นเลยถามตัวเองดีกว่านะ

4
มั่นใจเว้นแต่บนแรง 2 ก.ค. 63 เวลา 15:58 น. 4-1

ค้านค่ะ (เฉพาะในส่วนของการสอบคณะ หมอ นะ) ยุคนี้มันอยู่ที่สิ่งแวดล้อม สังคม การสนับสนุนด้วย ถ้าบัังเอิญ เป็นศิลป์จีนเตรียมอุดมงี้ ก็เชื่อนะคะ


แต่สมองคนบางคน ขยันสองเท่าก็ถึงฝั่งถึงเป้าหมายได้แม้แปลกเส้นทาง

แต่บางคนสมองไม่ได้เกิดมาเพื่อเรียนหนังสือ (อาจจะเก่งด้านอื่นๆ หรือวิชาใดแค่วิชาเดียว) ขยันสี่เท่า แปดเท่า สิบหกเท่า ตั้งใจเอาจนจิตใจล้มเหลวห่อเหี่ยว ก็ยังไม่ถึงฝันก็มีค่ะ


บางคนสมองถึง แต่การจัดการไม่ดี หรือบังเิญไม่ได้อยู่ในโอกาสที่มีคนให้คนปรึกษา เงินไม่มี โอกาสไม่มา มันก็พลาดได้เหมือนกัน


แต่เห็นด้วย กับ "ของเเบบนี้มันอยู่ที่ตัวเรา"



จขกท อาจจะเก่งจริงก็ได้ แต่ไม่รอบคอบ และไม่มีคนแนะนำ หรือบังเอิญพลาด

แต่ต้องยอมรับว่า หมอ ไม่ใช่คณะที่คนสมองทั่วไปใน รร ทั่วไป ที่ตั้งใจระดับนึง เรียนบ้างเล่นบ้าง จะฟลุ๊ก เฮ้ย คะแนนถึงเฉยเลย แบบนี้ไม่มีแน่นอน

0
ABCDE 2 ก.ค. 63 เวลา 17:20 น. 4-2

ผมเเค่พูดอิงจากประสบการณ์ส่วนตัวเฉยๆ ถึงผมจะเรียนอยู่สายวิทย์ตอนม.ปลายเเต่เป็นรร.ต่างจังหวัด ผมไม่เก่งเคมี ชีวะ อังกฤษ (ห่วยเเตก) ไทย สังคม มีเเค่เลขที่พอไปได้ กับฟิสิกส์ที่ถือว่าถนัดที่สุด ผมห่วยเเตกอังกฤษกะชีวะมากสอบตกบ่อยมาก ส่วนเคมี ไทย สังคมพอผ่านไปได้ ตอนนี้ผมเรียนเเพทย์อยู่ปี 3 เกรดเฉลี่ย 3.7+ เพราะอะไรจากคนที่ไม่เก่งสักวิชาเลยถึงสอบเข้ากสพท.ติดคณะเเพทย์ได้เรียนรอดได้มาถึงทุกวันนี้รุ้ไหมคืออะไร คือความขยันเเละอดทน ผมจากม.4 ที่เรียนไม่ได้เก่งมาก พอม.5 เริ่มพยายาม เเละอดทน อ่านหนังสือ จนผมคะเเนนขึ้นมาเรื่อยๆ จะบอกว่าคนเราสมองไม่ดี (โง่) เเล้วพัฒนาไม่ได้ไม่จริงเลย ผมเป็นคนนึงที่โง่เเต่พัฒนามาจนทุกวันนี้ ม.4 ไม่เคยจำได้เลย อ่านชีวะไม่เคยจำได้ พอม.5 ตั้งใจมากขึ้น ขยันท่อง ฝึกคิดมากขึ้น ก็จำได้เอง จากม.4 วันนั้นมายุปี3 วันนี้การเรียนรู้วิชาการเปลี่ยนไปเยอะ ทุกวันนี้ผมสามารถรับข้อมูลจากอ.มหาศาลเเล้วนั่งกลับมาทวนในเวลา 2 อาทิตย์เพื่อสอบได้ นี่ก็เป็นตัวอย่างหนึ่งของการพัฒนาสมอง ให้พูดตรงๆไหม ว่าเด็กที่มาเรียนในคณะเเพทย์ส่วนมากสอบติดเพราะขยัน พยายามมากกว่าฉลาด (-ฉลาดก็มีเเต่น้อย) อยากให้เลิกคิดนะว่า โอยยยเรียนเเพทย์โครตเก่ง โครตเทพ พูดจากใจนศพ.เลยว่า ไม่จริง ไม่มีใครเก่งกว่าใครมีเเต่คนที่ขยันกว่าเเละพยายามมากกว่า มีรุ่นพี่เคยเล่าให้ฟังว่า มีพี่คนนึงเรียนในบล็อกเเย่มากไม่ผ่าน MPL บ่อยต้องซ่อมบ่อยครั้ง ตอนสอบ NL พี่เขาพยายามอ่านนส.มากขึ้น ขยันขึ้นจนได้สอบNL ผ่านด้วยคะเเนนที่ดีมากเลยเกณฑ์ที่จะผ่าน NL1 ไปค่อนข้างเยอะ นี่ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างในการพัฒนาสมอง ถ้าว่างๆเเนะนำให้ไปอ่านงานวิจัยการฝึกสมอง สมาธินะของฝรั่งทำไว้เยอะ ต่างประเทศเขาศึกษาเรื่องนี้กันเป็นเรื่องเป็นราว มีทฤษฎีหลายทฤษฎีที่มาสนับสนุนตรงนี้

0
บนแรง 2 ก.ค. 63 เวลา 17:39 น. 4-3

ไม่ได้บอกว่า "โง่" สักคำ แค่บอกว่าสมองคนเราไม่เหมือนกัน และสิ่งแวดล้อมต่างกัน ไม่มีเด็กมัธยมต้นปกติที่จะไปอ่านทฤษฏีขของสมองอะไรเพื่อสร้างสมองตัวเองให้เหมาะสมกับการเรียนค่ะ บางคนไม่รู้เรื่องนี้ เรียนวิธีที่ผิด ตั้งใจด้วยวิธีที่ไม่เข้ากับสไตล์การเรียนตัวเอง มันก็จบเหมือนกัน ตั้งใจเรียนให้ตายก็ได้แค่ระดับนึง แต่ไม่ถึงศักยภาพที่ตัวเองมีทั้งหมด ดังนั้นสิ่งแวดล้อมจึงสำคัญ คุณหมออาจจะโชคดีที่พบวิธีเรียนหรือจัดการเรียนรู้ที่ดี รร ต่างจังหวัด ไม่ได้หมายถึง รร ไม่ดี (หรือไม่ดัง) รร.ที่ดีอยู่ ตจว มีเยอะแยะค่ะ รร ในกรุงเทพเองที่ไม่ดี หรือสิ่งแวดล้อมรอบตัวผู้เรียนไม่ดี มันก็หมดโอกาสเสริมศักยภาพตัวเอง(หรือมีน้อยมาก)ทั้งนั้น คุณหมอไม่ได้ฟลุ๊กที่สอบติดถูกหมอ คุณหมอพยายามตั้งใจมาแล้วจริงๆ แถมอยู่สายวิทย์อยู่แล้ว การเข้าถึงทรัพยากรแบบเด็กวิทย์ก็ต่างกับเด็กศิลป์


อย่างที่บอก จขกท อาจจะเก่ง แต่บังเอิญไม่ได้รับการแนะนำที่ดีก็ได้ แต่เกิดน้องทู่ซี้อ่านหนังสือแบบไม่รู้เหนือรู้ใต้ จนเหมือนจะทำได้ แต่พอเจอของจริงเจอโจทย์จริง ประยุกต์ไม่ได้ คิดไม่ได้ มันก็จบ เหมือนเรียนมาผิดวิธี แล้วเกิดต้องล้มเหลวหลายครั้งเข้าล่ะ ...


สิ่งที่ต้องพิจารณา คือ จขกท ต้องไปศึกษาหาข้อมูลด้วยตัวเองเยอะๆๆๆๆๆ กว่านี้ แล้วประเมินความสามารถตัวเอง ลองวางแผนค่ะ กสพท ไม่ใช่เรื่องที่แม้แต่เด็กวิทย์จะทำได้เลย

คุณกัลย์ที่อยู่กับคณะแพทย์มานาน ยังบอกว่าตามสถิติ รร โรงเรียนไม่ดัง ดูประวัติโรงเรียนย้อนหลังไปถึง 10 ปี ยังไม่เคยมีเด็กสอบติดแพทย์ กสพท.เลยแม้แต่คนเดียว มันจึงไม่ใช่แค่เรื่องพยายาม และสมองเท่านั้นแน่นอน


ไปดีกว่า ไม่คุยกับหมอแล้ว หมอเรียนมา แต่เราไม่ได้เรียนหมอ หนีๆๆๆๆ



0
ABCDE 3 ก.ค. 63 เวลา 12:29 น. 4-4

ถ้าคุณเชื่อเเบบนั้นก็ไม่เป็นไร ในเมื่อคุณตัดสินไปเเล้วว่าสมองคนเรามันไม่เหมือนกันจริงๆ ก็คงตาม mindset ของคุณเเหละผมพูดไรไปก็ไม่มีประโยชน์ เเต่ถ้าคุณมีเวลาว่างอยากให้คุณลองศึกษาเพิ่มเติมดูเนาะเผื่อจะพบอะไรใหม่ๆ ได้เห็นมุมมองใหม่ๆ ที่บอกให้ไปศึกษางานวิจัยผมหมายถึงตัวคุณนะไม่ใช่ตัวเด็ก เด็กๆ คงไม่อ่านเหมือนที่คุณว่ามานั้นเเหละ

0
mrssomsri 2 ก.ค. 63 เวลา 19:01 น. 5

จขกท.บอกได้ไหม


1) จขกท.เข้าสายวิทย์ที่โรงเรียนไหนไม่ได้ และตอนนี้เรียน ศิลป์จีน ที่โรงเรียนไหน

2) จขกท.ตั้งใจจะสอบเข้าแพทย์ ที่มหาลัยไหน

3) ทำไมจขกท.จึงคิดว่า มีความถนัดและพื้นฐานในวิชา คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ (ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ) และความถนัดแพทย์ มากพอที่จะเรียนวิชาเหล่านี้ด้วยตนเอง เพื่อใช้สอบเข้าแพทย์


จขกท.ทราบไหมว่า เรียนศิลป์จีน ไม่ได้เรียนวิชาที่ต้องใช้สอบเหล่านี้ แต่พวกเด็กสายวิทย์คณิตเขาเรียนวิชาเหล่านั้นในช่วง ม.4-6 สามปีข้างหน้านี้กันทุกคน แต่คุณไม่ได้เรียนเลย


จขกท.มีแผนอะไรรองรับความเสียเปรียบจากการที่ไม่ได้เรียนวิชาเหล่านี้(ในโรงเรียน)บ้างไหม เช่น มีแผนจะไปเรียนพิเศษเสริมจากติวเตอร์ หรือ อื่นๆ

0
โลกแห่งความเป็นจริง 3 ก.ค. 63 เวลา 13:10 น. 6

พวกโลกสวยที่ชอบหลับหูหลับตาเชียร์ให้คนมุ่งไปสู่ความเสียหาย ควรคิดถึงบาปบุญคุณโทษบ้างนะ ไม่ใช่เด็กทุกคนควรจะเรียนแพทย์ ควรพิจารณาข้อเท็จจริงด้านพื้นฐานศักยภาพของตัวเด็กประกอบกับสภาพการแข่งขันที่รุนแรงมากในการสอบเข้ามหาลัยในปท.นี้ด้วย


การที่เอาแต่เชียร์ให้เด็กฝืนความเป็นจริง มุ่งไปในทิศทางที่เขาไม่อาจทำสำเร็จได้ จะมีผลเสียต่ออนาคตของตัวเด็กอย่างมาก เพราะกว่าเขาจะตระหนักว่าเขาไปต่อไม่ไหว เขาก็จะเสียโอกาสที่จะค้นหา สาขาอาชีพที่ตัวเขานั้นถนัดจริงๆ ซึ่งเขาอาจเหมาะที่จะเป็นนักบริหารธุรกิจ นักกฎหมาย ผู้พิพากษา หรือแม้แต่เป็นนักภาษาศาสตร์ ที่เขาถนัดกว่า


อย่าลืมว่า ในโลกนี้ไม่ได้มีเพียงอาชีพแพทย์อย่างเดียว

แต่ยังมีอาชีพอื่นๆอีกเยอะที่เด็กคนนี้สามารถประสบความสำเร็จได้ ดีกว่าขายฝันให้เขางมงายเดินหลงทาง เสียเวลาช่วงที่สำคัญที่สุดช่วงหนึ่งในชีวิตของเขา นั่นคือ การเลือกสายอาชีพ

1
หอยหลอดผัดช่า 4 ก.ค. 63 เวลา 02:37 น. 6-1

ใครขายฝันให้เด็กหรอ เราว่าถ้า จขกท. อยากสอบเเพทย์ก็ไม่ใช่เรื่องผิดไหม? อย่างที่บอกสอบหมอมันยากมาก ถ้าเขาเตรียมตัวเพื่อสอบหมอ เเต่ดันไม่ติดก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายปะ ยังไงสอบหมอต้องสอบทุกวิขาอยู่เเล้วไหมอะ ถ้าไม่ติดหมอก็เอาคะเเนนยื่นเข้าคณะอื่นที่อยากเข้าลำดับถัดไปก็ได้รึป่ะ? ไม่เข้าใจว่าต้องการอะไร? เเล้วรุ้ได้ไงว่าเป็นไปไม่ได้ถ้าไม่ลอง ไม่ลองก็ไม่รุ้ ถ้าลองเเล้วเขาติดขึ้นมาก็ดีไป ไม่ติดก็ไม่เสียหายไรคะเเนนก็มีอยู่ในมือ ยื่นเข้าคณะอิ่นไปดิ

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

เว็บไซต์ Dek-D.com ขอสงวนสิทธิ์ในการงด โพสต์ข้อความซื้อ/ขาย/แลกเปลี่ยน/โฆษณา สินค้าทุกชนิดในเว็บบอร์ด เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนผู้ใช้งานท่านอื่น

Wongwipa Tah 6 ก.ค. 63 เวลา 17:47 น. 8

ยากพอสมควร

แต่ แพทย์กับ สัตวแพทย์ ไม่จำเป็นต้องจบสายวิทย์ สามารถสอบเข้าไปเรียนได้ค่ะ มีเด็กเรียน กศน. ก็สอบเรียนหมอได้ เด็กจบอักษร จุฬา ก็สอบติดแพทย์จุฬาปีนี้ ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตนค่ะ ถ้าพยายามเต็มที่ ยังไงก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

เว็บไซต์ Dek-D.com ขอสงวนสิทธิ์ในการงด โพสต์ข้อความซื้อ/ขาย/แลกเปลี่ยน/โฆษณา สินค้าทุกชนิดในเว็บบอร์ด เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนผู้ใช้งานท่านอื่น

by tan 23 ก.ค. 63 เวลา 11:40 น. 10

ถามว่ามันยากมั้ย ตอบเลยว่ายากนะคะ แต่ไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้ แต่จขกท. ดันเรียนศิลป์จีนในช่วงมอปลายความยากก็จะเพิ่มขึ้นค่อนข้างเยอะเลยค่ะ เพราะการสอบกสพท. จะเป็นการสอบ เคมี ฟิสิกส์ ชีวะ คณิต แบบเข้มข้นมาก


ถ้าอยากจะสอบเข้าหมอจริงๆ วางแผนจะเรียนพิเศษยังไงคะ เพราะเราต้องเรียนฟิสิกส์ เคมี ชีวะ และคณิตให้เทียบเท่าเพื่อนๆ สายวิทย์-คณิต ที่สำคัญคือแค่เทียบเท่าไม่พอค่ะ ต้องเรียนเสริมเพื่อทำข้อสอบ(ซึ่งค่อนข้างยาก) ให้ได้ด้วย


ถ้าวางแผนไว้แล้ว คิดว่าไหวก็ลองทำดูค่ะ ต่อให้จะสอบไม่ได้ก็ไม่เสียหาย เพราะคะแนนที่เราเพียรอ่านก็จะทำให้เราได้คณะอื่นๆ ไม่ยาก


ยังไงพี่ก็เป็นกำลังใจให้นะคะ ตอนนี้ยังม.4 พอขยับไปเป็น ม.5 หรือ ม.6 จนถึงวันนั้นอาจจะอยากทำงานที่ตรงกับสายที่เรียนมามากกว่าการเป็นหมอก็ได้


อวยพรให้เราได้เข้าคณะที่ชอบและถนัดนะคะ พี่มีสรุปพวกฟิสิกส์ เคมี ชีวะ คณิต อยู่เหมือนกัน ถ้าสนใจหรืออยากปรึกษาอะไรเพิ่มเติมทักไอจีมาเลยค่ะ (ig : tanuhchalectures) อาจจะเป็นหนึ่งทางเลือกที่ช่วยเราได้น้า

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

เว็บไซต์ Dek-D.com ขอสงวนสิทธิ์ในการงด โพสต์ข้อความซื้อ/ขาย/แลกเปลี่ยน/โฆษณา สินค้าทุกชนิดในเว็บบอร์ด เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนผู้ใช้งานท่านอื่น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

เนื้อหาซ้ำ เคยโพสท์ไปแล้ว เพื่อความเป็นระเบียบกรุณาโพสท์กระทู้เพียงครั้งเดียว