Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

[รีวิว] ฝึกงาน Dek-D (Study Abroad) จัดเต็มทั้งประสบการณ์ + 7 สกิลการทำงานแบบสมจริง!

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

            และนี่ก็คือออ...บทความรีวิวฝึกงานกับเว็บไซต์ Dek-D  กับทีม  Study Abroad! 

            สวัสดีค่ะ ชื่อปุณ เรียนคณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ กำลังจะขึ้นปี  4  ค่ะ ต้องบอกก่อนว่าเรามาฝึกงานที่เด็กดีในฝ่าย  Content   และปีที่เราฝึกเป็นปี  2020  ซึ่งตรงกับยุคโควิดทำให้ต้อง  Work From Home  อยู่นานเกือบสองเดือน วินาทีที่มาถึงออฟฟิศนี่น้ำตาเกือบไหลเลย TT ในที่สุดก็ได้เห็นบรรยากาศการทำงานจริง ได้เห็นสิ่งแวดล้อมในบริษัท แต่ถึงจะได้มาออฟฟิศแค่ไม่กี่วัน แต่ฝึกงาน 2 เดือนนี้เราได้รับประสบการณ์ดีๆ + สกิลการทำงานกลับไปแบบเต็มที่เลย ถ้าน้องๆ คนไหนที่กำลังหาที่ฝึกงาน เราก็ขอแนะนำที่เด็กดีเลยค่า จะดียังไงเดี๋ยววันนี้เรามารีวิวให้อ่านกัน 

 

สกิลการฝึกงานออนไลน์ ไม่สาย ไม่อู้!

            ฝึกงานวันแรกก็ประเดิมด้วย Video Call from home ก่อนเลยค่ะ ซึ่งในทีม Study Abroad ที่เราฝึกก็จะมีพี่วุฒิ พี่กุ๊กไก่ พี่เยลลี่ เป็นพี่เทรนเนอร์คอยสอนงาน จริงๆ ช่วงแรกก็อดเศร้าไม่ได้เพราะอยากไปฝึกงานที่ออฟฟิศมากๆ ส่วนตัวคิดว่าบรรยากาศมันน่าจะ boost ให้เราอยากอ่าน อยากเขียน อยากทำงานมากกว่าอยู่บ้าน แต่ด้วยความจำเป็นและความปลอดภัยในช่วงโควิดนี้ก็เลยต้องฝึกงานจากที่บ้านไปก่อน พออะไรเริ่มลงล็อกเราก็เริ่มรู้สึกว่าการฝึกที่บ้านก็มันมีข้อดีอยู่นะ พอไม่ต้องเดินทางมันก็มีเวลานอนมากขึ้น แค่ต้องมีความรับผิดชอบมากๆ ถึงเวลาต้องตื่นมาเตรียมพร้อมคอลประชุมกับพี่ๆ ทุกเช้าตอน 9.30 หลังจากนั้นพี่ๆ ก็จะให้เราเริ่มทำงาน ถ้าติดตรงไหน มีปัญหาอะไร พี่เขาก็แสตนบายพร้อมให้ความช่วยเหลืออยู่ตลอด จะฝึกออนไลน์หรือฝึกแบบไหนก็ไม่ถูกทอดทิ้งแน่นอน!

สกิลครีเอตชื่อเรื่องแบบสุดปัง ตั้งยังไงให้สะดุดตา 

            สกิลนี้ไม่ใช่ว่าจะได้มาง่ายๆ เพราะขนาดฝึกไปเดือนกว่าบางครั้งชื่อเรื่องก็ยังออกมาไม่ค่อยถูกใจเลยค่ะ สำหรับเรา “ชื่อเรื่อง” เป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะทำให้เราตัดสินใจกดหรือไม่กดเข้าไปอ่านบทความ เวลาจะตั้งทีก็เลยต้องคิดวนไปร้อยแปดพันรอบ สรรหาคำวิเศษณ์ คำสันธาน คำคล้องจองมาใช้ ตบให้เป๊ะปังที่สุด และสุดท้ายพี่ๆ เขาก็จะมาช่วยปรับช่วยเปลี่ยนให้มันเข้าที่อีกที ชื่อบทความไหนที่คิดไปแล้วพี่ๆ เขาเลือกใช้นี่ดีใจมากกก รู้สึกแบบ yes! ในที่สุดชื่อเรื่องเราก็ถูกเลือก555555

Up to date! สกิลคิดคอนเทนต์ให้ทันสมัยถูกใจชาว Dek-D

             คอนเทนต์ก็เป็นอีกเรื่องที่เรากังวลมาก เพราะมาวันแรกพี่เขาก็ให้เราคิดหัวข้อบทความ 20 หัวข้อ (เรียนต่อนอก, Dek-Cult, English Issues, One More Course อย่างละ 5 หัวข้อ) สารภาพว่าอึ้งมาก นั่ง blank ไปเกือบชม. พอวันต่อมาพี่เขาก็เริ่มให้เขียนบทความเกี่ยวกับข่าวที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในตอนนั้น ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมากกก เพราะแค่ฝึกงานวันที่สองก็ได้เขียนบทความแบบที่ไม่เคยทำมาก่อน เขียนจริง ตรวจจริง แถมยังได้ลงเว็บ Dek-D จริงๆ อีกด้วย คืนนั้นนี่นั่งเฝ้ายอดวิวไม่ห่างจอเลยค่ะ (ก็คนมันเห่ออออ!)

             พอวันถัดๆ มาพี่เขาก็เริ่มถามเราว่าสนใจเรื่องอะไร ชอบทำอะไรบ้าง อย่างเราเป็นคนชอบดูซีรีส์ก็เลยได้เขียนรีวิว 10 ซีรีส์สายหมอจาก8 ชาติทั่วโลก และ 5 หนัง-ซีรีส์สะท้อนค่านิยมสังคมเกาหลีที่มีต่อเกย์และ LGBTQI+ ก็คืออินสุด อินทุกเรื่อง ใส่อารมณ์ใส่ฟีลลิ่งลงไปไม่ยั้ง555555 บางทีพี่เขาเห็นข่าวหรือบทความภาษาอังกฤษเรื่องไหนน่าสนใจก็จะให้เราลองมาเขียน ยากบ้างง่ายบ้าง แต่ที่แน่ๆ คือได้อ่านข่าว ได้แปล ได้ฝึกฟัง ยิ่งตอนเขียนบทความหมวด ‘English Issues’ และ ‘Dek-Cult’ ยิ่งได้ใช้ทักษะภาษาอังกฤษที่เรียนมาแบบคุ้มสุดดด

สกิลชวนคุยคะขา บอกลาภาษาทางการ

            ปกติเด็กอักษรอย่างเราก็เคยแต่เขียนรายงานหรือบทความส่งอาจารย์ทำให้ต้องใช้ภาษาทางการตลอด แต่พอมาเขียนบทความของเด็กดีก็เลยต้องปรับเปลี่ยนวิธีและรูปแบบการเขียนให้ดูเหมือนว่าเรากำลังชวนผู้อ่านคุย ตอนแรกก็ไม่ค่อยถนัดเลยค่ะ คำชงคำเชื่อม แต่กระนั้น อย่างไรก็ตาม มาเต็ม! แต่พอได้พี่ๆ ช่วยแก้ช่วยเกลา บทความเราก็ดูซอฟต์ลงและน่าอ่านขึ้นเยอะ อีกเรื่องที่เราใช้ผิดบ่อยมากก็คือ ‘คำทับศัพท์’ แรกๆ พี่เขาต้องแก้ให้เกือบทุกบทความ หลังๆ เราเลยพยายามเช็กให้ละเอียดมากขึ้นอีก (แต่ก็ยังแอบผิดอยู่นิดนึง!)


อัปสกิลเพิ่มประสบการณ์ผ่านการสัมภาษณ์เด็กทุน

                      ‘ประสบการณ์ต่อนอก’ เป็นหนึ่งในพาร์ตที่เราชอบที่สุดตั้งแต่ฝึกงานมาเลยก็ว่าได้ เพราะพาร์ตนี้เราได้มีโอกาสไปสัมภาษณ์นักเรียนทุนรัฐบาลญี่ปุ่น ทุนกระทรวงต่างประเทศ และทุนโอลิมปิกวิชาการฯ แต่ละคนก็คือทั้งเก่ง ทั้งมีความสามารถ ทั้งมีประสบการณ์มาแชร์ให้ฟังเพียบ ชวนน้องๆ คุยไปก็เหมือนได้เรียนรู้อะไรที่ไม่เคยรู้มาก่อน ทั้งขั้นตอนการสอบทุน หลักสูตรการศึกษาของต่างประเทศ แรงบันดาลใจ และสกิลการใช้ชีวิตที่ต่างกันของแต่ละคน บอกเลยว่าตอนสัมคือสนุกมากกก แต่ตอนเอามาเขียนและเรียบเรียงนี่ก็แอบปาดเหงื่อเบาๆ เหมือนกันค่ะ

สกิลการเสิร์ชข้อมูล ค้นคว้า และตามหาคอร์ส 

            บอกเลยว่าฝึกงานปิดเทอมนี้ได้ทริคดีๆ กลับไปเพียบ ทั้งการหาข่าว บทความ รูป และคอร์สเรียนฟรีจากเว็บไซต์ของต่างประเทศ ยิ่งตอนที่เขียนบทความ + ทำภาพแชร์คอร์สเรียนฟรีก็คือเปิดประสบการณ์มาก เพราะไม่เคยรู้มาก่อนว่าแต่ละมหาวิทยาลัยจะเปิดคอร์สให้เรียนฟรีมากขนาดนี้ คือมีทุกศาสตร์ ทุกสาขา เราก็มีหน้าที่ต้องหาคอร์สที่น่าเชื่อถือ น่าสนใจ และเห็นว่าจะเป็นประโยชน์กับน้องๆ มากที่สุด 

            ใครที่กำลังหาคอร์สเรียนฟรีทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ก็สามารถเข้าไปดูได้ที่ทวิตเตอร์และเพจเฟซบุ๊กของ One More Course เลยนะคะ คือเราว่ามันดีมากกก พี่ๆ เขารวมคอร์สดีๆ มาให้หมด ไม่ต้องไปเปิดหาเองเลย ยิ่งในช่วงโควิดหรือปิดเทอมที่ไม่ค่อยได้ออกไปไหน ยิ่งมีเวลาหาความรู้ หาอะไรที่สนใจเรียน

การฝึกงานที่ได้ประสบการณ์ทำงานแบบจริงยิ่งกว่าจริง

            ฝึกงานกับทีม Study Abroad ได้ทำงานหลากหลายแนวมาก แค่ในส่วนของการเขียนบทความ แต่ละหมวดก็มีวิธี มีสไตล์การเขียนแตกต่างกันออกไป อย่าง ‘English Issues’ ก็จะเป็นบทความให้ความรู้หรือรวมศัพท์ภาษาอังกฤษ หมวดนี้เขียนแล้วก็เหมือนได้เรียนเองไปด้วยเลยค่ะ หรืออย่าง ‘ต่อนอกแนะนำที่เรียน’ ก็จะเป็นการแนะนำโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงหรือน่าสนใจในต่างประเทศ 

            เข้ามาฝึกงานที่นี่ถึงได้รู้ว่าแต่ละมหาวิทยาลัยมีทุนให้เยอะมากกก น่าสนใจทั้งนั้น เรียนจบเมื่อไหร่ก็ว่าจะลองยื่นทุนดูซักอันแล้วค่ะ และนอกจากเขียนบทความเราก็ยังได้สัมภาษณ์นักเรียนทุนกับทำเด็กเลกเชอร์ด้วย (รื้อสกิลศิลปะกลับมาแทบไม่ทัน!)

ความประทับใจ

            ในช่วงที่เราฝึกมีเพื่อนมาฝึกรวมทั้งหมด 13 คนซึ่งเยอะมากกก! แต่ก็ไม่มีใครฝึกทีมเดียวกับเราเลย แอบเหงานิดนึง TT พอได้ปฐมนิเทศฝึกงานก็ได้รู้จักเพื่อนๆ เยอะขึ้นนน ส่วนบรรยากาศออฟฟิศก็ดีแบบไม่ต้องสงสัย มีมุม snack bar มุมครัว มุมพักผ่อน และมุมทำงานติดกระจกเห็นวิวร้อยล้านจากชั้น 29 (แอบรูปถ่ายไว้ตั้งแต่วันแรก!)

            ฝึกงานกับพี่ๆ ทีม Study Abroad แฮปปี้มากกก พี่ๆ ดูแลดีอย่างดีตั้งแต่เรื่องงานไปจนเรื่องอาหารการกินเลยค่ะ ทั้งข้าว ทั้งขนมไม่เคยขาด! อีกหนึ่งความประทับใจก็คือการที่พี่ๆ เปิดโอกาสให้นักศึกษาฝึกงานได้ทำงานจริง ได้มีผลงานเป็นของตัวเอง ถ้าตรงไหนยังไม่ลงตัว พี่ๆ ก็จะช่วยกันแก้ไขให้งานออกมาดีที่สุด ขอขอบคุณพี่ๆ Dek-D ที่ให้ปุณได้เข้ามาฝึกงาน ได้เข้ามาเรียนรู้ประสบการณ์ดีๆ และยังได้ผลงานไปใส่พอร์ตอีกเพียบบบ สุดท้ายก็ขอฝากบทความต่างๆ ของปุณไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ https://www.dek-d.com/content/listwriter.php?writer=pun

            และถ้าใครอยากสัมผัสประสบการณ์การฝึกงานที่เด็กดีแบบนี้ ที่นี่เขาก็เปิดรับนักศึกษาตลอดปีเลยนะคะ และก็มีหลายทีมด้วย ทั้งฝั่งคอนเทนต์ สายโปรดักชั่น และโปรแกรมเมอร์ ใครอยากฝึกสายไหนก็ลองไปดูรายละเอียดกันได้เลยยย https://www.dek-d.com/intern/
 

แสดงความคิดเห็น

>

1 ความคิดเห็น

อ๊องเอ๋อ 2 ส.ค. 63 เวลา 14:31 น. 1

ขออนุญาตสอบถามนะคะ พอดีอยากรู้ว่าฝึกงานกับเด็กดีได้เบี้ยเลี้ยงรึป่าวคะ อย่างพวกสวัสดิการ ค่ารถต่างเอย

1
punpyns Columnist 10 ส.ค. 63 เวลา 09:35 น. 1-1

ไม่มีเบี้ยเลี้ยงค่าา แต่พี่ๆ ดูแลอย่างดีเลี้ยงดีตลอดเลยยย<3

0