Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

การถูกบูลลี่ในโรงเรียน

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีฉันชื่อ อมีร่า ฉันเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่มาจากประเทศแอฟริกา ตอนนี้ฉันเรียนอยู่ที่ประเทศไทย โรงเรียนที่ฉันมาแลกเปลี่ยนเป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียงมากในด้านต่างๆในที่นี่ก็รวมถึงด้านลบๆด้วยแต่มีน้อยคนที่จะรู้ ในวันนี้เรื่องที่ฉันจะมาเล่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับตัวฉันเองที่ถูกบูลลี่เรื่องสีผิวเพียงเพราะฉันเป็นคนผิวสี ในวันแรกที่ฉันมาเรียนที่นี่เพื่อนๆในห้องต่างยิ้มแย้มและต้อนรับฉันอย่างดี สอนพูดไทยบ้างสอนเรื่องวัฒนธรรมของไทย ฉันมีความสุขมาก ฉันคิดว่าฉันเข้าได้ดีกับเพื่อนๆ จนกระทั่งฉันได้ยินเพื่อนกลุ่มหนึ่งพูดดูถูกเกี่ยวกับสีผิวของฉัน แต่มันไม่ได้มีแค่นั้นมันยังมีเรื่องของรูปร่างและหน้าตาของฉัน  มันทำให้ฉันรู้สึกเสียใจมากจนไม่กล้าพูดคุยกับเพื่อนๆคนอื่นแบบปกติ ฉันรู้สึกเหมือนเป็นแกะดำ แล้วก็เหมือนว่าเพื่อนกลุ่มนั้นจะรู้ว่าฉันได้ยินที่พวกเขาพูดกัน หลังจากวันนนั้นมาฉันเริ่มโดนบูลลี่หนักขึ้นเรื่อยๆ ฉันโดนรังแกจากเพื่อนในห้อง ไม่ว่าจะเป็นสกัดขา ผลักให้ล้ม เอาของไปซ่อน นั่นทำให้ฉันรู้สึกโดดเดี่ยวมากที่มาอยู่ต่างถิ่นต่างครอบครัว ฉันรู้สึกคิดถึงเพื่อนๆที่โรงเรียนในแอฟริกามากๆ หลายคนคงสงสัยว่าทำไมฉันถึงไม่บอกคุณครูเรื่องการถูกบูลลี่นั่นก็เพราะว่ามีเพื่อนคนหนึ่งในห้องเป็นลูกของผู้มีอิทธิพลค่อยสนับสนุนรายใหญ่ของโรงเรียน แม้แต่ผอ.ยังต้องเคารพ ทำให้ฉันต้องทนเจออะไรแบบนี้จนกว่าจะจบการมาแลกเปลี่ยนในครั้งนี้ ต่อหน้าคุณครูเพื่อนๆก็จะทำเป็นดีกับฉันแต่ลับหลังมักกลั่นแกล้งฉันต่างๆนาๆ ในวันหนึี่งที่ฉันโดนขังอยู่ในห้องน้ำมีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเธอมาฃ่วยเปิดประตูให้ฉัน  ในที่นี้ฉันขอเรียกเธอว่าลิลลี่ เธอเป็นเด็กห้อง1ที่มีหน้าตาน่ารักและดูเป็นมิตร เธอไม่รังเกียจฉันเลยที่ฉันเป็นคนผิวสี หลังจากวันนั้นฉันกับลิลลี่ก็เจอกันบ่อยขึ้น เธอยิ้มให้ฉันทุกครั้งที่เจอ ในบางครั้งที่ฉันโดนเพื่อนในห้องกลั่นแกล้งเธอก็มักจะเข้ามาช่วยฉัน  และนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เราสองคนสนิทกันฉันจึงเล่าเรื่องที่โดนบลูลี่ในเธอฟัง และได้รู้ว่าเธอเองก็เคยโดนบูลลี่มาก่อนเหมือนกันแต่เธอผ่านมันมาได้เพราะเธอเลือกที่จะมองข้ามคำพูดเหล่านัั้น จนมาถึงทุกวันนี้เธอมีเพื่อนมากมายและกลายเป็นที่รักของเพื่อนๆ และเธอก็สอนให้ฉันไม่ต้องสนใจคำพูดพวกนั้นและบอกว่าจะเป็นเพื่อนกับฉันเอง หลังจากวันนั้นฉันกับลิลลี่ก็ไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยขึ้น ฉันไม่แคร์สายตาและคำพูดที่พวกเขาทำกับฉัน จนมาถึงวันที่ฉันต้องกลับประเทศของฉัน มันทำให้ฉันรู้สึกใจหายมากๆที่ฉันต้องจากเพืื่อนที่ดีกับฉัน ก่อนฉันกลับลิลลี่เธอได้มอบของขวัญให้ฉันทำให้ฉับรู้สึกซึิ้งใจจนร้องไห้ออกมาพร้อมกับโอบกอดเธอ
สำหรับประสบการณ์ไปเรียนแลกเปลี่ยนในครั้งนี้ของฉัน มันก็ไม่ถึงกับแย่และก็ไม่ดีที่สุด สังคมในโรงเรียนสอนให้ฉันรุ้ว่าคนเรามักมองกันที่ภายนอก และชอบพูดดูถูกคนอื่นให้ไม่มีความมั่นใจในตัวเองและรู้สึกไร้ค่า แต่ว่าก็มีคนที่ดีปะปนอยู่ในสังคมโรงเรียนด้วยเหมือนกัน...........

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านเรื่องของฉันนะคะ^_^

แสดงความคิดเห็น

>

3 ความคิดเห็น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

สู้สู้่ 4 ส.ค. 63 เวลา 23:55 น. 2

สู้ๆๆ อย่าไปใส่ใจกับ คำพูดคน

คนรักเท่าผืนหนัง คนชั่งเท่าผืนเสือ


พฤษภกาษร อีกกุญชรอันปลดปลง

โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี

นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์

สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา





0
Anonnin 9 ส.ค. 63 เวลา 12:37 น. 3

สู้ๆนะคะ สังคมในรร.ก็เป็นแบบนี้หล่ะค่ะ แต่ถ้าเราไม่แคร์อยู่นิ่งๆ เดี๋ยวมันก็ผ่านไป นี่ก็โดนมาบ่อยและหนักเหมือนกัน สู้ๆค่ะ

0