Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ประสบการณ์สอบTOEIC2020 (นักเรียนไทยstyle)

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
      TOEIC ก่อนอื่นเราขออธิบายถึงความหมายของTOEICก่อน สำหรับคนที่ยังไม่รู้เกี่ยวกับการสอบนี้มาก่อน TOEICในประเทศไทยในปัจจุบันมีเพียงแค่ 2 Parts ก็คือ Reading and Listening ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่มีเวลาเตรียมตัวไม่มากอย่างเราและผลการสอบสามารถเก็บไว้ได้ 2 ปี องค์ประกอบของ TOEIC ฉบับปรับปรุงเปลี่ยนไปจากฉบับเก่าคือ โดยจะแบ่งย่อยลงไปอีก 7 ส่วน ดังนี้
Listening 100 ข้อ เวลา 45 นาที
Part1: Photographs 6 ข้อ
Part2: Question-Response 25 ข้อ
Part3 : Conversations 39 ข้อ
Part4 : Short Talks 30 ข้อ
Reading 100 ข้อ เวลา 75 นาที
Part5 : Incomplete Sentences 30 ข้อ
Part6 : Text Completion 16 ข้อ
Part7: Reading Comprehension 54 ข้อ
         ขอเกริ่นก่อนเลยว่าเราเริ่มเรียนภาษาอังกฤษโดยที่ไม่เคยได้ไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศและไม่ได้มาจากครอบครอบครัวหรือสภาพแวดล้อมที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักหรือภาษาที่สองเลย โดยทุกคนทราบดีอยู่แล้วว่าพื้นฐานทางภาษาอังกฤษของเด็กนักเรียนจากโรงเรียนไทยส่วนใหญ่อาจไม่ได้ดีเท่าเด็กที่เรียนในโรงเรียนนานาชาติหรือเด็กที่ไปศึกษาต่อต่างประเทศเป็นเวลานานๆ ซึ่งการเรียนภาษาต่างประเทศของแต่ละคนก็มีปัญหาต่างกันอยู่แล้ว ปัญหาของเราคือGrammarไม่เป๊ะและยังรู้ศัพท์ระดับสูงๆไม่มากพอทำให้บางครั้งอ่านบทความหรือฟังบทพูดไม่ค่อยเข้าใจ ก่อนอื่นเลยที่เราเลือกสอบ TOEIC เพราะมีราคาถูกกว่าการสอบวัดทักษะภาษาอังกฤษประเภทอื่นๆ บวกกับการที่เราอยากลองขอทุนไปเรียนต่อระดับปริญญาตรีของประเทศไต้หวันที่ต้องใช้คะแนนTOEIC 750+ ซึ่งรอบแรกที่เราไปสอบเราได้มาแค่ 530 คะแนน ด้วยความชะล่าใจคิดว่าคงเป็นข้อสอบธรรมดา
ไม่ต้องอ่านอะไรมาก พอถึงวันสอบเราไปสอบอย่างมั่นใจเพราะคิดว่าขอบเขตเนื้อหาคงไม่ต่างกับความรู้ในโรงเรียนมากมายเท่าไหร่ เราเลือกไปสอบที่ศูนย์สอบเชียงใหม่ซึ่งจัดสอบที่ตึกนวรัฐ


รูปจาก www.google.com
 
เพราะถือโอกาสไปหาน้า ที่จังหวัดเชียงใหม่ด้วย วันนั้นโชคดีที่คนไปสอบไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่จึงทำให้การลงทะเบียนเข้าสอบใช้เวลาไม่นาน หลังจากนั้นเราจึงเข้าไปนั่งในห้องสอบจนคนครบ จำได้ว่าครั้งแรกที่เข้าไปนั่งในห้องสอบคือตื่นเต้นมาก เหมือนหูดับไปชั่วขณะ ตอนที่ผู้คุมสอบอธิบายระเบียบการสอบและเปิดเทปเพื่อtestเสียงจากลำโพงที่ใช้ในการสอบ จากนั้นไม่นานPart 1 ก็ได้เริ่มขึ้นความรู้สึกแรกคือ oh my god นี่มันอะไรกันนี่!?!?!? พูดไวมากราวกับเพลงแร็พ พอมาเจอ part 2 นี่ค่อยยังชั่วเพราะเพราะค่อนข้างง่ายและจับ keywordได้ง่าย
 
           Part 3-4 มันมาอีกแล้ว คุณพี่พูดอะไรค้า ยังไม่ทันตอบคำถามคุณพี่ก็พูดจบซะแล้ว verb to เดาต้องมาแล้วจังหวะนี้ ในที่สุดListening part ก็จบไปแล้ว เรามาต่อกันที่ Reading part เถอะ เปิดมาเจอ Part แรกของการอ่านก็ดูเป็นเรื่องเบาๆอย่างGrammarและศัพท์นิดหน่อย ยังไหว!!พอมาถึงPart2 reading มีให้เติมคำจากในอีเมลบ้าง จากใบประกาศบ้าง อันนี้เริ่มสั่นๆแต่ก็ยังพอไหว พอเปิดมาPart สุดท้าย คุณพี่คะ!!!!Are you serious?!?!? บทความเยอะมากและยาวมาก “เหลือเวลาอีก 15 นาทีนะคะ” เสียงพี่คุมสอบประกาศ ทำไงดีเราเหลือ 40 ข้อ จะทำทันมั้ย ตอนนั้นรนมากถึงขั้นอ่านไม่รู้เรื่องเลยทีเดียว ดิ่งไปเลยละกัน ขนาดดิ่งยังเกือบไม่ทัน “วางดินสอค่ะ!!” เสียงพี่คุมสอบประกาศหมดเวลา ไม่ทันจริงๆด้วย ฮรือออ แต่ไม่เป็นไร ถือว่าเป็นประสบการณ์ คะแนนออกมาก็สมเหตุสมผลอยู่นะ ฮ่าๆ
            ครั้งนี้มีเวลาเตรียมสอบ 3-4 เดือน ก่อนสอบครั้งต่อไป ถามว่าอ่านเลยมั้ย ก็ไม่นะ มาคึกอะไรไม่รู้เลยโทรจองสอบ แล้วมาอ่านจริงๆประมาณ 3 อาทิตย์ก่อนสอบ  ตอนนั้นเครียดมากเลยหาเทคนิคต่างๆจากในยูทูปบ้าง เฟสบุ๊คบ้าง ได้เทคนิคการสอบมาเยอะ+กับเทคนิคที่เราได้ค้นพบเองด้วย ตั้งแต่ตอนนั้นเราเน้นทำข้อสอบวันละ 1-2 ชุด,ท่องศัพท์หมวดที่เกี่ยวข้องวันละ 10 คำ แต่ก็จำไม่ได้อยู่ดี (ท่องเพื่อออออ) และดูหนังฟังเพลงที่เป็นภาษาอังกฤษเพื่อให้ชินสำเนียง ทำอย่างนั้นทุกวันจนถึงวันสอบจริง ครั้งนี้ไปสอบที่เดิมแต่ตื่นเต้นน้อยลงจากครั้งแรกแล้ว เนื่องจากสถานการณ์ COVID 19 จึงทำให้ทางศูนย์สอบลดค่าธรรมเนียมการสอบลงจาก 1,800 เหลือ 1,650 ครั้งนี้ทำข้อสอบทันทั้ง Listening and Reading part และยังเหลือเวลาประมาณ 5 นาทีให้ได้ทบทวนก่อนหมดเวลาอีกด้วย ครั้งนี้เราค่อนข้างมั่นใจเพราะได้ติ๊กข้อที่คาดว่าจะผิดไว้แล้ว ทำให้รู้ว่าคะแนนที่ได้ควรได้ประมาณไหน พอสอบเสร็จเรารู้สึกดีมากที่สามารถทำได้ทันเวลา หลังจากนั้นประมาณ 5-6 วัน ผลสอบได้ส่งมาถึงบ้านตามที่อยู่ที่ให้ไว้ตอนลงทะเบียนสอบ ถึงเวลาเปิดแล้ว ฉันจะได้มากกว่าเดิมมั้ยนะ วินาทีที่เปิดใจเต้นแรงมาก พอเปิดซองจดหมายออกมา โอ้โหหหหห!!!! ได้มากกว่าที่คาดไว้อีกแหนะ คะแนนเพิ่มขึ้นทั้ง Reading and listening part เลย พาร์ทฟังเพิ่มขึ้นจาก 305 มาเป็น 385 เต็ม 490 ส่วน พาร์ทอ่านเพิ่มจาก 200 ต้นๆมาเป็น 310 วึ่งดีกว่าแต่ละครั้งที่ฝึกทำข้อสอบมาก ครั้งนี้ได้ 695 ใกล้จะถึงคะแนนที่ตั้งไว้ แต่ก็ไม่เป็นไร ถือว่าการฝึกซ้อมที่ทำมาไม่ศูนย์เปล่าแถมยังช่วยอัพคะแนนเพิ่มขึ้นอีกด้วย ภูมิใจจจจจจ ;__:  
 

 
          โดยเทคนิคที่เราใช้ ขอแบ่งเป็นแต่ละ Part ดังนี้นะคะ มาเริ่มที่ Part แรกกันเลย
Listening part
Part1 : Photographs (พาร์ทนี้เราใช้วิธีระหว่างที่เขาอธิบาย ให้เรารีบดูรูปก่อนเลยว่าเขาทำอะไร และพยายามนึกศัพท์ที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุด)
Part2 : Question-Response(พาร์ทง่ายมากเพราะเราไม่จำเป็นต้องฟังและแปลให้จบทั้งประโยค แค่เราฟังว่าคำแรกของคำถามที่เขาถามคืออะไร มักเป็น WH question เช่น (Who,When,Where,What,How )
Part3 : Conversations (Part นี้ต้องอาศัยความไวในการรีบอ่านคำถามทั้ง 3 ข้อก่อนแล้วจับ keyword ไว้ พอเทปเสียงขึ้นให้โฟกัสคำถามแต่ละข้ออีกครั้ง)
Part4 : Short Talks (Part นี้ทำใช้เทคนิคเดียวกับอันที่แล้วเลย รีบอ่านคำถามก่อนที่เทปเสียงจะขึ้น)
Reading part
Part5 : Incomplete Sentences (อันนี้เน้นดูแกรมม่าไปเยอะๆ)
Part6 : Text Completion (อันนี้อาศัยท่องศัพท์เยอะๆและอาศัยดวงล้วนๆ)
Part7 : Reading Comprehension (เน้นความเร็วในการอ่าน โดยอ่านโจทย์ก่อนแล้วไปหาKeywordนอีเมลและบทความที่ให้มา)
**ปล.ใน Reading part 5-6 ควรใช้เวลาไม่เกิน 20 นาที เพื่อให้เหลือเวลามาทำพาร์ท 7 มากขึ้น                  สุดท้ายนี้สำหรับคนที่แพลนจะไปสอบหรือกำลังไปสอบขอให้ฝึกทำข้อสอบเยอะๆ และพยายามทำให้เต็มที่ในแต่ละครั้งเพราะค่าสอบแพงมาก ;_; พยายามมีสติให้มากระหว่างการสอบ เพราะถ้าสติเราหลุดอาจจะเสียคะแนนในข้อนั้นและข้ออื่นๆไป ถ้าพยายามเต็มที่แล้วทุกอย่างจะสำเร็จไปด้วยดี
 

แสดงความคิดเห็น

>

4 ความคิดเห็น

Piyarom Suprakun 17 ส.ค. 63 เวลา 15:18 น. 2

ขอถามได้ไหมคะว่า ถ้าจะโทรจองกับที่ศุนย์เชียงใหม่เราจะสามารถหาตารางเวลาสอบจากไหนหรอคะ นี่พยายามหาหลายที่แล้วแต่ไม่เจอหรือต้องโทรไปถามเขาอย่างเดียวคะ

4
ไม่ใช่จขกท 17 ส.ค. 63 เวลา 15:45 น. 2-1

น่าจะต้องโทรไปนะคะ ศูนย์ไหนก็แบบ ออนไลน์อีเมลไม่รู้จ่้า โทรไปหา คือได้ข้อมูลแน่นอน

0
Piyarom Suprakun 22 ส.ค. 63 เวลา 16:03 น. 2-2

ขอบคุณนะคะ งั้นถ้าโทรไปก็สามารถถามเขาได้เลยใช่มั้ยคะ

0
suph-02 26 ส.ค. 63 เวลา 08:36 น. 2-3

โทรไปถามได้เลยค่า พี่เจ้าหน้าที่ใจดีมาก ^^

0
Piyarom Suprakun 29 ส.ค. 63 เวลา 11:23 น. 2-4

รอผลนานไหมคะ พอดีไปสอบเมื่อวันอังคารมา วันนี้วันเสาร์แล้วยังไม่ได้เลยค่ะ ;--;


0
jojoshamlet 24 ส.ค. 63 เวลา 19:25 น. 3

เราได้ 700+ เราแนะนำว่า จขกท ไปพัฒนาเรื่องการฟังครับ จะถึง 700+ (สมมติว่า L400) แล้วมันจะกลายเปนประกาศนียบัตรการสื่อสารนานาชาติของ จขกทเลยครับ

1
suph-02 26 ส.ค. 63 เวลา 08:35 น. 3-1

ขอบคุณมากค่ะสำหรับคำแนะนำ หนูทำพาร์ท7ไม่ค่อยทัน รอบนี้หนูตั้งเป้าไว้700เหมือนกันค่ะ พอมีหนังสือหรือเทคนิคแนะนำมั้ยคะ?

0