Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

โรคซึมเศร้าที่เกิกจากความเครียด

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ตอนนี้จขกท.เครียดมากๆทั้งเรื่องครอบครัว โรงเรียน ปัญหารอบตัวต่างๆแทบทุกวัน เคยสงสัยตัวเองว่าเป็นโรคซึมเศร้าหรือเปล่า เพราะพ่อแม่กำลังจะแยกทางกันต้องย้ายโรงเรียน 

ลองไปเสริชในเว็บเว็บหนึ่งบอกว่าโรคซึมเศร้ามีอาการ ไม่อยากอาหาร นอนไม่หลับหรือนอนเกินเวลา ไม่มีอารามณ์ร่วมหรือไม่ได้สนใจกิจกรรมที่กำลังทำอยู่ น้ำหนักลด
ซึ่งจขกท.มีอาการแบบเดียวกันกับอาการของคนที่เป็นโรคซึมเศร้าเลย ไม่เคยมีโอกาสได้พบแพทย์หรือตรวจเลยเพราะแม่และพ่อของจขกท.ไม่มีเวลา จขกท.เป็นคนค่อนข้างเก็บกดไม่เคยปรึกษาหรือระบายความรู้สึกเลย

ตอนนี้อาการที่เพิ่มจากเดิมมาก็คือกล้ามเนื้อเกร็ง เวียนหัว หน้ามืด เหนื่อยง่าย ความจำสั้น(ขี้ลืม)
อยากรู้ว่าจขกท.มีความเสี่ยงมากหรือเปล่าที่จะเป็นโรคซึมเศร้า แล้วก็โรคซึมเศร้าอันตรายมากหรือเปล่ามีผลข้างเคียงอย่างไรบ้าง

แสดงความคิดเห็น

>

2 ความคิดเห็น

ตะงิว 18 ส.ค. 63 เวลา 23:18 น. 1

ถ้าเป็นจริง ก็ค่อนข้างอันตรายอยู่ เพราะไม่รู้อารมณ์จะดาวน์เมื่อไหร่ ทำอะไรลงไป

แต่จริงๆ โรคนี้มันไม่ได้เป็นกันได้ง่ายๆ ไม่ใช่ว่าเครียดต้องเป็นปุ๊บ ต้องได้นับการวินิจฉัยจากหมอก่อน

อาการเครียด เครียดแบบยังหาทางออกไม่ได้ก็เกิดอาการแบบ จขกท ได้ แต่ถ้าหาทางระบายได้ มันก็หาย


แนะนำ โทรสายด่วนสุขภาพจิตก่อน โทรก่อนเลยนะ ด่วนๆ

0
kokhengzero 19 ส.ค. 63 เวลา 01:19 น. 2

1. หาแพทย์แผนปัจจุบันรักษาสุขภาพทางจิต


2. นั่งสมาธิ สงบนิ่งทำกายใจให้เป็นที่สบายกายใจ ทำใจไม่ติดใจข้องแวะสิ่งไรๆเห็นมันแค่เรื่องปกติปล่อยผ่านไป ผ่อนคลาย หากสงบไม่ได้เพราะใจมนคิดไม่หยุดก็ให้เรานึกคิดให้นึกถึงเรื่องที่มีความสุข สบายๆ ง่ายๆ ..หากติดใจข้องแวะสิ่งใดๆใจเรามันก็จะไปเอามาคิด ย้ำคิดย้ำทำ ก็เป็นทุกข์เปล่าๆ ทำให้หลับยาก พอจะหลับก็มีเรื่องคิด ทำจิตตื่นนอนไม่หลับ


3. หากมีเรื่องเกี่ยวกัสภาพร่างกายไม่ปกติ เช่น ฉี่บ่อย เลือดลมไม่เดิน จิ๊ดดังในหูทำให้รำคาญงุ่นง่านนอนไม่หลับ หน้ามืดวิงเวียน อย่างเรานั่งชันเข้า หรือก้มเก็บของพอเงยขึ้นปุ๊บมันวูบหน้ามืด สิ่งพวกนี้เพราะมีปัญหาเรื่องเลือดลม ตับอ่อน ไตอ่อน ควรปรึกษาแพทย์รักษา


** โรคซึมเศร้ามันเกิดจากสุขภาพจิต ไม่ใช่เกิดจากร่างกาย การรักษาก็ตามที่แจ้งไป 3 ข้อ หากแค่สงสัยก็ให้ฝึกทำสมาธิบ่อยๆ ทำจิตให้อยู่กับปัจจุบัน คือรู้ว่ากำลังทำกิจการงานใดๆอยู่ในปัจจุบัน ยืน เดิน นั่ง นอน กิน ขี้ ฉี่ ทำงาน ขับรถ ไม่ใจลอยไม่คิดสืบต่อสิ่งที่รู้เห็นเกินกว่าที่ได้เห็น ได้ยิน ได้ฟังในปัจจุบันนั้นๆ ..หากเป็นจริงไปหาหมอรักษากหายก็มีเยอะ

0