Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

[รีวิว] นักเรียนทุนฮังการี กับการเดินทางมาประเทศฮังการี ที่ไม่ได้นอน 50 ชั่วโมง!

ตั้งกระทู้ใหม่
(บันทึกวันที่ 1 ในฮังการี - วันเดินทาง)



สวัสดีครับ ทุกคน ผมวิธ นักเรียนทุนปริญญาตรี Stipendium Hungaricum คณะวิทยาการคอมพิวเตอร์
ทุกคนที่เคยอ่านกระทู้ผม อาจเคยเห็นบทความของผม ที่ได้ผมบันทึกเกี่ยวกันการขอทุน  Sitpendium  Hungaricum   อย่างละเอียดไว้เมื่อเดือนที่แล้ว ก่อนการเดินทาง   1 เดือน  

ตอนนี้ผมมาอยู่ที่ประเทศฮังการี เป็นวันที่ 7 ของการเดินทาง และ บันทึกนี้ คือบันทึกฉบับแรก ของการมาอยู่อาศัยที่ประเทศฮังการีครับ

ต้องเท้าความก่อนว่า ผมเคยเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน yfu อยู่ที่เมืองโตตโกมโลช ประเทศฮังการีมาเป็นเวลาหนึ่งปีเมื่อ 2017-18 ที่ผ่านมา ทำให้การเดินทางของผมในครั้งนี้ เหมือนกับว่าเป็นการกลับมาที่บ้านหลังที่สองของตัวเองครับ  และ ได้ทุนสติเพนเดียม เมื่อเดือนกรกฎาคมมที่ผ่านมา หลังจากการสอบชิงทุนที่ยาวนาน

จากวันนั้นเมื่อต้นเดือนกรกฎาคม จนถึงวันนี้ เป็นช่วงเวลาแห่งการเตรียมตัวที่ยาวนาน และ ไม่น่าเชื่อเลยว่า วันนี้ที่ผมได้กลับมาที่นี่นั้นจะมาถึง
เวลาผมเดินทางไปที่ไหม ถ้าไม่นับที่กรุงเทพ หรือ จังหวัดใกล้ ๆ ผมก็มักจะเดินทางกับคนอื่นเสมอ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว หรือ เพื่อน ทำให้ครั้งนี้ โดยเฉพาะเวลาที่มีเอกสารสำคัญ และ ของมีค่า (จำนวนมาก เช่น โน้ตบุ้ค) นัดหมายเวลาที่เหลื่อมกันไปไม่มาก และ สถานการณ์เชื่อแพร่ระบาดทั่วโลก จึงเกิดความกังวลอย่างมากในการเดินทาง ว่าจะต้องมีอะไรที่ผิดพลาดแน่ ๆ ซึ่งผมก็เคยทำอย่างนั้นบ่อย ๆ เพราะเป็นคนชอบลืมของเล็กของน้อย จนบางครั้งก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ได้ จึงเกิดความกังวลในการเดินทาง หรือที่เรียกว่า Travel anxiety

ผมแทบไม่มีความกังวลเรื่องการอยู่อาศัยเลย เพราะความกังวลเรื่องของหายมันมากกว่ามาก ตั้งแต่สองวันก่อนการเดินทางนั้น ผมก็นอนน้อยเนื่องจากกิจกรรมที่ล้นตาราง และ การเตรียมของสัมภาระ พอเริ่มวันที่ 25 ตั้งแต่หกโมงเช้า ผมก็ได้นอนเพียงแค่ 2 ชั่วโมง จนถึงวันที่ 27 เวลาตีห้า นับเป็นเวลาเกือบห้าสิบชั่วโมง



ผมเดินทางจากสนามบินเชียงใหม่ พร้อมกับสมาชิกครอบครัวที่มาส่งจนถึงเกตเครื่องบิน พอจากตรงนั้น ผมก็บินไปที่กรุงเทพ สุวรรณภูมิ เพื่อไปนอนพักก่อนบินมาฮังการี

พอมาถึงที่สนามบินกรุงเทพ ผมก็ได้พยายามที่จะหาที่เก็บกระเป๋าในสนามบิน ซึ่งตามปรกติมีปริมาณมหาศาล แต่คราวนี้ สนามบินที่เคยพลุกพล่านก่อนโควิด กลายเป็นเหมือนป่าช้า ร้านเปิดแค่นิดเดียว และ มีผู้โดยสารเพียงเล็กน้อย ผมต้องถามเจ้าหน้าที่ 3 ชั้น (ข้อมูลไม่ตรงกันสักคน) ตอนแรกผมคิดว่าคงไม่นานน่าจะเจอ ก็เลยต้องเดินพร้อมกับลากกระเป๋าสองใบ 40 กิโล กับ กระเป๋าสะพาย 2 ใบ 10 กิโลกรัม เดินมากกว่าหนึ่งกิโลเมตรในสนามบิน ปวดไหล่กับหลังมาก


 

ยาหม่องช่วยได้เยอะมาก แนะนำว่าถ้าไปต่างประเทศ ให้เอาไปด้วย

ที่โรงแรมแถวกทม. ผมพักที่ลาดกระบัง ตอนไปซื้ออาหารเย็นกับอาหารเช้าค่อนข้างจะอันตราย ฟุตบาทมีขยะเยอะและมีกลิ่นเหม็น มีคนมั่วสุมจำนวนมาก ตั้งแต่โรงแรมถึงสนามบินฮังการี ผมนอนได้แค่สองชั่วโมงเท่านั้น

การบินที่ฟินแลนด์มีเสียงเด็กดังเป็นระยะ ๆ หนึ่งแถวให้นั่งเพียงหนึ่งคน ไม่เกินนั้น Finnair มีมาตรการป้องกันโควิดที่ดีมาก แต่อาหารเสร็จน้อยเกินไป ทำให้ไม่อิ่ม มีกล้อง gopro ติดที่ล่างและบนตัวเครื่องบิน จึงเห็นวิวด้านล่างตลอด ตั้งแต่อ่าวไทย ไปจนถึงทะเลอารัล



วิวที่สนามบินฟินแลนด์จะเป็นทุ่งหญ้าเขียวสลับกับป่าสนเตี้ย และ ป่าต้นเบิร์ช ให้ความรู้สึกแบบยุโรปเหนือ อากาศค่อนข้างร้อนแห้ง อาหารที่สนามบินฟินแลนด์ (แบบซื้อเอง และ แบบแจก) รสชาติแย่มาก มีกลิ่มประหลาด ๆ ทำให้เวียนหัวมาก แต่ไส้กรอกผสมแตงดองอร่อยมาก



พอผมมาถึงเกตแล้ว ผมก็มีเวลาอีกนิดหน่อยให้พักคุยโทรศัพท์และส่งรูป สภาพคือคนที่แฮงก์เหล้า ไม่ได้นอนมา 20 ชม บวกกับชีสนมแพะฟินแลนด์ ที่ทำให้อาการคลื่นไส้เพิ่มสูงเป็นเท่าตัว
ผมบินจากฟินแลนด์มาที่บูดาเปสต์ และได้นั่งติดหน้าต่าง เป็นโชคดี ที่คนในเครื่องบินมีจำนวนไม่มาก    วิวข้างนอกเครื่องบินนั้นสวยมาก (ไม่ได้ถ่าย เพราะจะนอน) เป็นที่ราบแห้ง สลับกับทะเลสาบน้อยจำนวนมาก ไม่แปลกที่ฟินแลนด์จะได้ฉายาว่า "ดินแดนหมื่นทะเลสาบ" พอออกมาจะชายฝั่งจะมีบ้านน้อย ๆ กับเกาะน้อย ๆ จำนวนมาก ทะเลสีน้ำเงินเข้ม กับท้องฟ้าสีฟ้าใส มีเมฆซีรัส (เมฆขนนก) ลอยอยู่สูงประมาณสิบเมตรเหนือเครื่องบิน จากกรุงเฮงซิงกิเพียงสิบห้านาที ก็เป็นชายฝั่งบอลติกของกรุงทาลินน์ ประเทศเอสโตเนีย และที่ราบใหญ่ยุโรปของประเทศลัตเวีย ลิทัวเนีย และ โปแลนด์ จากนั้นเมื่อมาที่ฮังการีก็จะเป็นทุ่งนากับเมืองเล็ก ๆ พร้อมกับป่าไม้รอบ ๆ

การตรวจรอสัมภาระและโรคที่สนามบิน เป็นไปอย่างง่าย ๆ สบาย ๆ ไม่เหมือนที่กังวลไว้ตั้งแต่แรก ทุกอย่างไปได้สวย ตั้งแต่ที่เชียงใหม่ จนถึงกรุงบูดาเปสต์

ผมถึงที่สนามบินแฟแร็นซ์ ลิสต์ (BUD) เวลาเที่ยงคืนของประเทศไทย และ จากนั้นก็เจอกับครอบครัวโฮสต์ของผม เพื่อกลับไปที่เมืองโตตโกมโลช บ้านหลังที่สอง ด้วยการต้อนรับที่อบอุ่น



ระหว่างทางเราได้ไปพักที่พักรถที่เราเคยไปกัน อาหารฮังการีที่ทานมี สปาเก็ตตี้มิลาน และ จานใหญ่ (ชีสทอด ข้าวสวย หมูทอดยัดไส้ชีส และ เฟรนช์ไฟรส์) อร่อยมาก กลบกลิ่นชีสนมแพะได้หมด 5555 อาหารฮังการีก็ยังรสชาติอร่อยเหมือนเดิม 
 
ท้องฟ้าตอนเย็นสีม่วงสลับส้ม ท้องฟ้าสว่างใสพร้อมกับเมฆตอนเย็น มีดาวอยู่ทั่วท้องฟ้า  ประเทศฮังการีมีเมืองอยู่เป็นกระจุก ทำให้มองเห็นดาวบนท้องฟ้า ได้ดีกว่าในแถบที่มีบ้านเรือนกระจายตัวอยู่ วิวของประเทศฮังการีก็ยังเป็นทุ่งหญ้า ทุ่งนา สลับกับป่าต้นไม้เตี้ย และ ป่าต้นเบิร์ช เหมือนอย่างเดิมที่ผ่านมา

ผมถึงที่โตตโกมโลชเวลาตีสามของประเทศไทย หลังจากการเดินทางที่ยาวนานนั้น

ในที่สุด ก็ถึงบ้านเสียที



จบหนึ่งวัน ที่ยาวนานที่สุด เท่าที่เคยมีมา

ติดตามผมได้ที่เพจ --->
www.facebook.com/witacademy2020

แสดงความคิดเห็น

>

1 ความคิดเห็น

Rovela 3 ก.ย. 63 เวลา 23:35 น. 1

ชอบอ่านรีวิวแบบนี้มาก ขอบคุณที่มารีวิวให้อ่านน้าา รอติดตามกระทู้ต่อๆไปค่ะ

0