Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

รบกวนด้วยนะคะ เรื่องนี้มันต้องหยอดกระปุกจริงๆ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
เพราะไม่ได้ทำงาน ไม่มีรายได้ แต่อยากตามฝัน..... เกี่ยวไรกัน?

คือ หนุูอยากทำหนังสือ แต่ไม่รู้ว่า มันต้องเตรียมเงินเท่าไหร่ รบกวนด้วยนะคะ

นิยายของหนูมีประมาณ 112 ตอน ตอนละ 6000 - 9000 ตัวอักษร  (อย่างคร่าว ๆ นะคะ )

ส่วนรูปหนูก็อยากจ้างวาด แต่ขอแบบเดิม..



ประมาณนี้ แต่อันนี้คือมันไม่สวยนะคะ




 อันนี้คือของจริง แต่อยากทำให้เป็นอาร์ตมากกว่านี้

หนูต้องเตรียมเงินเท่าไหร่คะ ทั้งพิมพ์หนังสือ กับจ้างนักวาดรูปเนี่ย (หนังสือเขารับพิมพ์ครั้งละกี่เล่มค่ะ แต่ไม่ว่าจะกี่เล่มหนูก็จะพิมพ์ให้ได้)

ปล. หนูยังไม่ได้ติดต่อใครนะคะ เพราะหนูยังไม่มีเงินสักบาท 555+

กรุณาด้วยนะคะ หนูต้องเริ่มหยอดกระปุกแล้ว ก็เลยอยากจะรู้ปลายทาง

(พ่อจ๋า แม่จ๋า หนูขอโทษ... อยากถือสาลูกเพื้ยน ๆ คนนี้เลยนะ สักวันถ้ามีโอกาสหนูจะกลับมาเป็นอาหลินคนเดิม)
อันนี้คือเริ่มเพ้อ.. T^T

แสดงความคิดเห็น

>

3 ความคิดเห็น

souranxz 3 พ.ย. 63 เวลา 02:08 น. 1

เริ่มจาก ebook ก่อนมั้ยคะ เพราะมันไม่ต้องใช้ต้นทุนเป็นตัวเงิน(นอกจากค่าน้ำค่าไฟอ่ะนะคะXD)


3
alin1990 3 พ.ย. 63 เวลา 03:01 น. 1-1

คิดจะทำแบบให้โหลดฟรีนะคะ (ถ้าขายกลัวไม่มีคนอ่าน)

https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-10.png

0
Relita Callister 3 พ.ย. 63 เวลา 03:14 น. 1-2

อ้าว ถ้าจะให้โหลดฟรีอยู่แล้วจะเสียเงินพิมพ์หนังสือทำไมอ่ะ

0
alin1990 3 พ.ย. 63 เวลา 06:57 น. 1-3

หนูอยากทำเก็บไว้เองค่ะ สนองนี้ดล้วนๆ (ไม่มีเหตุผลอะไรเลย)

https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-07.png


0
กำลังใจ 3 พ.ย. 63 เวลา 10:50 น. 2

1. ถ้าจ้างนักวาดรูปอาจจะเสียประมาณ 300 อัพขึ้นไปค่ะ (แต่ rate ที่เจอส่วนใหญ่ 500 อัพนะคะ)

2. ส่วนฟอนต์ที่นำมาใช้ต้องไม่ติดลิขสิทธิ์ คืออาจจะเป็นฟอนต์ตัวเครื่องดั้งเดิมแบบไม่โหลดเข้ามา หรือในเว็บ font.com (เว็บนี้ลองอ่านเงื่อนไขดูดีๆนะคะ บางฟอนต์ก็เก็บค่าลิขสิทธิ์)

3. ส่วนการพิมพ์หนังสือเค้าจะพิมพ์ทีละมากๆไม่ได้พิมพ์เล่มสองเล่มหรอกค่ะ (ไม่งั้นโรงพิมพ์ขาดทุนแย่เลย)

จากที่เราบอกไปทั้งหมด มันต้องใช้เงินจำนวนนึงเลยนะคะ เราอยากเสนอให้คุณเปิดอีบุ๊คดีกว่าค่ะอย่างน้อยอาจจะมีคนซื้อเล่นสองเล่ม มีรายได้เข้ามา เพราะตอนนี้จากที่คุณบอกคือกำลังตกงานหมายความว่ากำลังทรัพย์ยังน้อยใช่ไหมคะ การทำตามความฝันเป็นอะไรที่ดีค่ะ แต่ถ้าเกินกำลังตนเองก็อย่าพึ่งทำดีกว่า เป็นกำลังใจให้นะคะ

1
ริญญดา 3 พ.ย. 63 เวลา 17:23 น. 3

ถ้าคุณ จขกท. แค่อยากเห็นเล่มนิยายแบบจับต้องได้

แบบไม่ได้กะจะเอาไปขายใครเพื่อสร้างรายได้ ก็ไม่ควรต้องไปหาทำให้เปลืองเงินดีกว่านะคะ

ในขณะที่เรายังไม่มีรายได้อะไร ก็ทำเล่นๆ print แล้วเข้าเล่มเอง ทำปกสวยๆ แบบที่อยากหยิบจับมานอนอ่านเล่นๆ ไม่ต้องจริงจังอะไรนักจะดีกว่าค่ะ

ลงทุนไม่มากเอาให้สบายใจและสบายกระเป๋า


เพราะเท่าที่อ่านคุณก็ไม่ได้ตั้งใจจะขาย ซึ่งเท่าที่เห็นถ้าจะทำขายจริง คงขายได้ยากทีเดียว

หากลงทุนทำไปจริงๆ ไม่คิดว่าจะคุ้มเลยค่ะ ขอฝากให้คิด


หากจะเอาแบบท้าทายตัวเองว่าจะทำให้ดีให้ได้ ลองเขียนเรื่องถัดไปทดลองตลาดให้มีแฟนคลับสัก 500-1000 ให้ได้ก่อน แล้วค่อยคิดวางแผนทำเล่มจะทำมือ หรือ ส่ง สนพ. อะไรก็ลองดูค่ะ

เรื่องแรกอยากหาฐานแฟนๆ ก็อาจทำอีบุคกระจายชื่อนักเขียนให้คนรู้จักบ้างจากการปล่อยให้อ่านฟรี โหลดฟรี หรือ ขายอีบุคราคาถูกหน่อย หรือ เอาถูกมากๆ ก็น่าลองนะคะ ขอโทษที่อยากบอกว่าไม่ควรลงทุนกับเรื่องแรกที่ประสบการณ์เรายังน้อย เสียดายตังค์แทนค่ะ


เอาเป็นการฝึกฝีมือเราไปก่อนดีกว่าค่ะ แค่คุณลองกลับไปอ่านทวน ตัวสะกด ประโยค สำนวน หรือ ไปรีไรท์บางอย่าง ทำให้เรื่องนี้มันดีที่สุดก่อน ปล่อยของ คือ ต่อให้คุณเอาเรื่องไปปล่อยฟรี ดีไม่มีทำให้คนเห็นว่าการสะกดก็ยังผิดอยู่เยอะ เห็นว่าคนเขียนไม่เกลาไม่อ่านทวนให้ดีๆ นักอ่านจะเหมาเอาว่าไม่ขอให้โอกาสเราอีกก็เป็นได้ค่ะ


โห้.. เขียนตอบซะเยอะเลย แค่อยากจะฝากให้คุณมองมุมอื่นๆ แทนการอยากพิมพ์นะคะ


ส่วนตัวเองก็รำคาญตาเวลาอ่านเรื่องในโทรศัพท์ เมื่อเขียนเรื่องแรกจบก็ print ออกมา

ทำแบบสวยงาม เอาไปเข้าเล่มแบบ A5 ให้ถืออ่านได้อย่างถนัดมือ พบว่า ..

คำผิดมีจำนวนมากทั้งที่อ่านตรวจทานแล้วอย่างดี พบประโยค สำนวนที่อ่านแล้วเข้าใจยากอยู่อีกจำนวนหนึ่ง มีการแทนสรรพนามหรือเดินเรื่อง ไม่ต่อเนื่องอยู่บ้าง ทั้งที่คิดว่าเขียนดีมากแล้ว

แถมมีนักอ่านยังชมว่าเขียนแทบไม่มีสะกดผิดเลย

หลงดีใจหลายอย่างที่เราคิดว่าทำได้ดีแล้ว มันหลอกตาเราไม่น้อยเลยค่ะ 555+


ลงเรื่องในเด็กดีแทบไม่มีคนอ่านเลย พอเอานิยายเรื่องแรกไปทำอีบุคแบบฟรี

มีคนโหลดเกือบๆ 2,000 แล้วตั้งแต่โควิดเข้า ก็คิดเอาว่าทดลองความสามารถตนเองว่าเขียนนิยายเรื่องแรกได้โดนใจนักอ่านไหมแบบไม่ต้องลงทุนอะไรค่ะ

พอเห็นมีคนมารีวิวดีๆ ให้บ้างประปรายแค่นี้ก็พอใจแล้วค่ะ เพราะตั้งใจเขียนแบบเอาสนุกมือเฉยๆ ค่ะ


เป็นกำลังใจให้มือใหม่ด้วยกันนะคะ


4
alin1990 3 พ.ย. 63 เวลา 17:51 น. 3-1

ขอบคุณมากเลยนะคะ จริงด้วยค่ะ หนูอยากมีหนังสือเป็นของตัวเองมากกกกก.. จนเกินไป

หนูอยากเอาไปอวดพ่อกับแม่ อยากให้ญาติๆ ที่บ้านเห็นว่าหนูยังปกติดีอยู่


ที่สำคัญที่สุด หนูอยากทำให้ตัวเองนั่นแหละค่ะ หนู่คิดอะไรตื้นๆ แบบบนี้จริงๆ

ขอบคุณอีกครั้งนะคะ ที่เตือนสติ

หนูจะพัฒนากตัวเองต่อไปเรื่อยๆ ค่ะ

https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/yy-01.png

อ่านทุกคอมเม้นต์เลยค่ะ

นอกจากที่นี่แล้ว ก็ไม่มีใครเข้าใจหนูเลย

มันอุ่นหัวใจจริงๆ นะคะ ทำให้เรารู้ว่า เราไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว มีคนรับฟังเราจริงๆ ด้วย

https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-01.png


0
ริญญดา 5 พ.ย. 63 เวลา 17:59 น. 3-2

อยากแนะนำเพิ่มเผื่อคุณน้องจะซื้อไอเดียพี่นะคะ


เห็นว่ามีนิยายตั้งใจจะเขียนอยู่หลายเรื่อง

แนะว่าเลือกเรื่องที่คิดว่าจะสามารถเขียนให้จบเร็วได้เร็วที่สุดมาสักเรื่อง

เอาแบบที่สามารถดำเนินเรื่องได้เร็วๆ แบบสั้นๆ สัก 10-20 ตอนจบ

ขอให้ตั้งใจเขียนให้ดีที่สุดแบบอ่านแล้วต้องอยากอ่านงานของเราอีก

เมื่อเขียนจบแล้วเอาไปเปิดโหลดฟรีที่ MEB เพื่อเรียกลูกค้า

หาฐานแฟนไว้ก่อน อย่าเพิ่งคิดจะเอาเรื่องแรกไปตั้งตัว 555+

หรือ ตั้งราคาน่ารักๆ นิสิตนักศึกษา กะๆ ราคาเอาเลยค่ะ แต่ต้องถูกเข้าไว้


พร้อมกันนั้น เราก็ควรมีเรื่องที่ตั้งใจจะขายจริงจัง

ที่คาดว่าจะโดดเด่นกว่าเรื่องแรกที่ลงให้อ่านฟรี

ลูกค้าที่เริ่มรู้จักเราจากงานเรื่องแรกที่ชอบเรา มีแนวโน้มเขาจะตามมาซื้อนิยายเราหากเขาพอใจงานของเรา เมื่อเราโนเนมหากเรื่องไม่ปังจริงขายยากและอาจสร้างความท้อแท้ได้ค่ะ


ต้องเข้าใจก่อนว่าคนที่เขียนดีๆ ประสบการณ์สูง แถมแฟนคลับเป็นล้าน

พวกเขาก็ยังมีชีวิตอยู่และขายของเขา ดังนั้นเราจะดึงคนเข้ามาอ่านงานเราได้อย่างไร

ในกลุ่มคนที่โนเนมด้วยกัน ที่มีแฟนคลับระดับหยิบมือ

พี่คิดว่าเราจะขายงานได้มากกว่าทำไปโดยไม่มีการวางแผน


ก็เป็นเพียงการคาดการจากผู้ที่ไม่เคยขายงานนะคะ แต่คิดไว้ประมาณนี้

ตัวพี่เองก็ยังทำไม่ค่อยได้เพราะไม่ว่างจะเขียนเรื่องที่ 2 ( ให้ตามติดๆ เรื่องแรกที่เขียนจบและทำอีบุคไปแล้ว) อยากจะรีบเปิดเล่ม 2 เพราะกลัวตลาดแฟนๆ จะวายไปเสียก่อน 555+ แต่แผนไม่เดินตามที่คิดไว้เพราะงานประจำมันยุ่งเหยิงมาก 555+


แต่ถ้าน้องสนใจไอเดียจะทำประมาณนี้

ฝากแจ้งพี่ด้วยนะคะว่ามันเป็นได้จริงอย่างที่พี่คิดหรือเปล่า อิอิ

เป็นกำลังใจให้มือใหม่หัดเขียนค่า


แต่กำลังพยายามอยู่เช่นกันค่ะ

0
alin1990 5 พ.ย. 63 เวลา 18:44 น. 3-3

เหมือนกันค่ะ

https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/yy-08.png

สู้ สู้..

https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-01.png

หนูเคยอ่านงานของพี่ค่ะ แต่อ่่านไม่จบอย่าโกรธน่า (ก้มหน้าสำนึกผิด)

หนูชอบนะคะ มันเป็นความรักที่แบบ.. ค่อย ๆ ซึมซับ (เรื่องแรกนะคะ)

แถมยังได้ความรู้เยอะแยะเต็มไปหมด อ่านได้สักพัก หนูก็เลยกลับไปดูละครเรื่อง กลิ่นแก้วกลางใจ พี่เคยดูไหมคะ อารมณ์คล้าย ๆ กันเลย


สุดท้ายขอบพระคุณมาก ๆ นะคะ ขอบพระคุณจริง ๆ

https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/yy-big-06.png

0
ริญญดา 6 พ.ย. 63 เวลา 14:34 น. 3-4

555+ อ่านไม่จบเพราะมันไม่ใช่แนวที่อยากอ่านนี่ค่ะ


พี่ก็น้อยมากๆ ที่จะตามอ่านจนจบ ถ้าไม่ชอบหรือไม่ใช่แบบที่อยากจะอ่านจริงๆ

ส่วนใหญ่พี่จะอ่านเพื่อแนวเรื่อง/วิธีการเขียนของนักเขียนมากกว่าค่ะ


ละครก็ได้ดูอยู่ค่ะ ชอบนักแสดง

แต่เรื่องที่เขียนไม่ได้มีแรงบัดดาลใจอะไรจากละครเลย

เขียนนิยายโดยเอาความรู้สาระคนตาบอดมาตั้ง แล้วสร้างตัวละครและสถานการณ์

เอาตามประเด็นที่ตัวละครต้องพบเจอในชีวิตของเขา

นิยายมันเลยดูจะออกแปลกๆ ไปสักหน่อย 555+


0