(อยากชวนคุยมากๆเลยค่ะ)ใกล้จะจบปีที่63แล้ว นักเขียนทุกคนเขียนนิยายจบ ไปถึงไหนกันบ้างแล้วคะ? มาเช็กดูกันสักหน่อย
ตั้งกระทู้ใหม่
ถ้าพูดถึงเรื่องการจบนิยายของตัวจขกท ก็มีหลายเรื่องแล้วค่ะที่ได้เขียนจบไป บ้างก็คาดว่าจะทำเป็นไตรภาคอีกด้วยค่ะ และตัวจขกทเองก็มีโครงการใหญ่ๆอยู่เช่นกัน น่าจะเป็นปีใหม่อาจจะยังจบเรื่องเก่าไม่ได้ แต่ถ้าเป็นปีหน้าแล้วล่ะก็ หวังจะทำให้มันจบแน่นอน และมีนิยายแนวใหม่ๆที่ตัวจขกทยังไม่เคยเขียนมาก่อน ได้ออกมาแน่ๆค่ะ
หวังว่านักเขียนทุกท่านและผู้ฝึกหัดเขียน จะได้เรียนรู้จากการเขียนจะไปมากหรือจะไปน้อยบ้างแล้วนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามารับชม หรือคอมเม้นกันนะคะ ส่งกำลังใจให้กับทุกคนค่ะ
สู้ตาย! ^ ^
11 ความคิดเห็น
เอิ่ม.. แวะมาบอร์ด เพราะเริ่มมึนกับนิยายที่กำลังเขียนอยู่พอดีเลย เจอกระทู้นี้รู้สึกเหมือนเจอคนหัวอกเดียวกันเลยค่ะ 555 ก็อยากเล่าในส่วนของเราบ้างว่า เป็นความจริงที่สุดที่เราได้อะไรจากการเขียนของตัวเอง และการเขียนแต่ละเรื่องนั้นต้องค้นข้อมูล ทำการบ้านค่อนข้างเยอะมาก โดยเฉพาะนักเขียนที่มีความตั้งใจอยากจะให้นิยายของตัวเองมีสาระประโยชน์ต่อผู้อ่านบ้าง ส่วนตัวเราไม่รู้ว่าที่ตัวเองถ่ายทอดออกไปนั้นจะสื่อสารไปถึงผู้อ่านได้ดีแค่ไหน แต่สิ่งที่ภูมิใจอย่างหนึ่งนับตั้งแต่เริ่มต้นเขียนหนังสือ นั่นก็คือข้อมูลที่เราค้นคว้ามานั้นสามารถช่วยชีวิตของคนๆ หนึ่งได้
เรื่องที่เราเขียนจบไปแล้วล่าสุด เป็นเรื่องเกี่ยวกับคนที่เป็นโรคซึมเศร้า และการใช้สารเสพติดในวัยรุ่น จึงได้ศึกษาเอกสารต่างๆ เกี่ยวกับสาเหตุและอาการของคนเป็นโรคซึมเศร้าจนพอจะเข้าใจ จนมาสังเกตเห็นน้องในที่ทำงานคนหนึ่งมีอาการคล้ายๆ ดังกล่าว แต่ทางบ้านเขานึกว่าน้องเขาโดนคุณไสย เพราะเริ่มเห็นภาพหลอนว่ามีวิญญาณจะมาทำร้าย เราเลยไปคุยกับที่บ้านเขาว่าจะพาไปหาหมอคุณไสยก็พาไปเถอะ แต่ขอให้พาไปหาหมอแผนปัจจุบันด้วย โชคดีที่เขายอมเชื่อเรา ผ่านไปสองสัปดาห์หลังการเข้าพบแพทย์เฉพาะทาง อาการของน้องเขาหายเป็นปกติกหลังจากได้รับยาโรคซึมเศร้า เขากลับมาขอบคุณเรา และนี่คือสิ่งที่เราภูมิใจที่สุดจากการเป็นนักเขียนในรอบปี 63 นี้
เรื่องที่กำลังเขียนและคาดว่าจะให้จบก่อนสิ้นปีนี้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับเด็กพิเศษ และการดูแลเด็กในกลุ่มนี้.. ตอนนี้เริ่มตันๆ กับการหาข้อมูลหน่อยๆ ยังไงก็สู้ๆ ไปด้วยกันนะคะ
ขอเป็นกำลังใจให้เช่นกันค่ะ #สู้ๆ ค่ะ
คร้าาา ขอบคุณที่มาแชร์และเล่าให้ฟังนะคะ ดีใจด้วยจังที่คุณช่วยคนอื่นได้ สู้ๆต่อไปนะจ๊ะ
ที่จริงแล้ว เราเองก็มีเรื่องจะเล่าให้ฟังเช่นกัน คือเราเห็นกระทู้ที่เกี่ยวกับโรคซึมเศร้ากับโรคไบโพล่า เห็นมาหลายกระทู้แล้วที่เกี่ยวกับพวกนี้ เราเลยเกิดสงสัยว่าสองโรคนี้มันเป็นยังไง เลยค้นหาดูจึงได้รู้ว่ามันแตกต่างกันมาก และเราก็เพิ่งมารู้ว่าเมื่อก่อนหลายปีมานี้ เราเป็นโรคซึมเศร้ามาโดยตลอด แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ค่อยผลกับช่วงชีวิตในตอนนี้มากนัก เพราะนั่นเราได้ผ่านพ้นมันมาแล้วนั่นเอง ช่วงชีวิตที่เคยตกนรกอยู่บนดิน จะสุขก็สุขไม่เต็มที่ จะทุกข์ก็ทุกข์ไม่เต็มที่ มันก้ำกึ่งอยู่อย่างนี้ ซึ่งมันก็ไม่มีความสุขเลยมากกว่า ทุกข์มีมากกว่าสุขเสียอีก เราที่ได้มองและเห็นมันมาแล้ว ก็ได้ถอนหายใจออกมาอย่าง โล่งใจที่มันผ่านมาแล้ว ต่อจากนี้ไป ก็คงเริ่มที่จะทำปัจจุบันนี้ให้ดีที่สุดแล้ว อนาคตในช่วงชีวิตจะเป็นอย่างไร เราก็ไม่อาจได้รู้ได้ จึงทำได้เพียงทำในปัจจุบันให้ดีที่สุดก็พอ.....
สู้ๆ ค่ะ เราเองก็เคยเครียดกับงานจนมาหาทางออกด้วยการเขียนนิยาย พบว่ามันช่วยได้เยอะเลยค่ะ เหมือนเราได้เล่าสื่อสารไปยังคนอีกกลุ่มที่เขาพร้อมรับฟังเรื่องราวของเรา ได้แสดงความเป็นตัวของตัวเองออกมา (ปกติเราไม่ค่อยได้พูดคุยเล่นหัวกับใคร เพราะต้องรักษาภาพลักษณ์ในฐานะผู้บริหารองค์กรแห่งหนึ่งซึ่งมีผู้ใต้บังคับบัญชาและคนที่ต้องรับผิดชอบแก้ไขปัญหาให้พวกเขากว่าสองร้อยคน แต่ละวันต้องคอยตัดสินใจในเรื่องเครียดๆ ตลอดเลยค่ะ)
เราชอบที่ได้มาอ่านคอมเม้น ตอบคอมเม้นของนักอ่าน มีความสุขที่ได้มาพูดคุยกับเพื่อนนักเขียนในบอร์ด มันเหมือนเป็นอีกโลกหนึ่งที่เราสามารถแสดงความเป็นตัวเองออกมาได้อย่างเต็มที่ค่ะ
ดีใจที่คุณผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นมาได้.. เราเองก็เช่นกัน...
##สู้ๆ ต่อไปด้วยกันนะคะ
ขอบคุณมากค่ะ จับมือไปด้วยกันนะ
นั่นแหละความอยากเขียน คือตัวจขกทเองแรกๆก็เป็นไวไฟมาก อยากให้ลงไวไวแต่สุดท้าย นานมากเลยค่ะ กว่าจะออกมาแต่ละตอน ดีไม่ดีก็ดองยาวววเลย555
นิยายหลักยังไม่ไปถึงไหนเลยค่ะ อย่างที่คุณบอกเลยว่าต้องหาข้อมูลเยอะๆ แม้จะเป็นนิยายแนวรักในรั้วมหาลัย ต้องหาทั้งการเรียนของคณะอื่น มหาลัยอื่น แล้วเอามาปรับใช้ รวมถึงไลฟ์สไตล์ของคนทั่วไป แล้วต้องปรับบทพูดของ ตลค. ให้เป็นธรรมชาติอีก มันทำให้เราได้รู้หลายๆ อย่างจริงๆ ถึงจะเป็นเรื่องเล็กๆ ก็ตาม
เราอยากเขียนให้มีคุณภาพที่สุด (อย่างสุดความสามารถ) ก็เลยค่อยๆ เขียนค่อยๆ แก้ดีกว่า ถึงจะอยากลงไม่ให้คนอ่านรอนานก็ตาม
แต่นิยายรองอย่างฟิค กับเรื่องสั้นที่เขียนตามอารมณ์ก็จบไปบ้างแล้วค่ะ โดยเฉพาะเรื่องสั้นนี่หาข้อมูลไม่เยอะจริงเพราะเขียนเล่น คริๆ
ป.ล. จขกท สู้ๆ นะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ
ขอบคุณจร้าา อย่างที่บอกไปข้างต้นทุกสิ่งทุกอย่างต้องค้นคว้าเอา ถึงจะเป็นเรื่องเล็กเกล็ดน้อยก็ตาม เราว่าถ้าคนใฝ่หาความรู้ใส่ตัว เป็นประจำมันก็ได้ความรู้เหมือนกัน มันอยู่ที่คนต่างหาก
ตอนนี้มีโครงการนิยาย 4 เล่มอยู่ค่ะเพิ่งจบไปเล่มหนึ่ง จริงๆ ก็กลั่นมาจากงานวิชาการที่ตัวเองทำอยู่ทั้งนั้นเลย จากที่ต้องอ่านวิทยานิพนธ์ งานวิจัยต่างๆ มากๆ เข้าก็เครียดค่ะ ทุกวันนี้ปล่อยเทวิจัยมาเขียนนิยายอยู่ ทำให้อยากกลับไปอ้่านบทความต่างๆ มากขึ้นเพื่อมาเขียนนิยายนี่แหละค่ะ 555
เอาจริงๆ ก็รู้สึกตอนนี้อ่านมากกว่าเวลาพยายามจะเขียนงานวิจัยแบบปกตินะคะ บางทีพอเขียนงานเครียดๆ ก็จะหนีไปเปิดแอพช็อปปิ้งไม่ก็รูดเฟซบุ๊กแทน
ตอนนี้ภาวนาว่าจะผ่านนิยาย 4 เล่มให้ได้โดยต้องรอดแบบ 2 เดือนต้องได้เล่มนึงค่ะ จากนั้นก็คงจะไปรื้อเก่าๆ ไม่ก็มาลองเขียนเรื่องแบบอิงประวัติศาสตร์บ้างเพื่อให้ประวัติศาสตร์ย่อยได้เข้าใจง่ายมากขึ้นประมาณนั้นค่ะ
เป็นกำลังใจให้ จขกท. เหมือนกันนะคะ เขียนซะอยากอ่านนิยายคุณเลยค่ะ
เป็นกำลังใจให้เช่นกันนะคะ แนวประวัติศาสตร์ท่าทางน่าจะศึกษาหนักพอควรเลยค่ะ สู้ๆเป็นกำลังใจให้ค่ะ แต่บางอย่างก็ไม่ต้องไปเน้นมากนะคะ เดี๋ยวจะเครียดเสียเปล่าๆ
พอเม้นท์บน ๆ พูดถึงเรื่องการหาข้อมูลแล้วรู้สึกเลิ่กลั่กขึ้นมาทันที 555 เพิ่งเป็นครั้งแรกที่กลับไปเขียนด้นสดแบบสมัยก่อน ค่อนข้างพัฒนาขึ้นตรงที่ยังลากให้มาถึงตอนจบได้แบบสด ๆ ร้อน ๆ หลังจากวันนี้ไปเชื่อว่างานสุมจนอัพจำนวนเท่าเดิมไม่ไหวแน่ ๆ ช่วงที่ยังหยุดก็คือบ้าพลังขนาดเขียนได้วันละ 2 ตอน XD
แต่หลังจากนี้ถ้ายังมีเวลาเหลือก็อาจจะกลับมาเกลาทุกอย่างให้ดีขึ้น ครั้งนี้ืถือว่าเป็น First Draft แบบขำ ๆ ไปก่อน
นี่เรามาเล่าอะไรกันนี่--
555 พอเข้าใจได้อยู่ค่ะ เราว่าก็จะกลับมาเขียนด้นสดอยู่เช่นกันค่ะ พยายามเข้านะคะ สู้ๆจ้า
ยังไม่ถึงไหนเลยฮับ ต้องหาข้อมูลเยอะมาก ๆ การเขียนนิยายไม่ใช่เรื่องง่ายจริง ๆ แต่ก็จะพยายาม
นับถือคนเขียนจบเลย เก่งมาก เจ้าข้องกระทู้เองก็เก่งแล้วน้า ส่งกำลังใจให้ด้วยเช่นกันฮะ
จ้าา ยอมรับคำชมจ้าา สู้ๆด้วยเช่นกันนะคะ
ด้านงานเขียน //เพิ่งจบเรื่องที่ 5 ไปค่ะ
กำลังจะเปิดเรื่องที่ 6 //ของปีนะคะ
เดี๋ยวนี้แต่งเรื่องละ 45 - 50 วัน จำนวนตอน 40 +
ด้านรายได้ //ปีนี้ตลาดที่เด็กดี ไม่ครึกครื้น อาจเป็นเพราะมีเปิดใหม่หลายที่
เลย....ลองเปิดตลาดทำเงินใหม่อีกที่ จากเดิมชิมลางไว้ 1 เรื่อง
รอบนี้...ยกไปเปิดรายตอนอีก 10 กว่าเรื่อง
กระแสตอบรับถือว่า ...ใช้ได้ แต่ไม่รู้ว่าจะยั่งยืนไหม
เพราะความแน่นอนคือความไม่แน่นอนค่ะ///
ค่ะ เข้าใจได้ดีมากเลย เรื่องรายได้นี่ ตอนนี้มันเหมือนกับ งมเข็มในสมุทรเลยล่ะค่ะ เพราะช่วงนี้มันไม่ได้มีคนซื้อเหมือนแต่ก่อนแล้ว สู้ๆไปด้วยกันนะคะเป็นกำลังใจให้ค่ะ //แต่มันก็อาจจะดีขึ้นมาก็ได้ สู้ๆจ้า
เขียนจบแล้วมี5เรื่องค่ะ เรื่องที่6กำลังพยายามปิดต้นฉบับ เหลือแค่เกลาสำนวนอีก2รอบ ก็จะส่งไปตรวจปรูฟค่ะ
ส่วนที่ยังเขียนไม่จบมีอีก10เรื่อง ลงนิยายไว้เรื่องละตอนสองตอน คิดไว้ปีหน้าต้องสะสางให้จบ
สู้ๆละกันค่ะ
เขียนนิยายจบ และขายเป็นอีบุ๊กไปเจ็ดเรื่องค่ะ (แค่เฉพาะปีนี้นะ)
ยังไม่ได้เปิดเรื่องใหม่ เพราะง่วนกับการจัดเตรียมหนังสือทำมืออยู่สองเรื่อง ค่อนข้างวุ่นเพราะทำเองหมด กับครอบครัวช่วย
จัดหน้า ทำปก พิสูจน์อักษร ภายในสองสัปดาห์ อะเฮือกกกก เหมือนจะมีเวลาเยอะ แต่สำหรับเราคือน้อยมาก ทำเป็นครั้งแรกด้วย ไม่อยากให้พลาด
แต่เป็นปีที่รู้สึกโอเคมากๆ เพราะปีที่แล้วคือหยุดนิ่ง เอาแต่แก้งานเก่าแถมสุดท้ายโดนเท ทั้งปีเขียนจบไปแค่สองเรื่อง แถมไม่ได้ขายเลย เป็นปีที่เรียกว่า ล้มเหลวสุดๆ มาปีนี้ก็เลยพยายามแอกทีฟมากๆ
ดีใจที่สุดคือ ขายดีจนได้ป้ายแดงของเมบมาบ้าง และรายได้มากพอจะเลี้ยงครอบครัวซะที ไม่โดนหาว่าเป็นนักเขียนไส้แห้งแล้วจ้า ไม่ต้องกังวลเรื่องหางานประจำแล้วด้วย เย้!
ได้อ่านประสบการณ์แบบนี้ รู้สึกมีกำลังใจขึ้นเยอะเลยค่ะ ดีใจด้วยนะคะที่ประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ
ขอบคุณค่ะ น่าพอใจจริง แต่ยังไม่พอใจค่ะ อยากเขียนได้เปรี้ยงๆ สักเรื่อง แล้วก็หยุดไปเขียนแนวที่อยากเขียนบ้าง (ได้คืบจะเอาศอกแหละ 555555)
เป็นกำลังใจให้นะคะ
ก่อนอื่นต้องปรบมือเลยนะคะ ทำอีบุ๊คเจ็ดเรื่องแล้ว ถือว่าดีและเก่งแล้วล่ะค่ะ ยินดีด้วยนะคะ คุณไม่เป็นนักเขียนไส้แห้งแล้ว//เย้ๆ! เป็นกำลังใจให้ค่ะ
ขอบคุณค่าาาาา ไม่เป็นนักเขียนไส้แห้ง แลกกับการเผานิยายไฟลุกทุกสองเดือนค่ะ ฮ่าาาาา
เป็นปีที่ผมไม่ค่อยได้เขียนงานอะไรเลยครับ
ด้วยอะไรหลาย ๆ อย่าง (ส่วนใหญ่ก็เกมแหละ)
แต่ปีหน้า น่าจะเริ่มเขียนงานแล้วครับ ในช่วงที่ไม่ได้เขียน จินตนาการมันล้นอยู่ในหัว เริ่มอยากระบายมันออกมาบ้างแล้ว
ปีนี้ แต่งไปนิด ๆ หน่อย ๆ เป็นปีที่จางมาก ๆ สำหรับตัวผม
ปีหน้าจะเข้มแล้ว ฮึบ
เป็นกำลังใจให้นะคะ สู้ๆต่อไปจ้าา ก็ขอให้ปีหน้าเป็นปีที่ดียิ่งขึ้นไป
ส่วนตัวผมดูไม่ค่อยจะมีปัญหามากเท่ากับนักเขียนท่านอื่น ๆ เท่าไหร่หลังจากที่อ่านความคิดเห็นของนักเขียนท่านอื่น ๆ ไป ด้วยนิยายที่แต่งเป็นแฟนตาซี การรีเสิร์จข้อมูลจึงไม่ค่อยสำคัญมากเท่าไหร่ตราบใดที่ยังอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง จะยากก็ตรงข้อมูลต่าง ๆ ที่กำหนดเองใหม่ อาจจะมึน ๆ หัวบ้างเป็นธรรมดา เรื่องความกดดันนี่ก็มีกันทุกคนครับ แรก ๆ คือความตื่นเต้น คาดหวัง หลัง ๆ คือความกดดันแหละนะ ตอนนี้ผมชิวมาครับ อัฟสัปดาห์ละตอน ไม่เชิงสนใจด้วยว่าจะมีใครอ่านไหม จะมีคนคอมเม้นไหม มันมีนะนิด ๆ อยากได้คอมเม้นแต่ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร พอเราเลิกคาดหวัง มันเบาขึ้นเยอะมากครับ สัปดาห์ไหนไม่มีอารมณ์ก็แจ้งให้นักอ่านทราบ แต่ก็พยายามรักษาสเกลการอัฟแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ครับ เพราะก็เข้าใจคนที่ติดตามเราเหมือนกัน มีไฟมีอารมณ์หน่อยก็แอบไปอัฟเพิ่มในสัปดาห์นั้น แต่งนิยายให้ผ่อนคลายกันนะครับ แทนที่จะเป็นงานอดิเรกกลายเป็นสร้างความเครียดกันเน้อ ด้วยความปรารถนาดีนะครับ เป็นกำลังใจให้ทุก ๆ ท่านครับ
ค่ะ เข้าใจในส่วนนี้มากเลยค่ะ ตรงที่เราไม่ต้องไปกดดันตัวเอง ให้ตัวเองต้องมานั่งเขียนและก็อัปเลย แต่เราจะใช้เวลาที่ว่างจริง และมีอารมณ์ร่วมเท่านั้นค่ะ ถ้าทำในเวลานี้จะดีมากๆเลยค่ะ เพราะจะขับเคลื่อนได้ดีกว่า ตอนช่วงเวลาอื่นๆเสียอีก เรารู้เราเคยทำมาก่อนแล้ว เป็นกำลังใจให้เช่นกันนะคะ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?
บทความที่คนนิยมอ่านต่อ