Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ซึมเศร้าในตัวฉัน

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมาเล่าเกี่ยวกับซึมเศร้าที่เราเคบเป็นและบางทีมันก็อาจจะยังเป็นอยู่
ย้อนไปเมื่อประมาน3ปีที่แล้ว เราอยู่ม.3กำลังขึ้นม.4 เราต้องเกริ่นก่อนว่า เราเป็นเด็กกิจกรรมแต่ก็ไม่ได้เรียนแย่นะคะ เราอยู่วงโยธวาทิตและเราเป็นหัวหน้าวงค่ะ เราแบกรับความกดดัน ณ ตอนนั้นไว้เยอะมาก ทั้งการสอบเข้าม.4 การเป็นหัวหน้า การเป็นตัวแทนของรร.ไปแข่งขันวิชาการ พูดง่ายๆชีวิตเราตอนนั้นก็คือโคตรจะเหนื่อย แต่เราผ่านมาได้ค่ะ ผ่านมาทั้งๆที่มีรู้ตัวว่ามีอาการเครียดจนหายใจไม่ออกแล้ว แต่ก็ผ่านมาได้ พอเราเข้าม.4 (เราสอบเข้าม.4ที่รร.เอกชนแห่งหนึ่งค่ะ) แน่นอนว่าอาการเครียดจนหายใจไม่ออกมันไม่ได้หายไป เราไปพบเจอกับสังคมที่อยู่กับความกดดันที่มากขึ้น เราเริ่มเรียนไม่รู้เรื่อง บางครั้งหายใจไม่ออกจนช็อค เป็นลม หมดสติไปเลยค่ะ เราจึงตัดสินใจไปพบหมอ หมอก็จัดยาต่างๆมาให้และแนะนำให้หยุดเรียนไปก่อนซักอาทิตย์นึง แต่มันก็ไม่ได้ดีขึ้นเพราะหลังจากนั้น เราหูแว่วและเกิดอาการหลอน เรารู้สึกเศร้ามาก เศร้าแบบที่ว่าร้องไห้ไม่ออกแล้ว เรากรีดแขนตัวเองเพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เรามีความสุขในช่วงเวลานั้น เรานอนหลับไปทั้งๆที่เลือดที่ข้อมือยังไหล เราไปพบหมออยู่เรื่อยๆค่ะ แต่ก็ไม่ดีขึ้น เราไม่ได้ไปรร.เลยนับจากนั้น หลังจากเป็นแบบนั้นมาสัก2อาทิตย์ คุณหมอสั่งแอดมิตค่ะ เราเข้ารับการบำบัดที่รพ.ศิริราช อยู่ประมาน2เดือน ชีวิตเรา ณ ตอนนั้นคือกลับไม่ได้ไปไม่ถึง แย่ไปกว่านี้ไม่ได้ละก็ดีขึ้นไม่ได้ด้วย หลังจากรับการบำบัดนานอยู่2เดือน ถ้าถามว่ามันดีขึ้นมั้ย ก็คงตอบได้ไม่เต็มปากหรอกค่ะว่าดีขึ้น แต่ก็ไม่ได้แย่ลง อาการบางอย่างที่รุนแรงก็มลายหายไปบ้าง หลังจากออกจากรพ.เราดรอปเรียนม.ปลายไปเลยค่ะ พักอยู่บ้าน1ปีเต็มๆ เรากินยาเยอะมาก ทั้งยานอนหลับ ยาคลายเครียด บลาๆ การกินยามันทรมานจริงๆค่ะ ทรมานแบบว่าไม่อนากตื่นเลย พอถึงเวลาตื่นเราอยากร้องไห้เพราะมันปวดเนื้อปวดตัวไปหมด ไม่มีแรงจะลุกจากที่นอน พอตื่นขึ้นมาสิ่งแรกที่เราทำก็คือ เราหาเหตุผลที่เราจะมีชีวิตอยู่ต่อวันนี้ ว่วนใหญ่ก็คงเป็นแบบว่า อยากกินชีสเค้กร้านนี้ บางวันก็ อยากดูคลิปนี้ให้จบ 55555ตลกมาก แต่ได้ผลนะ เอาเข้าตรงๆพอใช้ชีวิตแบบนั้นมาหลายเดือน เราเริ่มหาเหตุผลว่าทำไมเราถึงเป็นโรคนี้ สิ่งที่เราค้นพบก็คือ ความกดดันจากภายนอกเป็นสิ่งที่ทำให้อาการเราหนักขึ้น แต่สิ่งที่ก่อให้เกิดเจ้าโรคนี้คือคนในครอบครัว(เราขออนุญาตไม่พูดถึงนะคะ มันเจ็บปวดมากจริงๆ) และหลายครั้งเราเหมือนถูกแกล้งจากพระเจ้า เหมือนเราโดนทดสอบอยู่ตลอดเวลา บางครั้งเราก็ท้อ จนมาวันนี้เราสู้ค่ะ สู้มาตลอด ตอนนี้เราไม่ได้กินยาแล้ว ไม่ได้ไปหาหมอแล้ว เราเริ่มจากการที่ทำสมาธิ บางครั้งที่สู้กับมันไม่ไหวก็แค่ร้องไห้ออกมาดังๆ คนเรามันก็ต้องแพ้บ้างใช่มั้ยล่ะ จะไปชนะตลอดได้ไง ทุกครั้งที่เราแพ้เราจะบอกกับตัวเองว่า ครั้งหน้าฉันต้องชนะ ฉันต้องไม่ร้องไห้ ฉันไม่อยากกินยาแล้ว และเราทำได้ค่ะ และเราอยากฝากถึงทุกคนนะคะ ใช้ชีวิตในแบบที่ตัวคุณต้องการเถอะค่ะ ถ้ามันเหนื่อย มันท้อ ก็แค่พักบ้างนะคะ จำไว้ว่า คุณสามารถที่จะแพ้ได้ แต่ถ้าวันนี้คุณแพ้ พรุ่งนี้คุณต้องชนะ ขอให้ทุกวันเป็นวันที่ดีนะคะ ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้ค่ะ live a life that u want

แสดงความคิดเห็น

>

2 ความคิดเห็น

catzss 14 ธ.ค. 63 เวลา 22:17 น. 2

ดีใจด้วยค่ะที่หาย อย่ากลับไปเป็นอีกนะ มองโลกแง่บวกเข้าไว้ เครียดอะไรมาโพสระบายในนี้ดีกว่าจะได้หายเครียดนะคะ ทุกอย่างอยู่ที่จิตใจเราล้วนๆ หาอะไรตลกๆดูเรื่อยๆ ช่วยได้เยอะ

0