Review หนังสือเตรียมสอบ TOEFL ด้วยตัวเอง
วันนี้ผกากรอง ก็เลยมีหนังสือที่เด็ดชนิดที่ว่าเป็น พระคัมภีร์สำหรับการเตรียมตัวสอบ Toefl มาแนะนำให้จ้า บอกรายละเอียดพร้อมข้อดี - ข้อเสีย ของแต่ละเล่มให้ด้วย พออ่านจบก็กำเงินไปซื้อได้เลย ไม่ต้องเสียเวลาหาเล่มนั้นเล่มนี้ ขอโน้ตไว้นิดนึงว่าหนังสือพวกนี้เป็นภาษาอังกฤษล้วน เหมาะกับคนที่มีพื้นฐานพอสมควรนะจ๊ะ เอ้า ถ้าพร้อมแล้ว เตรียมจดเลยจ้ะ
ETS the official guide to Toefl test
-
เหมาะกับ: คนที่มีพื้นมาพอสมควร - คนที่เก่งเทพ
-
ข้อดี: ข้อสอบความยากใกล้เคียงกับการสอบจริงมาก เพราะคนเขียนเป็นคนออกแบบข้อสอบจริงด้วย
-
ข้อด้อย: ไม่ค่อยมีคำอธิบายหรือคำแนะนำในส่วนของข้อสอบในแต่ละพาร์ท
เริ่มที่หนังสือที่ติดอันดับแนะนำในหลายๆ เว็บ เพราะเป็นหนังสือแบบครอบจักรวาล มีคำถามให้ได้ฝึกสมอง และมีคำอธิบายในส่วนต่างๆ รวมถึงคำแนะนำว่าในแต่ละพาร์ทเค้าคาดหวังอะไรจากเราบ้าง ทำให้เราเตรียมใจได้ดีก่อนไปเจอของจริง เป็นหนังสือที่ช่วยให้เรารู้จักภาพรวมของ Toefl ได้อย่างดี คนที่ไม่เคยลองเลยก็สามารถเข้าใจได้ มาพร้อมกับซีดีและแบบทดสอบ ทำให้พอจะจับทางได้ว่าตอนสอบจริงจะเป็นยังไงบ้าง
Barron's TOEFL iBT Superpack
-
เหมาะกับ: คนที่อยากเน้นฝึกทำข้อสอบเยอะๆ
-
ข้อดี มีตัวอย่างข้อสอบให้ลองทำเยอะมาก
-
ข้อด้อย ตัวอย่างเสียงสำหรับพาร์ท listening ไม่ค่อยสมจริง
ซื้อ 1 ได้ถึง 4 ตามชื่อ super pack ของเค้าเลย เพราะนี่รวมหนังสือถึงสี่เล่มไว้ด้วยกัน ได้แก่
(1) Barron’s Guide
(2) Barron's Strategies and Tips
(3) Barrons’s Writing for the exam
(4) Barron's Essential Words for the exam
จุดเด่นของหนังสือเล่มนี้คือแบบทดสอบเยอะมาก และเค้ามีเฉลยพร้อมคำอธิบายแบบละเอียดยิบ ที่ชอบมากคือเค้าไม่ได้แค่อธิบายข้อที่ถูกอย่างเดียว แต่ยังบอกด้วยว่าทำไมข้ออื่นๆ ถึงผิด ซึ่งแตกต่างจากหนังสือเตรียมสอบบางเล่มที่เขียนคำอธืบายสั้นจู๊ดราวกับโพสต์ในทวิตเตอร์ อันนี้นับเป็นข้อดีมากๆ ของหนังสือเล่มนี้เลยล่ะ
Cambridge Preparation for the Toefl Test with CD-rom
-
เหมาะกับ: คนที่พื้นฐานเบสิค-กลางๆ
-
ข้อดี เจาะลึกสกิลและทิปส์ต่างๆ ที่จำเป็นในข้อสอบแบบละเอียดมาก มีแบบทดสอบเยอะ
-
ข้อด้อย คำถามบางอันยากเกินไป และคำอธิบายในเฉลยบางอันก็สั้นม๊ากมาก ปล่อยให้เราอ่านแล้วยังงงๆ อยู่เหมือนเดิม
หนังสือที่เน้นการอัพเลเวลในแต่ละพาร์ทได้เป็นอย่างดี เค้าจะเริ่มจากการอัพสกิลแบบง่ายๆ เบๆ ก่อน จากนั้นก็เริ่มยากขึ้นเรื่อยๆ จนไปถึงขั้นแอดวานซ์ ซึ่งมันดีตรงที่เราจะค่อยๆ ซึมซับการทำข้อสอบให้เป๊ะมากขึ้นเรื่อยๆ พอทำข้อสอบและอ่านหนังสือจบเล่ม สกิลเราอาจจะเพิ่มมาเป็นเลเวล 99 เลยก็ได้ ดีอีกอย่างคือเค้าเน้นทุกพาร์ทเท่าๆ กัน ทำให้เราฝึกได้ครบถ้วนจ้ะ
Speaking and Writing Strategies for the TOEFL iBT
-
เหมาะกับ: คนที่อยากฝึกด้านพูดกับเขียนเยอะๆ
-
ข้อดี: เจาะลึกเรื่องการพูดและการเขียน มีวิธีทำและแนวทางที่ชัดเจนมาก
-
ข้อด้อย: เพราะเค้าเจาะลึกอยู่ 2 เรื่องนี้ เลยใช้หนังสือเล่มนี้เล่มเดียวเพียวๆ ไม่ได้ ควรมีเล่มอื่นควบคู่ไปด้วย
ตามชื่อเลยเนอะ เล่มนี้เค้าเน้น 2 พาร์ทหลักคือ speaking กับ writing ซึ่งเค้าจะมีการแนะนำวิธีพูดและวิธีเขียนให้อยู่ในกรอบแบบที่กรรมการจะชอบ มีการสอนให้คิดวิเคราะห์ วิธีการโต้แย้งแบบเริ่ดๆ ตั้งแต่ระดับกลางๆ ไล่ไปจนถึงแบบแอดวานซ์ชนิดที่ว่ากรรมการต้องอ้าปากค้างกันไปเลยทีเดียว
ข้อดีอีกอย่างคืออันนี้เค้าจะบอกให้เรารู้ว่ากรรมการให้คะแนนสอบในสองส่วนนี้ยังไง เค้าคาดหวังอะไรจากเรา ซึ่งนี่จะทำให้เราตอบได้โดนใจกรรมการได้มากขึ้นค่ะ
Essential Words for the TOEFL
-
เหมาะกับ: คนที่อยากเพิ่มคำศัพท์ที่จำเป็นสำหรับการสอบ
-
ข้อดี: เน้นคำศัพท์ที่เจอแทบทุกปี มีประโยชน์สำหรับหลายพาร์ท ได้คะแนนง่าย
-
ข้อด้อย: เน้นศัพท์อย่างเดียว อย่างอื่นไม่ค่อยมี เลยต้องอ่านคู่กับเล่มอื่นด้วยนะ
เล่มสุดท้าย ขอมาเน้นคำศัพท์กันบ้าง เพราะเป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้เลยเชียว เล่มนี้จะเน้นไปที่คำศัพท์ที่จำเป็นและเค้าว่ากันว่า ได้ใช่แน่นอน ในการตอบคำถามและทำข้อสอบพาร์ทต่างๆ ในแต่ละบทจะมีคำศัพท์ให้เราท่อง แถมยังมีแบบทดสอบให้เราลองทำด้วย ไม่ใช่ท่องอย่างเดียวนะจ๊ะ เหมาะกับการช่วยเพิ่มคลังคำศัพท์ให้หรูหรายิ่งๆ ขึ้นไปอีกจ้ะ
แสดงความคิดเห็น