Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

[รีวิว]สาขาวิชาวิศวกรรมเมคคาทรอนิกส์ kmutt

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีครับ วันนี้จะมารีวิว การเรียนวิศวกรรมเมคคาทรอนิกส์ บางมดนะครับ สำหรับวิศวกรรมเมคคาทรอนิกส์ นั้นเป็นสาขาย่อยของ ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี โดยเราจะได้เรียนร่วมกับวิศวกรรมอุตสาหการในบางวิชา เช่น วิชาที่เกี่ยวกับวัสดุศาสตร์ ส่องกล้องดูโครงสร้างเหล็ก แต่ส่วนใหญ่เราจะเรียนเกี่ยวกับวิชาทางไฟฟ้า เครื่องกล ระบบควบคุม ระบบอิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์ สาขาวิชาของเราจะต้องการให้เรามีความรู้ในหลากหลายศาสตร์ เพื่อเป็นตัวกลางในการเชื่อมโยงการทำงานของวิศวกรสาขาต่างๆ ให้สามารถทำงานร่วมกันได้ง่ายขึ้น รวมถึงสามารถสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์หรือนวัตกรรมใหม่ๆ ขึ้นมาได้ สาขานี้จึงต้องเรียนหลากหลายมาก เราจะมารีวิวการเรียนในแต่ละชั้นปีกันนะครับ

ปี 1 วิชาที่เรียนจะเป็นเกี่ยวกับวิชาพื้นฐานพวก แคลคูลัส ฟิสิกส์ เคมี อังกฤษ เนื้อหา 90 % มาจากเนื้อหาตอนม.ปลายที่น้องๆ เคยเรียนมาแล้ว แต่จะเพิ่มเติมในส่วนของการลงแลปฟิสิกส์กับเคมี ที่จะต้องลงมือทำ วัดค่า เก็บผลการทดลอง เขียนรายงานจริง ส่วนวิชาทางวิศวกรรมที่ต้องเรียนเพิ่มจะมี drawing หรือวิชาการเขียนแบบ จะให้เราฝึกการดูรูปจาก 3 มิติเป็นภาพ 2 มิติ จาก 3 มิติ เป็น 2 มิติ คล้ายๆ pat 3 แต่ให้เราวาดลงกระดาษด้วยมือในเทอมแรก และให้วาดด้วยคอมพิวเตอร์ในเทอมสองด้วยโปรแกรม Autodesk inventer เป็นวิชาที่สนุกมาก และสัมผัสได้ถึงความเป็นวิศวกร ต่อมาเป็นวิชาเขียนโปรแกรม จะให้เราฝึกเขียนโปรแกรมง่ายๆ อย่างโปรแกรมคำณวนสถิติหรือเครื่องคิดเลข ฝึกสร้างหน้าโปรแกรมหรือinterface แบบง่ายๆ และจะได้เรียนเกี่ยวกับวงจรไฟฟ้าเบื้องต้นอีกด้วย อีกวิชาที่เรียนจะเป็นเกี่ยวกับ material ศึกษาโครงสร้างของวัสดุ การหล่อเหล็กต่างๆ จะเรียนรวมกับวิศวกรรมอุตสาหการ ก่อนจบปีการศึกษาจะต้องทำโปรเจคส่ง เป็นสิ่งประดิษฐ์อะไรก็ได้ที่ต้องใช้ความรู้ที่เรียนมา อย่างปีพี่จะมีลิ้นชักเปิดปิดอัตโนมัติเมื่อมีคนเดินเข้าใกล้ แขนกลเขียนหนังสือ ระบบติดตาม GPS เป็นต้น และต้องลงช๊อปสร้างค้อนของตัวเองขึ้นมาโดยใช้เครื่องกลึง เครื่องมิลลิ่ง เลื่อย ตะไบจากก้อนเหล็กให้กลายเป็นค้อนด้วยตัวเอง ได้เรียนการเชื่อมเหล็กด้วย ปีนี้จะเป็นเทอมที่ง่ายที่สุดในมหาลัย เก็บเกรดง่ายสุดด้วย

ปี 2 จะเรียนวิชาที่เป็นวิศวกรรมมากขึ้นโดยเน้นหนักไปที่ไฟฟ้า และระบบควบคุม ต้องออกแบบวงจร อิเล็กโทรนิกส์เอง ได้ทำแลปเกี่ยวกับวงจรไฟฟ้า การต่อมอเตอร์ หม้อแปลงไฟ อุปกรณ์ทางไฟฟ้าต่างๆ จะได้เรียนในปีนี้ครบหมดทั้ง micro scope, relay และอื่นๆ ความสนุกมันอยู่ที่ได้ลงมือต่ออุปกรณ์จริงเยอะมาก ถ้าต่อผิดก็จะได้กลิ่มไหม้ๆ หรือฟิวส์ระเบิดปุ้งปั้ง แต่ไม่ต้องกลัวมีเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างใกล้ชิด และคอยแก้ไขสถานการณ์ให้แน่นอน ต่อมาวิชาทางด้านระบบควบคุม จะเรียนเกี่ยวกับการออกแบบระบบการทำงานของอุปกรณ์อย่างไร ให้เสถียรและมีประสิทธิภาพ โดยจะได้จำลองการทำงานจริงของอุปกรณ์ผ่านโปรแกรม ได้ฝึกการใช้งานเครื่อง CNC โดยการเขียนโค้ดสร้างทางเดินให้กับเครื่อง และได้ทำช๊อปสร้างเครื่องรีดแผ่นโลหะออกมาให้ได้ตามแบบ โดยใช้เครื่องมือต่างๆ ในช๊อปคล้ายๆ กับตอนปี 1 แต่ต่างกันตรงได้ใช้เครื่องจักรอัตโนมัติมากขึ้น เช่น เครื่องกลึงอัตโนมัติ เครื่องมิลลิ่งอัตโนมัติ และ CNC ลักษณะของตัวชิ้นงานจะมีความซับซ้อน ชิ้นส่วนเยอะขึ้น และแน่นอนก่อนจบปีการศึกษาจะต้องทำโปรเจคส่งเป็นโปรเจคที่จะต้องใช้ความรู้ทางด้านการ control และโปรแกรมที่ยากขึ้นกว่าตอนปีหนึ่ง โดยปีพี่ก็จะมี เครื่องขายน้ำอัตโนมัติ สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า รถเก็บลูกเทนนิสอัตโนมัติ ปีนี้จะเป็นปีที่มีกิจกรรมค่อนข้างเยอะ และต้องแสดงละครเวทีในวิชา Gen ได้ทำงานกับเพื่อนต่างภาค เจอเพื่อน พี่ น้องมากมาย

ปี 3 จัดว่า ปีที่เน้นหนักในวิชาทางด้านเครื่องกล และ control system โดยเราจะได้เรียน การวิเคราะห์โครงสร้างของสิ่งต่างๆ ในเครื่องจักรว่า ถ้าเราจะออกแบบเครื่องจักรต้องใช้เหล็กแบบไหน ขนาดเท่าไหร่ ตำแหน่งการวางเป็นอย่างไร บางทีแค่เราเปลี่ยนวิธีการวางนิดเดียวก็สามารถลดต้นทุนไปได้กว่าครึ่งนึง สามารถทำนายการซ่อมบำรุงของเครื่องได้ ต่อมาจะเป็นวิชา thermodynamic เป็นการเรียนเกี่ยวกับการส่งถ่ายความร้อนความเย็น การเคลื่อนที่ของอุณหภูมต่างๆ น้องๆ รู้ไหมครับว่า ที่จริงแล้วสสารมี 5 สถานะ และระบบของแอร์ในบ้านสามารถทำเป็น heater ได้ด้วย วิชานี้จะช่วยอธิบายได้ทั้งหมด ส่วนวิชา dynamic จะเป็นวิชาที่ให้เราวิเคราะห์วัตถุต่างๆ ที่มีการเคลื่อนที่ เช่น เราต้องขับรถเข้าโค้งอย่างไรไม่ให้หลุดโค้ง หรือทำไมในโค้งถึงต้องทำถนนเอียงๆ ทางด้านวิชาเกี่ยวกับ control ในปีนี้ จะมีความสนุกเพิ่มเข้ามาคือต้องออกแบบระบบการควบคุมที่อิงกับเคสจริงมากขึ้น เช่น ช่วงล่างของรถ ระบบในเครื่องกลึง เคลนยกสินค้า และได้ทำเป็นแบบจำลองและโปรเจคจริงออกมา อีกทั้งยังได้ลงช๊อปเรียนเกี่ยวกับการใช้ระบบลม ระบบ hydraulic และ plc และที่สนุกที่สุดของปีนี้ คือการได้เล่นแขนกล โดยเราจะควบคุมแขนกลในการเชื่อมเหล็กแทนเรา จะต้องลงมือเขียนโค้ดเองทุกคน จะได้ลงมือทำเองทั้งหมด แน่นอนเราจะมีโปรเจคทุกเทอม โดยโปรเจคเทอมนี้เราจะทำเป็นอุปกรณ์ออกมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการจริงของลูกค้า หรือเพื่อเข้าไปช่วยแก้ปัญหาจริงมากขึ้น เริ่มจากมีการสำรวจปัญหา วัตถุประสงค์ ขอบเขตการทำงานและลงมือสร้าง ตัวอย่างโปรเจคก็จะมี เคลนที่เคลื่อนที่โดยของที่แขวนอยู่ไม่โยกเยกไปมา รถขับเคลื่อนอัตโนมัติ ระบบแปลงปลูกผักอัตโนมัติ หลังจากส่งโปรเจคแล้ว ตอนปิดเทอมเราจะต้องไปฝึกงานตามบริษัทต่างๆ

ปี4 ปีนี้จะเป็นปีที่มีอิสระในการเลือกรายวิชามากที่สุด สามารถเลือกรายวิชาตามที่เราสนใจได้เลย ถ้าวิชาที่เราสนใจไม่มีเปิดในภาควิชาก็สามารถไปลงของภาคอื่นได้ครับ อย่างเช่น AI, data science, image processing, machine vision, quality planning, supply chain management รวมถึง Gen ก็เลือกเรียนเองได้ พี่จะยกตัวอย่างที่พี่ลงไปจะมี image processing เป็นการเรียนว่าเราจะทำอย่างไรให้เครื่องจักรมองเห็นและรู้จักสิ่งต่างๆ ผ่านกล้อง โปรเจคที่ได้ทำก็จะเป็น การทำให้เครื่องจักรแยกแยะสินค้าดีไม่ดี รวมถึงการแยกสิ่งของและใบหน้าคน ส่วนอีกวิชาที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือ AI เรียนเกี่ยวกับการสร้าง AI เลย โดยการนำข้อมูลจำนวนมากไปสอนให้คอมเรียนรู้ ใครที่เคยดูซีรี่เรื่อง start up เราจะทำคล้ายๆ อย่างนั้นเลย ในหนังดูไฮเทคล้ำมากแต่ของจริงทำง่ายสุดๆ ถ้าเรียนวิชานี้ไปทำได้แน่นอน โปรเจคที่ได้ทำก็จะมีพวกการแยกแยะใบหน้าคน แยกแยะสิ่งของ คล้ายๆ image processing แต่ถ้าเราใช้ AI จะใช้เวลาในการตรวจจับรวดเร็วกว่า

หลังจากที่ฟังรีวิวกันแล้วน้องๆ อาจจะสงสัยว่าเรียนวิศวกรรมเมคคาทรอนิกส์แล้ว จบออกไปทำงานอะไรได้บ้าง ซึ่งพี่บอกเลยว่า หลากหลายมากและเป็นที่ต้องการในตลาดตอนนี้อย่างมาก สายงานหลักๆ เลยก็จะมี งานในโรงงานและงานตามบริษัทเทคโนโลยี ถ้างานในโรงงานก็จะเป็นแนวควบคุม คอยแก้ปัญหาต่างๆ ในโรงงาน งานของเราจะค่อนข้างกว้างมาก เพราะเราเรียนทั้งเครื่องกล ไฟฟ้า ระบบควบคุม อิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ ส่วนงานตามบริษัทเทคโนโลยีก็จะเป็นพวกการออกแบบเครื่องจักร อุปกรณ์ต่างๆ หรือออกแบบการใช้แขนกล หุ่นยนต์ในการช่วยมนุษย์ทำงาน

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อรุ่นน้องที่จะสมัครเข้าศึกษาต่อสาขาวิชาวิศวกรรมเมคคาทรอนิกส์ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีทุกคนนะครับ
ไว้เจอกันที่มหาลัยนะครับ สวัสดีครับ~~~~~

แสดงความคิดเห็น

>

3 ความคิดเห็น

Kamatoes 12 ธ.ค. 64 เวลา 09:36 น. 1-1

ผู้หญิงประมาณ 1:4 ได้ค่ะ ถ้าไม่รวมภาคอุตสาหการปกติ อย่างปีเรามี10คนจาก 40 ค่า

0
นนท์ ชยุตม์ 003 22 พ.ค. 65 เวลา 04:08 น. 3

มีเรื่องอยากสอบถามครับ

คือผมเป็น นศ.ปวช.จากแผนกเมคคา ของเทคนิคสกลนครครับ

ผมสงสัยว่าทาง คณะเมคคาบางมด รับโควต้าสายช่างไหมครับ

หรือมีช่องทางไหนรอบไหนขั้นตอนไหนที่สามารถสอบเข้าได้ไหมครับ พอดีชอบสาขานี้เลยอยากศึกษาต่อครับอีก1ปีกว่าๆจะจบแล้วครับอยากสอบถามดู พี่ๆคนไหนหน้าตาดีหล่อสวยตอบได้เลยนะครับยินดีน้อบรับคำแนะนำครับผม



0