Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

Tips การเตรียม IELTS 8.0 ด้วยตัวเอง

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

สวัสดีค่าา วันนี้เราจะมารีวิวการเตรียมสอบ IELTS ด้วยตัวเองภายใน 1 เดือนค่ะ เราเป็น dek64 ที่จะต้องเตรียมสอบ IELTS ในการยื่นมหาลัยรอบ 1 ในไทยและต่างประเทศ (แต่สุดท้ายไม่ได้ยื่นค่ะ ติดโควิด ;-;) เกริ่นก่อนว่าเราเป็นคนที่พื้นอังกฤษไม่ได้แย่มาก แต่ก็ไม่ได้โหดขนาดไม่ต้องเตรียมแล้วไปสอบได้เลย TwT สำหรับคนที่คิดว่าพื้นฐานยังไม่ค่อยดีและมีเวลาเหลือน้อยแล้ว การลงเรียนพิเศษน่าจะช่วยได้เยอะและเร็วกว่าเตรียมเองมาก ๆ แต่คนที่พอมีพื้นฐานอยู่แล้ว ค่อนข้างมีเวลา หรือไม่อยากเสียเงินเรียนหลายหมื่น เรามี Tips เล็ก ๆ น้อย ๆ และ Resources ที่เราใช้ในการเตรียมตัวมาฝากค่า :D สำหรับวิธีการเตรียม Part ต่าง ๆ ของเราจะมีประมาณนี้เน้อ
 

1. Listening 
- ดูหนัง ดู YouTube เป็นภาษาอังกฤษ ห้ามเปิดซับนะ เพราะรู้ตัวอีกทีเราจะแอบอ่านซับจนลืมฟัง 5555 ถ้าฟังไม่รู้เรื่องจริง ๆ ก็ลองเปิดซับอังกฤษดูก่อนก็ได้ค่ะ และที่สำคัญพยายามทำหูให้คุ้นชินกับสำเนียง British ไว้นะคะ ถึงแม้ข้อสอบจะมีหลายสำเนียงปนกัน แต่ British น่าจะเจอบ่อยสุดค่ะ
- เวลา 30 วินาทีระหว่างพาร์ทมีค่ามาก! ให้เอาไปอ่านโจทย์ถัดไปล่วงหน้าเลยย
- ถ้าหลุดตรงไหนก็คือหลุด มูฟออนไปเลยจ้า แล้ว 10 นาทีสุดท้ายค่อยมาพยายามระลึกชาติ/เดาเอา 
- พาร์ทนี้ที่สำคัญที่สุดก็คือสติเลยอะ ตั้งสติดี ๆ นะ อย่าแพนิคเด้อ
 
2. Reading
- พาร์ทนี้สำคัญสุดคือการทำโจทย์บ่อย ๆ ทำให้หมดเท่าที่จะหามาได้ เพราะยิ่งเราทำเยอะก็จะยิ่งจับทางคนออกข้อสอบได้ง่ายขึ้น 
- ข้อสอบ IELTS คือค่อนข้างตรงตัวมาก (ถ้าใครเคยสอบ SAT จะพบว่า IELTS เนี่ยมันตรงตัวที่สุดในโลกแล้วลูก5555) ก็คือถ้า Passage บอกว่าใช่ก็คือใช่ บอกว่าไม่ก็คือไม่ ห้ามคิดเองเออเองไปเองเด็ดขาดเลยนะ ยกตัวอย่างเช่นพาร์ทที่มันมีให้เลือก Not given ถ้าเราหา evidence จากบทความมา support ไม่ได้จริง ๆ ก็คือ Not given ชัวร์ ๆ จ้า อย่า assume ไปเองเด็ดขาด!
- ทุกคำถามเรียงลำดับ ก็คือถ้าข้อนี้ไปถึงส่วนนึงของบทความแล้ว ข้อถัดไปก็ให้หาต่อจากส่วนนั้นได้เลยค่ะ
- Manage เวลาดี ๆ 3 บทความ 1 ชม. แสดงว่าควรทำบทความละไม่เกิน 20 นาทีนะ 
- คำไหนที่ระหว่างฝึกทำเราไม่รู้ความหมาย ให้ highlight/ขีดเส้นใต้ไว้เลย แล้วกลับมาหาความหมายทุกครั้งหลังทำเสร็จ และถ้าพอมีเวลาอยากให้ลองอ่านบทความอีกรอบด้วยอะ จะได้เก็ทมากขึ้นว่าเราเข้าใจจุดไหนพลาดไป
 
3. Writing
- สำหรับคนที่เขียนอังกฤษไม่คล่องเหมือนเรา เราว่าการจำ model เข้าไปมันช่วยมาก ๆ เลยนะ เช่น structure ของการตอบ problems&solutions/advantages&disadvantages/etc. เป็นยังไง ย่อหน้าไหนควรเขียนประมาณไหน อะไรประมาณนั้น ซึ่งสามารถศึกษาได้ตามเน็ตไม่ก็หนังสือ IELTS ทั่วไปเลยเด้อ (เรามีโน้ตสรุปให้ด้วยนะคะ ลิงก์อยู่หลัง resources ค่ะ :D) 
- ดู spelling ดี ๆ เช็คไปเขียนไปตลอดทางเลย เราจะได้ไม่ต้องมาเสียเวลาเช็คการสะกดอีกรอบ ส่วนแกรมม่าก็ระวังตลอดทาง แต่ตอนท้ายก็วนกลับมาตรวจละเอียด ๆ ด้วยนะถ้ามีเวลา
- เขียนจำนวนคำให้เกิน requirement 250 คำ แต่อย่าเขียนเพลินแบบเรา 5555 (ตอนสอบเราเขียนไป 350 คำ ตรวจไม่ทันเลยค่ะ รู้สึกวางแผนพลาดมาก TT) 
- สำหรับคนที่สอบ paper อยากให้ปรินท์กระดาษออกมาเขียนทุกครั้ง จะได้เขียนเร็วขึ้นและชินกับการนับคำ ส่วนคนที่สอบคอมก็พิมพ์ที่ไหนก็ได้ที่มันไม่มี autocorrection ให้นะ 555
- พาร์ทนี้เราว่าคนช่วยตรวจสำคัญมากกก คือลำพังเราตรวจคนเดียวคงทำได้แค่เช็คนิดหน่อยด้วย grammarly ไรงี้ใช่ม้า แต่พวก content การเลือกคำ รูปแบบประโยคตั่งต่างเราว่าให้เพื่อนที่เก่งอังกฤษ ครูอังกฤษ ไม่ก็จ้างตรวจเลยจะเวิร์คกว่านะ เราสารภาพว่าตอนแรกเราเกรงใจคนอื่น เงินก็ไม่อยากเสีย เลยตรวจเองตลอด จนวันสุดท้ายเพิ่งจะให้เพื่อนตรวจให้ สรุปว่า weakness เต็มไปหมดเลย แต่มันแก้ไม่ทันแล้ว uwu สุดท้ายพาร์ทนี้คะแนนเราน้อยสุดเลยค่ะ 5555
 
4. Speaking 
- หาเพื่อนคุยอังกฤษด้วย แต่ถ้าไม่มีเพื่อน(เช่นเรา ;0) ก็ให้พูดคนเดียวแล้วอัดเทป เสร็จแล้วก็ฟังแล้วหาข้อบกพร่อง ตรงไหนที่เราคิดว่าเราพูดได้ดีขึ้นก็ลองพูดใหม่ พอมั่นใจแล้วก็ลองอัดใหม่อีกรอบไปเรื่อย ๆ เราจะได้ชินกับการเรียบเรียงคำพูดเด้อ
- เวลาเจอตรงไหนที่พลาดบ่อย ๆ ให้ note ไว้ตลอด แล้วพยายามพูดให้เคลียร์กว่าเดิม หา synonym อื่นมาแทนที่คำที่พูดซ้ำบ่อย ๆ หรือพยายามหาคำที่ยากกว่ามาแทนที่ 
- สำเนียงไม่มีผลนะ ไม่ต้องซีเรียส จะสำเนียงบริทิช อเมริกัน ออสซี่ หรือไทย ๆ ก็ได้หมดจ้า สำคัญที่ pronunciation เราต้องมั่นใจว่าเราออกเสียงถูกและกรรมการเข้าใจที่เราพูด 
- Topic หลัก ๆ จะมีอยู่ไม่กี่อย่าง เพราะฉะนั้นเราสามารถเตรียมคำตอบไว้ก่อนเลยได้ เช่น บุคคล สถานที่ กิจกรรม สิ่งของที่อยากได้ ความฝัน เราก็เตรียมสตอรี่ไว้ก่อนเลย แล้วไม่ว่าคำถามจะเป็นยังไงเราก็จะสามารถ adapt ให้เข้ากับเรื่องที่เราเตรียมไว้ก่อนได้ อาจจะอาศัยไหวพริบเล็กน้อย และ*ไม่สามารถใช้ได้กับทุกสถานการณ์*นะ ถ้าไม่ไหวอย่าฝืนเด้อ
- พาร์ทนี้โกหกได้! เมคเรื่องมั่ว ๆ ขึ้นมาได้เลยจ้า แต่ต้อง flow และอย่าโป๊ะนะคุณ555555 
- พาร์ทนี้ยูทูปช่วยเราไว้เยอะมากเลยย ช่วงใกล้สอบเราแทบจะนั่งดูคลิปแนววิธีการตอบหรือตัวอย่างคำตอบแบนด์สูง ๆ ตลอดเวลาเลย ซึ่งเรารู้สึกว่าเราซึมซับรูปแบบประโยค คำศัพท์ และวิธีการเรียบเรียงเนื้อหามาจากคลิปพวกนี้เยอะมาก แนะนำ ๆๆ :) 
- อันนี้เป็นทริคของเราเอง คือเราเป็นคนชอบคุยกับผู้ใหญ่/คนแก่อะ 55555 ตอนสอบกรรมการเราเป็นคุณลุงพอดี เราก็นึกตลอดว่าเหมือนเราไปโม้เรื่องราวชีวิตให้ญาติผู้ใหญ่ที่เราสนิทฟัง ซึ่งเรารู้สึกว่ามันผ่อนคลายลงเยอะเลยนะ เราโม้จนสอบเสร็จเขามีชวนเราโม้ต่ออีกนิดหน่อยด้วย น่ารักมากเลยยย 

Resources 
ที่เราใช้ในการเตรียมตัวมีดังนี้นะคะ 

Books 

- The Official Cambridge Guide to IELTS

อันนี้เป็นเล่มเริ่มต้นตั้งแต่เบสิคเลยย มีข้อสอบให้ทำด้วย 4 ชุด สำหรับคนที่พอมีพื้นฐานอยู่แล้วสามารถข้ามเล่มนี้ไปได้เลยค่ะ
Image result for ielts official
- Cambridge English IELTS (1st-15th Edition) 

หนังสือชุดนี้เป็น’ข้อสอบเก่า’ที่เคยนำมาใช้สอบจริง ๆ ในปีก่อน ๆ ซึ่งเป็นหนังสือที่ดีที่สุดแล้ว เราจะไปซื้อหนังสือข้อสอบเล่มไหนมาทำมันก็ไม่ตรงเท่าข้อสอบเก่าหรอกจริงม้ะ เพราะงั้นลุยเซ็ทนี้โล้ดด เราแนะนำให้ทำเล่ม 9 เป็นต้นไปนะ เล่มแรก ๆ แนวไม่ค่อยตรงละอะ แต่ถ้ามีเวลาเยอะจริง ๆ จะทำให้หมดเลยก็ได้นะ 55555

Image result for ielts book 1-15
 

YouTube Channels 

- E2 IELTS
Link: https://www.youtube.com/channel/UCglDIsg_Z9mE2oT9hsrbzFA 

ช่องนี้พาร์ท writing คือช่วยชีวิตเราไว้เยอะมากกก พาร์ทอื่นเราเฉย ๆ อะ แต่พาร์ทเขียนเขาสอนปังมากแม่ จงไปตำจ้าา

- IELTS Speaking Success
Link: https://www.youtube.com/channel/UCiVm8XcbwS8-pcDEa5lFXIA 

ช่องนี้สอนพาร์ท speaking ซึ่งคุณลุงที่สอนแกน่ารักมากกก แนะนำมาก ๆๆๆ เราฟังช่องนี้บ่อยแบบ กินข้าว เข้าห้องน้ำ ก่อนนอน เราฟังตลอดอะ ลุงเขาเริ่ดจริงไรจริงง

Websites 

- IELTS Liz
Link: https://ieltsliz.com 

เว็บนี้เราใช้พาร์ท writing เสริมกับช่องด้านบนอะะ เราว่าเวิร์คมาก ๆ ทั้งคู่เลย จริง ๆ เว็บนี้แอบหลากหลายกว่าด้วยแต่เราเพิ่งมาเจอช่วง 1 อาทิตย์ก่อนสอบ TT เสียดายมาก ๆ เลยค่ะ เพราะนางสอนดีมากก

- IELTS Advantage
Link: https://www.ieltsadvantage.com 

อันนี้เป็นเว็บเสริมที่เราอ่านบ้างเป็นครั้งคราว ใช้น้อยสุดละ แต่คอนเทนต์โอเคน้าา สำหรับใครที่ไม่คลิกกับเว็บด้านบนจะลองดูก็ได้ค่ะ 

Writing Task 2 Essay Structure
เราได้รวบรวม structure ในการเขียน essay task 2 ในโจทย์แบบต่าง ๆ ไว้ ซึ่งเราก็ได้มาจากการดูยูทูป E2 IELTS นั่นแหละ 555 จริง ๆ แอบอยากให้ดูคลิปมาก่อนแล้วค่อยมาอ่านโน้ตเรานะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ค่า 

https://drive.google.com/file/d/1EDLdAokiB0TqH0VsAyzw5MTt75H_MCAI/view?usp=sharing


Plan
เราเตรียมตัวสอบ IELTS ใช้เวลาทั้งหมดประมาณเกือบ ๆ 1 เดือนค่ะ แต่ยอมรับว่ามีโอ้เอ้บ้าง บางวันก็ไม่ได้อ่านเลย แหะะ สำหรับแพลนของเราก็คือเราตั้งใจไว้ว่าเราจะทำข้อสอบจาก Cambridge English IELTS (1st-14th Edition) เท่านั้น และทำวันละ 1 ชุดครบทั้ง 4 skills เลยค่ะ ให้เหมือนว่าเรากำลัง mock สอบจริงทุกวันไปเลย ทำเสร็จก็ตรวจอย่างละเอียดด้วยนะคะ โดยเฉพาะพาร์ทเขียน ซึ่งแต่ละเล่มจะมี 4 ชุด นั่นหมายความว่าใน 1 เดือนเราจะได้ทำประมาณ 7 เล่มค่ะถ้ามีวินัยจริง ๆ ซึ่งเราเริ่มจากเล่ม 9 แล้วไล่ไปเรื่อย ๆ ค่ะ ข้อสอบก็จะใกล้เคียงกับปัจจุบันขึ้นเรื่อย ๆ (แต่สุดท้ายเราทำไม่ครบค่ะ ไปจบที่เล่ม 13 ชุด 1 เอง TT) นอกจากนี้เรายังสัญญากับตัวเองว่าจะอ่าน model answers ให้ได้วันละ 3++ passages ซึ่งถ้าเราอ่านทุกวันภายใน 1 เดือนเราจะอ่านได้เกิน 100 essays เลยค่ะ ซึ่งเราว่ามันสำคัญมาก ๆ เพราะเราได้เรียนรู้ศัพท์ใหม่และซึมซับรูปแบบการเขียนจากการอ่านมาเยอะมาก ๆ เลยค่ะ 

สำหรับคะแนนที่เราได้ (L/R/W/S) คือ (8.5/9.0/7.0/8.0) Overall 8.0 ค่า (แอบเสียดายพาร์ทเขียนนิดนึงค่ะ แหะ)
 

สุดท้ายนี้เรามองว่าการจะได้ IELTS คะแนนดีนั้น 70% ขึ้นอยู่กับทักษะด้านภาษาอังกฤษที่มีอยู่ก่อนแล้วหรือต้องฝึกในระยะยาว แต่อีก 30% เป็นสกิลที่เราสามารถปั่นได้ภายในเวลาสั้น ๆ โดยใช้ทริคเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เราให้ไป หรือดูวิดีโอสอนต่าง ๆ และที่สำคัญคือ Resources ที่อยู่บน Internet มีเยอะและดีมากกกกกกกก และอย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่าค่าสอบมันแพงมาก ๆ เลย TT อยากให้ทุกคนทุบหม้อข้าวแล้วตั้งใจเลยว่าจะสอบแค่รอบเดียว แล้วลุยให้เต็มที่เลยค่ะ! เราเชื่อว่าถ้าตั้งใจจริง ๆ แล้ว การเตรียมสอบ IELTS ด้วยตัวเองไม่ใช่เรื่องยากเลยค่ะ 

หวังว่าทุกคนจะได้ประโยชน์จากกระทู้นี้ ใครมีคำถามอะไรสามารถทิ้งไว้ได้เลยนะคะ ขอให้ทุกคนโชคดีกับการสอบค่ะ :)

แสดงความคิดเห็น

>

9 ความคิดเห็น

Je_MadameBonjour 7 ก.พ. 64 เวลา 20:45 น. 1

ขอแชร์เก็บไว้ก่อนนะคะ เดี๋ยวกลับมาอ่าน แค่เห็นTopicก็สนใจแล้ว คุณจขกท ต้องเก่งมากๆแน่ๆเลย

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

เว็บไซต์ Dek-D.com ขอสงวนสิทธิ์ในการงด โพสต์ข้อความซื้อ/ขาย/แลกเปลี่ยน/โฆษณา สินค้าทุกชนิดในเว็บบอร์ด เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนผู้ใช้งานท่านอื่น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

งดการเชื่อมโยงลิงก์ไปยังเว็บไซต์อื่น

Siriratta 6 ก.ค. 64 เวลา 10:38 น. 5

มีประโยชน์มากๆเลยค่ะ ขอบคุณ จขกท สุด ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าเราพื้นฐานแย่มาก ลองอ่านเองล่ะแต่ไม่ได้ผล แหะๆ ก็เลยต้องยอมเสียเงินไปลงเรียนพิเศษ ถ้าถามว่าดีมั้ย เอาจริงๆสำหรับคนพื้นฐานอ่อนมากๆแบบเรา การมีครูคอยช่วยแนะนำและสอนก็จะไปได้เร็วแบบที่ จขกท.บอกเลย คือเร็วกว่การอ่านหนังสือเองเยอะเลย แต่ถ้าใครเตรียมเองได้ก็ลุยเลยจ้า เราไม่ไหว 5555 เรื่องแรกเรื่องการฟัง อันนี้เห็นด้วยเลยเรื่องการดูหนัง แล้วมันดันจำง่ายกว่าการท่องศัพท์ทื่อๆซะอีก การอ่าน เราชอบเป็นแบบที่ จขกท.บอก ชอบคิดมาก คิดซับซ้อนจนตอบผิด 555 พาร์ทการเขียนนี่โดนตรวจแล้วแก้แดงเถือกทั้งหน้า ซึ่งเรารู้สึกดีนะ มันทำให้เราได้เห็นข้อผิดพลาดของตัวเองก่อนที่จะไปลงสนามสอบจริงอ่ะ ส่วนการพูดนี่ไปพัก พูดสั้นๆเหมือนถามคำตอบคำ แต่ตอนนี้คือดีขึ้นมากแล้ว หลักๆถึงจะเรียนพิเศษ แต่ก็ต้องฝึกฝนอย่างหนักเช่นกัน แอบบอกนิดนึงเผื่อใครกำลังหาข้อมูล เราเรียนกับคอร์ส IELTS ครูเอมิ ที่จุฬาติวเตอร์ คอร์สมันจะสอนครบทุกพาร์ท ก็เลยได้เห็นจุดอ่อนของตัวเองเต็มไปหมด ตอนนี้เรารู้สึกว่าทักษะหลายๆอย่างเราดีขึ้นล่ะ เหมือน-อัพเวลตัวเองเลย แล้วยิ่งมาเจอกระทู้ดีๆแบบนี้ก็เหมือนได้ทริคทำข้อสอบไปเพิ่ม ขอบคุณ จขกท.มากๆน้า แล้วก็เอาใจช่วยทุกคนเลยยยยย

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

เว็บไซต์ Dek-D.com ขอสงวนสิทธิ์ในการงด โพสต์ข้อความซื้อ/ขาย/แลกเปลี่ยน/โฆษณา สินค้าทุกชนิดในเว็บบอร์ด เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนผู้ใช้งานท่านอื่น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

เว็บไซต์ Dek-D.com ขอสงวนสิทธิ์ในการงด โพสต์ข้อความซื้อ/ขาย/แลกเปลี่ยน/โฆษณา สินค้าทุกชนิดในเว็บบอร์ด เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนผู้ใช้งานท่านอื่น