คิดยังไงกับการที่ #dek64 ต้องการให้เลื่อนสอบ
ตั้งกระทู้ใหม่
**ปล. ขอความกรุณาไม่ใช้ถ้อยคำที่หยาบคายในการแสดงความคิดเห็นนะคะ
19 ความคิดเห็น
สำหรับพี่เป็นdek63 พี่สงสารเด็กรุ่นนี้นะ เวลาเรียนก็ไม่พอ งานก็เยอะเอาจริงๆเวลาอ่านหนังสือสอบเข้าคงน้อยมาก เพราะยังมีปลายภาคกลางภาค สำหรับเด็กที่ไม่รู้ตัวเองว่าจะเข้าอะไรพี่เเนะนำให้พักก่อนปีนี้ ให้ค้นหาตัวเอง ส่วนเรื่องเลื่อนสอบคงมีผลสำหรับคนที่เตรียมตัวมาเเล้วเเละมีเป้าหมายชัดเจน คงมีผลว่าอ่านไม่ทันบ้างเเต่ถึงยังไงก็คงต้องสู้ต่อไป สำหรับพี่เชื่อว่าถ้ามีเป้าหมายเเล้ว ก็ต้องอ่านไป เขาไม่เลื่อนให้ก็ขอให้สู้เต็มที่ ไม่ได้ซิ่วสัก1ปีก็ยังไม่สาย เลื่อนไม่เลื่อนเราก็ต้องสอบอยู่ดี ถึงเลื่อนก็คงไม่มากขนาดที่จะเตรียมตัวได้ทันขนาดนั้น
เปลี่ยนให้สอบได้ครั้งเดียว โดยให้เรียนครบหลักสูตรปิดเทอม แต่พอมีการเรียนออนไลน์ กวดวิชาเรียนในห้องไม่ได้รูปแบบการสอบไม่มีสอนในหลักสูตร อ่านเองเหนื่อยกว่าจริงๆ เลื่อนเปิดปิดเทอม ขัดแย้งกันกับจุดประสงค์ในตอนแรก ยังไงก็ควรเลื่อนไปหลังทุกโรงเรียนสอบแล้ว
เราเป็นdek64คนนึงที่ไม่อยากให้เลื่อน เพราะเราอยากสอบให้มันจบๆไป ตอนนี้วันๆเราไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากอ่านหนังสือ อ่านหนังสือ แล้วก็อ่านหนังสือ โทรศัพท์แทบไม่ได้จับ โซเชียลไม่ได้เข้า ในหัวคิดแต่ว่าต้องอ่านหนังสือ ต้องสอบให้ติด คิดจนจะเป็นบ้าแล้ว พอยิ่งใกล้วันสอบเราก็ยิ่งดีใจเพราะหลังจากสอบเสร็จเราสัญญากับตัวเองไว้ว่าจะไปเที่ยวให้สมกับที่อยู่บ้านอ่านหนังสือมาหลายเดือน ถ้าโดนเลื่อนสอบออกไปอีก เราว่าเราคงเป็นบ้าตายก่อนได้สอบ
มันแล้วแต่คนนะ คิดว่าถ้าเลื่อนได้ ส่วนใหญ่คงอยากให้เลื่อน เพราะคิดว่าอ่านหนังสือไม่ทัน จริงๆคนส่วนใหญ่ก็อ่านไม่ทันทุกปี ไม่ว่าจะมีโควิดไม่หวิด ส่วนคนที่อ่านทันจริงๆจะเป็นกลุ่มที่ขยันกว่าคนอื่น ซึ่งคนพวกนี้ไม่มีปัญหาอยู่แล้วว่าจะสอบตอนไหน เพียงแต่คะแนนเฉลี่ยรวมมันจะแย่กว่าทุกปีเท่านั้นเอง เรื่องความเหลื่อมล้ำช่วงโควิดไม่มีผลต่อคนที่ขยันจริงจังอยู่แล้ว
มันมองได้หลายแง่
กรณีติดโควิด รร ปิด ตารางเรียนรวน เรียนออนไลน์แน่นอนหมดแพชชั่นแน่ๆไม่ตั้งใจกว่าเดิม(เดา) รวมถึงกวดวิชาบางที่ที่ไม่มีเรียนที่บ้านได้อาจจะลำบาก เพราะต้องปิด
คนที่ไม่ได้มีกำลังทรัพย์มากพอไม่ได้เรียนพิเศษ ไม่ได้มีโทรศัพท์ คอมพิวเตอร์หรืออินเตอร์เน็ตติดบ้าน ก็ลำบากอีก กลุ่มนี้กระทบหนักแน่ๆ
ส่วนคนที่มีกำลังทรัพย์เรียนพิเศษ เรียนที่บ้านได้อันนี้น่าจะได้รับผลกระทบน้อยสุด
เลื่อนก็ดีสำหรับเด็กที่ได้รับผลกระทบเพราะสมัยเราเรียนช่วง ม.6 อาจารย์สั่งงานแบบโหแทบจะไม่ให้เด็กอ่านหนังสือเลยรึไง ยิ่งหน่วยกิตน้อยๆ สั่งงานหนักคือออออะไร ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีอาจารย์ก็ยังทำแบบนี้กับเด็กเนอะ
มองในแง่ของคนที่ไม่ได้รับผลกระทบหรือได้รับน้อย อาจจะมองว่าเนี่ยเตรียมตัวมานาน อ่านจนเหนื่อย อยากสอบไวๆจะได้จบ จะได้พักไปเที่ยว ดูซีรีย์เล่นเกม อันนี้ก็อีกแง่
เอาจริงเราว่าสาเหตุเลยคือผลกระทบจากการเรียนออนไลน์ที่ไม่พร้อมช่วงโควิดนี่แหละ ต้องยอมรับว่าทุกคนไม่ได้มีอุปกรณ์พร้อม จริงๆถ้ามองจากสาเหตุมันก็พอเพียงที่จะให้พิจารณาเลื่อนนะ เพราะมันมีผลกระทบจริงๆ เข้าใจว่าอีกส่วนนึงก็อยากสอบให้มันจบๆไป แต่บางที ถ้าต้นตอของปัญหามันมาจากความเหลื่อมล้ำ บางทีมันก็ไม่ใช่ความผิดของคนที่โดนผลกระทบเหมือนกัน
เราเห็นด้วยกับการเลื่อนสอบเพราะเราว่ามีเด็กได้รับผลกระทบแล้วไม่พร้อมสอบอยู่มาก บางคนอาจจะไม่ได้เรียนพิเศษต้องรอเรียนเนื้อหาจากรร.เรียนออนไลน์ก้ไม่รู้เรื่องเท่าเรียนในห้อง การบ้านเยอะเวลาอ่านหนังสือน้อย เราว่าควรจะให้เวลาพวกเค้าเตรียมตัวอีกจะได้ไม่เหลื่อมล้ำมากเกินไป เพราะสำหรับเราเด็กที่เตรียมตัวมานานหรือเรียนพิเศษมาตลอดก้อาจจะไม่ได้มีปัญหาเท่าไหร่หรอกว่าจะเลื่อนหรือไม่เลื่อน ใจนึงเราก้อยากสอบเสร็จเร็วๆเหมือนกัน เบื่อจะอ่านหนังสือหนักๆแล้ว แต่ในเมื่อมีคนได้รับผลกระทบเยอะขนาดนั้นเราว่าก็ควรจะเลื่อนอะ
เป็นอีก1เสียงที่อยากให้เลื่อนนะคะ แต่ก็เข้าใจคนที่อ่านมานาน และเตรียมพร้อมที่จะสอบแล้ว ว่าถ้ายืดออกไปอีกคงทำให้เขาเครียด แต่ว่านี่ก็คิดว่าควรเลื่อนอยู่ดีค่ะ เพราะ
1.กรณีที่เตรียมมาพร้อมแล้ว แต่ถ้าได้เลื่อน เราว่าคุณก็จะได้มีเวลาเก็บ เวลาปิดจุดที่อาจจะพลาดบ้างนะคะ คือจากที่คุณได้99 คุณอาจจะได้100เลยก็ได้ เราว่ามันก็มีข้อดีนะคะ
2.โควิดก็ยังระบาดอะค่ะ ถึงจำนวนคนติดเชื้อจะน้อยลงแล้ว แต่เราว่าการที่ไปสอบในที่ๆนึงโดยมีนักเรียนที่ไปสอบเป็นพันๆคนมันก็เสี่ยงอยู่ดีค่ะ
3.เรียนออนไลน์ไม่มีประสิทธิภาพมากพอค่ะ ประเทศเราความเหลื่อมล้ำเยอะมากๆ เพื่อนเราหลายคนที่บ้านเขาไม่มีคอมพิวเตอร์ ต้องเรียนออนไลน์ในโทรศัพท์ ใช้เรียนทั้งวัน มันลำบากนะคะ กับการมองจอเล็กๆแบบนั้น
4.เรียนออนไลน์การบ้านเยอะมากค่ะ ไม่ใช่แค่โรงเรียนเรา คือน้องเราที่อยู่คนละโรงเรียนก็เป็นที่ครูสั่งงานวันเสาร์งี้อะค่ะ แล้วปกติในวันเสาร์เราต้องมานั่งส่งงานเพิ่มด้วยหรอคะ ถ้าในสภาวะปกติ นี่แหละค่ะ ถึงแม้จะเรียนออนไลน์แต่ภาระงานเยอะจนไม่มีเวลาอ่านหนังสือเพิ่มเลยค่ะ (แต่เรื่องได้อ่านน้อยคงยกมาอ้างไม่ได้ใช่มั้ยคะ เพราะท่านหลายๆท่านก็คิดว่าทำไมไม่เตรียมตัวมาก่อนหน้านี้ แต่ก็โทษนะคะ บางคนพึ่งจะรู้ว่าตัวเองอยากเข้าอะไร เอาตอนม.6แล้ว ก็ระบบการศึกษาไทยนั่นแหละค่ะ
สุดท้ายก็คืออยากให้เลื่อนนะคะ เพราะกลัวโรคค่ะ แต่ดูจากทรงคงไม่เลื่อน100เปอแน่ๆแล้ว แต่ก็จะสู้ค่ะ จะติดมหาลัยที่หวังให้ได้
ส่วนตัวเป็นDek64 ไม่อยากให้เลื่อนสอบยิ่งเลื่อนยิ่งยืดเยื้อแล้วยิ่งกดดันยิ่งเครียดไม่จบไม่สิ้น ก็อย่างที่ผู้ใหญ่พูดว่าเขามีประกาศที่ตายตัวและก็ใช้ระบบนี้มานานแล้วให้เตรียมตัวนานแล้วดังนั้นคงโทษการสอบพวกนี้ไม่ได้ แต่ที่ไม่น่าพอใจและอยากให้เปลี่ยนอย่างยิ่งและเป็นปัญหาของเด็กที่อยากให้เลื่อนก็เพราะว่า 1.โรงเรียนยังสั่งงานตามปกติไม่มีเวลาให้เด็กอ่านหนังสือไม่มีเวลาให้เด็กค้นหาตัวเอง(แล้วสั่งงานเยอะด้วย) 2.การศึกษาที่ยังบังคับให้เด็กต้องมาครบตามเวลาเรียนทั้งๆที่ควรเข้าใจเด็กว่าเด็กควรอ่านหนังสือแต่ยังให้มาทุกวันสั่งงานทุกวัน บางคนอาจสงสัยกลับบ้านก็อ่านได้หนิ ตอบเลยว่าใช่อ่านได้ แต่จะมีสักกี่คนที่ถึกขนาดที่เรียนมา8ชั่วโมงที่โรงเรียนแล้วยังต้องกลับมาอ่านหนังสือนั่งปั่นงานต่อ สุดยอดมนุษย์จริงๆเด็กไทย เหตุหลักๆอื่นยังมีหลายข้อ แต่แค่นี้ก็ทำให้เห็นชัดแล้วว่า เด็กบางคนไม่ได้พร้อมครอบครัวไม่ได้support เด็กต้องหาเวลาเองเด็กต้องค้นหาตัวเอง แต่เมื่อโรงเรียนไม่มีเวลาให้เด็กไปค้นหาแบบนี้แล้ว เด็กจะรู้หรอว่าตัวเองนั้นเรียนเพื่ออะไร เข้ามหาลัยดังๆเพื่อสงบปากคนข้างบ้าน เข้าเรียนตามเพื่อน หรือ จำเป็นต้องเรียนเพราะกลัวไม่มีงาน กันแน่ แล้วไหนละสิ่งที่เด็กชอบ แล้วไหนละเวลาการเตรียมพร้อมสำหรับสอบ GATเชื่อมโยงก็ไม่มีสอนในหลักสูตรต้องหาหนังสืออ่านเอง GAT eng วัดระดับภาษาต่อยอดมหาลัย ทั้งๆที่โรงเรียนยังใช้ศัพท์แค่เด็กม.ต้นอยู่เลยด้วยซ้ำ มันคือความเหลื่อมล้ำ การศึกษาไทยมันล้มเหลว การสอบไม่ผิด เลื่อนสอบก็ไม่ผิด แต่ผิดที่การศึกษาและระบบของโรงเรียน ที่ไม่เข้าใจเด็กเลยสักนิด
เราเป็นเด็กซิ่วนะ ของเราแล้วเเต่คนส่วนใหญ่เลยว่าจะอยากเลื่อนมั้ย คอยช่วยผลักดันให้กับคนที่อยากเลื่อนตลอด แต่ในใจไม่ค่อยอยากเลื่อนเท่าไร เพราะเครียดจะตายเเล้ว แต่เราก็สงสารคนที่ไม่มีเวลาเท่าเรา เพราะเรามีเวลาอ่านเยอะกว่าเด็ก64แน่นอน แต่เราก็จะพยายามช่วยเท่าที่เราทำได้ เพราะการเลื่อนแค่นี้มันไม่หนักเกินไปเท่ากับสิ่งที่รุ่นน้องต้องเจออะ
เราอยากรู้เหมือนกันว่ามีdek64คนไหนบ้างที่เจอการสอนแบบไม่มีคุณภาพ การจัดการห่วยแตกของโรงเรียน การไม่มีเงินเรียนพิเศษเลย แล้วมั่นใจกับสอบในครั้งนี้ ?
ผมเป็นเด็ก 64 นะครับ
ส่วนตัวผมไม่อยากให้มีการเลื่อนสอบนะครับ เพราะมันยืดมามากแล้วยิ่งยืดกว่านี้คือจะเครียดตายแล้ว
ประเด็นต่อมาคือทุกการกระทำมีรายได้ที่ต้องจ่าย ลองนึกในมุมของผู้จัดสอบการที่ต้องเลื่อนออกไปอีกก็ต้องไปดิลกับสนามสอบต่่างๆใหม่ แก้หัวกระดาษคำถามที่มีวันที่ แก้ที่พิมพ์เลยที่นั่งสอบ แก้ใบฝนกระดาษคำตอบที่มีเลขวันติด ต้องไปดิลกับสถานที่ตรวจกระดาษคำตอบใหม่ ดิลโรงพิมพ์ใหม่ ประชุมกับมหาลัยต่างไปในเครือ ไหนจะการขาดทุนของมหาลัยต่างๆที่ไม่มีเงินบริหาร
เพราะเด็กเข้าศึกษาช้ากว่ากำหนด มหาลัยต่างๆก็จะแตกออกไปตั้งข้อสอบโควต้าตัวเองอีกหากเกิด กระทบระบบเศรษฐกิจทั้งบุคคลากรที่ทำงานในมหาลัยอีีกเพราะต้องมาวางแผนกันใหม่ ประชุมกันหัววุ่น
ทุกอย่างมันก็มีข้อกำหนดของมันนะ สำหรับผม อีกอย่างทางนั้นเค้าก็แจงมาตรการต่างๆป้องกัน เราก็ต้องป้องกันตัวเองดีๆด้วย
สุดท้ายมันก็ขึ้นอยู่กับมุมมองใครอ่าครับ
พี่เป็นเด็กแอด 52 และอยากให้เลื่อนสอบ
แค่ลำพังเวลาเรียนกับเวลาอ่านหนังสือเตรียมตัวสอบก็ไม่พอล่ะ
เอาจริงๆ เฉยๆ อะคือเราเป็นคนที่ลงเรียนพิเศษได้ทุกอัน ทันด้วย แต่ก็กระทบตอนโควิดที่ไม่ได้ไปติวไรอะ แต่แบบก็คิดเหมือนกัน บางคนรับผลกระทบเต็มๆ จากการเรียนออนไลน์ คือเราเรียนรรประจำอะ รู้เลยบางคนเค้าก็ต้องอ่านเอง แถมข่วงออนไลน์ รรสั่งงานเยอะมาก มันไม่ได้มีเวลาอ่านกันทุกคน ถึงแม้ จะเลื่อนไปแค่อาทิดสองอาทิดอะ แต่มันก็ช่วยเขาได้อ่านเพิ่มจริงๆ แต่บางคนที่ไม่อยากให้เลื่อน เพราะเค้าก็เครียดจากการเตรียมตัวมานาน จองโรงแรมไปแล้วบ้างอะไรงี้ก็มี หากเลื่อนจริงก็เป็นไปได้ที่เค้าจะไม่ชดเชยเงินให้อะ ตรงนี้มันก็น่าคิดอยู่
ส่วนตัวเราเป็น dek 65 อยากให้เลื่อนสอบค่ะ โรงเรียนทีเราอยู่พี่ 64 บางคนก็อ่านตั้งแต่ม.4 ม.5 บางคนเพิ่งรู้ว่าตัวเองอยากเข้าไรตอนม.6ด้วยซ้ำ แล้วก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีเงินเรียนพิเศษ บางคนก็ต้องอ่านเอง แต่เด็ก ม.6 โรงเรียนที่เราเรียนอยู่ก็มีให้จัดงานใหญ่ แทนที่จะปล่อยให้เด็ก ม.6 ไปอ่านหนังสือกันด้วยซ้ำอะ แล้วไหนจะต้องอ่านสอบปลายภาคอีก ถ้าสอบไม่ผ่านหรือติด ร ก็ไม่ได้เรียนจบม.6 ก็เครียดเหมือนเดิมอยู่ดีนั่นแหละ แถมยังต้องมานั่งแก้ ไม่ใช่ทุกโรงเรียนที่จะปล่อยเกรดให้เด็ก ม.6 บางโรงเรียนก็กดเกรดเด็กให้เด็กๆ ทำงานเยอะ จะได้ดูว่าโรงเรียนเรามันจบยาก ถ้าพวกเธอโดดเรียนก็ต้องได้งานเยอะๆ แบบนี้แหละ บางคนเรียนออนไลน์ที่ผ่านก็มีเข้าเรียนครบก็จริง แต่พอต้องส่งงานอาจารย์มีกำหนดเวลา ถ้าเน้ตช้าส่งไม่ทันแค่ 1 นาที ก็โดนหักงานละ 0.5-2 คะแนนด้วยซ้ำ พอคะแนนไม่ถึงเกณฑ์ที่เค้าจะให้ผ่าน ก็ไปทำงานโปรเจคใหญ่มาซ่อมซะ บางคนทำงานถึงตีสามตีสี่ ก็อย่างที่บอกค่ะ และส่วนคนบางคนที่เราบอกว่าเค้าก็เตรียมตัวอ่านตั้งแต่ม.4 ม.5 แต่ที่ต้องการเลื่อนสอบ เค้าอาจต้องการเลื่อนเพราะว่าเหมือนโรงเรียนเราอะ มีงานโรงเรียนที่บังคับให้ไปห้ามขาดไม่งั้นจะไม่ผ่าน กับสอบปลายภาคติดๆ กัน เค้าอาจมีเวลาพักก่อนไปสอบสักนิดนึงก็ยังดี แต่ไม่ได้จะขอเวลาไปอ่านเพิ่มทุกคน บางคนก็มีที่เค้าอ่านเพิ่มให้ตัวเองชัวร์ๆ แต่ทำไมต้องคิดว่าเค้าไม่ได้เตรียมตัวอ่านกันมาเลยทุกคน ทุกคนไม่ได้เป็นเหมือนกัน พยายามอย่าคิดเองเออเอง ด้วยบรรทัดฐานของตัวเอง ทุกคนมีต้นทุนที่ไม่เหมือนกันจริงมั้ยคะ แล้วบางโรงเรียนก็ปิดเทอมตั้งแต่เดือนกุมภาแล้ว แต่บางโรงเรียนอย่างโรงเรียนเราก็ไม่รู้จะยืดเยื้อรั้งพี่ม.6เค้าเอาไว้ทำไม แทนที่จะปล่อยๆ ให้พี่เค้าไปอ่านหนังสือกันได้แล้ว มาทำบอกชดเชยเรียนออนไลน์เลย ให้กลับบ้านตอนเดือนมีนาคม แต่ไม่คิดถึงเค้าเลยว่าเค้าเครียดกันเหมือนกันนะ แล้วมันใช่เวลามารั้งมั้ย แล้วอีกอย่างโควิดมันก็ระบาดในบางจังหวัดอยู่ด้วยอะ จะให้เอาชีวิตไปเสี่ยงเพื่อแลกมหาลัย มันคุ้มเหรอสำหรับบางคนอะ แล้วถ้าติดขึ้นมา เท่ากับพลาดทุกสนามเลยนะ แต่ในทางกลับกันเราก็เห็นใจนะ บางคนคือเค้าอะก็ไม่อยากเลื่อนสอบ เพราะเค้าไม่อยากเครียดแล้ว อยากสอบให้เสร็จๆ อีกทั้งอย่างที่เราบอกทุกคนเค้าก็มีต้นทุนที่ไม่เท่ากัน บางคนจองเงินโรงแรมไปแล้ว เพราะเค้าไม่ได้สอบในจังหวัดเดียวกับตัวเองอยู่ก็ต้องจองโรงแรม แล้วถ้าเลื่อนสอบจริงๆ สทศก็อาจจะไม่ได้ชดเชยตรงก้อนนั้นให้เขา เขาก็อาจจะไม่มีเงินที่จะต้องไปจองโรงแรมต่อด้วยอะ แล้วก็เรื่องค่าใช้จ่ายมหาลัยด้วย มหาลัยบางมหาลัยไม่ได้มีเงินซับพอร์ตในตรงนี้อะ ก็น่าเห็นใจอยู่
ในฐานะเด็กซิ่วคนนึงนะ เราอะอยู่เภสัชปี1ที่ม.รัฐชื่อดังแห่งนึง เราอะไม่อยากให้เลื่อนเพราะจากกฎของกสพท. เด็กซิ่วที่มาจากคณะภายในกสพท.อะถ้สจะเข้าคณะเดิมเช่นเภสัช ไป เภสัชอย่างงี้ี้อะ ต้องลาออกก่อนวันที่3 พฤษภาคมซึ่งมันคือหลังรู้คะแนนทั้งหมดแล้ว แต่ถ้าเลื่อนอะมันจะทำให้พวกเราเด็กซิ่วจากกสพท.ไปกสพท. ลาออกไม่ทัน มันเหมือนเรายังไม่รู้คะแนนเลยนะก็ต้องลาออกแล้ว หลายคนอาจจะตั้งแง่กับเราละว่าติดเภสัชจะเลือกเภสัชอีกทำไม เหตุผลก็คือเราอะอยากเข้าม.ที่เราชอบไง บางครั้งการที่เราบอกม.ไหนก้ได้เหมือนกันหมดมันไม่จริงนะ มันขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์แต่ละคนด้วย dekซิ่วที่อยากเข้าแพทย์
อีกอันคือถ้าเลื่อนหลังวันที่18พฤษภาคมงี้ี้อะ เราสอบปลายภาคมหาลัยเสร็จก่อน เท่ากับเราจบปี1 แล้ว ซึ่งกฎกสพท.อะห้ามเด็ดปี2สมัคร งั้นก็คือเราโดนตัดสิทธิ์อีก กลายคนอาตจะคิดว่าดรอปก็ได้นิ ซึ่งไม่จริงนะทุกคน เริปอะต่อให้คุณดอรป1ปีแล้วกลับมาเรียนปี1 พร้อมรุ่รน้องเขาก็นับว่าคุณปี2เพ ราะกสพท. บอกว่าคูรห้ามมีสิทธิ์เลือกวิชาปี2ซึ่งเด็กที่ดรอป1ปีอะมันลงวิชาปี2ได้นะ ทำให้โดนตัดสิทธิ์ อยู่ดี ถ้าตะเลื่อนจริงๆเลื่อนการลาออกกับกฎห้ามอยู่ชั้นปี2ไปด้วย1เดือน ไม่งั้นพวกเราลาออกไม่ทัน (มุมเด็กซิ่วที่น้อยคนจะนึกถึง)
ความรู้ใหม่เลย ขอบคุณมากนะคะ
ใจจริงไม่อยากให้เลื่อนเลย แต่ก็เห็นใจคนที่ได้รับผลกระทบนะ ขอเล่าประสบการณ์ของคนเป็นแม่ที่มองเห็นความลำบากที่ลูก ๆ ได้รับในปี 2564 นะ คนแรกเรียนแพทย์ชนบทมหาวิทยาลัยภาคอีสานปี 2 เทอมสุดท้ายแล้วเจอกับโควิดระบาดช่วงปีใหม่(เอาแค่ปีนี้เลยนะ ไม่นับช่วงปี 2563) ต้องเรียนออนไลน์ไป 3 รายวิชา(เรียนแบบบล็อค) คะแนนรายวิชาก่อนหน้านี้ออกมาดีนะเธอพอใจอย่างมาก พอได้มาเรียนออนไลน์อยู่บ้าน วิชาแรกก็ยังพอไหว มี case study POL (อะไรบ้างก็ไม่รู้นะ เป็นพวกวินิจฉัยโรคอะไรแบบนั้น) ก็ยังค้นคว้าข้อมูล แชร์ข้อมูลและดีสคัตกันได้อยู่ ยังพอโอเค หยวน ๆ คะแนนเป็นที่พอใจเช่นเดิม แต่พอวิชาที่สอง ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น เหมือนอาจารย์สอนไม่ทันเพราะเรื่องการเตรียมสอนแบบออนไลน์กระทันหัน รวมถึงอาจารย์แพทย์เนอะ ไม่ได้มีหน้าที่สอนอย่างเดียวนิ เค้ามีหน้าที่ในการรักษาคนป่วยด้วยจะให้มาเตรียมสอนแบบออนไลน์ workload คงจะเพี้ยนไป ก็เริ่มมีเลื่อนสอน ให้เป็นคลิปมาดูบ้าง อะไรบ้าง เริ่มเกิดปัญหาล่ะ เวลาสอนก็สอนเร็วมากเพราะมันกระโดด ๆ จากผลของการเลื่อนสอนแล้วให้คลิปมาดู มันก็ปะติดปะต่อเนื้อหาด้วยตัว นศ เองได้ยากหน่อย(ก้อเด็กอ่ะนะ ยังไม่ 20 ปีเลย ต่อให้มีความพยายามมากกว่าเด็กทั่วไป แต่ก็ยังไม่มากพอหรอก) ไม่ต้องถามถึงเรื่องคะแนนเลย เพราะหล่อนจะหงุดหงิดมาก มีอารมณ์ให้เห็นเสมอ และนี่ใครว่าการเรียนออนไลน์ไม่มีผลกระทบ ยืนยันว่า "มี" แน่นอน!!! ส่วนรายวิชาที่ 3 ลงพวกอนาโตมี อาจารย์นำคลิปผ่าอาจารย์ใหญ่มาให้ดู ภาพจากกล้องที่ชัดบ้างไม่ชัดบ้าง โฟกัสบ้างไม่โฟกัสบ้าง เสียงพูดที่เข้าไมค์บ้างไม่เข้าบ้าง 555555 สรุปง่าย ๆ หายนะเริ่มมา ไม่ต้องบรรยายเลยว่าอารมณ์ผู้เรียนเป็นยังงัย ทั้งท้อถอย ทั้งอ่อนล้า เหมือนโดนลอยแพรให้อ่านเอง ศึกษาเอง ดูภาพจากกล้องวีดิโอที่ชัดบ้างไม่ชัดบ้าง มันไม่ช่วยนะคะ ภาพปฏิบัติที่ทำผ่านหน้าจอ ไม่อาจเรียกได้ว่าภาคปฏิบัตินะ แต่โชคดีที่สถานการณ์คลี่คลายช่วงนี้พอดี พอได้รับอนุญาตให้กลับมหาวิทยาลัยได้ สถานการณ์ทางด้านอารมณ์ของลูกก็ดีขึ้น หงุดหงิดน้อยลง เครียดน้อยลง อย่างเห็นได้ชัดเจน ส่วนคนที่ 2 ม.6 ปีนี้ เตรียมสอบ คนนี้ปัญหาจะน้อยกว่าคนแรก เพราะการเรียนออนไลน์ไม่ได้แตกต่างจากการเรีียนในห้องเรียนสักเท่าไหร่ และที่สำคัญโรงเรียนคนนี้เทอม 6 แทบไม่มีการเรียนการสอนแล้วค่ะ ทางโรงเรียนพยายามนำเนื้อหาส่วนที่สำคัญใส่ไว้ใน 5 เทอมแรกทั้งหมด แล้วเทอม 6 คือเทอมเก็บตกบางรายวิชาเท่านั้น และเน้นการทบทวนเนื้อหาเตรียมตัวสอบ และทำข้อสอบเก่าสนามทุกสนาม ซึ่งก็เลยไม่เครียดหนักนัก(แต่ก็เครียดนะ) สำหรับคนนี้จะเกี่ยวกับประเด็นการเลื่อนสอบของ Dek64 เต็ม ๆ แต่อยู่ในฝั่งที่ไม่อยากให้เลื่อนเพราะเครียดมากแล้ว เหมือนคนที่ได้รับแรงกดดันมาเป็นเวลานานและกำลังจะระเบิด เหมือนคนที่ทนไม่ไหวถ้าต้องปล่อยให้ปัญหานี้ยังอยู่ในชีวิตในระยะเวลาที่ยาวนานไปกว่านี้ ถามว่าพร้อมสอบหรือเปล่า แกไม่มีวันพร้อมสอบหรอกค่ะ เพราะไม่เคยทำข้อสอบได้ทันเวลา หรือทำได้ทั้งหมด หรือมั่นใจเต็ม 100 แต่แกก็รับมากไปกว่านี้ไม่ไหวแล้วเช่นกัน แกก็เลยอยากสอบให้จบ ๆ กันไปสักที เพื่อปลดปล่อยพันธนาการที่มองไม่เห็นแต่เป็นบ่วงรัดใจที่แน่มากกกก แต่ถ้ามีการเลื่อนสอบก็ไม่มีปัญหา ก็ยังพร้อมตะลุยอ่านต่อ ทำข้อสอบเพิ่มเติม หรืออ่านเพิ่มเติมอีกก็ได้ ครอบครัวเราคิดว่า เราสามารถรับมือกับปัญหาทางด้านจิตใจกันได้ดีพอสมควร สรุป : 1) การเรียนการสอนออนไลน์ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีเสมอไปนะ และควรเป็นทางเลือกที่ไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว ที่สำคัญที่สุด ต้องใช้เวลาให้น้อยที่สุดจึงจะดีค่ะ คนเป็นสัตว์สังคมการเรียนรู้ที่ดีที่สุด ต้องตาเห็น ลงมือทำ ปากท่องจำและพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น สอบถาม จ้องตาโต้ตอบค่ะ ซึ่ง คอมพิวเตอร์มันให้สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ค่ะ 2) การเรียนออนไลน์ มีข้อดีในกรณีที่ใช้เพื่อทบทวนความทรงจำเท่านั้น และมันโอเคสำหรับคนที่ไม่ค่อยคิดอะไร ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร ฟังได้เรื่อย ๆ แบบไม่ต้องให้ความสำคัญกับสิ่งที่ฟัง แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ฟังเพราะต้องการผลบางอย่างด้วยการตั้งใจฟังและมีความจำเป็นที่ต้องนำสิ่งที่ฟังนั้นไปใช้ประโยชน์ในอนาคต คุณจะรู้ว่ามันไม่ใช่ทางเลือกที่ดีเลยและมันไม่ควรเป็นหนึ่งการเรียนการสอนแบบ new normal จริง ๆ นะ มันห่วยมาก 3) สำหรับ Dek64 ที่ประสบปัญหากรณีที่ต้องเรียนออนไลน์ในเทอม 6 แล้วโรงเรียนไม่ได้มีแผนการเรียนการสอนแบบยัดเนื้อหาที่สำคัญและจำเป็นให้เด็ก ๆ ทั้งหมดภายใน 5 เทอม เพื่อให้เทอม 6 เป็นเทอมเก็บตก เตรียมสอบ จัดการปัญหาต่าง ๆ ที่ค้างคากับทางโรงเรียนแล้วหล่ะก้อ...คุณกำลังเผชิญกับหายนะ...แม่เข้าใจค่ะที่หนู ๆ อยากเลื่อนสอบ และขอเป็นกำลังใจให้ได้เลื่อนสอบนะคะ เอาใจช่วยจริง ๆ 4) สำหรับ Dek64 ที่เตรียมตัวมานาน รู้สึกล้าเกินกำลังแล้ว และอยากให้สอบตามกำหนดให้จบ ๆ ไปสักที อันนี้ก็เข้าใจเช่นกันเพราะเห็นจากคนใกล้ตัว กลุ่มนี้ใช่ว่าเขาพร้อมสอบ พวกเขาไม่มีวันพร้อมสอบ พวกเขาไม่มีทางอ่านหนังสือทัน พวกเขาไม่ได้เตรียมตัวเต็มที่ 100% แต่เขาไม่สามารถรับมือและจัดการกับความเครียดได้ในระยะเวลาที่นานกว่านี้ได้ต่างหาก(ลูกเราเค้าเป็นแบบนั้น) แต่เชื่อเถอะ ต่อให้คุณเลื่อนสอบออกไป กลุ่มนี้มันก็อ่านต่อ ทำข้อสอบต่อเหมือนเดิมแหละ เขาทนไม่ได้ที่จะปล่อยเวลาทิ้งไปปล่าว ๆ แน่นอน ดังนั้น ก็ยังสนับสนุนให้เลื่อนสอบนะ จากคนเป็นแม่ที่สนับสนุนการเรียนของลูก ๆ เต็มที่ทุกทาง เพราะการที่เราพร้อมทั้งคอมพิวเตอร์ Ipad โทรศัพท์มือถือ เน็ตความเร็วสูงไม่มีสะดุด(แต่ก็มีนะที่เน็ตขัดข้อง 5 นาที 10 นาที) บ้านอยู่ในเมือง(ต่างจังหวัดไกล ๆ) เดินทางสะดวก สภาพเด็ก ๆ ในบ้านยังมีปัญหาให้คอยปลอบกัน คอยให้กำลังใจกัน แล้วสำหรับคนที่ไม่พร้อมต่อการเรียนออนไลน์ ไม่พร้อมทางทุนทรัพย์ในการเรียนพิเศษ ไม่พร้อมที่จะพริ้นต์ข้อสอบเก่าย้อนหลังหลาย ๆ ปี ทุก ๆ สนามออกมาทำหล่ะ ไม่พร้อมในทุนทรัพย์เพื่อซื้อหนังสืออ่านหรือลงเรียนพิเศษหล่ะ กลุ่มนี้น่าจะเยอะมาก ๆ และน่าเห็นใจเป็นที่สุด กลุ่มนี้ไม่ใช่ "ปัญหา" เขาไม่ได้อยากเป็นปัญหา แต่เขามีปัญหาและต้องการ "ความช่วยเหลือ" และคนที่จะสามารถช่วยเหลือเยียวยาพวกเขาได้คือ สทศ ทปอ พวกคุณจะช่วยเหลือพวกเขา หรือจะผลักเขาออกไปแล้วชี้หน้าว่า "พวกคุณคือตัวปัญหา" อันนี้ก็ต้องดูกันต่อไป
เราเป็นเด็ก dek63ที่กำลังซิ่วไปเป็นdek65 ฉะนั้นปีนี้ไม่มีผลกับเราแน่นอน แต่เรามีความรู้สึกส่วนตัวท่่ว่าไม่อยากให้เลื่อนนะ ส่วนตัััวเราเห็นใจคนที่เรียนไม่ครบตามหลักสูตรหรือถูกอัดเนื้อหาบทเรียนมากจนเกินไป แต่เราคิดว่าในระยะเวลาที่เค้าเลื่อนเปิดเทอมเนื้อห้าม.4-5มันสามารถทบทวนได้เยอะมากๆในช่วงเวลานี้ แถมคนที่เค้าเตรียมตัวมาอย่างดีเค้าอาจจะเสียเปรียบคนที่ไม่เตรียมตัวมาในก่อนหน้านี้ มันอาจจะดูใจร้ายนะ แต่เราเชื่อว่าโอกาสเป็นของคนที่พร้อมเสมอ เพราะเราคิดแบบนี้เลยยอมรับการซิ่วของตัวเองได้โดยไม่มีข้อกังขาอะไรเลย เราเห็นใจคนที่เค้าเตรียมตัวมาจริงๆ
เราอ่ะเป็น Dek 64 คนนึงนะ ยอมรับว่าใจนึงก็อยากให้เลื่อนสอบแต่อีกใจนึงก็ไม่อยากเลื่อน เรามีทั้งสองความรู้สึกเลย อย่างแรกถ้าเลื่อนยังไงก็น่าจะมีผลดีต่อเด็กที่อ่านหนังสือไม่ทันเพราะจะได้มีเวลาเตรียมตัวมากขึ้น อย่างโรงเรียนเรา ม.6 สั่งงานเยอะกว่าเดิมอีกเพราะครูสอนไม่ทัน งานโรงเรียนก็มี การบ้านก็เยอะ เรียนออนไลน์ไม่ต้องพูดถึง ห่วยแตกมาก แต่อีกใจเราก็ไม่อยากให้เลื่อนเพราะมันก็มีหลายคนที่เขาอยากให้มันสอบเสร็จแล้วจบๆไป เพราะมันเหนื่อยมากกกก เครียดด้วย เลยอยากให้มันจบๆไป เราก็เป็นหนึ่งในนั้น อยากจะหยุดสักทีแต่ถ้าเลื่อน บอกเลยว่าเป็นบ้าแน่ๆ ต่อให้จะบอกว่าเตรียมพร้อมแค่ไหนแต่สุดท้ายมันก็ยังไม่ 100% อ่ะเราว่า สุดท้ายแล้วเราว่าคงจะเลื่อนได้ยาก เพราะหน่วงงานเขาบอกว่าประกาศนานแล้ว แถมใกล้สอบมากแล้ว ถ้าขอเลื่อนตั้งแต่เดือนก่อนอาจจะยังมีโอกาศนะเราว่า แต่คอนนี้มันใกล้สอบมากแล้ว แงงง
เราก็อยากให้มีการเลื่อนสอบค่ะ เพราะจะได้มีเวลาในการอ่านหนังสือมากขึ้น เพื่อนบางคนของเราไม่อยากเลื่อนเพื่อจะได้สอบแล้วจบๆไป แต่ส่วนตัวเรารู้สึกว่าถ้ามีเวลาเรียนและเตรียมตัวสอบ ประสิทธิภาพในการเรียนจะเพิ่มขึ้นค่ะ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?