Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

How to สอบเข้า TU, MWIT, KVIS รุ่นพิเศษใส่ไข่

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

สวัสดีครับน้อง ๆ ทุกคน พี่เชื่อว่าน้อง ๆ ทุกคนเคยอ่านวิธีการเตรียมตัวสอบเข้า ม.4  ตระกูล TU, MWIT  และ  KVIS  มาแล้วแต่ว่ารีวิวเหล่านั้นมันเขียนขึ้นในรุ่นที่เหตุการณ์ของโลกเป็นปกติหรือพูดง่าย  ๆ ก็คือ  COVID-19  ยังไม่ระบาดหนักเท่าปัจจุบันนะสิ ฉะนั้นวันนี้พี่รุ่นที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 มากที่สุดจะมารีวิวการสอบเข้า  TU, MWIT  และ  KVIS  ในยุคสมัยของ  COVID-19  นี้


ก่อนสิ่งอื่นใดพี่คงต้องแนะนำตัวก่อน ชื่อเล่นพี่คือปลาทองนะครับ ติดตัวจริง  TU84 ลำดับที่ 1x,  MWIT31 และ  KVIS7   อยู่ สอวน.คอม  ศูนย์สามเสนฯ นะครับและ ม.ต้น เรียน  SS68  ปัจจุบัน  MWIT31  นะครับ

พี่ได้เขียนบทความเรื่อง "รีวิวข้อสอบ TU, MWIT, KVIS รุ่นพิเศษใส่ไข่" หากน้อง ๆ อยากรู้ว่าข้อสอบในปีของ COVID-19 นี้มีข้อสอบแบบไหนประกอบกับบทวิเคราะห์ของข้อสอบ    แนะนำให้ไปอ่านตามลิ้งก์นี้เลย : https://www.dek-d.com/board/view/4011458

 

Skill ทั้ง  3   laugh

เคยสงสัยมั้ยว่าทำไมบางคนเรียน ๆ เล่น ๆ ก็ได้รางวัลมากมาย ในขณะที่อีกคนเรียนพิเศษทั้งวันทั้งคืน งานส่งครบได้เกรด  4  ก็จริง แต่แข่งขันอะไรไม่ได้ซักรางวัล คำตอบคงเป็น   “skill  ความสมดุล”  ซึ่งหลายคนมักคิดว่าเราควรเรียนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่ใช่เราต้องรู้จุดสมดุลของเรา จุดสมดุลก็คือสภาวะที่เราสามารถรับเนื้อหาจากคุณครูได้มีประสิทธิภาพที่สุด เช่นบางคนเรียน  2  ชั่วโมงก็คือรับความรู้ไม่ได้อีกแล้ว เราก็ควรจะเรียนได้เท่านั้น การนั่งอ่านหนังสือเพิ่มแต่สมองรับไ่ม่ไหว สุดท้าย ที่อ่านไปก็ไม่เข้าหัวอยู่ดี สรุปคือเราต้องหาจุดสมดุลของตัวเองให้เจอและใช้ประโยชน์ตรงนี้สร้างความสำเร็จให้ตัวเอง

ทีนี้ถ้าทำได้ข้างต้น เราก็มีโอกาสติด  TU  อยู่บ้างแล้ว แต่ว่า  MWIT, KVIS  หล่ะ ต้องบอกก่อนว่าแนวคิดของค่าย  TU  กับ MWIT และ KVIS จะไม่เหมือนกัน เนื่องจากจำนวนคนสอบเยอะ ค่าย  TU  จึงใช้วิธี  “มือใครยาวสาวได้สาวเอา”   เราสามารถสมัครเข้าเตรียมได้หลายกระดาน ใช้การสอบแบบรู้หรือไม่รู้ ตอบได้สอบติด ตอบไม่ได้ก็สอบไม่ติด ใครรู้เยอะก็สอบได้ ในขณะที่  MWIT และ KVIS เน้น  “วิธีการคิด”  เค้าจะดูวิธีคิดของเรามากกว่ารู้ไม่รู้ ซึ่งจะมีประสิทธิภาพในการดึงเด็กที่จะเป็นนักวิทยาศาสตร์ในอนาคตได้มากกว่า  TU  ฉะนั้น  skill  ที่ต้องมีเพิ่มของ  MWIT  คือ  “skill  ความเข้าใจ”  ก็คือถึงแม้เนื้อหาของ  MWIT  จะออกน้อยแต่เค้าก็ออกจนละเอียดมากและเน้นการประยุกต์มากกว่าเมื่อเทียบกับ  TU  สำหรับ  KVIS  ต้องเพิ่ม  “skill  การวิเคราะห์”  ไม่ต้องอ่านหนังสือครับ คิดได้สอบติด อยู่ที่สมองล้วน ๆ ครับ



อะไรที่พิเศษในรุ่น   indecision

อย่างแรกเลยการสอบเลื่อนจนเละ แบบเละจริง ๆ  รอบแรก  MWIT, KVIS  เลื่อนไปหลายเดือน รอบสองเลื่อนไปมา ปกติสอบ  MWIT, KVIS  รอบสองเสร็จก่อน  TU  ประมาณ  1-2  เดือน  แต่ปีนี้ MWIT, KVIS เลื่อนไป 1-2 เดือน ส่วน TU ยังยืนยันเวลาเดิม สิ่งที่เกิดขึ้นคือเรามีเวลาอ่านหนังสือเตรียมสอบระหว่าง MWIT รอบสอง,    KVIS รอบสองกับ TU ทั้งหมดห่างกัน 1 สัปดาห์ ซึ่งยากต่อการวางแผนมาก ๆ 555   ในรุ่นของน้องก็อาจจะเป็นระเบียบกว่านี้แหละครับ

อย่างสองการเรียนออนไลน์ น้อง ๆ คงเรียนออนไลน์มาก่อน หลาย ๆ คนมองว่าการเรียนออนไลน์ไม่ได้ผลเลย พี่ก็คิดเช่นเดียวกัน พี่เลยพลิกวิกฤติตรงนี้เป็นโอกาส เพราะมันเอื้ออำนวยต่อการเรียนพิเศษมาก ๆ ก็คือช่วง ม.3  ออนไลน์ช่วง  COVID-19  ระบาดระลอกแรกใหม่ ๆ พี่ก็เรียนพิเศษตอนที่ครูที่โรงเรียนพูดไปเลย ๆ และก็ตั้งใจว่าจะเทเกรด ดองงานไว้ 1 เดือนแล้วเคลียร์ทุก ๆ เดือนและก็ทำงานที่คะแนนสูง ๆ ไว้ก่อน (คือมันดูเลวอ่ะ แต่ถ้าให้เลือกระหว่างได้เกรด 4.00 แต่ไม่ติดซักที่กับเกรด 2 กว่า ๆ แต่ติดแม่งทุกที่ พี่คงต้องเสียสละบางอย่างเพื่ออนาคตพี่แหละ)

อย่างสาม อย่างสุดท้าย ข้อสอบเปลี่ยนแนว ใน  MWIT  รอบแรกเค้าบอกว่าออกเป็นแนว  literacy  หรือข้อสอบ  PISA  ซึ่งทำให้เด็กไทยตื่นตระหนกกันไปใหญ่ (แต่ถ้าเอาเข้าจริง ๆ แล้วข้อสอบ  MWIT  เป็นแนว  PISA  มาตั้งนานละ)   แต่อย่างไรก็ตามเราก็โชคดีที่  MWIT ประกาศออกข้อสอบให้มีเนื้อหาเพียง  ม.1 - ม.2 รวม 4 ภาคเรียนซึ่งง่ายกว่าเนื้อหา  ม.3 มากครับ แต่ก็อย่าได้ประมาทไปเด้อ~ 


ภาพรวมการสอบ

ถ้าน้อง ๆ เคยอ่านหนังสือ Campbell    Biology   จะมีพาร์ท Test your understanding หรือว่าแบบทดสอบหลังบทเรียนซึ่งแบ่งออกเป็น 3 เลเวลย่อยคือ Level 1: Knowledge/Comprehension, Level 2: Application/Analysis และ Level 3: Synthesis/Evaluation ซึ่งตรงกับแนวคิดการสอบของแต่ละโรงเรียนเรียงตามลำดับโดย TU เป็น Level 1 ที่วัดความรู้และความแม่นยำทั้งหมดที่มีครับ, MWIT เป็น Level 2 ที่จะเริ่มให้นักเรียนเริ่มวิเคราะห์ข้อมูล และ  KVIS เป็น Level 3 ซึ่งให้สังเคราะห์ข้อมูลจากข้อมูลที่ให้มาในข้อสอบ

หากน้อง ๆ อยากรู้แนวข้อสอบเพิ่มเติมให้อ่านบทความในลิ้งก์นี้เลย :   https://www.dek-d.com/board/view/4011458

How to  เตรียมตัวสำหรับ  MWIT

เรียนพิเศษ เรียนพื้นฐานวิชาวิทยาศาสตร์ให้แน่นตั้งแต่ ม.1  ลองไปสอบสนามแข่งขันต่าง ๆ ดู โดยเฉพาะสนาม  IJSO  รอบแรกและ สอวน.คณิตศาสตร์ ค่ายแรกหรือสอวน.คอมพิวเตอร์ ค่ายแรกหรือดาราศาสตร์ ค่ายสองเป็นอย่างต่ำ ถ้าน้องสามารถสอบทั้งสองผ่านตอน ม.1  น้องมีโอกาสที่จะผ่าน  MWIT  รอบแรกสูงมาก (แต่ก็ไม่ชัวร์เสมอไปนะ) 

ม.2 พี่เริ่มเรียนคณิตศาสตร์ แต่โดยทฤษฎีแล้วควรเรียนตอน ม.1  แต่พี่เรียนไม่ทัน  555  ซึ่งควรเริ่มทำโจทย์ทั้งวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ และ ม.2   ปลาย ๆ ลองไปสอบ  Pretest  หรือ  MOCK EXAM  ของ  MWIT  เพื่อประลองมือ ควรได้เปอร์เซ็นต์ไทล์มากกว่า  75  ทำโจทย์เรื่อยมาจน ม.3  เริ่มเรียนคอร์สตะลุยโจทย์ของทุกสถาบันและหาโจทย์มาทำจากเน็ตหรือหนังสือ (อ.รัชพล และอีกมากมาย)  

สอบ  MWIT  อย่าปวดห้องน้ำ ใช้เวลาให้คุ้มค่า ห้ามเด็ดขาดคือห้ามเครียดเพราะสถานที่สอบโดยเฉพาะศูนย์สอบ มธ.รังสิต ที่ใหญ่และชวนให้กดดัน ถ้าติดรอบสองก็ดีใจด้วย ไปฝึกทำแล็บมา มีคนสอนอยู่ครับ

How to  เตรียมตัวสำหรับ  KVIS

เหมือน  MWIT  แหละครับ แต่ควรสอบสนามแข่งขันหลายรายการ ควรไปให้ถึงระดับชาติหรือนานาชาติ ไม่ควรสอบสนามเอกชน สอบสนามที่ดังและมีคนรู้จักเช่น สอวน.  IJSO  สสวท. สพฐ. โอลิมปิกทุกประเภท เพื่อเก็บผลงานและฝึกมือในการทำข้อสอบ

สำหรับการอ่านหนังสือไปสอบ KVIS ไม่มีความจำเป็นจริง ๆ เลยครับ ถ้าเราเป็นเด็กแข่งขันเลขอยู่แล้ว ก็สามารถทำเลขของ KVIS ได้อยู่แล้วครับ ส่วนวิทยาศาสตร์ จะให้ข้อมูลมาแล้วให้วิเคราะห์ สุดท้ายแล้วเนื้อหาอยู่ในข้อสอบทั้งสิ้น และการเรียนล่วงหน้า ม.ปลาย มาไม่มีความจำเป็นครับ

How to  เตรียมตัวสำหรับ  TU

1.        เรียนวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์เหมือน  MWIT  แต่ไม่ต้องเรียนหนักมากก็ได้
2.        เรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่ ม.1  ฝึกโจทย์ทำอยู่เสมอ
3.        เรียนไทยสังคมตอน ม.3  เทอม  2  เท่านั้น
​4.        ทำโจทย์ของรุ่นพี่บ่อย ๆ ไปอุดหนุนกันเยอะ ๆ


ที่เรียนพิเศษ/หนังสือ   surprise


    ๐         ที่เรียนพิเศษ

    -        คณิตศาสตร์ : ALevel (สอนดี เนื้อหาระดับเด็กแข่งขัน เหมาะกับเด็กโอลิมปิก, MWIT และ KVIS รอบแรก) Oplus (เข้าใจง่าย เหมาะกับเด็ก TU, MWIT และ KVIS รอบแรก) KruBigMath (เข้าใจง่ายเปิดโลก เหมาะกับเด็ก TU) MeAnytime (เว็บไซต์ทำข้อสอบ เหมาะกับเด็ก TU) พี่เจเจ (สอนมัน เปิดโลกคณิตศาสตร์ให้กว้างใหญ่ วัยรุ่น เหมาะกับ MWIT และ KVIS ทั้งรอบแรกและรอบสอง)

    -          ชีววิทยา : OnDemand (สอนสนุก เข้าใจง่าย หนังสือสีสวย จำจนทุกวันนี้ เหมาะกับเด็กโอลิมปิก, MWIT และ KVIS รอบแรก)

    -          เคมี : อ.อุ๊ (น่าเบื่อก็จริง แต่สอนเข้าใจมาก ติดสมอง ใช้ตั้งแต่ ม.1 ยัน ม.ปลาย นอกจากนี้ยังใช้ในการสอบแข่งขันได้หลายสนามมาก ๆ เหมาะกับเด็กโอลิมปิก, MWIT และ KVIS รอบแรก) OnDemand (สอนสนุก ไปเรื่อย ๆ เหมาะกับเด็ก TU)

    -          ฟิสิกส์ : OnDemand (สอนสนุก ครูคนนึงสอนตลก เข้าใจง่าย แม่นคอนเสปต์ เหมาะกับเด็กโอลิมปิก, MWIT และ KVIS รอบแรก)

    -          วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ (หรือวิทย์กายภาพ ประกอบด้วยธรณีวิทยา อุทกวิทยา อุตุนิยมวิทยา และดาราศาสตร์) :   พี่ไม่ได้เรียนครับ เพราะว่าข้อสอบออกน้อยมากๆๆๆ   ตัวอย่างเช่น TU ปีของพี่ออกอยู่ 1-2 ข้อ  MWIT ออกแค่ในรอบแรก จำนวนเท่ากับ TU  ส่วน KVIS เหมือนว่าจะไม่มีเลยครับ  แนะนำให้อ่านหนังสือวิทยาศาสตร์โลกและอวกาศของ สสวท. แทนครับ  หากต้องการลองทำข้อสอบให้ทำข้อสอบ IESO ดูครับ ลองเข้าตามลิ้งก์นี้ครับ  :   https://www.posn.or.th/examination

    -          วิทยาศาสตร์ทั่วไปและปฏิบัติการ : ครูป้อม Asci (สอนให้คิดวิเคราะห์ ใช้สมอง เหมาะกับ MWIT และ KVIS รอบแรกและรอบสองแบบมาก ๆ แนะนำต้องไปเรียน ที่นี่เท่านั้น)

    -          ภาษาอังกฤษ : Enconcept (สอนสนุก แม่นยำ โจทย์เยอะ เนื้อหาแน่น เหมาะกับ TU ทุกสาย)

    -          ภาษาไทย : ครูหญิง (สอนสนุก เข้าใจง่าย ไปเร็ว ต้องลงคอร์สวัดใจ เก็งแม่นมาก เหมาะกับ TU สายวิทย์-คณิต)   ครูลิลลี่ (สอนสนุก ไม่เครียด เรื่องเล่าเยอะ เนื้อหาละเอียดมากกก เหมาะกับ TU สายศิลป์)

    -          สังคมศึกษา : ครูเมฆ (สอนสนุก เข้าใจง่าย ต้องลงคอร์สข่าวเหตุการณ์ปัจจุบัน เก็งแม่นมาก   ๆ เหมาะกับ TU สายวิทย์-คณิต) อ.ชัย (สอนเรื่อย ๆ  เนื้อหาละเอียดมากเช่นกัน เหมาะกับ TU สายศิลป์)

    ๐        หนังสือ

    -          คอลแลกชั่น อ.รัชพล : วิชาคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา มีเยอะมาก ถ้าทำหมดคือสอบติดทุกที่
​    -          คอลแลกชั่น ดร.ศุภวัฒน์ : ชุดหนังสือข้อสอบคลาสสิกของเด็กอังกฤษ
    -          คอลแลกชั่น    อ.ศุภณัฐ : หนังสือสามัญของเด็กชีวะ ม.ต้น อ่านก็พอแล้ว
    ​-          ชุดหนังสือของรุ่นพี่ TU : รุ่นพี่เค้าตั้งใจทำให้น้อง ๆ ไปอุดหนุนกันน้า

สุดท้ายนี้สิ่งที่น้อง ๆ ต้องทำคือเก็บประสบการณ์การทำข้อสอบ ลองทำข้อสอบให้เยอะ ๆ ฝึกหลายสนาม เพื่อไม่ให้ตื่นสนามก็พอครับ สุดท้ายนี้การควบคุมอารมณ์และความเครียดและกำลังใจจากพ่อแม่เพื่อนฝูง เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ขอให้น้อง ๆ TU, MWIT, KVIS โชคดีครับ   laugh

แสดงความคิดเห็น

>

6 ความคิดเห็น

PearIN_little 21 เม.ย. 64 เวลา 13:38 น. 2

ขอบคุณที่มาแชร์แบบละเอียดและก็แนะนำหนังสือน้องๆนะคะ หนูไล่อ่านหมดแล้วพี่ใจดีมากๆค่ะ

0
platong__ 29 เม.ย. 64 เวลา 16:09 น. 3-1

!!! หมายเหตุ !!! : เพื่อป้องกันการโจมตีใด ๆ ตัวพี่เองไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรนะครับ


https://image.dek-d.com/27/0561/8820/131883085

0
platong__ 30 เม.ย. 64 เวลา 22:11 น. 4-1

หากน้องมีพื้นฐานที่ดีและพร้อมทำโจทย์ พี่แนะนำเป็น 3 เล่มนี้ ซึ่งมีความยากพอ ๆ กับ TU และ MWIT รอบแรกครับ

- แนวข้อสอบคณิตศาสตร์เข้า ม.4 เตรียมอุดมและมหิดลวิทยานุสรณ์

- เทพฟิสิกส์ พิชิตโจทย์เข้าเตรียมอุดมศึกษา-มหิดลวิทยานุสรณ์

- แนวข้อสอบชีววิทยา เข้า ม.4 เตรียมอุดมศึกษา-มหิดลวิทยานุสรณ์

หากน้องสนใจติดต่อซื้อหนังสือมือสองของ อ.รัชพล ก็สามารถติดต่อตาม QR code นี้ได้เลยครับ

https://image.dek-d.com/27/0561/8820/131888421

0
dxwnh 11 เม.ย. 65 เวลา 20:39 น. 6

หนังสือเทพคณิตกับคัมภีร์โจทย์ของอ.รัชพลต่างกันยังไงหรอครับ จะซื้อแต่มีเยอะมากงงไปหมด

1
platong__ 16 เม.ย. 65 เวลา 22:03 น. 6-1

คัมภีร์โจทย์น่าจะเป็นโจทย์พื้นฐาน ส่วนเทพคณิตคือโจทย์แข่งขันครับผม

0