ควรเข้าข้างคนที่จริงใจกับแม่หรือพ่อตัวเองดีคะ
ตั้งกระทู้ใหม่
ขอเข้าเรื่องนะคะ เรื่องมันมีอยู่ว่าเมื่อ3ปีก่อนพ่อของเราเปลี่ยนไปค่ะ นิสัยไม่ค่อยแคร์คนในครอบครัว ตัวไม่ติดบ้าน อารมณ์ร้อนหัวเสียง่าย เป็นคนไม่มีเหตุผลเลย เราก็ไม่รู้สาเหตุเหมือนกันค่ะว่าเป็นเพราะอะไรถึงเปลี่ยนไป พ่อเราลาออกจากงานมา5เดือนแล้ว ตอนนี้ไม่มีงานทำแต่ก็ยังใช้เงินที่แม่กับเราหาอยู่อย่างเดียว ครอบครัวของเรา(ยกเว้นแม่)บอกให้พ่อไปหางานทำแต่เขาก็ปฏิเสธทุกทีเลย เราสงสารแม่ตัวเองมากๆเลยค่ะ แม่เป็นคนยอมพ่อตลอดนางเลยไม่ค่อยพูดอะไรกับพ่อมากนัก
เมื่อเดือนที่แล้วประมาณต้นเดือน แม่เราก็ได้รู้จักกับคุณหมอคนนี้ เขาสนับสนุนแม่เราทุกอย่างเลย เราว่าเขาเป็นผู้ชายที่ใจดีมากๆเลยค่ะ แม่เราไม่เก่งภาษาอังกฤษเลยให้เราคุยแทนเป็นบางครั้งตอนเราว่าง เราก็เอาเรื่องนี้ไปบอกกับคุณยาย ซึ่งยายของเราก็ยินดีค่ะถ้าแม่จะหย่ากับพ่อแล้วไปเริ่มต้นใหม่กับหมอคนนี้ ไม่ใช่ว่าเราไม่รักพ่อนะคะ แต่เพื่อแม่เราแถมพ่อก็ทำตัวไม่ใส่ใจอะไรเลย คุณหมอก็รู้นะคะว่าแม่เรามีสามี มีลูกแล้ว แต่แม่บอกเขาว่าที่อยู่กับพ่อก็เพราะลูกแค่นั้น เขาเลยบอกว่าจะส่งเงินมาแล้วพาแม่ไปอยู่ที่สหรัฐ เขาจะมาเมืองไทยอีกครั้งเร็วๆนี้ค่ะ เราจริงจังกับคุณหมอมากๆเลยค่ะเพราะเขานิสัยดี แถมลูกสาวเขาเราคุยด้วยก็เป็นมิตรมากๆ
จนเรามารู้ทีหลังเมื่อวานก่อนค่ะ เราถามแม่ว่าแม่จริงจังกับคุณหมอมากไหม นางก็เลยบอกว่า "ไม่อะ แม่แค่หลอกเขาเฉยๆ" เรานี่ถึงกับช็อคไปเลยค่ะ ที่ผ่านมาเราก็โดนแม่หลอกด้วยเหมือนกันหรอเนี่ย เราหัวเสียใส่แม่ค่ะเพราะเรื่องที่เขากำลังจะส่งเงินมาเป็นเรื่องจริง แต่แม่เรากลับไปหลอกเขาว่าจะย้ายไปอยู่ด้วยซะอย่างงั้น เราบอกแม่ว่า"ถ้าจะหลอกเขาก็ไม่ต้องไปคุยกับเขาแล้ว ไม่ต้องเอาหนูมาเป็นตัวกลางใช้หลอกชาวบ้านด้วย" นางก็บอกว่าเรื่องของผู้ใหญ่ เราแบบ..ร้องไห้ออกมาเลยค่ะ เราไม่รู้จะบอกคุณหมอว่ายังไงดี..ด้วยความที่เราสนิทกับเพื่อนต่างชาติเยอะมากๆเราเห็นใจเขาเป็นพิเศษเลย แถมกำลังโดนแม่เราหลอกด้วยTT
เราไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงต่อดีช่วยหน่อยนะคะToT
E' Mina สะกาเรนะ
7 เม.ย. 64 เวลา 22:37 น.
300
views
2 ความคิดเห็น
เข้าข้างสิ่งที่ถูกต้องค่ะ สมมติถ้าแม่หลอกฝรั่งจริง เราไม่ควรเข้าข้างแม่ ถ้าไม่อยากขายแม่ ก็หาวิธีบอกแม่ให้เข้าใจหรือหาวิธีเนียนบอกฝรั่งให้ได้ บอกตรงๆก็ยังถ้าคิดแล้วว่ามันถูกต้อง ส่วนพ่อ ต้องทำใหพ่อเห็นคุณค่าในตัวเองแล้วไปหางานทำให้ได้ค่ะ ถ้าพ่อดีขึ้น มันก็ดีเราค่ะ สรุป ถ้าจะเลือกทำก็ทำในสิ่งที่ถูกต้อง ถ้าจะเลือกไม่ทำ เอาอย่างแม่ว่า คือเรื่อง ผญ เราก็ปิดหูปิดตาตัวเองไปเลย หันไปทำอย่างอื่นให้ดีค่ะ
ก็อยากจะขอกล่าวถึงคุณพ่อนิดนึงก่อนครับ สิ่งที่ทำให้เขาเปลี่ยนไปในตอนแรกอาจจะเพราะว่าเขาพบกับปัญหาบางอย่างในชีวิตก็ได้ แต่นั่นก็ไม่สำคัญอะไรเพราะมันเกิดขึ้นแล้ว สิ่งสำคัญตรงนี้ก็คือ คนในครอบครัวพยายามเข้าใจถึงปัญหาที่เกิดขึ้นรึเปล่า อยู่ข้างเขาพอที่เขาจะเปิดใจพูดเรื่องนี้รึเปล่า มันเป็นส่วนหนึ่งของจิตวิทยาครับถ้ารักคุณพ่อก็เป็นทางเลือกที่จะลองทำดูได้
ส่วนคุณแม่ที่บอกว่าหลอกเขานั้น จริงๆแล้วอาจจะเป็นระบบป้องกันตัวก็ได้ครับเพราะว่าคุณแม่ก็คงจะรู้สึกผิดหวังกับสิ่งที่พบเจอ การที่คุณแม่อยู่กับคุณพ่อได้ถึงทุกวันนี้มันก็ต้องมีความรักความผูกพันกันบ้างแหละ แต่เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นขาดความเข้าใจกันจึงทำให้มันเลวร้ายกว่าเดิม
เรื่องคุณหมอเป็นคนใจดีนั้นมันเป็นเรื่องที่น่ายินดีครับ ถ้าเขาจริงใจมันก็ยิ่งเป็นเรื่องที่ดี ต่อให้ไม่จริงใจอย่างน้อยความสัมพันธ์ที่คุณมีกับลูกสาวของเขาก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีเช่นกัน
หากจะให้แนะนำว่า สถานการณ์เช่นนี้ควรทำอย่างไร
ส่วนตัวผมในกรณีที่ผมรักพ่อและแม่ และรู้สึกชื่นชมในคุณหมอและลูกสาว ผมก็จะพูดกับคุณหมอตรงๆครับ บอกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างตรงไปตรงมาแล้วปรึกษาเขาว่าควรจะทำอย่างไร เพราะว่านั่นก็เป็นอีกเรื่องที่ช่วยพิสูจน์ตัวตนของเขาด้วย ถ้าเขาจริงใจกับคุณแม่จริงมันก็จะมีหนทางให้ไปต่อ ถึงแม้จะไม่ได้มีความสัมพันธ์อย่างลึกซึ้งต่อกันแต่อย่างน้อยก็ยังเป็นเพื่อนกันได้
ต้องค่อยๆพูดครับ เรื่องแบบนี้ไม่สามารถใช้อารมณ์เข้ามาได้ ถ้าคุณพ่อกับคุณแม่รุนแรงมาแล้วเรารุนแรงกลับ เรื่องราวมันก็ยิ่งรุนแรงกว่าเดิม
ก็นั่นแหละครับ สรุปก็คือหาทางเข้าใจแรงจูงใจของแต่ละคนก่อน แล้วค่อยตัดสินใจว่าจะทำยังไงต่อไป ชีวิตมีทางออกมากมายครับอยู่ที่ว่าเราจะมองหามันรึเปล่า
สุดท้ายนี้ ไม่มีทางไหนมืดไปกว่าการหลับตา :)
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?