“สัญญาณสวาท” [ปล่อยอึ่งรีวิว]
ตั้งกระทู้ใหม่
*** ชื่อ ปล่อยอึ่ง บนหัวกระทู้มีความหมายตามนี้
-อาจมีการพูดจาหยาบคาย
-อาจมีการพูดคุยนอกเรื่อง
-อื่น ๆ
...
คือตอนนั้นก็หาอะไรในเม็บอ่านไปพลางแหละ เรื่องสั้น ๆ ที่มันจบได้เร็ว ๆ เพราะมันเหมาะกับการอ่านของตัวเองมากกว่า พอเลื่อนไป ๆ ก็ไปเจ๊อะกับเรื่องสั้นเรื่องนี้เข้านี่แหละ แล้วก็ เออเว้ย ของแบบนี้มันก็ยังมีอยู่อีก นึกว่าจะไม่มีโอกาสได้อ่านอะไรแบบนี้อีกซะแล้ว
-จะตายเหรอ
ชื่อ: สัญญาณสวาท
ผู้เขียน: SHASHA
สื่อที่เผยแพร่: Meb
ผู้วิจารณ์: ปล่อยอึ่ง
ลิงก์ผลงาน: https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&book_id=147446&page_no=1
...
คือมันเป็นเรื่องของเด็กสาวคนหนึ่งเว้ย เธอมีพี่สาวและแม่ที่อาศัยอยู่ในบ้านด้วยกัน
ในวันหนึ่งเธอก็ออกไปเดินเล่นตามประสาของตัวเอง แล้วก็ดันไปเจอกับชายหนุ่มคนหนึ่งที่เธอแอบมองเขาอยู่บ่อย ๆ โดยชายคนดังกล่าวก็ค่อย ๆ ลอบเข้ามาใกล้กับเธอเว้ย เข้ามาคลอเคลียเบา ๆ จนเธอเริ่มจะมีอารมณ์ขึ้นมา แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ถูกพี่สาวเรียกไปก่อนจึงจำเป็นถอยออกมาจากชายคนนั้น แต่สุดท้ายก็ถูกเขาเข้ามาขวางแล้วบอกมาว่าจะรอเธออยู่ที่นี่ ภายในคืนนี้
คือผมย่อเรื่องให้ได้แค่นี้แหละ มากกว่านี้ไม่ได้แล้ว เดี๋ยวมันจะเผยเนื้อเนื้อหาไปหมดซะก่อน
หู้ย ตอนแรก ๆ ที่อ่านนะ มาแล้ว ๆ อารมณ์มาแล้ว เขียนอีโรติกได้น่าสนใจเหมือนกันนี่ แต่พออ่านไปอีกนิดเท่านั้นแหละ เอ๊ะ ทำไมมันดูน่ากลัว ๆ อย่างนั้นวะ เฮอร์เรอร์หรือเปล่า พระเอกมันดูน่ากลัวมากอะ ถ้าผมเป็นนางเอกนี่คือวันนั้นหลับยากอะบอกเลย ผมนี่ถึงกับแบบ “คนเขียนเป็นใครวะ” เลยล่ะ
แต่ความรู้สึกมันไม่ได้มีอยู่แค่นั้น เพราะในระหว่างที่ผมอ่านไปนะ มันก็มีความรู้สึกประมาณว่า “เอ๊ะ ทำไมมันเป็นแบบนี้วะ” “เอ๊ะ ทำไมพี่สาวถึงโหดร้ายกับเธอแบบนั้นนะ” อะไรแบบนี้อยู่เสมอ แล้วผมก็สงสัยแบบนั้นไปเรื่อย ๆ และหลงเดินตามหมากที่นักเขียนเขาวางไว้เพื่อจะรุกเรา
แต่ ๆ ๆ หลังจากอ่านไปได้เพียงไม่กี่หน้าหรือเพียงไม่กี่เหตุการณ์ผมก็เกิดความรู้สึกขึ้นมาอย่างหนึ่งเว้ย มันเป็นความรู้สึกแบบที่ “เอ๊ะ คุ้น ๆ เหมือนเคยพบเคยเห็นที่ไหนมาก่อนวะ” ผมรู้สึกแบบนี้จริง ๆ แต่มันไม่ใช่แค่คุ้น ๆ เหมือนจะนึกออกเฉย ๆ นะ นี่คือมันคุ้นและนึกออกจริง ๆ จัง ๆ เลยแหละว่ามันคืออะไร แต่ตอนนั้นยังไม่กล้าฟันธง 100 เปอร์เซนต์ แต่ 67 เปอร์เซ็นต์นี่มาแล้ว
และหลังจากนั้นก็อ่านไปอีก อ่านไปอีก อ่านไปอีก จนกระทั่งมาจุดจุดหนึ่ง ซึ่งมันเป็นจุดที่เปิดเผยข้อมูลสำคัญบางอย่างออกมา และในตอนนั้นเองมันก็ทำให้ผมฟันธงได้ 100 เปอร์เซ็นต์แล้วว่า “ชัวร์เลย -ใช่แน่นอน” โดย-ข้อมูลสำคัญเนี่ยมันคือคำคำหนึ่งเว้ย คำคำหนึ่งนะไม่ใช่ทั้งประโยค โดยมันคือ “ชื่อของนางเอก”
ห้ะ แค่ชื่อเนี่ยนะ
เออ ก็แค่ชื่อนี่แหละที่มันทำให้ผมจับจุดคนเขียนได้น่ะ
-เก่งขนาดนั้นเลย
เปล่า ไม่ได้เก่ง แค่เคยมีประสบการณ์
อย่างที่บอกไปข้างต้น ผมเคยเจออะไรทำนองนี้มาแล้ว 2 ครั้ง แล้วการมาเจอเรื่องเรื่องนี้เป็นครั้งที่ 3 มันก็ช่วยให้ผมจับจุดได้ง่ายขึ้น ก็จับจุดได้ตั้งแต่หน้าแรก ๆ ที่เขาเขียนนั่นแหละ แล้วยิ่งมาเปิดเผยข้อมูลสำคัญแบบนี้ก่อนอีกก็ยิ่งทำให้จับจุดได้ง่ายเข้าไปใหญ่ คือผมเห็นคำคำนี้เพียงแค่คำเดียวแล้วผมสามารถปิดเรื่องสั้นนี้ทิ้งได้เลยอะ เพราะรู้หมดแล้วว่าเรื่องสั้นทั้งเรื่องนี้มันคืออะไร ดังนั้นนี่จึงเป็นความคิดเห็นของคนที่เคยเจออะไรแบบนี้มาแล้ว 3 ครั้ง ไม่ใช่ความคิดเห็นของคนที่เพิ่งจะเคยเจออะไรแบบนี้มาเพียงแค่ครั้งแรกหรือครั้งเดียว
ผมช่างใจอยู่นานร่วม 20 นาทีว่าจะอ่านต่อดีมั้ย ซึ่งมันก็จริงอยู่ที่อีกเพียงไม่กี่หน้ามันก็จบเรื่องแล้ว แต่นี่มันเคลียร์ทุกข้อสงสัยหมดแล้วไง ผมจำเป็นต้องตามอ่านต่อด้วยหรือ
แต่ก็นั่นแหละ ด้วยความที่ตัวเองตั้งใจจะตั้งกระทู้รีวิวอยู่แล้วจะไม่อ่านให้จบมันก็ยังไง ๆ อยู่ แถมผมยังมีเรื่องที่คาใจอยู่อีกเรื่องหนึ่งด้วย มันคาใจมาก และผมก็กลัวว่าเรื่องเรื่องนั้นมันจะเกิดขึ้นจริง ๆ
แล้วแม่งมันก็เกิดขึ้นจริงว่ะ “ตกม้าตายตอนจบ” มันไม่มีอะไรเหมาะไปกว่าคำคำนี้อีกแล้ว
ยังจำกันได้เนาะเรื่องข้อมูลสำคัญที่ถูกเปิดเผยออกมาก่อนแล้วผมดันจับจุดได้ ซึ่งจริง ๆ แล้ว-ตรงนั้นน่ะบางคนเขาอาจจะมองไม่เห็นก็ได้ แต่ด้วยเรื่องสั้นประเภทเนี้ยะ ถ้าจะทำแบบเนี้ยะ ควรจะรอเวลาให้มันเหมาะ ๆ แล้วก็เฉลยออกมาทีเดียว ตูมเดียว แค่นั้นจบ โอเค เพอร์เฟคต์ กูตายตาหลับแล้ว แต่มันดันไปต่อนี่สิ นี่แหละที่ตกม้าตาย อะไรวะ ทำไมทำแบบนั้นวะ ตัดจบตรงที่น้องนางเอกเขาจุดจุดจุดก็ดีอยู่แล้ว ไปต่อทำไม๊ ดูสิ่งที่ตัวเองเขียนบ้างดิเห้ย กร่อยเลยตอนท้ายอะ
คือสิ่งที่คนเขียนทำลงไปมันคือการอธิบายในการเฉลยอะ ที่มันเป็นแบบนั้นเพราะมันเป็นแบบนี้นะ และที่มันเป็นแบบนี้ก็เพราะมันเป็นแบบนั้นนะ อะไรเงี้ยะ เห้ย ไม่ต้อง เฉลยเสร็จแล้วจบเลย เพราะเพียงแค่นั้นคนอ่านเขาก็เข้าใจได้เกือบหมดแล้ว ถ้ามีอะไรสงสัยหรือยังไม่แน่ใจเดี๋ยวเขาจะวกกลับไปอ่านซ้ำเพื่อหาคำตอบเอาเอง ปล่อยไปเลย ทิ้งไว้ให้เป็นหน้าที่ของเขาบ้าง ของเรามันจบไปแล้ว
อ้ะ แรก ๆ ก็ชมเขาอยู่หรอก แต่หลัง ๆ นี่ด่าเละเลย ฮ่า ๆ ๆ มันหงุดหงิดกับตอนท้ายอะ ไม่น่าเลยจริง ๆ แต่ก็นั่นแหละ โดยรวมแล้วยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีมาก และคนอื่นอาจจะไม่ได้คิดแบบผมก็ได้
แล้วคะแนนที่ให้ก็คือ “น่าอ่าน และกระตุ้นความอยากรู้ได้ตลอดทั้งเรื่อง” ครับผม
...
เห้ย น่าอ่านจริง โดยเฉพาะเด็ก ๆ นี่แนะนำเลย
2 ความคิดเห็น
นั่นสิ จะแวะเข้าไปอ่านดีไม๊เนี่ยย?
เหมือนเสียมารยาท นั่งอ่านเรื่ิองส่วนตัวของคนในม่าน(ที่จริง อาจจะไม่ตั้งใจให้้เป็นส่วนตัว)เขา
จัดอยู่ในประเภท“สำนวนบรรยายที่น่ารำคาญ”ใช่มั้ยล่ะ? 555
ที่แน่ๆ ฉะจนแตกกระจายเต็มเตียงเลยใช่ไม๊
5555
หมายถึงสำนวนของเขางั้นรึ
ก็ไม่นะ ไม่ได้ติดขัดอะไรตรงนั้นเลย
ถ้าติดนี่คือบ่นออกมาในกระทู้แล้ว ฮ่าๆๆ
อะไรที่ไม่ได้กล่าวถึงนั่นคือดีหรือผ่านเกณฑ์หมดเลย
555
หมายถึง“ยิบย่อย”น่ะ
ลงรายละเอียดแล้วลงรายละเอียดอีกในส่วนที่ไม่ควร
นั่นเป็นสิ่งที่เรารำคาญน่ะ
อ้อ ถ้าเป็นเรื่องนั้น เราก็กำลังจะรีวิวนิยายเรื่องหนึ่งอยู่ แต่คงไม่ได้แตะประเด็นนั้น อยากพูด แต่ไม่รู้จะพูดยังไง และมันก็อาจจะไม่ได้สำคัญอะไรกับตัวเจ้าของเรื่องด้วย
5555
แล้วไป...
มาแค่นี้จริงๆดิ ไม่เห็นจะน่าสนใจตรงไหนเลย สู้แนวแฟนตาซีก็ไม่ได้ นารูโตะงี้ ยกตัวอย่าง
ก็มันคนละแนวกันอย่างชัดเจนเลยนี่ครับ
แต่ก็ไม่น่าสนใจตรงไหนเลย ผิดหวัง นานๆทีจะรีวิวหานิยายที่น่าอ่านกว่านี้หน่อยสิ
ไม่ต้องอ่านหรอก
เรื่องของติ่งกะหรี่...
ใครได้ยินแบบนี้ ต้องสะอึกแน่!
ติ่งกะหรี่อะไรฟะ ตามไม่ทัน
@โรสลิน 5555
@ปล่อยอึ่ง แกน่ะช้า
\คำที่ผญ.ดีๆ (อย่างกูกับคุณลิน คริคริ)เขาเรียกผญ.อย่างว่า
*ถ้าฉันเดาถูกนะจ๊ะ (ปิ๊งๆ )*
มาปิ๊งๆเฉย แล้วก็จากไป งงงัน คริคริ
@โรสลิน 5555
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?