Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

แค่หาที่เขียนไดอารี่แหละ >>เรื่องเพื่อน

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ตอนสมัยเรียนเราได้รู้จักเพื่อนผช.คนนึง ผ่านเพื่อนผญ.ในกลุ่ม เค้าเกิดอุบัติเหตุแล้วต้องหยุดพักรักษาตัวยาวๆที่บ้าน คงเพราะเพื่อนเราอยากให้เค้ามีเพื่อนคุยเยอะๆแหละ จะได้ไม่เบื่อกับการนั่งๆนอนๆอยู่บ้าน แรกๆเราก็เห็นเพื่อนคุยโทรศัพท์กับคนนี้บ่อยๆ ชื่อ แมนละกัน ทีนี้เพื่อนในกลุ่มก็สงสัยว่าคุยกับใครหว่า เพื่อนก็เลยแนะนำให้รู้จักกันโดยถ้วนทั่ว แล้วมีเพื่อนคนนึงเค้าก็จะดูสนใจเป็นพิเศษ เพื่อนคนนี้ชื่อกาน แล้วกานก็เลยลองขอคุยกับเค้าดู คุยไปคุยมา กลายเป็นว่าไปสนิทกันซะงั้น คุยทุกวัน จนเราก็แซวเล่นๆไปว่าคุยกับผช.ไม่สนใจเพื่อนฝูงเลย หลังจากนั้นก็มีโครงการก่อนเรียนจบ ซึ่งกลุ่มเราจะไปจัดที่อุทยานแห่งหนึ่ง ซึ่งก่อนทำกิจกรรมก็ต้องไปติดต่อ ดูทำเลสถานที่ที่อุทยาน แล้วเผอิญบ้านแมนคือทางผ่านไปอุทยาน หลังจากไปสำรวจดูสถานที่เสร็จแล้ว กานก็เลยชวนแวะเยี่ยมแมนที่บ้าน ซึ่งก็ไปกันทั้งหมดหลายคน บ้านแมนอยู่ริมน้ำ เมื่อไปถึง จุดโฟกัสของเราคือศาลาริมน้ำ ไม่ใช่เจ้าของบ้านแต่อย่างใด กลับกัน เพื่อนคนอื่นแวะคุยกับแมนก่อน ถึงจะเดินตามเรามาที่ศาลาริมน้ำ นั่นถือเป็นครั้งแรกที่เราได้เจอแมนตัวเป็นๆ ที่เพื่อนกานของเรา คุยอยู่ทุกวี่ทุกวัน แต่ก็ยังไม่เคยคุยกันอยู่ดี หลังจากนั้นมาซักพักใหญ่ๆ เพื่อนกานที่คุยกับแมนทุกวี่วัน ก็ดูจะมีซัมติงอะไรรึป่าว ดูเวลาคุยแล้วออกอาการเขินแปลกๆ ไปแอบคุยในซอกตู้งี้ แล้วก็ถึงวันที่เราเองได้คุยกับแมนอย่างเป็นทางการ เนื่องจากสมัยนั้น line ยังไม่ได้กำเนิดขึ้นมา (แอบแก่) กานอยากจะคุยงานกับเรา แต่มือถือไม่มีตัง กานเลยให้แมนโทรหาเราแทน อืม นั่นคือครั้งแรกที่ได้คุยกันเลยมั้ง ก็งงๆแปลกๆแหละ พอคุยธุระกับเพื่อนเราเสร็จสรรพ เราก็ความที่ไม่อยากเป็นก้างอ่ะเนาะ แล้วยังไม่สนิทด้วย ก็ไม่รู้จะคุยอะไร เราเลยขอวางสาย ทั้งคู่ก็ค้าน ให้คุยเล่นกันก่อน ซึ่งกานเองก็เลยแนะนำเราทั้งคู่ให้รู้จักกันอย่างเป็นทางการ เพื่อผช.จะได้มีเพื่อนเยอะๆ มั้งนะ หลังจากคุยไปได้พักใหญ่ๆ แมนก็ถามเราว่าขอเบอร์เราไว้ได้ไหม ไว้คุยเล่น (งงเหมือนกันใช่ไหม ก็โทรมาเอง จะขอเบอร์ทำไมวะ) ก็ตอบไปว่าก็มีแล้วนี่ เค้าก็ตอบว่าอันนี้กานให้โทร ถ้าเราให้ เค้าจะบันทึกเบอร์เราไว้ แต่ถ้าไม่ให้ เค้าก็จะไม่บันทึก (เบ๊ะปาก มองบนกันเลยทีเดียว) เราก็ตามมารยาทอ่ะเนอะ ก็โอเค แต่จะคุยอะไร แทบไม่รู้จักอะไรกันเลย แมนก็บอกว่าคุยเรื่อยๆ เดี๋ยวก็รู้จักเอง หลังจากวันนั้น เราก็ได้คุยกันบ่อยขึ้น คุย ณ ที่นี้ก็คือการโทรคุยแบบกลุ่ม 3-4คน แล้วแต่วัน คุยกันแทบทุกวัน ไร้สาระไปเรื่อย จนถือว่าคุยจนสนิทกันระดับนึง กานมักจะชวนเราไปเยี่ยมแมนเรื่อยๆ ซื้อของไปฝาก ต่างจากอีนี่ ชวนไปเพื่อน ก็ไปเพื่อนจริงๆ คือไปตัวเปล่าเลย (คือตอนนั้นยังไม่มีรายได้อ่ะเนาะ) ไปถึงก็คุยๆเรื่อยเปื่อย แป้บๆก็หลับบ้างไรบ้าง ตื่นมาก็กลับบ้าน โดยชีวิตปกติแล้ว บางทีเราเป็นพวกขี้เกียจรับโทรศัพท์ แบบคิดว่าคงไม่มีธุระ แล้วก็ไม่โทรกลับด้วย คือบางเวลาก็ดูหนัง ขี้เกียจคุยไรงี้ วันหยุดนั้นแมนโทรหาเราซัก 5-6สายมั้ง เราซักผ้าอยู่ ก็ขี้เกียจรับ ดูหนังไป ซักพักกานแว้นมอไซต์มาที่บ้าน ถามเราว่าทำอะไรอยู่ เราเริ่มตะหงิดๆ แต่คงไม่ใช่มั้ง เราบอกว่าซักผ้า ดูหนัง กานก็ถามต่อว่ามือถืออยู่ไหน เราก็บอกว่าอยู่ในบ้าน กานถามเราว่า แมนโทรหาทำไมไม่รับ เราก็อ้างๆไปว่า สงสัยลืมเปิดเสียง กานก็พยามจะเข้าบ้านเราไปหามือถือ เราก็ถามกาน ว่าทำไม มีอะไร กานก็บอกเราว่า แมนโทรหากาน บอกกานว่าเราไม่รับสาย ให้กานมาดูที่บ้านหน่อย ว่าเราทำอะไร (ซึ่งนี่ก็โมโหที่เพื่อนโวยวายไร้สาระ คิดในใจ>>แล้ว-ก็ทำ แต่ฮึ๊บความโกรธไว้) แล้วกานก็ยังจะเอามือถือเราให้ได้ นางอยากรู้ว่าแมนโทรกี่สาย เราก็ต้องไปเอามือถือให้ ซึ่งก่อนให้ก็แอบปิดเสียงไว้ จะได้เนียนๆ ซึ่งตอนนั้นก็เกือบ 10สาย กานก็โวยวายอีกว่า แมนโทรเป็น10สายเลยนะ ซึ่งเราก็งง จะโวยวายอะไรนักหนา จากนั้นกานก็โทรหาแมน แล้วส่งมาให้เราคุย เราก็ถามแมนไป ว่าแค่ไม่รับสายนี่แมนต้องให้กานขับรถมาหาเราที่บ้านเลยหรอ ซึ่งแมนก็อธิบายว่า พอเราไม่รับโทรศัพท์ เค้าก็เลยโทรหากาน แล้วกานอยู่ใกล้บ้านเราพอดี เลยพูดเล่นๆ ว่าให้มาดู หลังจากเคลียร์กันเรียบร้อย กานก็กลับบ้านไป ปล่อยให้อีนี่งง คืออะไร กานโวยวายกุทำไม คือทั้งงง ทั้งโมโห เลยฟันธงได้เลยว่า ที่เราแซวๆเค้า จะเป็นจริงซะแล้วซิ หลังจากนั้นก็มีไม่รับสายอีก ก็สันดานแหละ แต่ก็ไม่เห็นกานมาโวยวายอีก ซึ่งชีวิตประจำวันของเรากับกาน ก็ยังดำเนินไปตามปกติ จนเข้าปีที่2ที่รู้จักกับแมน แมนชอบเล่นกีตาร์ กานก็จะเป็นหน่วยซัพพอทในการหาคอร์ดเพลงต่างๆที่แมนอยากเล่นมาให้ ยังไปเยี่ยมแมนที่บ้านบ้าง เป็นครั้งคราว ชวนเราไปเพื่อนเหมือนเดิม ซึ่งก็มีคุยๆกันแบบจริงๆจังๆบ้างแล้ว ว่าสรุปดูเหมือนกานจะปิ๊งแมนจริงๆละ ซึ่งเราก็จะแอบแซวเล่นบ้างตามประสาเพื่อน ส่วนเรากับแมนเวลาคุยก็กัดกันแทบตลอด แมนจะเป็นคนพูดจากวนๆหน่อย ส่วนเราก็พูดห้วนๆ จะวางสายก็ไม่มีบอกฝันดงฝันดี ซึ่งคุยทุกวัน ก็ทะเลาะกันทุกวัน แต่ไม่ได้เป็นการทะเลาะที่จริงจังนัก เป็นแบบนี้มาเรื่อยๆ จนแมนบอกเป็นประเด็นขึ้นมาว่า ทำไมเราไม่เคยบอกฝันดีเลย สังเกตุจากทุกวัน คนอื่นก็จะพูดทั้งนั้น ยกเว้นเรา เลยเป็นการเค้นเหมือนอยากเอาชนะ ว่าพูดหน่อย อยากได้ยิน คงนอนฝันดี แล้วก็เป็นแบบนั้นทุกวัน กานคงรำคาญ ก็บอกให้พูดๆไปเหอะ ไม่ตาย เราก็ไม่ยอมพูด ยิ่งช่วยกันเค้นแบบนี้ เราก็ยิ่งไม่พูด ไม่พูดว้อยยยยย!!!!!แล้ววันนึง กานก็ชวนเราคุยแนวๆเกี่ยวกับคนที่แมนเคยชอบ ซึ่งกานก็เปิดมาว่า แมนคิดอะไรกับเราไหม ซึ่งเราค้าน100% ว่าไม่ใช่ ก็ทะเลาะกันทุกวัน ที่อยากให้พูดฝันดี ก็แค่อยากเอาชนะ คงไม่ได้คิดอะไรแนวนั้นหรอก(ซึ่งตอนนั้นคิดแบบนั้นจริงๆ ไม่เคยดูแล ไม่เคยทำอะไรให้เลย จะมาประทับใจอะไรในตัวเราละ ตรงข้ามกานทุกอย่าง) กานก็เหมือนจะนึกได้และเห็นด้วย แมนเคยบอกกานว่า ถ้าเค้าชอบใคร เค้าจะไม่กล้าคุย ไม่กล้าเล่นด้วย ซึ่งกานก็บอกว่า ตัดเราออกได้เลย

และแล้วกาลเวลาผ่านไปไว เหมือนนั่งไทม์แมชชีน เราใกล้จะเรียนจบแล้ว กิจวัตรการคุยกันทุกวันก็ยังเหมือนเดิม ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่เราเริ่มรู้สึกว่าระหว่างเราชักจะมีอะไรแปลกๆ ลึกๆแล้วมันเริ่มไม่ปกติ แต่ภายนอกทั่วๆไป เกือบปกติ วันนึงจะมีการเลี้ยงวันเกิดที่บ้านแมน ทำหมูกระทะกิน ซึ่งแมนก็ชวนเพื่อนๆในกลุ่มไปด้วย กานก็เหมือนเดิม คอยเป็นธุระจัดการนู่นนี่นั่น จนกระทั่งช่วงเวลาคีบหมูขึ้นเตา แอบมีดราม่าเล็กๆโดยที่เราไม่รู้ตัว ขณะตั้งวงกิน พี่ชายแมน ก็มานั่งข้างแมน เราก็นั่งต่อจากพี่ชายแมน แล้วแมนก็คงพูดเล่นกับพี่ชายเค้า แนวๆว่า มานั่งขวางทำไม ซึ่งเราก็ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร กานให้มาก็มา แล้วจู่ๆพี่ชายเค้าก็ลุกยืน แล้วบอกขอโทษ แล้วยิ้มๆ บอกให้เราขยับไปใกล้แมน เราก็งงๆ พี่เค้าก็ยืนยันให้ขยับ เราเลยขยับไป ซึ่งพออยู่ใกล้กัน ก็เหมือนเดิม ทะเลาะกันมั้ง ตีกันมั้ง(แบบขำๆไม่จริงจัง) ซึ่งซักพักนึง กานก็บอกอิ่มแล้ว แล้วลุกออกไปจากวงหมูกระทะ ซักแป้บเพื่อนอีกคนชื่ออิงตามไป เค้าไปนั่งอยู่ที่ศาลาริมน้ำ ในวงหมูกระทะเลยจะเหลือแค่3-4คน นี่ก็งงๆแต่ไม่ได้เอ๊ะใจอะไร จนแยกย้ายกลับบ้าน หลังๆมานี้ เรารู้สึกว่าแมนเริ่มจะแปลกๆ โทรหาเราเยอะมาก ครั้งละหลายๆสาย ถ้าเวลาไม่ได้รับก็จะไม่ต่ำกว่า 20สาย พอเยอะๆสาย เราเลยรับ ถามว่าทำไมโทรเยอะจัง มีไรรึป่าว เค้าก็บอกว่าไม่มี โทรคุยเฉยๆ เค้าบอกว่าถึงจะรู้ว่ายังไงเราก็ไม่รับ และไม่โทรกลับ เค้าก็ยังโทร คิดว่าโทรอีกครั้งแล้วจะพอ แต่สุดท้ายเค้าก็ยังกดโทรต่ออยู่เรื่อยๆ จนมันกลายเป็นหลายสายมากๆ ซึ่งเราฟังประโยคนี้แล้ว เรารู้สึกได้ว่ามันไม่ปกติ ในความแจกแจงรายละเอียด มันมีความไม่ปกติซ่อนอยู่ ยังทะเลาะกันเหมือนเดิม แต่เริ่มมีอะไรที่ว่าไม่ปกติแทรกๆอยู่บ้าง แล้วหลังจากนั้นไม่นาน แมนก็เริ่มตั้งคำถาม??? คำถามที่ว่า คุณคิดอะไรกับผมหรือเปล่า? ซึ่งนี่ก็งงอีก คำถามนี้ไว้ใช้กับเพื่อนหรอ จุดประสงค์คืออะไร เค้าก็บอกว่า เค้าถามแบบนี้กับเพื่อนในกลุ่มเกือบทุกคน และเราน่าจะเป็นคนสุดท้าย ด้วยความนึกสนุกขึ้นมา เลยบอกแมนไปว่า งั้นก็บอกเรามาก่อน ด้วยคำถามเดียวกันสาบานได้ว่าแค่นึกสนุกจริงๆ แต่เค้าก็ไม่ยอมตอบ เค้าอ้างว่า เค้าถามเราก่อน เราเลยบอกไปว่าถ้าเค้าตอบ เราถึงจะบอก ยื้อไปยื้อมาจนสุดท้าย เค้าตอบเราว่า เค้าคิด และไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ซึ่งเรานี่จากสนุกๆ คืออึ้ง ขำไม่ออก และขณะเดียวกัน ตอนนี้กลายเป็นเราที่ไม่กล้าบอกคำตอบเค้า ไม่กล้าบอก ว่าเราไม่ได้คิดอะไร โกรธตัวเองอยู่ในใจว่า ตอบไปแต่แรกก็จบ หลังจากนั้นแมนก็ถามคำตอบของเราบ้าง กลายเป็นเราไม่กล้าตอบ แล้วเราก็อ้างๆเพื่อที่จะไม่ต้องตอบ เค้าก็บอกว่ายังไงก็ได้ ถ้าเราโอเค เค้าก็โอเค แต่ถ้าเราไม่โอเค เค้าก็ยังโอเคกับเราอยู่ดี ซึ่งเราก็ยิ่งพูดไม่ออกไปใหญ่ หลังจากนั้นเราก็แกล้งลืมๆคำถามนี้ไป ซึ่งแมนก็ไม่ได้คะยั้นคะยอจะเอาคำตอบอะไรมากมาย เราก็ยังคุยกันเหมือนเดิมอย่างที่ผ่านๆมา จนเรียนจบกันไปก็ยังติดต่อกันอยู่ แต่กานเริ่มห่างออกไป ช่วงนึงกานย้ายไปอยู่ต่างจังหวัด จึงไม่ได้มีเวลาคุยเล่นเยอะเหมือนแต่ก่อน ระหว่างเรากับกาน มันเหมือนมีอะไรค้างคากันอยู่ โดยที่เราก็ไม่มั่นใจนัก เพราะเรื่องที่เราคุยกับแมนวันนั้น เราก็ไม่เคยเล่าให้ใครฟัง พอกานเริ่มห่างไปซักพัก ดูกานจะตึงๆกับเราไปโดยไม่บอกสาเหตุ พูดเหน็บๆทีเล่นทีจริง ซึ่งเราก็คิดว่าเล่นแหละ แต่ด้วยความตึงๆ เลยแอบระแวงว่าเหน็บจริง หลังจากนั้นไม่นาน ก็ได้คุยเปิดใจกัน กานยอมรับว่าตึงๆกับเราจริงๆ เพราะกานเริ่มคิดว่าแมนคิดเกินเพื่อนกับเราแน่ๆ สาเหตุนึงคือ กานพูดถึงวันกินหมูกระทะที่บ้านแมน เราก็นึกไม่ออกอยู่ดี ว่าเราทำอะไรให้กานไม่พอใจหรือเปล่า แล้วกานก็ใช้คำที่ว่าในวันนั้น เรานั่งหัวเราะมีความสุข บนความทุกข์ของเค้า เราได้ยินประโยคนี้คือเราจุกมาก พูดไม่ออก น้ำตาไหล ต้องกลั้นใจบอกไปว่าขอเวลาแป้บนึง มันจุกน้ำตา จนพูดไม่ออกเลย พอรู้สึกดีขึ้นเราเลยถามกานไปว่า ทำไมตอนนั้นไม่บอก เราจะได้ระวังไม่อยู่ใกล้จนทำให้กานคิดมาก ตอนนั้น เพราะเราก็คิดว่าแมนก็เป็นเพื่อนเรา ไม่ได้คิดอะไร เราเลยไม่เอะใจเลยว่าเป็นเรื่องนี้ ไม่อยากให้อยู่ใกล้ทำไมไม่บอกกันดีๆ เราเลยบอกกานไปว่า เราจะออกห่างจากความรักของเธอนะ ซึ่งหมายถึงว่า เราจะเริ่มคุยกับแมนให้น้อยลง จนหายไปเลย หลังจากนั้นเรากับกานก็คุยกันน้อยมาก คุยกันเฉพาะตอนแมนโทรคุยรวม 3คน จนกระทั่งตอนหลังไม่ได้คุยกันอีกเลย มารู้ตัวอีกที คือกานลบเราออกจากเพื่อนในเฟซบุ๊คด้วย เราเองก็เฮิร์ตเพราะเรื่องกานอยู่พักนึง แล้วเราก็เลยเริ่มไม่รับสายแมนด้วย แมนคงคุยกับกานเรื่องที่เราไม่ค่อยรับโทรศัพท์ กานเลยบอกเรื่องที่เราคุยกับกาน และเรื่องที่เราจะออกห่างจากแมน แมนเลยถามเราว่าที่ไม่ค่อยรับสาย เพราะงี้ใช่ไหม ทำไมไม่ถามเค้าบ้าง ว่าเค้าคิดยังไง ไม่นึกถึงความรู้สึกเค้าบ้างหรอ ซึ่งเราก็พูดไม่ออก ถ้าหายไปโดยที่เค้าไม่รู้ น่าจะดีกว่านี้ แต่สุดท้ายเราก็ยังคุยกับแมนอยู่ แม้จะไม่บ่อยเหมือนเดิม ทางกานก็คุยกับแมนอยู่บ้าง แล้วเรากับกานก็หายๆกันไป เจ็บสุดตรงที่ว่ามีความสุขบนความทุกข์ของเค้า มันฝังใจมาก

###กาลครั้งหนึ่ง

แสดงความคิดเห็น

>