ทะเลาะกับพี่แล้วแม่เห็นด้วยกับพี่มากกว่า
ตั้งกระทู้ใหม่
เรา : ขอให้เสร็จก่อนเที่ยงนะเพราะมีสอบ (ช่างเขามาตอนเที่ยงพอดี)
พี่ : ปิดไฟแปปเดียวเดี๋ยวค่อยทำ
เรา : เดี๋ยวก่อนมีสอบขอเวลาแปปนึง
พี่ : งั้นก็ยกคอมไปทำที่อื่น (จะให้ขนคอมไปทำข้างล่างบ้านตรงที่เก็บอุปกรณ์ของพ่อ กว่าจะยกไปได้เราคิดว่ามันเสียเวลา)
เรา : มันไม่ทันจะไม่ให้เวลาทำเลยหรือไง ไม่ได้ฉลาดถึงขนาดมองแล้วตอบได้เลยนะ (ตรงนี้เราเริ่มโมโหแล้วขึ้นเสียงเพราะต้องฟังที่อาจารย์อธิบายข้อสอบไปด้วย ชื่อก็ต้องเช็ค)
พี่ก็โมโหเดินมาดึงปลั๊กคอมทิ้งแบบกระแทก เราก็ทนไม่ไหวเลยต้องยกคอมไปที่อื่น
พอแม่มาถามพี่ว่าเป็นอะไรกัน
พี่ : แค่ปิดไฟแปปเดียวช่างเขาทำไม่นานหรอก เราจ้างเขาช่วยแวะเข้ามาดูให้ ถ้าให้รอช่างเขาก็มีที่ต้องไปต่อ เราต้องจ่ายเพิ่มอีก (ใจเราก็คิด เป็นช่างหรอถึงรู้ว่าจะเสร็จกี่โมง เราก็บอกไปแล้วว่ามีสอบตั้งแต่แรกด้วยทำไมไม่นัดเวลาดีๆ)
แม่ : นั่นสิ ปิดแปปเดียว เดี๋ยวค่อยทำก็ได้มั้งลูก
เรา : แม่หนูมีสอบปลายภาค เขาเก็บเยอะเพราะเรียนออนไลน์เลยไม่มีคะแนนจากในห้อง แล้วเวลาแค่นี้หนูทำไม่ทันแน่
แม่ : งั้นก็ขนลงไปทำข้างล่างนั่นแหละ
แล้วแม่กับพี่ก็ไม่สนใจเดินไปทำงานของแต่ละคนไป สุดท้ายเราก็ใช้เวลาขนคอมพักนึง จนเสียไปเกือบครึ่งชม.แล้วทำไม่ทันข้อสุดท้ายด้วย เราไม่เข้าใจเลยว่าการศึกษาของเรามันไม่สำคัญเลยหรอ หรือเขามองว่าข้อสอบทำแปปเดียวก็เสร็จ
AM just ALONE
1 พ.ค. 64 เวลา 00:33 น.
1,696
views
11 ความคิดเห็น
ช่างอะ เรียกมาแล้ว ถ้าให้กลับไปก็วุ่นวายอีก เสียงตังค์เพิ่มอะ ไม่ใช่แม่เข้าข้างหรอก อันนี้เพราะมีช่างมาอะ แม่ก็ต้องให้ช่างดูเหมือนกัน เพราะช่างมาแล้ว
คือมันเป้นเรื่องก่อนหน้านี้ ในการนัดช่างแหละ ก็ต้องไปคุยกับคนนัดช่าง อีกครั้งว่า เรามีเหตุแบบนี้ๆๆๆๆๆ ต่อไปถ้าจะนัดช่างอีก ต้องรบกวนบอกด้วยงี้ๆๆๆๆๆ
ครั้งนี้คงต้องปล่อยผ่าน ครั้งหน้าคุยกันใหม่
อาจจะผิดตั้งแต่ที่ไม่บอกกันก่อนในบ้านมากกว่าที่จะมองว่าการเรียนเราไม่สำคัญ อาจจะเป็นประเด็นที่ผู้ตั้งกระทู้อนุมานไปเองมากกว่าครับ แต่พอมาถึงจุดที่คนในบ้านไม่ได้บอกก่อนผมเห็นว่าก็ต้องแก้ไขปัญหาอยู่แล้ว ส่วนเรื่องในบ้านค่อยคุยกันที่หลัง
ในมุมของคนอ่านที่ผ่านมา ผมเห็นว่าเป็นการบ่นมากกว่าเพราะไม่ได้ดั่งใจ เพราะในสถาการณ์นั้นคงลนไปหมดไม่รู้ว่าจะทำยังไงให้ดีที่สุด
เข้าใจฝั่งแม่และพี่มากกว่าครับ เพราะเราโทรเรียกเขามาต้องมาทำงาน จ่ายเงิน มาฟรีแล้วคิดเงินก็เสียเปล่าๆ
พอมานั่งอ่านแล้วนึกสงสัยว่าทำไมต้องสอบบนคอมอย่างเดียวเหรอครับ มือถือสมาร์ทโฟนน่าจะสอบได้เหมือนกัน
การสอบมิดเทอม-ไฟนอล ปกติทุกที่จะบังคับให้ใช้คอม PC แล้วยิ่งต้องเปิดกล้องเวลาทำข้อสอบด้วยจะยิ่งบังคับให้ใช้ 2 จอกันโกง(บางที่ก็อนุโลมจอเดียวแล้วแต่ว่าเขาจะจัดการยังไง) สอบบนมือถือลืมไปได้เลยแล้วบางทีเขาจะให้คุณโหลดโปรแกรมที่ล็อกคอมไว้ไม่ให้ไปเปิดอย่างอื่นยกเว้นข้อสอบคือล็อกจอไว้เลย
เท่าที่อ่านมานะ จริงๆ ถ้าคุยกันตั้งแต่แรกว่าน้องมีสอบ แล้วพี่เค้าจำเป็นต้องเรียกช่างมาซ่อมตอนนั้นจริงๆ ก็แค่ตกลงกันว่าใครจะอะไรยังไง
และจากที่น้องบอก คิดว่าคอมน่าจะย้ายไปทำงานที่อื่นได้ จริงๆ ถ้าไม่ชัวร์ว่าช่างจะซ่อมทันก่อนน้องสอบ ก็แค่ย้ายคอมไปก่อนจะมีสอบมั้ย เช่น อาจจะย้ายตั้งแต่สายๆ ให้พี่ช่วยยกไรงี้ เพราะถ้าช่างเค้ามาแล้ว แล้วเราจะให้เค้ารออ่ะ มันก็เสียเวลาเค้า ต้องจ่ายตังเพิ่มอีก แบบที่แม่น้องบอกอ่ะ ถูกแล้ว เวลาเป็นเงินเป็นทองนะ
สรุปก็คือ แม่กับพี่เค้าไม่ได้เห็นว่าการศึกษาของน้องไม่สำคัญหรอก แต่แค่ไม่ยอมคุย/ตกลงกันตั้งแต่แรก มันเลยเกิดปัญหาขึ้น ส่วนน้องก็ใจเย็นๆ แล้วลองทบทวนดู ว่ามันจริงแบบที่พี่บอกมั้ย วันหลังก็คุยกันให้เยอะๆ จะได้เข้าใจเหตุผลซึ่งกันและกัน
เราว่าจุดมันอยู่ที่ว่าไม่ได้บอกกันทั้งฝั่งพี่ชายทั้งฝั่งตัวเราว่าใครมีเรื่องต้องทำตอนไหน ใครนัดอะไรตอนไหน (พูดจากข้อมูลที่น้องพิมพ์มานะ) พอมันขนกันกันก็ไม่ได้มีการช่วยกันแก้ปัญหา สอบก็สำคัญ นัดช่างหน้าร้อนบางทีถ้าไม่ได้ทำตอนนี้อาจจะไม่ได้คิวอีกยาวก็เป็นได้ แต่ละคนก็มีเหตุผลของตัวเอง ปัญหามันเกิดแล้วต้องช่วยกันแก้ก่อน เราอาจจะบอกไป งั้นช่วยกันย้ายคอมแปปนึงนะ มีสอบสำคัญ (นี่ว่าย้ายคอมช่วยกันสองสามคนแปปเดียว เห็นบอกพี่ว่าต้องเสร็จก่อนเที่ยง แสดงว่ายังพอมีเวลา) แล้วอะไรๆมันผ่านไปแล้วค่อยมาคุยกันทีหลังว่ามีอะไรต้องบอกกัน จะได้ไม่ชนกันอีก ส่วนเรื่องแม่ นี่มองว่าแม่แค่อยากให้มันจบๆ พี่ได้ซ่อมแอร์ น้องได้ทำข้อสอบ แต่อาจจะลืมว่าทำข้อสอบ ยิ่งมีเวลามากมันได้มีการคิดการทบทวนมากกว่า นี่ว่าใจเย็น ค่อยๆคุยให้เค้ารู้
*พอมันชนกัน
สำหรับผมแล้ว สอบน่ะสำคัญครับมากด้วย เพราะมันคือคะแนนที่ทำให้เกรดกระโดด มีพี่ทำกิริยา ดึงปลั๊กแบบนี้ ผมมองว่าไม่โอเคครับทำตัวเหมือนเด็ก ไม่ว่าจะเหตุกรณีใดๆ มันคือการสอบ ไม่ใช่ทำการบ้าน สอบก็มีโอกาสแค่ครั้งเดียวสำหรับวิชานั้นๆ ในชั้นเรียนนั้นๆ ครึ่งชม. ของการทำข้อสอบ ถ้าไปสอบแข่งขัน มันคือ 7-10 ข้อ ที่จะสามารถทำข้อสอบได้ พี่กับแม่ ควรจะช่วยน้องขนคอมครับเพื่อประหยัดเวลาทั้งนี้ตัวน้องควรจะบอกให้แกช่วยขนด้วย มันจะน่าหงุดหงิดมากกว่าครับ ถ้าเกรดออกมาไม่ดีเพราะการสอบแล้วแม่มาว่าเอา การศึกษาอาจจะสำคัญเขาครับ แต่อาจจะไม่ได้เข้าใจถึงความคาดหวังที่เรามีครับ
น้องกำลังหลงประเด็็นนะ เหตุการณ์นี้ไม่ใช่แม่และพี่่ไม่เห็นความสำคัญของการศึกษา การเรียกช่างมาต้องมีการนัดหมายกับช่างล่วงหน้าซึ่งพี่ของน้องอาจจะไม่ได้บอกล่วงหน้าวันก่อนที่ช่างจะมาเลยทำให้น้องกังวลใจเรื่องการไฟตอนสอบและเรื่องของเวลาแต่การที่น้องไปบอกให้พี่ไปให้ช่างทำให้เสร็จก่อนเที่ยงเท่ากับช่างจะต้องมาเร็วขึ้นซึ่งมันทำไม่ได้หรอกน้องช่างเขาก็ต้องมีงานที่ไปทำที่อื่นหรือธุระอย่างอื่นเพราะมันไม่ใช่เวลาที่นัดกันไว้และช่างก็ไม่สามารถเลื่ิอนตามใจชอบได้หากมีคนจ้างงานในเวลาก่อนหน้าที่จะมาบ้านน้องซึ่งเขาก็ต้องโทรไปเลื่อนกับคนที่จ้างมาก็เป็นไปไม่ได้เลยเพราะเขาก็ต้องนัดช่างในเวลาที่เขาสะดวกที่ให้ช่างมาในเวลาที่นัดถ้าเจอคนจ้างใจดีเขาก็เลื่อนซึ่งแทบเป็นไปไม่ได้เพราะเขาตามที่เขาว่างตรงกันทั้งสองฝ่าย การทำงานแบบนี้ไม่สามารถเลื่อนตามใจชอบได้เพราะบางคนเขาเจอแบบนี้เขาก็เลิกจ้างไปเลยแล้วเขาก็จะเอาพูดปากต่อปากอีกว่าช่างคนนี้ชอบเลื่อนเวลา รับงานซ้อนทำให้เขาเสียรายได้และความน่าเชื่อถือไปอีก ไม่ต้องเป็นช่างก็รู้เวลาที่ช่างจะทำเสร็จเพราะพี่ของน้องเป็นคนนัดเวลากับช่างเขาต้องคุยกันเรื่องรายละเอียดและระยะเวลาในการซ่อมอยู่แล้ว ประเด็นมันอยู่ตรงที่ว่าไม่ได้บอกล่วงหน้าเลยทำให้น้องไม่พอใจแต่อย่างไรการซ่อมก็เป็นเรื่องส่วนรวมของบ้านส่วนเรื่องการสอบเป็นสิ่งที่สำคัญเหมือนกันและทุกคนก็ยื่นข้อเสนอให้น้องย้ายสถานที่ในการสอบและถ้าน้องรู้ว่ามันใช้เวลาในการย้ายคอมน้องก็ต้องรีบย้ายคอมก่อนเวลาสอบเพื่อให้ทันเวลาสอบแต่ตอนนั้นน้องอาจไม่พอใจพี่เดาว่าน้องคงยืนเถียงกับแม่กับพี่เลนทำให้เสียเวลาสอบใครซึ่งจะโทษแม่กับพี่ไม่ได้เพราะเขาให้วิธีแก้ไขกับน้องไปแล้ว ถ้าเขาไม่เห็นความสำคัญเขาคงไม่บอกให้น้องเปลี่ยนที่ใช้คอมเขาคงจะโมโหไล่น้องไปที่อื่นหรือบางบ้ทนเขาอาจจะตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตไปเลย ก่อนอื่นน้องต้องมองสถานการณ์ด้วยเหตุผลซึ่งควรจะเป็นเหตุผลจากทุกฝ่าย รับฟังความคิดเห็นของคนอืื่น ปรึกษาหาทางออกวิิธีการแก้ไข ลำดับความสำคัญ พี่เข้าใจนะการสอบมันสำคัญกับเราแต่การซ่อมของในบ้านก็สำคัญกับคนในบ้านทุกคนในบ้านควรจะคุยกันเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาซึ่งบางทีก็ไม่ถูกใจเราแต่ก็ต้องทำตามวิธีนั้นเพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย
ซ่อมแอร์ที่มีแต่ในห้องพี่คนเดียวค่ะ ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นนะคะ
ประเด็นที่จขกท.โมโห คือการที่แม่กับพี่บอกว่าทำแค่แปปเดียวก็เสร็จแบบ อะไร? สอบนะ ไม่ใช่การบ้านมาแปปเดียวเสร็จ มันคือคำพูดที่ควรพูดตอนนั้น? ละคือไล่น้องไปที่อื่นแต่ตัวเองสั่งปากไล่ไม่ยอมมาช่วยขน การที่จขกท.ยืนเถียง เขาก็คงพิจารณาแล้วว่าไม่ทันแน่ๆ สุดท้ายคนรับ"กรรม"คือจขกท. ไม่ใช่ใครอื่นใด แล้วคือแต่ละคนเข้าข้างช่างกลัวช่างเสียเวลาเสียรายได้ อยากแรกต้องถามก่อนนัดก่อนเที่ยงไหม ถ้าใช่คือมันผิดนัดไปนานแล้วจ้า มาตอนเที่ยงคือสายไปแล้วเรียบร้อย น้องน่าจะเดินไปถามช่างเลยว่าซ่อมตรงไหน ตัดไฟตรงไหนจะกระทบตรงห้องที่น้องอยู่ไหม จะสามารถทำยังไงได้บ้างในกรณีที่ไม่สะดวกจริงๆ ให้ช่างแจงทางเลือกมาแล้วยืนคุยกะแม่พี่มันตรงนั้นแหละ
ทำใจผ่อนคลายแล้วช่างแม่งมันไป น้องหงุดหงิดไปไม่ได้ทำให้แม่กะพี่สำนึกขึ้นมาได้ น้องทำได้แค่พูดเรื่องตัดไฟตอนสอบวนๆไปเวลาเขาบอกว่าเกรดน้องตกหรือแย่ ก็ทวงว่าใครมันตัดไฟตอนสอบ แล้วหาเรื่องที่ไม่จำเป็นต้องตัดไฟทั้งบ้านมาพูดย้ำๆ สู้ๆนะลูก
ส่วนหนึ่งเลยค่ะที่เราหงุดหงิดตอนนั้น
ผมมองว่าอันนี้ถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเด็นหลักนะครับ
1. การพูดคุยกันในครอบครัว : เรื่องนี้อาจจะต้องวนกลับไปหาตัวน้องเองว่าได้แจ้งที่บ้านไว้หรือไม่ว่าจะมีการสอบในเวลานี้วันนี้ หรือพี่ได้แจ้งไว้หรือไม่ว่าได้มีการนัดช่างมาที่บ้านเวลานี้ ซึ่งสิ่งที่ต้องแก้ไขคือต้องแก้ทั้ง 2 ฝ่ายก็คือ ตัวน้องเองก็จะต้องแจ้งครอบครัวก่อนว่ากำลังจะมีการสอบในวันเวลานี้ เพื่อให้คนอื่นๆทราบว่าช่วงเวลานี้นั้นห้ามรบกวน และ ต้องการใช้ไฟฟ้าหรือสิ่งอื่นๆ ด้วย กับ ฝั่งพี่ก็คือรู้อยู่แล้วว่าจะต้องมีการตัดไฟเกิดขึ้น (อาจจะไม่รู้ก็ได้) ซึ่งเป็นสิ่งที่กระทบกับคนทั้งบ้านรวมถึงตัวน้องเองด้วย จึงควรที่จะต้องมีการสอบถามกันเกิดขึ้นว่า พี่จะนัดช่างมาซ่อมวันนี้เวลานี้ มีใครไม่สะดวกไหม หรือ มีใครจำเป็นต้องใช้แอร์ หรือไฟฟ้าไหม และก็อาจจะเป็นการกลัวที่จะเสียเงินหรือเสียเวลาเนื่องจากมีการนัดหมายช่างไว้ล่วงหน้าแล้ว ซึ่งการนัดหมายช่างนั้น ผมมองว่ามันจะต้องทำการนัดหมายล่วงหน้าอยู่แล้ว และ การสอบก็จะต้องมีการนัดล่วงหน้าอยู่แล้วเช่นกัน แค่เพียงคุยกันหรือบอกกันแค่นั้นจบเลย ในส่วนของแม่นั้นเท่าที่อ่านมาก็คือพอแจ้งย้ำไปว่าการสอบสำคัญแม่ก็บอกให้เอาลงไปสอบด้านล่าง ก็ดู make sense นะ เนื่องจากว่าตอนแรกแม่อาจจะยังไม่รู้เรื่องสอบไง เพราะแม่เพิ่งเข้ามาตอนที่น้องทะเลาะกับพี่เสร็จแล้วไม่ใช่หรอ ในส่วนของเรื่องคำพูดนั้นผมก็มองได้หลายมุมว่าที่พี่หงุดหงิด เพราะเราอาจจะไม่ได้บอกไว้ว่าจะต้องใช้ไฟในการสอบวันนี้เวลานี้ หรือเป็นการที่ตนเองนัดไปแล้ว เพิ่งมารู้แล้วยกเลิกไม่ได้แล้วจึงกลัวเสียหน้าหรือไม่ทันกาลแล้วจึงได้มีพฤติกรรมเช่นนั้น สุดท้ายเรื่องที่น้องบอกว่าต้องขนของลงไปเอง ได้เอ่ยปากขอความช่วยเหลือหรือยังครับ ที่เขาไม่สนใจอาจจะเพราะว่าแม่เขาไม่ได้เข้าใจว่าจะต้องทำการยกอะไรลงไปเยอะหรือเปล่าด้วยนะครับ
2. การจัดลำดับความสำคัญของคนในครอบครัว : มองว่าอันนี้ก็สำคัญนะ เนื่องจากว่าน้องได้แจ้งพี่ไปแล้วว่าการสอบมันสำคัญ (อันนี้ตามที่อ่านด้านบน) แต่เขาต้องการจะรักษาเงินกับหน้าตา หรือ ความสบายของเขาไว้ (หรืออะไรก็แล้วแต่) ก็็คงจะได้เห็นอะไรแล้วแหละ ว่าลำดับความสำคัญของเขาเป็นอย่างไร ผมมองว่าแค่โทรไปขอเลื่อนช่างไม่ได้หนักหนาอะไรเลยอาจจะต้องเสียหน้ากับเสียเงินเพิ่มนิดหน่อย ผมมองว่าถ้าเป็นคนที่ให้่ลำดับความสำคัญของคนในครอบครัวสูงพอ คงไม่ทำอะไรแบบที่พี่ของน้องทำหรอกนะ เพราะเท่าที่ทราบก็คือเป็นการซ่อมแอร์ (อันนี้ตามที่อ่านด้านบน) ซึ่งไม่ได้มีผลกระทบอะไรมากมายขนาดนั้น นอกจากความสบายของคนใช้แอร์ตัวนั้น น้องก็คงได้เห็นแล้วว่าเขาอาจจะมองสิ่งพวกนี้สำคัญกว่าเวลาหรือตัวของน้องหรือเปล่า ลองเอากลับไปตั้งคำถามกับพวกเขาดู แล้วมองย้อนกลับมาว่าทำไมพวกเขาจึงเป็นเช่นนั้น เราไปทำอะไรไม่ดีไว้หรือเปล่า หรือว่าเป็นสันดานของคนครับ ลองเอากลับไปคิดดูเองครับ......
ถ้าเป็นแม่พี่นะ คงให้ทั้งพี่สาวกับน้องไปช่วยขนคอมลงไปข้างล่างล่วงหน้าไว้ก่อน ไม่ก็ให้ไปร้านคอม เป็นครอบครัวที่ไม่คุยกันเลยรึไง ตั้งแต่พี่สาวละ คุยแต่ไม่ฟังอะ ที่บ้านน้องครอบครัวห่างเหินกันใช่มั้ย คล้ายๆครอบครัวของเพื่อนพี่เลย
ใช่ค่ะ
เราว่าตัวเราค่อนข้างเอนเอียงไปทางจขกท.มากกว่าพี่ของจขกท.มากกว่านะคะคือถ้าเราเจอแบบนี้ก็โมโหเหมือนกันแหละแต่ว่าแต่ละคนเค้าก็มีเหตุผลของเค้าเเหละเนอะยังไง็เป็นกำลังใจให้นะคะสู้ๆค่ะ
ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นมากค่ะ ขออนุญาตชี้แจงเพิ่มเติมค่ะ
1. เรื่องสอบเราได้บอกคนในครอบครัวแล้วทันทีที่อ.แจ้งวันสอบ และได้ย้ำอีกครั้ง 2 วันก่อนสอบจริงและเชื่อว่าจำกันได้เพราะ 1 วันก่อนสอบพ่อได้ถามไถ่ตอนกำลังทานข้าวด้วยกันทั้งครอบครัว
2. การนัดเวลาของช่างคือพี่บอกว่าสะดวกเวลาไหนก็ช่วยเข้ามาดูให้หน่อย ซึ่งเหมือนไม่ได้เจาะจงเวลาชัดเจนแต่จะเอาวันนั้นเลย(ถามพ่อมา)
3. ที่เราต้องขนคอมลงไปทำที่อื่นโดยที่พี่ไม่ช่วยเพราะเราโมโหและหงุดหงิด+เร่งรีบด้วยเลยไม่อยากจะเถียงกันให้มากความแล้ว โดยที่ไม่ได้ขอความช่วยเหลือเลยค่ะ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?