แบ่งปันประสบการณ์การเตรียมตัวเข้าคณะมนุษยศาสตร์ สาขาวรรณคดี วิชาเอกวรรณคดีไทย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ รอบแรก (Portfoilo)
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีค่ะ วันนี้เรามาแบ่งปันประสบการณ์ในการเตรียมตัวเข้าคณะมนุษยศาสตร์ สาขาวรรณคดี วิชาเอกวรรณคดีไทย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ รอบแรก (Portfoilo) โครงการช้างเผือกค่ะ
เราเป็นเด็ก 64 คนนึงที่ใฝ่ฝันอยากจะเข้าคณะและสาขานี้ แต่หากระทู้แบ่งปันประสบการณ์การการเตรียมตัวเข้าสาขานี้ไม่ได้เลย วันนี้เลยอยากมาแบ่งปันประสบการณ์ของตัวเอง เผื่อจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่สนใจจะเข้าคณะนี้ต่อไปค่ะ
เราได้รู้จักคณะนี้ครั้งแรกตอนม.3 ค่ะ แต่เริ่มสนใจและหาข้อมูลอย่างจริงจังตอนม.4 เทอม 2 โดยที่เริ่มสนใจคณะนี้ก็เพราะเราเรียนได้ดีแค่ในวิชาภาษาไทย และเฉพาะในส่วนของวรรณคดี แต่เมื่อรวมกับว่าเราสนใจ และชอบอ่านเกี่ยวกับพวกวรรณคดี ตำนาน นิทานพื้นบ้านต่าง ๆ มาตั้งแต่เด็กแล้ว เราเลยคิดว่าเราน่าจะเรียนในคณะนี้ได้
แต่เราก็ยังตัดสินใจไม่ได้ค่ะว่า เราจะเรียนได้ หรือจะโอเคกับคณะนี้จริงหรือเปล่า เราเลยเริ่มหาข้อมูลหาข้อมูลเกี่ยวกับการเรียนในคณะนี้ เข้าไปดูหลักสูตรในเว็บไซต์มหาวิทยาลัย จนมั่นใจตั้งแต่ก่อนขึ้นม.5 ว่า เราอยากเรียนในคณะนี้จริง ๆ แล้วเริ่มหาข้อมูลการรับนักศึกษาของคณะเพื่อใช้เป็นแนวทางการเตรียมตัวค่ะ
เรามีข้อมูลเกี่ยวกับรอบที่รับ และคะแนนที่ต้องใช้ในปีก่อน ๆ ตั้งแต่ม.5 (ปี 63) ค่ะ แต่ในปีนั้นเองที่คณะนี้เปลี่ยนจากการรับในรอบที่ 2 มาเป็นรอบแรก ดังนั้นแล้วบางอย่างที่เราเตรียมมาสำหรับรอบ 2 เป็นอันไม่ได้ใช้ค่ะ (ตอนนั้นตกใจมาก ๆ ที่หาคณะนี้ในรอบที่ 2 ไม่เจอ) แต่ก็เป็นโชคดีที่ได้รู้เร็ว เราเลยวางแผนการเตรียมตัวสำหรับรอบแรกได้ทัน ซึ่งในที่นี้รวมถึงการพยายามทำให้เกรดเฉลี่ยรวม และเกรดเฉลี่ยรายวิชาภาษาไทยตรงตามเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยต้องการด้วยค่ะ
**ดังนั้นสำหรับคนที่มีเป้าหมายชัดแล้ว ควรติดตามข้อมูลการรับของคณะให้เร็วที่สุดนะคะ อย่างน้อย ๆ ก็ควรจะรู้ของปีก่อนหน้าเอาไว้ค่ะ
****และแน่นอนว่าจะยึดตามเกณฑ์ของปีก่อนหน้าทั้งหมดไม่ได้ อย่าลืมติดตามเช็กเกณฑ์ของปีปัจจุบันให้เรียบร้อยอีกครั้งนะคะ
เกริ่นมานานพอควรแล้ว ต่อไปจะเข้าเรื่องแล้วจริง ๆ ค่ะ
สิ่งที่เราต้องเตรียมคือ เอกสารตามที่มหาวิทยาลัยกำหนดซึ่งรวมถึงประวัติผลงาน (Portfolio) และในสาขาวรรณคดีไทยจะมีเรียงความเจตจำนงในการเข้าศึกษา (Statement of Purpose) เป็นภาษาไทยด้วยค่ะ
ขอพูดถึงเรื่องการทำพอร์ตก่อนแล้วกันค่ะ
สิ่งที่เราทำเป็นอันดับแรกเลยก็คือรวบรวมเกียรติบัตรไว้ในที่เดียวค่ะ พอมีเวลาก็สแกนเป็นไฟล์รูปภาพเก็บไว้
นอกจากแสกนเกียรติบัตรแล้ว ก็เราก็รวบรวมรูป และพิมพ์วัน เวลา สถานที่ของกิจกรรมต่าง ๆ เอาไว้ใน word ก่อน (ข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลอื่น ๆ ก็ทำแบบเดียวกันค่ะ) ซึ่งมันทำให้ทำพอร์ตจะได้สะดวกขึ้น และก็ง่ายสำหรับการปรับแก้ด้วยค่ะ โดยเฉพาะกับคนที่ชอบแก้ชอบปรับหลาย ๆ ครั้งอย่างเรา
ในการทำพอร์ต เราใช้เว็บไซต์ canva เป็นหลัก เพราะมีลูกเล่นหลายอย่าง มีแบบอักษรให้เลือกเยอะ และก็สามารถเปิดทำได้จากทุกที่ ขอแค่มีอินเตอร์เน็ต แต่ของเราพอทำไปได้เยอะ ๆ จะทำในไอแพดไม่ได้แล้ว เพราะเครื่องจะค้างหรือไม่ก็กระตุกค่ะ (แต่บางรุ่นก็อาจจะไม่เป็นก็ได้ค่ะ)
สำหรับคนที่อาจจะไม่ได้มีหัวศิลป์มากอย่างเรา งานก็อาจจะไม่ค่อยออกมาสร้างสรรค์เท่าไหร่ แต่เราเลือกทำตามแบบที่เราชอบค่ะ เราเปิดหาแรงบันดาลใจไปเรื่อย ๆ แล้วก็เลือกจะทำแบบธรรมดา ค่อนข้างออกไปทางเรียบ ๆ นิดหน่อย ไม่ได้เน้นตกแต่งลายไทยเยอะ ๆ หรือใช้ฟอนต์ออกแนวไทย ๆ เหมือนที่หลายคนแนะนำ แต่เราก็ภูมิใจกับงานที่ออกมาแล้วค่ะ
ทีนี้มาวางเรื่องความสวยงามไปก่อนค่ะ เพราะส่วนที่สำคัญจริง ๆ คือ ผลงานด้านในค่ะ สำหรับคนที่มีผลงาน และกิจกรรมเยอะก็อาจจะต้องคัดเฉพาะที่เด่น ๆ และตรงสายที่สุดมา โดยชิ้นที่สำคัญที่สุด หรือเราต้องการนำเสนอมากที่สุดก็ควรจัดวางให้เด่นขึ้นมากว่าชิ้นอื่นหน่อยค่ะ ซึ่งด้วยความที่เรารู้ค่อนข้างเร็วว่าอยากเข้าคณะนี้ เราเลยพอมีผลงานที่มีความเกี่ยวข้องกับคณะอยู่บ้างค่ะ
อีกเรื่องที่เราให้ความสำคัญค่อนข้างมากคือการสะกดคำ และความถูกต้องในการใช้ภาษาค่ะ เราพยายามทำให้ถูกต้องเรียบร้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่ด้วยความที่เพิ่มเนื้อหาและแก้ไขพอร์ตหลายครั้ง จึงมีจุดพลาดจนได้ค่ะ แต่เราก็เพิ่งมาสังเกตหลังส่งไปแล้วเลยทำอะไรไม่ได้ค่ะ เสียดายมาก ๆ จริง ๆ
มาเรื่องการเข้าเล่มค่ะ ทางมหาวิทยาลัยไม่ได้กำหนดให้เราต้องส่งเล่มตัวจริงไป แต่เราก็อยากพิมพ์เก็บเอาไว้เผื่อจะได้ไปสัมภาษณ์ที่มหาวิทยาลัย (และอย่างที่คงรู้กันดีค่ะว่า ไม่ได้ไป...) เราพิมพ์ใส่กระดาษอาร์ตมัน แล้วก็ใส่แฟ้มที่ดูเรียบร้อยหน่อย เพราะเราลืมเว้นขอบซ้าย 2 เซนติเมตร ทำให้เข้าเล่มแบบสันกาวไม่ได้ และถ้าแก้ก็จะใส่เนื้อหาไม่พอ เราเลยเลือกใส่แฟ้มค่ะ
*ก่อนจะพิมพ์หรือส่ง อยากแนะนำให้ตรวจอย่างละเอียดอีกครั้งค่ะ ของเราพอแปลงไฟล์เป็นรูปภาพแล้วมีหลายจุดที่เพี้ยนไปค่ะ และเราเองก็มีพลาดเพราะไม่ได้ตรวจให้ดี
**สำหรับคนที่อยากเข้าเล่ม อย่าลืมเว้นขอบซ้าย 2 เซนติเมตรเด็ดขาดค่ะ แต่สำหรับคนที่ไม่ได้อยากเข้าเล่ม หรือถ้าเว้นแล้วจะใส่เนื้อหาไม่พอ หรือด้วยเหตุผลอื่น ๆ การใส่แฟ้มก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่ออกมาดูดีเหมือนกันค่ะ
***สำหรับตัวพอร์ตโฟลิโอของเรา ใครอยากดูเป็นแนวทางเราจะลงลิงก์ไว้ให้ค่ะ https://drive.google.com/file/d/1x8BQSZY64NKZTwM372geBw3riW8Z_xzr/view?usp=drivesdk
ต่อไปคือส่วนที่สำคัญที่สุดส่วนหนึ่งเลยค่ะ ซึ่งสำหรับสาขาวรรณคดีไทยอาจจะสำคัญกว่าตัวพอร์ตเลยก็ได้ นั่นก็คือ เรียงความค่ะ
เรียงความเจตจำนงในการเข้าศึกษา สำหรับเรานี่เป็นหัวข้อที่ค่อนข้างยากค่ะ อาจเพราะเราไม่ค่อยได้เขียนเรียงความเท่าไหร่ ดังนั้นเราเลยพยายามหาข้อมูลค่ะว่า เวลาเขียนเรียงความประกอบการยื่นรอบพอร์ตโฟลิโอ คนอื่นเขียนอย่างไรบ้าง นอกจากนี้ก็ไปปรึกษากับคุณครูหลายท่าน แต่ก็ยังเขียนออกมาไม่ได้เราเลยหาข้อมูลวิธีการเขียน Statement of Purpose (SoP) แบบภาษาอังกฤษ มาประกอบด้วยค่ะ สิ่งนี้ทำให้เราได้รู้ว่า การเขียนเรียงความประเภทนี้ให้ดีควรประกอบด้วยอะไรบ้าง ซึ่งเราโชคดีที่รู้ว่าต้องมีการเขียนเรียงความ เลยมีเวลาเตรียมตัวค่อนข้างมาก แต่ที่ไม่เริ่มทำตั้งแต่เนิ่น ๆ ก็เพราะอยากจะรอดูหัวข้อจากประกาศของมหาวิทยาลัยให้มั่นใจอีกครั้งค่ะ
หลังเราจดไว้คร่าว ๆ แล้วว่าต้องการเขียนถึงอะไรบ้าง ก็มาติดปัญหาเรื่องจะเขียนเปิดเรียงความของเราอย่างไรให้น่าสนใจ หลังจากลบและแก้ไปหลายครั้ง เราก็เจอกลอนที่เราเคยแต่งตอนขอย้ายสายเพราะอยากเข้าคณะนี้ เราจึงนำกลอนบทนั้นมาแต่งใหม่ค่ะ แต่เราก็ไม่ได้มีความสามารถมากนัก เลยอาจจะออกมาไม่ได้ดีอย่างที่หวังเท่าไหร่
ในส่วนเนื้อความเราก็มีโครงร่างคร่าว ๆ เหมือนกันค่ะ โดยการกำหนดไว้ว่าจะเขียนเกี่ยวกับอะไรในแต่ละย่อหน้า จากนั้นเราก็เริ่มเขียนค่ะ เขียนทุกครั้งที่มีเวลาว่าง พิมพ์ไว้ในทุกที่ ทั้งโทรศัพท์ ไอแพด จดไว้ในกระดาษก็มีค่ะ คิดไปเรื่อย ๆ เขียนไปเรื่อย ๆ ว่างเมื่อไหร่ก็จับปากกาเขียน อาจจะได้เยอะบ้างน้อยบ้าง แต่ก็ดีกว่าทิ้งงานเอาไว้ไม่ให้คืบหน้าเลย แต่เราจะมีหนึ่งไฟล์เอาไว้บันทึกส่วนที่เราพอใจและคิดว่าจะใช้จริงแน่ ๆ แล้วสะสมไปเรื่อย ๆ ค่ะ อาจจะมีเปลี่ยนลำดับก่อน-หลังบ้างแต่ก็จะไม่แก้ไขอะไรจนกว่าจะจบเนื้อความตามที่ต้องการ พอได้เนื้อหามาครบแล้ว เราก็คัดลอกไปเปิดใน word ค่ะ เพื่อตรวจดูความยาว และเริ่มเกลาภาษา ตรวจสอบความถูกต้อง ทั้งการสะกดคำ การเว้นวรรคตอน การใช้คำฟุ่มเฟือย และอีกหลาย ๆ อย่าง รวมไปถึงการตัดเนื้อหาหลายส่วนทิ้งเพื่อไม่ให้เรียงความยาวเกินกว่าที่ทางคณะกำหนด (ซึ่งก็คือ 1 หน้ากระดาษ A4 ค่ะ) และหลังจากเกลาไปเป็นสิบครั้ง แก้ไขจนมั่นใจว่าสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว ก็แปลงไฟล์ word เป็นไฟล์รูปภาพค่ะ
ในจุดนี้ก็ต้องยอมรับว่า แรก ๆ เรายึดติดกับรูปแบบที่หามามาก มันทำให้เราเขียนได้เร็วเพราะมีตัวอย่างของคนอื่น ๆ อยู่แล้ว แต่แค่ลองอ่านดูก็รู้สึกได้เลยค่ะว่าไม่เป็นตัวเองมาก ๆ และเราก็รู้สึกว่าเขียนออกมาได้ไม่ดีเลย เราเลยพยายามเป็นตัวของตัวเองมากขึ้นทีละนิดค่ะ จนสุดท้ายหลังจากเขียนไปได้พักหนึ่งเราก็เขียนไปได้เอง แทบจะไม่ได้ใช้รูปแบบที่เคยหามาอีกแล้วค่ะ
หลังที่เตรียมทุกอย่างเรียบร้อย เราก็รวบรวมไฟล์เอกสารที่ต้องส่งทั้งหมดเอาไว้ในโฟลเดอร์เดียว ตรวจสอบซ้ำหลายครั้งว่าถูกต้องครบถ้วน จากนั้นก็อัปโหลดเข้าไปในระบบค่ะ (เราลืมบอกค่ะว่าการสมัคร การส่งเอกสาร รวมถึงการประกาศผลจะดำเนินการบนเว็บไซต์มหาวิทยาลัยทั้งหมดค่ะ) พออัปโหลดเสร็จสิ้นก็ตรวจสอบความเรียบร้อยอีกครั้ง และรอค่ะ... รอว่าเราจะมีสิทธิ์สัมภาษณ์หรือเปล่า และหลังจากมีสิทธิ์สัมภาษณ์ก็มีเวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์ในการเตรียมตัวค่ะ เราอ่านข้อมูลที่มีคนมาแบ่งปันเกี่ยวกับการสัมภาษณ์ไว้เยอะมาก (ถึงจะคนละคณะก็อ่านไว้ก่อนค่ะ) ถามทุกคนที่ถามได้ นั่งจินตนาการไปว่าถ้าอาจารย์ถามแบบนี้ควรจะตอบว่าอะไร รวมไปถึงทวนเนื้อหาเกี่ยวกับพื้นฐานวรรณคดีอีกนิดหน่อยด้วยค่ะ
ถึงตอนนี้ก็รู้สึกว่ากระทู้ของเราจะค่อนข้างยาวไปหน่อยแล้วค่ะ อาจจะเยิ่นเย้อไปบ้างแต่หวังว่าจะมีประโยชน์สำหรับทุกคนนะคะ สำหรับการสัมภาษณ์เราจะขอยกไปต่อในกระทู้ต่อไปค่ะ
สำหรับใครที่มีคำถามหรืออยากคุยอยากปรึกษาสามารถทิ้งช่องทางการติดต่อไว้ได้นะคะ หรือจะส่งข้อความมาแลกช่องทางติดต่อหลังไมค์ก็ได้ค่ะ
ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่จะเข้ามหาวิทยาลัยในปีนี้นะคะ สู้ ๆ ค่ะ
1 ความคิดเห็น
โหห เป็นประโยชน์มากๆเลย มีรีวิวแบบละเอียดยิบให้ด้วยย เป็นกำลังใจให้กับคนที่จะสอบเข้านะคะ สู้ๆๆ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?