ถ้าไม่เขียนแนวตลาดนี่แทบไม่มีคนอ่านเลยเหรอคะ

ไม่ใช่แนวตลาดเป็นเรื่องแบบไหนบ้างเหรอคะ

ปัจจุบัน เขียนแบบที่ตัวเองชอบหนึ่งเรื่อง แต่ยังไม่ปังค่ะ วันนี้จะไปเขียนแนวกระแสมาแรงค่ะ อยากลองดูว่าจะเป็นอย่างไร

การเขียนนิยาย น่าจะลองหลายๆ แบบค่ะ ลองเขียน 2 แบบเลย แบบที่ตัวเองชอบ กับแบบตลาด จะได้เปรียบเทียบกันได้ค่ะ

เพราะเราก็สงสัยเหมือนกันว่าถ้าเราเขียนแนวตลาด จะดีกว่านี้ไหม

นักเขียนส่วนใหญ่ก็มั่นใจในฝีมือตัวเองทั้งนั้นแหละค่ะ เพียงแต่ความเป็นจริงมันมักจะเลวร้ายกว่าที่คิดเสมอ

ผมว่าไม่ควรคิดแบบนั้นนะ เพราะต่อให้แนวตลาดก็มีโอกาสเสี่ยงที่จะไม่มีคนอ่านอยู่ดีครับ

ลองคิดดูว่าเราขับรถ แล้วเจอร้านขายมะพร้าวเรียงกันยาวเป็นแผงตลอดถนน คิดจริงหรือว่าทุกแผงจะขายดีเท่ากันหมด

สุดท้ายคนก็เลือกสิ่งที่ต้องการอยู่ดี ดังนั้นคุณไม่ควรยึดติดกับตลาด และนำเทรนด์ไปเลย ใส่ตัวตนใส่ความรู้สึกและความรักลงไปกับงาน และนำเสนอออกมาให้ดีที่สุด แล้วถ้าเป็นแบบนั้นบางทีตลาดอาจจะเป็นแนวนิยายของคุณก็ได้ครับ

เขียนนอกกระแส อย่างแรกคนเขียนต้องชอบสิ่งที่เราเขียนเป็นคนแรกก่อนค่ะ เรามีคนอ่านอยู่ทุกเวปรวมกัน 10 ได้มั้ง 555 เหลือคนเดียวก็จะเขียนให้จบค่ะ

อาจจะมีไม่มาก แต่ก็มีครับ

นักเขียนเป็นศิลปินผู้สร้างสรรค์

ถ้าหากกล้าเขียนแนวใหม่ๆ ก็ย่อมเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน

(ถ้าสนใจอ่านหรือดูนิยายแปลกๆ ก็กดเข้ามาแวะดูงานที่ผมเขียนไว้ได้

อย่างเช่นเรื่อง

จู่ๆ ก็กลายเป็นกางเกงในของเขา

จู่ๆ ก็กลายเป็นกางเกงในของเธอ

เกิดอีกที ดันมีลำตัวเป็นหมา )

มันขึ้นอยู่กับพล็อตเรื่อง และการเล่าเรื่องที่น่าติดตาม ถ้ารู้สึกว่ายังทำได้ไม่ดี ก็อ่านเพิ่มและทำการบ้านให้มากขึ้น

การเขียนแนวนอกกระแสหมายถึงการเป็น ผู้นําเทรนด์ คนที่ทำได้ถ้าไม่ฟลุคก็จะเป็นคนที่เก่งมากจริงๆ

สิ่งที่ยากที่สุดในการเขียนนิยายนอกกระแสก็คือวิธีการเล่าเรื่อง ยิ่งเขียนแหกออกไปมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งต้องอธิบายมากขึ้นเท่านั้น และถ้าอธิบายไม่ดีมันก็จะกลายเป็นน่าเบื่อทันที

คำถามสำหรับนิยายนอกกระแสก็ คือ จะเล่าเรื่องที่น่าเบื่อยังไงให้กลายเป็นเรื่องสนุกที่แม้แต่คนที่ไม่มีความรู้อะไรเลยมาอ่านแล้วยังเข้าใจมันได้ในทันที

อารมณ์มันจะเหมือนกับตอนที่เข้าเรียนชั่วโมงประวัติศาสตร์แล้วคุณนั่งหลับอะ อาจารย์แกก็สอนถูกนะแต่วิธีการเล่าเรื่องของอาจารย์มันน่าเบื่อและเป็นเส้นตรงเกินไปเท่านั้นเอง

เราก็ถนัดแต่งแนวนอกกระแสเหมือนกันค่ะ บางครั้งก็สงสัยว่าทำไมแต่ละช่วงยุคถึงมีเรื่องแนวเดียวกันออกมาเยอะมาเลย (ยุคนี้คงนางร้ายเกิดใหม่ไม่ก็ต่างโลก) แต่ก็อย่างว่า มีคนอ่านมากคนก็เขียนมากแล้วคนก็อ่านมากขึ้นไปอีก

สำหรับเราก็คิดว่าคงไม่ใช่ว่าทุกคนจะชอบนิยายแนวเดียวกันหมด แต่อยู่ที่ว่าเราจะหาตลาดหลักของเราเจอรึเปล่า ถ้าเจอปุ๊บนักอ่านก็มักจะซื้อนิยายตามผู้เขียนที่ชอบอยู่แล้ว เหมือนกับติดลมบน คงไม่กลับมาไม่มีผู้ติดตามอีกหรอกค่ะ ถือเสียว่าช่วงนี้คือช่วงบินขึ้น เรากำลังปรับตัวตามสภาพอากาศอยู่

มองอย่างแง่ดี ในช่วงที่เขียนแฮร์รี พอตเตอร์ เจเคก็คงไม่รู้ว่านิยายที่ตัวเองแต่งจะขายได้รึเปล่า เพราะเรื่องค่อนข้างแนวใหม่ ใช้รายละเอียดมาก แต่สุดท้ายก็ดังเป็นตำนาน สำหรับเราคงแค่เสี้ยวเจเคก็คงพอใจละ

เขียนแนวระทึกขวัญอยู่ครับ ซึ่งตอนนี้ความนิยมมันตกลงไปแล้ว ต่างจากไม่กี่ปีก่อนหน้านี้

ยอมรับเลยว่าคนอ่านน้อยนะ แต่ ข้อดีก็คือ นิยายเราขึ้น Top เร็ว ขอแค่ลงไปเรื่อยๆ ต่อเนื่องหน่อย ก็ติด Top หมวดแล้ว คนเขียนมีเยอะนะ แต่ ส่วนใหญ่เขียนแล้วทิ้งๆ ไว้ ไม่ลงต่อเนื่อง

อาจเพราะคนอ่านน้อยด้วย เลย ถอดใจ หมดไฟ กัน

ถ้าชอบแนวไหนก็เขียนไปครับ อย่าไปคาดหวังเยอะ ก็คิดว่ามันเป็นงานอดิเรก เป็นรายได้เสริม

ก็แสดงฝีมือของเราไป ถ้าทำได้อย่างต่อเนื่อง และไม่แย่จนเกินไปนัก คุณสามารถแจ้งเกิดใน

หมวดนั้นๆ ได้เลย นี่คือข้อดีของการเขียนนิยายนอกระแสครับ คู่แข่งมีน้อย สามารถเจิดจรัสได้ง่าย

ส่วนแฟนคลับก็ อาจมาช้าหรือเร็ว มีเยอะหรือน้อย ก็แล้วแต่ผลงานว่าถูกใจคนอ่านมากแค่ไหน ผมเองเขียนมาตั้งนาน ลงเป็นร้อยตอน แฟนคลับยังไม่ถึงร้อยคนเลย 555+ แต่เราก็อยากเขียนต่อไปเพราะมีอีกหลายเรื่องที่อยากจะเขียน ก็ต้องปั่นเรื่องที่ลงอยู่ให้จบก่อน (ชื่อ สาปสายฝนครับ อิอิ)

ท้อได้แต่อย่าถอย และอย่าคาดหวังสูง ในสักวันหนึ่งจะต้องมีคนเห็นผลงานที่เราตั้งใจรังสรรค์ขึ้นมาอย่างแน่นอน ^^ เหนื่อยหน่อยนะ แต่ก็เขียนมันด้วยความรักไม่ใช่เหรอ

นี่ก็เขียนตามที่ตัวเองอยากเขียน ก็ไม่ค่อยมีคนอ่านเท่าไหร่ค่ะ555

แต่จะให้เขียนตามกระแสก็ไม่ค่อยจะมีไอเดีย เช่นกัน TOT

ถ้าผมโยนหนังสืออะไรสักอย่างหนาๆที่คุณไม่รู้สึกสนใจในเรื่องนั้นแล้วให้คุณไปอ่าน คุณจะอยากอ่านไหมครับ? การที่เขียนแล้วไม่มีคนอ่านมันมีหลายสาเหตุ ทั้งไม่ใช่แนวที่นิยิม หรือไม่ก็เขียนแย่เรียบเรียงแย่เอง ยังไม่ต้องพูดถึงแนวตลาดหรือไม่แนวตลาด นักเขียนส่วนใหญ่ก็มีความมั่นใจในตัวเองทั้งนั้น แต่ความมั่นใจมันไม่ได้หมายความว่าเป็นจริงตามนั้นครับผม ก่อนอื่นผมอยากจะถามก่อนว่าเอาอะไรมามั่นใจ เคยเขียนแล้วติด top? เคยเขียนแล้วยอดคนอ่านหลักหลายล้านหรอครับ? ถ้าเคยมันก็ต้องมีฐานแฟนระดับหนึ่งนะครับ การที่เขียนแล้ไม่มีคนอ่านเลยเนี่ยมันแปลกอยู่นะ อย่าพิมพ์เหมือนแนวตลาดเขียนแล้วต้องมีคนอ่านตลอด บางทีเขียนแล้วก็ไม่มีคนอ่านครับ มันไม่ได้ง่ายดายอะไรขนาดนั้น ส่วนตัวผมเขียนแนวที่ผมชอบอ่าน เพราะถ้าเขียนแนวที่ชอบ ผมจะรู้สึกได้ทันทีว่าเนื้อหาช่วงไหนน่าอ่าน เนื้อหาช่วงไหนน่าเบื่อ มันทำให้ผมรักษาฐานนักอ่านได้ง่ายกว่า ผมโชคดีที่แนวที่ผมชอบคือแนวตลาด ส่วนคนที่เขียนไม่ใช่แนวตลาดเนี่ย มันก็ต้องยอมรับว่ากลุ่มนักอ่านมันก็ต้องน้อยลงตาม เพราะไม่ใช่แนวที่เขาชอบ มันเป็นแนวเฉพาะกลุ่ม และถ้าคุณเขียนแล้วยังดึงคนที่ชอบแนวเฉพาะกลุ่มซึ่งมีน้อยอยู่แล้วให้เข้ามาอ่านไม่ได้ มันก็จะเป็นแบบนั้นแหละ ไม่มีคนอ่าน

ถึงไม่ใช่แนวตลาดแต่ก็มีนะครับคนอ่าน อาจจะมาช้าไปบ้าง เพราะนิยายมีเยอะมาก

สู้ๆครับ แต่งต่อไปนะครับ พยายามอัพทุกวันสม่ำเสมอเพื่อให้นักอ่านเห็นเรื่องของเราง่ายขึ้น

ก็ไม่รู้นะ จะกระแสรึไม่กระแส เพราะเราจะเขียนในแบบที่เราอยากเขียน ถ้าเราอ่านของเราเองแล้วยังไม่ชอบรู็สึกว่าไม่ใช่ ก็จะยังไม่อัป เขียนอ่านจนรู้สึกว่าชอบว่าใช่ถึงจะอัป แต่มุมมองคนอ่านก็ต่างๆกันไปแหละ

แต่สิ่งแรกที่คนเขียนต้องรู้สึกคือ ต้องชอบต้องรักสิ่งที่ตัวเองเขียน อ่านเองแล้วมันได้มันใช่อะไรงี้ (อาจตอบไม่ค่อยตรงคำถาม แต่อยากตอบ นานๆเข้ามาที^_-)

พยายามจับคนอ่านให้ได้ตั้งแต่ตอนแรกครับ ถ้าวรรคแรกหรือประโยคแรกได้ยิ่งดี นักเขียนเก่งๆจะพยายามคิดตอนเปิดเรื่องให้จับคนอ่านได้ทันที

เขียนนิยายตามกระแสอาจจะทำให้คนเปิดอ่านง่าย แต่ถ้าจับคนอ่านไม่ได้ในตอนแรกก็ไปไม่รอดเหมือนกัน