มาดูภาพหลุดดาราก่อนเข้าวงการกัน
ตั้งกระทู้ใหม่
ต่อกรณีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงงานหนังวีซีดีเรื่อง "เนื้อหุ้มเหล็ก" กำกับโดย "ทรนง ศรีเชื้อ" ซึ่งเป็นผลงานชิ้นแรกๆ ในการเข้าสู่วงการบันเทิงของเธอที่ค่อนข้างจะหวือหวาอยู่ในขณะนี้
"ถ้าย้อนเวลาได้เมคงไม่เลือกทางเดินนั้นค่ะ ไม่ทำแล้วค่ะ เพราะพี่เลี้ยงและผู้ใหญ่อยากให้เราทำงานในวงการไปนานๆ และอยากให้มีภาพลักษณ์ที่ดีๆ..."
ขึ้นชื่อว่ามนุษย์แน่นอนว่าทุกคนย่อมมี อดีต ด้วยกันทั้งนั้น
ไม่ว่าจะเป็นคนที่อยู่ในฐานะอะไร จะ ยาก - ดี มี - จน จะเป็นคนเลว หรือคนดี
สำหรับใครที่มีความทรงจำทางด้านที่เป็นบวกอยู่
หลายคนคงอยากจะให้ภาพแห่งความประทับใจที่ชวนให้นึกถึงเหล่านั้นได้ฉายย้อนเข้ามาในชีวิตบ่อยๆ ตรงกันข้ามสำหรับใครที่มีแต่ความทรงจำที่เลวร้าย
อดีตที่ว่าก็คงจะไม่ต่างอะไรไปจากรอย "แผลเป็น" ที่ผู้เป็นเจ้าของคงอดรู้สึกเจ็บแปล๊บๆ ขึ้นมาไม่ได้ยามเมื่อภาพเก่าๆ ของเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดรอยที่ว่านี้ย้อนกลับมาในความนึกคิด
แต่ก็คงจะไม่มีอะไรที่เลวร้ายไปกว่าการที่คนๆ นั้นรู้สึกว่า
เหตุการณ์ที่มาของแผลเป็นที่ว่าคือ "อุปสรรค" ที่มีผลกระทบต่อสถานะ ชื่อเสียง และการดำเนินชีวิตในปัจจุบันของตนเอง หากมีใครมาล่วงรับรู้และแฉมันออกมา
โดยเฉพาะอาชีพที่ต้องขายภาพลักษณ์ อย่างคนในวงการบันเทิงซึ่งหลายคนล้วนเข้าข่ายในลักษณะที่ว่า ในขณะที่บางคนเลือกที่จะอยู่อย่างเข้าใจและไม่คิดว่าความพลาดพลั้งนั้นคือ รอยแผล
ก็มีคนบันเทิงไม่น้อยเลือกที่จะใช้วิธีการ ปิด บัง
ไม่อยากให้มีคนพูดถึงเพราะรู้สึกอายต่อแผลเป็นที่ว่า ขณะเดียวกันกับที่อีกหลายคนก็รู้ทั้งรู้ว่าสิ่งที่ทำมันจะก่อให้เกิดแผลเป็นกับตัวเอง แต่เจ้าตัวก็ยังเลือกที่จะทำเพราะมองเห็นผลประโยชน์ที่คุ้มค่ากว่าเสียงวิจารณ์ของคนในสังคมที่จะตามมา
ก่อนกรณีของสาว เมจิ เอง ไม่นานมานี้ก็เคยมีเหตุการณ์ลักษณะคล้ายๆ กัน
ออกมาจากเพื่อนร่วมแก๊งค์พาวเวอร์ทรีของเธอ อย่างนาย ปอ ทฤษฎี สหวงษ์ เมื่อมีคนเอาภาพชายหนุ่มในสภาพเกือบล่อนจ้อน นุ่งเพียงกางเกงลิง(สีขาวเนียน) ตัวเดียวออกมาโพสไปทั่วอินเทอร์เน็ตจนกลายเป็นที่ฮือฮาขึ้นมาเพราะมีการระบุว่าเป็นภาพของพระเอกหนุ่มชื่อดังมาแรงทางช่อง 3
สำหรับหนุ่มปอคนนี้เคยผ่านงานในวงการบันเทิงมาค่อนข้างมาก
ไม่ว่าจะเป็นการประกวดหนุ่มคลีโอ ในปี 2004 ซึ่งก็ได้ตำแหน่งมาครอง, ผลงานถ่ายโฆษณาอีกหลายชิ้น และถือเป็นเด็กปั้นที่มามาแรงของช่อง 3 เพราะก้าวเข้าวงการมาไม่เท่าไหร่
เจ้าตัวก็ได้รับบทที่เป็นพระเอกไปแล้วไม่ต่ำกว่า 5 - 6 เรื่อง
รวมถึงล่าสุดก็ยังมีผลงานเพลงร่วมกับศิลปินค่ายอาร์เอสฯ ออกมาอีกต่างหาก
ทั้งนี้ทันทีที่มีภาพออกมา ทั้งหนุ่มปอและผู้ใหญ่ของช่อง 3 เอง
ต่างยืนยันปฏิเสธ (ทั้งๆ ที่ภาพก็ไม่ได้รุนแรงอะไร) พร้อมกับบอกว่าน่าจะเป็นภาพที่เกิดจากการตัดต่อโดยยกเอาเรื่องของรอยสักมายืนยัน
แต่ตอนหลังก็เป็นหนุ่มปอออกมาบอกว่า
ภาพชายหนุ่มนุ่งกางเกงลิงตัวเดียวเป็นตนจริงๆ โดยถ่ายไว้สมัยเรียนมัธยม แต่เป็นแค่การส่งเสริมการใช้ผลิตภัณฑ์ความงามสำหรับผู้ชายเท่านั้นไม่ได้ส่อไปถึงเรื่องยั่วยวนทางเพศแต่อย่างไร
เป็นที่น่าสังเกตว่า ส่วนใหญ่ภาพฉาวๆ พวกนี้จะออกมาตอนที่ผู้เป็นเจ้าของนั้น
มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปแล้ว ซึ่งก็คงจะไม่แปลกอะไรเพราะหากเป็นคนธรรมดาก็คงจะไม่มีใครสนใจเท่าใดนัก ตัวอย่างนี้ที่เห็นได้ชัดก็อย่างกรณีของนาย ตุ้ย เอเอฟ3 (เกียรติกมล ล่าทา) ซึ่งดังเป็นพลุแตกตอนอยู่ในบ้านอะคาเดมี แฟนเทเซีย ด้วยภาพลักษณ์ของการเป็นเด็กหนุ่มนิสัยดี น้ำใจงาม มีความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ
ทว่าพอออกมาจากบ้านไม่นานพร้อมๆ กับการคว้าตำแหน่งแชมป์
ก็มีผู้ต้อนรับการเป็นดาราของเขาด้วยการเอาภาพของผู้ชายจากนิตยสารฉบับหนึ่ง(ที่เป็นที่เข้าใจกันดีว่า กลุ่มลูกค้าหนังสือที่ว่านี้คือกลุ่มคน(ประ)เพศไหน)
ซึ่งภาพของชายหนุ่มหน้าละอ่อนที่ว่า
ได้โชว์หวิว เห็นกางเกงลิงนั้นทำเอาสาวน้อยสาวใหญ่ สาวแท้สาวเทียมที่เป็นแม่ยกอกสั่นขวัญแขวน หลายคนพยายามคิดว่านั่นน่าจะเป็นภาพตัดต่อเพื่อทำลายหนุ่มตุ้ยมากกว่า
แต่แล้วทุกอยางก็กระจ่าง เมื่อหนุ่มตุ้ยยอมรับเองว่าเป็นภาพของตนจริงๆ
แต่ยืนยันว่าไม่มีเจตนาถ่ายออกมาเพื่อโป๊หรือขายเรื่องทางเพศแต่อย่างไร? แค่เป็นการถ่ายชุดว่ายน้ำในสวนสยามเท่านั้น ขณะที่เวที "เดอะสตาร์" เองก็ไม่น้อยหน้าเช่นกัน
เมื่อมีคนนำเอาภาพสมัยก่อนของหนุ่มบี้ "สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว" รองแชมป์เดอะสตาร์ 3 ในสภาพนุ่งกางเกงในตัวเดียวออกมาเผยแพร่เช่นกัน ซึ่งเจ้าตัวเองก็ไม่ปฏิเสธ โดยบอกว่าเป็นการถ่ายสมัยเข้าวงการแรกๆ และไม่คิดว่าจะมีผลกับงานในปัจจุบัน
ก่อนจะเอ่ยปากชี้แจงว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นมา
เพราะความที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์และไม่คิดว่าภาพจะออกมาหวือหวาเช่นนี้
อีกหนึ่งรายการเรียลิตี้ บิ๊กบราเธอร์ส เมื่อปีที่แล้ว (ปีที่ 2)
ก็มีเรื่องในทำนองนี้เช่นกัน กับผู้เข้าแข่งขันที่มีชื่อว่า "ออย สิรินธร ปานสมุทร" จะแตกต่างกันก็ตรงที่สาวออยเองยังไม่ถึงขั้นจะก้าวขึ้นมาเป็นดารา(บนดิน)
ก็มีผู้นำเอาประวัติและภาพกายถ่ายแบบในแนวนู้ดชนิดเห็นหน้าอกหน้าใจอย่างชัดเจนออกมาเผยแพร่กระทั่งเป็นเหตุให้เธอต้องเดินออกจากบ้านเป็นคนแรกของการแข่งขัน
อย่างไรก็ตาม แทนที่เจ้าตัวจะโดนต่อว่าต่อขาน
กลับเป็นตัวของรายการเองที่โดนจวกอย่างหนักว่าต้องการสร้างกระแสของรายการเพราะน่าจะมีส่วนรู้เห็นและทราบมาก่อนว่าประวัติของสาวออยเป็นเช่นไร ซึ่งทางกันตนาฯ ก็ได้ออกมาปฏิเสธเสียงวิจารณ์ดังกล่าว
ขณะที่ทางด้านสาวออยเองก็ยืนยันว่า
ไม่เคยคิดจะใช้รายการดังกล่าวสร้างชื่อและก็ไม่ได้คิดที่จะปิดบังประวัติตนเอง พร้อมกับบอกด้วยว่าจะต้องยึดงานในแนวนี้ต่อไปเพราะเป็นจุดขายของตนเองไปแล้ว แต่ก็คงจะต้องลดลิมิตความโป๊ลงมา
ไม่ใช่เพราะข่าวหรือมีใครขอไว้หรอกค่ะ
และก็ไม่ได้เบื่อด้วยแต่ออยเป็นมาตั้งนานแล้วความคิดที่จะไม่ถ่ายแบบนั้นอีก คือเราก็เสียใจนะคะถึงเวลาตอนนั้นก็คือถ่ายเสร็จแล้วก็ฮึ้ย!เราถ่ายทำไม ไม่น่าถ่ายเลย ก็มีคิดบ้างจิตใต้สำนึก ตอนนี้ยังไงก็ไม่เอาแล้วค่ะ"
แม้แต่เวทีนายแบบอย่าง M Thailand
ของนางแบบชื่อดัง ลูกเกด เมทินี กิ่งโพยม ก็มีข่าวอื้อฉาวไม่แพ้กัน เมื่อมีข่าวร่อนเต็มอินเทอร์เน็ตว่า 2 ผู้เข้าแข่งขันอย่าง เคน สุรินทร์ กุญชรินทร์ และ โบ เจษฎา คงพันธุ์ นั้นมีประวัติที่ดูจะไม่เหมาะสมสักเท่าไหร่
โดยในกระทู้นั้นแฉว่าหนุ่มเคนเคยถ่ายนู้ดมาก่อน
ส่วนหนุ่มโบเองก็เคยเล่นหนังเอ็กซ์มาแล้ว ซึ่งฝ่ายหลังก็ได้ออกมาปฏิเสธว่าไม่เคยถ่าย เพราะตนเองขี้อายและทางบ้านก็ค่อนข้างมีฐานะคงไม่เคยทำอะไรเช่นนั้น
ย้อนกลับเมื่อประมาณ 3 ปีที่ผ่านมา
นักแสดงที่ถือว่าฮือฮาเป็นอย่างมากเมื่อหลายคนรับทราบถึงประวัติในอดีตของเธอก็คือสาวอกตู้ม "แน็ท เกศรินทร์ ชัยเฉลิมพล"
เพราะถึงแม้เธอคนนี้จะสร้างชื่อขึ้นมาจากหนังแผ่นที่ค่อนข้างจะแรงเพราะเป็นหนังแนวเรตอาร์อยู่แล้วก็ตาม ทว่าทันทีที่สังคมได้รับทราบและรับรู้ว่าเธอเป็นดาวดาราหนังระดับเรตเอ็กซ์มาก่อน หนังแผ่นวีซีดีที่เธอแก้ผ้าล่อนจ้อน จูบจริง ก็กลายเป็นงานแบบเด็กอนุบาบไปเลยทีเดียว
ทั้งนี้ระยะแรกๆ ที่เป็นข่าวออกมา นักแสดงหญิงเองก็ไม่ค่อยจะยอมรับสักเท่าไหร่
ต่อเมื่อหลายคนได้เห็นผลงานที่เป็นหนังเอ็กซ์ของเธอและมีการนำมาพูดถึงมากขึ้นจนหนังขาดตลาด เจ้าตัวจึงเริ่มเสียงอ่อยแต่ไม่วายที่จะบอกว่าทำไปเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ถูกหลอก และมีปริมาณไม่มาก
แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครเชื่อเธอสักเท่าไหร่
เพราะปริมาณงานอย่างว่าของเธอนั้นมันค่อนข้างจะมีอยู่ชนิดสวนกับคำพูดของเธอเยอะทีเดียว
ที่สำคัญสีหน้าแววตา
และลักษณะลีลาท่าทางของเธอระหว่างแสดงนั้น มันชวนให้คิดว่าเธอน่าจะมีประสบการณ์และ X วชาญกับงานประเภทที่ว่าไม่น้อยเลย
เหล่านี้ถือเป็นตัวอย่างเพียงส่วนน้อยของคนในวงการบันเทิง ที่ต่างก็มีอดีตที่เป็นเสมือนรอยแผล
ว่ากันว่าหากโลกนี้มีเครื่องไทม์แมชชีนที่สามารถพามนุษย์ย้อนเวลาได้จริงๆ ส่วนใหญ่ของคนที่ต้องการจะขึ้นเครื่องนี้ล้วนแล้วแต่อยากจะกลับไป "แก้ไข" เหตุการณ์ในอดีตมากกว่าความรู้สึกที่อยากจะกลับไปสู่ช่วงเวลาที่ตนเองมีความสุขทั้งสิ้น
จากตรงนี้เราอาจจะสรุปอย่างหยาบๆ ได้หรือไม่ว่า
"แผลเป็น" ที่เกิดจากความรู้สึกผิดของคนบางคนนั้นมิอาจจะลบหรือชำระล้างให้จางลงได้ด้วยตัวยาที่เรียกกันว่า "เวลา" การแสร้งทำเป็นลืม หรือพยายามไม่คิดถึง
หนทางเดียวที่จะแก้ได้ก็คือ ทำอย่างไรที่จะไม่ให้เกิดรอยเผลเป็นที่ว่านี้ต่างหาก
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: ผู้จัดการออนไลน์
10 ความคิดเห็น
ทุเรศจัง
มองไม่เหงง่า
ทุเรสเช่นการ
มองไม่เห็นอ่ะ เเต่รู้ว่าต้องน่าเกลียด
ไม่ชัดอ่ะ แต่เหงอารายแว๊บๆๆ โตๆอ่ะ
PS. ~๑NongMiw๑~แอบร้องไห้ตอนกลางคืนเพราะคิดถึงเทอตลอดมา แอบรักเทอทุกครั้งที่ได้ยิน แอบปลื้มทุกครั้งที่คุยกัน แอบยิ้มให้เทอทุกครั้งที่พูดกัน ฉันอยากจะบอกว่ากลับมาเร็วๆๆนะ เวลาของเทอชั่งรอนาน
ทามปายด้ายน้า เฮ้อ
http://www.Weloveshopping.com/shop/annann เวปนี้เลยค่ะ เปลี่ยนคนดำมากให้เป็นคนขาวมาแล้วค่ะ แม่ค้าเป็นคนที่ดำมากๆค่ะ ดำตั้งแต่เกิดเลยค่ะ ลองมากับตัวเองแล้วค่ะ จึงคัดสรรตัวที่ดี่ที่สุดมาให้ลูกค้าได้ลองใช้ค่ะ เพราะตัวเองลองมาหมดทุกอย่างแล้วค่ะ จึงรู้ดีค่ะ ว่าตัวไหนขาวจิง หรือหลอกลวง สนใจขอคำปรึกษาได้นะค่ะ เข้าไปโพสไว้ในเวปบอร์ดได้เลยค่ะ ขอดูรูปได้นะค่ะ จะได้มั่นใจค่ะ ว่าแม่ค้าดำมากจิงๆ ดำเหมือนลูกนิโกรเลยค่ะ
ทามมายคิดกานอย่างนี้อา แย่จังอู้107
ตลกจัง1
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?