Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ผี~~ ใครเกิดวันไร รองมาดู สยองแน่ +เรื่องเล่าผี ๆ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

~~~อันนี้ลองอ่านดูก่อนนะ กระทู้ที่ คนอื่นๆ เล่ามาน่ะ
ไม่เกี่ยวกะเรา หุหุ ^^ ก๊อบมาให้อ่าน

เด๋ววันเกิด  ดูอิก ที่ คห. นะ

สำหรับคนชอบเรื่องผีๆ

ก่อนที่จะเข้าเรื่องเล่าผีๆ  เรามาทำความรู้จักกับชีวิตหลังความตายกันก่อนเลยนะคร๊าบบ

ปริศนา 49 วัน ชีวิตหลังความตาย
*=* เนื้อหายาวไปนิด แต่เชื่อป๋มเต๊อะ น่าสนใจดีนะครับ อ่าน ๆ ๆ ให้จบ นะ นะ นะ *=*
มนุษย์และ!มิได้สิ้นสุดที่ความตาย เพราะการ “ตาย”
หมายถึงสภาพร่างกายที่ไม่สามารถให้บริการแก่จิตวิญญาณใช้งานต่อไปได้อีกวิญญาณยังคงอยู่
ถึงแม้ร่างกายจะหมดอายุขัยไปแล้วทั้งนี้สภาพการตายจะบ่งบอกให้รู้ว่าจิตวิญญาณนั้นไปสุคติหรือลงสู่นรกภูมิ
1. ตอนตายใหม่ ถ้าหากสีหน้าปกติร่างกายอ่อนนิ่มสีหน้าเหมือนคนมีชีวิตอยู่เนื่องจากได้บรรลุธรรม ดวงวิญญาณจะไปสู่สุคติ
2. ตอนตายใหม่ๆ หน้าตาซีดผาด เหมือนคนตกใจ แสดงว่าวิญญาณได้ตกสู่นรกแล้ว
3. ตอนตายใหม่ๆ ร่างกายแข็งทื่อ หน้าตาน่ากลัวเพราะความตกใจบางคนจะกรีดร้องเสียคล้าย!คนเหล่านี้จะไปเกิดเป็น!
4. ชนิดสังเกตได้จากตา หู จมูก ปาก ตาจะมีน้ำตาออก หูจะมีขี้หู จมูกจะมีน้ำมูก ปากจะมีน้ำลายฟูมปาก เป็นทวารที่ไม่สะอาด 4 ช่องทางเมื่อจิตวิญญาณออกทางนี้จะเกิดเป็น! 4 ประเภท
- ตา ชอบดูสิ่งเหลวไหล ลุ่มหลงในรูปต่างๆ คนเหล่านี้เวลาใกล้ตายดวงตาจะเบิกกว้าง จะไปเกิดเป็น!ปีก (เกิดออกจากไข่)
- หู ชอบฟังเรื่องเหลวไหล เรื่องซุบซิบนินทา คนเหล่านี้เวลาตายหูจะชันขึ้นจะไปเกิดเป็น!ที่เกิดจากครรภ์ เช่น ช้าง ม้า วัว ควาย

- จมูก ชื่นชมกลิ่นคาวโลกีย์ เช่น เงินทอง สุรา นารี การพนันชื่อเสียงลาภยศ และค่านิยมที่ผิดศีลธรรม ฯลฯ จะไปเกิดเป็นแมลง มด ยุง แมลงวัน ฯลฯ บาปหนักมากวิญญาณจึงถูกตีเป็นเศษวิญญาณ
- ปาก ชอบพูดเรื่องเหลวไหล พูดนินทา พูดวิจารณ์ พูดกล่าวร้ายป้ายสีด่าคำหยาบคาย คนเหล่านี้เวลาตาย ปากจะอ้าค้างอยู่ตลอดจะเกิดเป็น!น้ำไปอยู่กับรสชาติที่โสโครกและสกปรก เมื่อออกจากร่าง วิญญาณจะไปที่ไหน? ดวงวิญญาณที่ออกจากร่างในตอนแรกจะวนเวียนอยู่บริเวณนั้น พอได้สติก็จะมีท่านมัจจุราชทำหน้าที่มานำเอาวิญญาณของมนุษย์หรือ!ที่ชะตาถึงฆาต พาไปยังยมโลก เพื่อตรวจสอบบาปบุญความดีความชั่ว ในขณะที่มีชีวิตอยู่วิญญาณบาปจะถูกนำตัวส่งไปนรก 8 ขุมใหญ่ แต่ละขุมแบ่งย่อยขุมละ 36 แห่ง แต่ละแห่งมีการลงทัณฑ์และทรมานอีก 800 ด่าน แต่ละด่านมีเครื่องทรมานนับไม่ถ้วน วิญญาณบางดวงอาจตกนรกทั้ง 8 ขุมเลยก็มี โดยเฉพาะคนที่ทำกรรมชั่วมหันต์หรือเรียกว่า “อนันตริยกรรม” มีอยู่ 5 อย่าง
คือ 1.ฆ่าพ่อ 2.ฆ่าแม่ 3.ฆ่าพระอรหันต์ 4. ยุยงสงฆ์ให้แตกแยก 5. ทำร้ายพระพุทธเจ้าห้อเลือด
หลังจากที่คนเราตายประมาณ 1-2 วัน ปกติแล้ว เขาจะไม่รู้ว่าตัวเองตาย 7 วันให้หลังเขาจึงรู้ว่าตนเองตายแล้ว วิญญาณจะถูกบริเวณไว้ 49 วันเพื่อรอพิจารณาคดีในระหว่างนั้นผู้ตายก็กำลังรอบุญกุศลจากลูกหลานทางโลกที่กำลังง่วนอยู่กับงานศพเรามาดูปรากฏการณ์ 49 วัน ชีวิตหลังความตาย
เขาจะไม่รู้ว่าตัวเองตาย 7 วันให้หลังเขาจึงรู้ว่าตนเองตายแล้ว วิญญาณจะถูกกักบริเวณไว้ 49 วันเพื่อรอพิจารณาคดีในระหว่างนั้นผู้ตายก็กำลังรอบุญกุศลจากลูกหลานทางโลกที่กำลังง่วนอยู่กับงานศพเรามาดูปรากฏการณ์ 49 วัน ชีวิตหลังความตาย
ขณะที่วิญญาณของผู้ตายออกจากร่างชีวิตหลังความตายก็เริ่มต้นเปิดฉากขึ้นในโลกที่ผู้ตายต้องเข้าไปเพียงลำพังเท่านั้นไม่มีสิ่งใดเลยที่สามารถเอาติดตัวจากโลกมนุษย์ได้เว้นเสียแต่บาปกับบุญเท่านั้น
เจ็ดวันรอบแรก วิญญาณผู้ตายต้องเดินผ่านดงหมาป่า ซึ่งมีฝูงหมาป่าดุร้ายเหมือนเสือขวางทาง เมื่อวิญญาณบาปไปถึงก็เกิดหวาดกลัวไม่กล้าเดินต่อไป ฝูงหมาป่าเห็นดังนั้นก็กระโจนเข้าขย้ำขบกัดวิญญาณบาปจนเลือดท่วมตัวกรีดร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดทุกขเวทนา ส่วนวิญญาณผู้ประกอบกรรมดี เมื่อมาถึงดงหมาป่า ก็จะมีหมู่เทวะ ทูตคอยพิทักษ์คุ้มครองพวกหมาป่าได้แต่นิ่งเฉยไม่กล้าทำอะไร จึงผ่านไปได้โดยปลอดภัย

เจ็ดวันรอบที่ สอง เมื่อวิญญาณผู้ตายมาถึงด่านประตูผีเจ้าหน้าที่ผู้รักษาด่านเมื่อเห็นเป็นวิญญาณบาป ก็จะทุบตีอย่างไม่ปรานีและยังมีพวกเจ้ากรรมนายเวรพากันมาทวงหนี้เวลานั้นส่วนวิญญาณผู้ประกอบกรรมดีเมื่อมาถึงด่านประตูผี จะได้รับการต้อนรับและสามารถผ่านด่านนี้ไปโดยปลอดภัย
เจ็ดวันรอบที่ สาม เมื่อวิญญาณผู้ตายมาถึงยมโลกถ้าเป็นวิญญาณบาปก็จะถูกโซ่ตรวนไว้และถูกบังคับนำไปอยู่ตรงหน้าหอกระจกส่องกรรมยามมีชีวิตทำชั่วอะไรภาพก็จะปรากฏขึ้นเองอย่างอัตโนมัติเสร็จแล้วก็จะถูกคุมตัวไปรับการพิจารณาโทษ ถึงวิญญาณบาปจะเริ่มสำนึกผิด ตอนนี้แต่ก็สายเสียแล้ว ส่วนวิญญาณผู้ประกอบกรรมดี เมื่อมาถึง จะได้รับการต้อนรับมีเจ้าหน้าที่พาไปท่องเที่ยวนรกขุมต่างๆและพาไปดูสภาพของบรรดาญาติพี่น้องที่ทำบาป กำลังรอคอยการพิจารณาตัดสินความผิด

เจ็ดวันรอบที่ สี่ เมื่อมาถึงด่านภูเขากระดาษเงินกระดาษทองการจะขึ้นไปบนภูเขาลูกนี้ยากลำบากมาก
กระดาษเหล่านี้ได้มาจากลูกหลานญาติพี่น้องในเมืองมนุษย์หลงงมงายเผาส่งไปให้ทับถมกันจนเป็นภูเขาเลากาซึ่งตามความเป็นจริงแล้วแม้ผู้ตายจะได้รับก็ไร้ประโยชน์

เจ็ดวันรอบที่ ห้า วิญญาณผู้ตายมาถึงหอดูบ้านเดิม ได้เห็นลูกหลานคนในครอบครัวต่างไว้ทุกข์ด้วยความเศร้าโศกเสียใจกับการตายของตนถึงตอนนี้จึงได้รู้ว่าตนเองตายแล้ว ไม่อาจกลับบ้านได้อีกได้แต่เสียใจอาลัยอาวรณ์

เจ็ดวันรอบที่ หก เมื่อวิญญาณผู้ตายมาถึงด่านคุมบัญชียมบาลจะสั่งให้เจ้าหน้าที่ตรวจดูบาปบุญที่ผู้ตายได้สร้างสมตอนมีชีวิตหลังจากหักลบกันแล้ว ถ้าบุญมีมากกว่าบาปก็จะให้ไปเกิดยังสุคติภูมิ ถ้าบาปมีมากกว่าบุญ จะส่งไปยังนรกภูมิ รับทุกข์อย่างน่าเวทนา

เจ็ดวันรอบที่ เจ็ด เมื่อวิญญาณผู้ตายไปถึงด่านตรวจสอบยมบาลก็จะสั่งเลขาให้ตรวจสอบดูว่าผู้ตายตอนมีชีวิตอยู่ได้ฆ่า!ตัดชีวิตหรือไม่ ถ้าได้ถือศีลกินเจละเว้นจากการฆ่า!ก็จักลหุโทษ ถ้ามัวหลงผิดฆ่า!เพื่อความสุขของปากท้องก็จะเพิ่มโทษเป็นเท่าตัวที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ก็ขอให้ทุกคนในขณะมีชีวิตอยู่นั้นเร่งสะสมความดีกันให้มากๆ นรก-สวรรค์นั้นไม่ใช่สิ่งลวงโลกตอนนี้ท่านอาจยังไม่เห็น แต่สักวันท่านก็ต้องเห็น กฎแห่งกรรมนั้นเป็นเรื่องจริงขอให้ทุกคนใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท

o0o0o เพื่อนเอามาให้อ่าน ก็แบ่งกันอ่านนะคับ อืมมม โปรดใช้วิ จา ระ นะ ยาน ในการอ่านด้วยนะครับ อืมม แล้ว เพื่อน ๆ อ่านแล้วเห็นว่างัยกันมั้งอ่ะคับป๋มเล่าสูกันฟังด้วยอ่ะนะo0oo0


PS.  อ่ะนะ ฝากได หุหุ เงียบเหงามากเรยอ่ะ ว่าง ๆ แวะไปหน่อยน้าจ๊ะ ทุกคน BaBy..

แสดงความคิดเห็น

>

59 ความคิดเห็น

••----l3ouY----•• 6 พ.ค. 50 เวลา 15:06 น. 1

อันนี้ วันเกิด ที่เกี่ยวกะ เรื่องระวัง ผี ๆ

(รับรองอ่านแล้วสยองไปหลายวัน บรื๋อออ)

เพื่อนด ว ง เ ห็ น ผี ใ ค ร เ กิ ด วั น ไ ห น ก็ ดู กั น ไ ด้ เ ล ย ดวงเห็นผี ใครเกิดวันไหนก็ดูกันได้เลย >> >
>> >ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์
>> >หลีกเลี่ยงที่จะใกล้ชิดกับหญิงตั้งครรภ์ในสภาพที่คุณอ่อนแอ
>> >
>>
>> >ไม่ทางกายก็ทางใจเพราะบางสิ่งที่กำลังจะเกิดกับหญิงตั้งครรภ์อาจทำให้คุณเห็นบาง
>> >อย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้
>> >
>> >ผู้ที่เกิดวันจันทร์ >> >ผู้ที่เกิดวันนี้ควรหลีกเลี่ยงหรือห่างไกลการมองสะท้อนของกระจก
>> >โดยเฉพาะกระจกร้าว ตั้งแต่หลังเที่ยงคืนเป็นต้นไป
>>
>> >และอย่าทักเสียงแปลกที่เหมือนเสียงเรียกร้องเพราะนั่นอาจจะเป็นเสียงทวงถามวิญญา
>> >ณของคุณ
>> >
>> >ผู้ที่เกิดวันอังคาร >>
>> >ห้องน้ำเป็นสถานที่ที่ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะก้าวเท้าผ่านถ้าไม่จำเป็น
>> >เพราะอาจมีบางสิ่งแฝงกายและติดตามตัวคุณ
>> >มิฉะนั้นคุณอาจเห็นบางอย่างที่ไม่ควรเห็น หรือคุณอยากลองดี
>>ก้เชิญ!!!
>> >
>> >ผู้ที่เกิดวันพุธ
>> >ห้ามเด็ดขาดกับการไปงานศพ เพราะว่าจะมีภูตผีตายโหงสิงสถิต
>> >ติดตามตัวแต่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้
>> >หลังกลับจากพิธีให้รีบอาบน้ำ(โดยเฉพาะน้ำว่าน)ก่อนเที่ยงคืน
>> >
>> >ผู้ที่เกิดวันพฤหัส
>> >อย่ามองหัวบันไดในที่มืด อย่าทักเสียงแปลกที่เหมือนเรียกชื่อคุณ
>> >คุณไม่ได้หูแว่วหรอก
>>เพียงแต่มีบางสิ่งต้องการที่จะสื่อบางอย่างกับคุณ
>> >ให้คุณหลับตาแล้วถอยหลัง 1 ก้าวแล้วเสียงจะหายไป
>> >
>> >ผู้ที่เกิดวันศุกร์
>> >กรรมอดีตจากชาติภพที่แล้วกำลังติดตามเป็นเงา
>> >ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางโดยทางน้ำเพราะว่าธาตุน้ำ
>> >อาจเป็นตัวเชื่อมต่อระหว่างโลกวิญญาณกับโลกมนุษย์
>> >
>> >ผู้ที่เกิดวันเสาร์
>> >อย่าแปลกใจที่คุณจะได้ยินเสียงสุนัขเห่าหอนอย่างโหยหวน
>> >เพราะว่าดวงวิญญาณกำลังรายล้อมรอบตัวคุณ
>> >สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับคนเกิดวันนี้ก็คือ อย่าจ้องมองศาลพระภูมิ
>> > กรรมดันเกิดวันเสาร์


PS.  อ่ะนะ ฝากได หุหุ เงียบเหงามากเรยอ่ะ ว่าง ๆ แวะไปหน่อยน้าจ๊ะ ทุกคน BaBy..
0
••----l3ouY----•• 6 พ.ค. 50 เวลา 15:11 น. 2

เรื่อง ผี ๆ (ก๊อบมานะ)

ระวังนะ ห้อง 173 กะ 713 ก้อเหมือนกันนะจ๊ะ


ห้องเบอร์ 173


อันนี้ไม่ใช่เรื่องที่เราเจอเองนะ เราเอามาเล่าให้ฟังอีกทีน่ะ เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ ขอให้เชื่อเหอะว่ามันมีจริง! คงมีเพื่อนๆหลายๆคนอยู่หอพัก เราก้อเหมือนกัน วันนั้นหลังจากที่เราเหนื่อย มากแล้วกับการเดินหาหอพักจนขาขวิดเราก้อเจอหอพักที่หนึ่งแถวๆซอยลาซาล ใหม่เอี่ยมอ่องเหมือนเพิ่งทาสีเสร็จใหม่ๆ เราก้อคิดในใจว่า "แจ๋วเลยงานนี้คง ไม่ต้องนอนโรงแรมให้เปลืองตังค์อีกแล้วนะ" พอคิดได้เราก้อเดินเข้าไปในนั้น เจ้าของหอพักใจดีมาก บอกว่าหอเพิ่งเปิดใหม่ลดให้เป็นกรณีพิเศษ จากค่าห้อง 3500/เดือน น้ำไฟพร้อม มีแอร์ด้วยเหลือแค่ 2000 เอง ยังงี้ใครจะอดใจไหว ตกลงเราก้อได้ห้อง เบอร์ 172 ที่นี่ห้องเยอะมากเหมือนโรงแรมเลยหลังจากอาบ น้ำแต่งตัวเสร็จก้อจัดเตียงนอนเรียนร้อย สักพักก้อได้ยินเสียงคนคุยกันเป็นเสียง ผู้หญิง 2 คน รู้สึกจะคุยกันเรื่องแฟน นายเราก้อไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟังหรอกแต่หูมัน ได้ยินไปเอง เสียงทะเลาะนั้นก้อดังขึ้นเรื่อยๆจนกลายเป็นเสียงตะโกน นอนไม่ได้
แล้วสิ เราก้อเลยเคาะกำแพงที่กั้นห้องเรากับห้อง 173 เสียงก็เงียบไปสังพัก แล้ว ก้อมีเสียงลอยๆขึ้นมาว่า " , เดี๋ยวก้อเจอดีหรอก" เราก้อเลยพยายามจะสุภาพ ที่สุดเพราะง่วงมากเลยตะโกนว่า "ขอโทษนะเราไม่ได้ยุ่งเรื่องของพวกเธอเลยแต่ เราง่วงนอนเบาๆกันหน่อยละกัน" แล้วเราก้อหลับต่อ ซักพักเราก้อได้ยินเสียงเหมื อนใครเอาเล็บข่วนมุ้งลวดเราไม่สนใจ แต่แล้วก้อได้ยินเสียงดังตุ๊บเราเลยผงกหัว ขึ้นมาดู เห็นแขนของใครไม่รู้หล่นอยู่เท่านั้นแหละเรากระโดดออกจากเตียงวิ่งไป เคาะห้องทุห้องเลย แล้วก้อกระโดดลงบันได 5-6 ขั้นเนี่ยแหละลงไปเคาะห้องของ เจ้าของหอ ที่จริงหอนี้เคยเปิดแล้วก้อปิดไปเมื่อไม่นานมานี้ที่ปิดก้อเพราะ มีผู้หญิง คนหนึ่ง พาเพื่อนอีกคนมาเจรจาเรื่องแฟนของเขาเพราะคิดว่าเพื่อนแย่งแฟนตัวเอง พอตกลงกันไม่รู้เรื่อง ผู้หญิงคนนั้นเลยคว้ามีดสปาต้าฟันจนมือเพื่อนตัวเองขาดแล้ว แทงซ้ำจนเพื่อนตายแล้วจึงเชือดคอตัวเองตายตาม


PS.  อ่ะนะ ฝากได หุหุ เงียบเหงามากเรยอ่ะ ว่าง ๆ แวะไปหน่อยน้าจ๊ะ ทุกคน BaBy..
0
••----l3ouY----•• 6 พ.ค. 50 เวลา 15:13 น. 3

กุมารเล่นด้วย

ตอนเราเป็นเด็ก ประมาณ12 ขวบ เรายังอยู่บ้านนอก พ่อของเราเคยเลี้ยงกุมาร หลายองค์ ตอนเราเด็กเราไม่ค่อยรู้มากเรื่องเกี่ยวกับกุมาร แต่เห็นพ่อบอกบ่อยๆ ว่า เงินที่พ่อซื้อกุมารมา เป็นเงินจากหวยที่กุมารมาเข้าฝัน เราก็ไม่เคยไส่ใจกับหุ่นที่มีหัวจุก ไส่ชุดสีทอง ชมพู แดง ตั้งอยู่ ที่โต๊ะที่เรา ทำการบ้าน ก็ไม่เห็นมีสี่งผิดปรกติเกิดขึ้น มีอยู่วันหนึ่งเป็นวันหยุด พ่อเราไปธุระ บอกจะกับเย็นๆ บ่ายของวันนั้น เราก็อ่านหนังสืออยู่ที่โต๊ะ อยู่ก็มีเสียงฉี่งฉับ ตี และค่อยๆเรื่อนทีละนิด เราตกใจนิดหน่อย แต่ก็คิดว่าเราผักโต๊ะไปเองก็ไม่คิดอะไร แต่เสียงหัวเราะแว่วมาที่หูนี่สิเรี่มจะกลัวนิดๆ เราทำเป็นเฉยๆ ลุกจากโต๊ะ จะไปดื่มน้ำ มีของเล่นชี้นหนึ่งตกลงมา ตามหลังเรา ตอนนั้นเรากลัวมาก และอยู่บ้านคนเดียว ก็ทำเป็นแข็งใจเก็บของเล่นไปวางที่เดิม สักพักเราก็จะไปนอน เพราะเรานอนตอนบ่ายทุกวัน กำลังจะหลับตาลง เหมือนมีคนเรียกชื่อ เราก็ไม่สน ภาวนาขอไห้พ่อกับมาเร็วๆ สักพักก็หลับลง แต่ตื่นขึ้นมา เราลืมตาไม่เต็มตา เห็นเต็มเปาเลย มีเด็ก น่าตาเหมือนหุ่นกุมาร มากๆ กระโดดเล่นกัน ตัวใหญ่กว่าหุ่นสองเท่า เรากลัวมากไม่กล้าลืมตาแต่ก็หลี่ดู ทีนี้ยืนเท้าเอวอยู่ปลายเท้าเรา ไห้ ตายเหาะ ทำไมต้องออกมาเล่นกันตอนพ่อเราไม่อยู่ ทุกๆวันก็ไม่เป็นแบบนี้ เราฝืนใจลืมตาขึ้นจริงๆ กุมาร2 ตนนั้นพากันวี่งเข้าไปในห่นกุมาร เรายังเห็นหลังแว๊บๆ เกล้าผมจุก นี่แหละที่เราเจอมา บอกไว้เลย เชื่อแล้ว ก็นึกว่าเป็นแค่หุ่นธรรมดาซะอีก จำแล้วไม่อยากอยู่บ้านคนเดียวอีกแล้ว บอกได้เลยกุมารมีจริงๆ


PS.  อ่ะนะ ฝากได หุหุ เงียบเหงามากเรยอ่ะ ว่าง ๆ แวะไปหน่อยน้าจ๊ะ ทุกคน BaBy..
0
••----l3ouY----•• 6 พ.ค. 50 เวลา 15:14 น. 4

วิญญาณเด็กหญิง ป.4 ที่ตายในห้อง

เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับฉันเมื่อ อายุได้ 10 ขวบ (18 ปีที่แล้วค่ะ) ซึ่งตอนนั้นเรียนอยู่ชั้นประถม 4 โรงเรียนประถมในตอนนั้นเป็นอาคารสองชั้น และห้องเรียนฉันก็อยู่ชั้น 2 ติดกับบันได จำได้ว่าวันนั้นเป็นวันแรกของการเลื่อนชั้น พวกเราพากันจัดโต๊ะและทำความสะอาดห้อง จนกระทั่งได้เวลากลับบ้าน นักเรียนก็พากันทยอยกลับกัน แต่ฉันยังอยู่ช่วยคุณครูสองคนจัดห้องอนุบาลชั้นล่าง เมื่อเสร็จแล้วฉันก็จะกลับบ้านซึ่งตอนนั้นตะวันลับขอบฟ้าไปแล้ว ในตัวอาคารค่อนข้างมืด ฉันวิ่งขึ้นไปเอากระเป๋าที่ห้อง ซึ่งครูก็ยืนคุยกันอยู่ที่ห้องอนุบาลด้านล่าง ฉันก็วิ่งขึ้นบันไดไป ทันใดนั้นก็เหลือบเห็นมีนักเรียนผู้หญิงเดินเข้าห้องเรียน ป.4 ซึ่งเป็นห้องเรียนเดียวกับฉัน ซึ่งอยู่ห้องแรกติดบันได ฉันรู้สึกดีใจที่ยังมีเพื่อนเพราะชั้นสองเริ่มมืด เนื่องจากภารโรงยังไม่ได้เปิดไฟ ฉันจึงค่อยๆ ย่องขึ้นบันไดไปเพื่อที่จะแกล้งเพื่อนเพื่อให้ตกใจ เมื่อมาถึงประตูฉันก็รีบผลักประตูเสียงดังและกระโดดเข้าไป แต่ฉันแทบช็อคเมื่อไม่พบใครอยู่ในห้องเลย ห้องมืดมาก เพื่อให้แน่ใจฉันซึ่งก้มมองดูที่พื้นก็ไม่พบใคร เป็นไปไม่ได้ที่จะโดนแกล้งเนื่องจากอาคารชั้นสองสูงมาก หากกระโดดลงไปขาหักแน่และอาจเสียชีวิตได้ ระหว่างที่กำลังคิดอยู่นั้นทันใดนั้นประตูหน้าต่างซึ่งปิดอยู่ตรงมุมห้องก็เปิดออกเสียงดังมากและเปิดแค่บานเดียวเท่านั้น โดยในห้องไม่มีลมแม้แต่นิดเดียว ฉันตัวชาและก้าวขาไม่ออก ได้แต่จ้องไปที่มุมห้องนั้น ฉันหลับตาและท่อง นะโม ไม่รู้ว่านานแค่ไหน รู้อีกครั้งเมื่อขาเริ่มขยับได้ ฉันก็รีบวิ่งลงบันได ไปหาครูทันที แต่ปรากฎว่า ครูกลับบ้านไปหมดแล้ว ฉันรีบวิ่งจากโรงเรียนไปบ้านโดยไม่หันหลังไปมองเลย จนกระทั่งถึงบ้านแม่ตกใจมากที่เห็นฉันหน้าซีด ฉันจึงเล่าให้แม่ฟัง แม่ก็ปลอบฉันว่าไม่เป็นไร ตาฝาดและฉันคงเหนื่อยจากการจัดห้องทำให้เห็นภาพ แต่ไม่จบแค่นั้น คืนนั้นฉันฝันว่าเข้าไปอยู่ในห้องนั้นอีกครั้งและยืนก้าวขาไม่ออกฉันมองไปที่มุมห้องนั้นเห็นเด็กผู้หญิงอายุประมาณ 10 ขวบ ผมสั้น ร่างกายผอมมากใส่ชุดนักเรียนเก่ามาก มีรอยปะเต็มไปหมด ยืนร้องไห้อยู่ บอกว่าหิวข้าว ทันใดนั้นฉันก็ได้กลิ่นเหม็นสาปแรงมาก จนทำให้ฉันรู้สึกอยากอาเจียน ฉันพยายามขยับขาวิ่งแต่ก้าวขาไม่ออก ฉันจึงก้มลงไปดูปรากฎว่าเด็กคนนั้นมาจับขาฉันไว้ และรู้สึกได้ว่ามือนั้นแห้งกร้าน ฉันกรีดร้องออกมาเสียงดังมาก จนกระทั่งมารู้ตัวเมื่อแม่มาเขย่าตัวฉันให้ตื่น ฉันรีบโผเข้ากอดแม่และร้องไห้ และอาเจียนออกมาเนื่องจากกลิ่นนั้นยังติดที่จมูกฉันอยู่ พ่อกับแม่ฉันตกใจมากจึงเอาพระมาห้อยคอและพาฉันสวดมนต์และบอกว่าพรุ่งนี้จะไปทำบุญให้อย่ามารบกวนเลย จนกระทั่งเช้า แม่ก็ไม่ให้ฉันไปโรงเรียนจึงไปลาครูที่โรงเรียนและเล่าให้ครูฟัง ครูตกใจมาก เนื่องจากเมื่อวานครูคิดว่าฉันกลับบ้านไปแล้วเพราะขึ้นไปดูที่ห้องก็ไม่พบฉันครูจึงกลับบ้านไป ครูจึงเล่าให้แม่ฉันฟังว่า ห้องนั้นเคยมีเด็กผู้หญิงซึ่งมีรูปร่างเหมือนอย่างที่ฉันฝัน เสียชีวิตในห้องป.4 จริง เนื่องจากขาดสารอาหาร เด็กคนนี้ครอบครัวอยากจนมาก มักจะขโมยข้าวเพื่อนกินและแอบเอาข้าวใส่กระเป๋าเสื้อ กลับบ้านเพื่อเอาไปให้แม่ที่บ้านจนกระทั่งวันหนึ่งก็ได้เสียชีวิตตรงมุมห้อง เนื่องจากเป็นลม และในมือเธอก็ยังถือข้าวไว้กำหนึ่งแน่น

อีกวันถัดไปทางโรงเรียนจึงนิมนต์พระมาสวดทำบุญห้องเพื่อส่งวิญญาณของเด็กคนนั้นให้สู่สุขคติ ฉันและครอบครัวก็ไปทำบุญแผ่กุศลให้เด็กคนนั้นด้วย นับแต่นั้นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นที่ห้องนั้นอีกเลย จนกระทั่ง 7 วันผ่านไป มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งตะโกนเสียงดังจากมุมห้องว่า “เฮ้! ใครเอาข้าวขึ้นรามาทิ้งไว้ตรงซอกมุมห้องนี้ว่ะ” เพื่อนๆ ก็พากันวิ่งมาดู ซึ่งสิ่งที่เห็นคือข้าวซึ่งมีลักษณะถูกบีบแน่นตกอยู่ตรงซอกเสามุมห้อง สภาพแห้งและดำมาก ซึ่งพากันเชื่อว่าเป็นข้าวที่อยู่ในกำมือของเด็กที่เสียชีวิตคนนั้น และครูก็บอกว่าในวันเผาศพเด็กคนนั้นก็ยังกำข้าวอยู่ในมือไว้แน่นและก็ได้เผาไปพร้อมกับเธอ!!!!!!!!! วันต่อไปเด็กห้อง ป.4 ก็ขาดเรียนเกือบครึ่งห้อง หนึ่งนั้นก็ มีฉันด้วย อิอิ


PS.  อ่ะนะ ฝากได หุหุ เงียบเหงามากเรยอ่ะ ว่าง ๆ แวะไปหน่อยน้าจ๊ะ ทุกคน BaBy..
0
••----l3ouY----•• 6 พ.ค. 50 เวลา 15:17 น. 5
ไปส่งด้วย...., ผี วิญญาณ และความผูกพันธ์  (เรื่องจริงฮั๊บ) น่ากัวด้วยนะ

เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ ก่อนจะวันคริสมาสต์ที่ผ่านพ้นไปนี่เอง เป็นสิ่งที่พวกเราไม่มีวันลืมได้กับภาพเหตุการณ์อันน่าสะพึงกลัวที่เกิดขึ้น วันนี้ผมและเพื่อน ๆ ประมาณ 6 คนเราได้เอามอเตอร์ไซไปเที่ยวกันในตัวเมืองใน จ.แห่งหนึ่ง บ้านที่พวกเราอยู่กันนั้นเป็นนอกเมืองแต่เราต้องขับรถกันประมาณ 30 นาทีกว่าจะถึงในเมืองได้
วันนั้นเรากลับมาจากการเที่ยวประมาณ ตี 2 ได้กำลังจะกลับกันแล้ว ซึ่งทางที่กลับนั้นก็เป็นทางหมู่บ้านที่หลัง 3-4 ทุ่มรถก็จะเงียบกันหมดแล้ว ตอนนั้นก็เมากันบ้าง ร้องเพลงกันบ้าง ...
เพื่อนเรา 2 คันหลังนั้น เป็นพวกที่ เฮ้วกันมาก ขับรถแซงกันไปแซงกันมาจนคันหลังสุดมันก็จอดข้างทาง พวกผมก็ชลอ คิดว่ามันปวด..ยิงกะต่ายข้างทาง จากนั้นมันก็เร่งรถนำขึ้นมาซึ่งแซงรถพวกเราขึ้นไป ตอนนั้นสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เพราะเราเห็นคนหนึ่งซึ่งอาจเป็นผู้หญิง ซ้อนหลังสุด แต่เอาหลังชนกับคนซ้อน หันหน้ามาด้านหลัง ผมยาวมาก และแขนขาท่าทางจะยาวกว่าปกติด้วย ซึ่งตอนนั้นทุกคนไม่พูดอะไรเลย เงียบกันไปหมด จนเพื่อนเรามันขับรถแซงไปจนเข้าหมู่บ้าน จนกระทั่งเราตามมันจนทัน แต่ทันทีที่ถึงเรากลับไม่เจอคนนั้นเลยที่ซ้อนเพื่อนเรา ทุกคนหน้าซีดกันหมด ยกเว้นเพื่อนเราอีก2คนที่ไม่รู้ มันก็ถามว่าเป็นอะไร เราก็ถามว่าเมื่อกี้ พวกคุณไปจอดรถอะไรกันตรงนั้น มันบอกว่า ตอนนั้นเหมือนมีอะไรวิ่งตัดหน้ารถ ก็เลยจอดดูแต่ก็ไม่มีไร แล้วมันก็ขับตามปกติ ... ซึ่งเรายังไม่ได้เล่าให้พวกมันฟังจนกระทั่งเช้าวันรุ่งขึ้น คืนนั้นกลัวกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาก แต่ก็จะพยายามไม่เที่ยวกลับดึกอีกแล้ว

PS.  อ่ะนะ ฝากได หุหุ เงียบเหงามากเรยอ่ะ ว่าง ๆ แวะไปหน่อยน้าจ๊ะ ทุกคน BaBy..
0
••----l3ouY----•• 6 พ.ค. 50 เวลา 15:19 น. 6
ผีหอพยาบาล, ผีหอบ

2545 ที่หอพยาบาลมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เจอกับตัวเอง ตอนนั้นเป็นการเรียนภาคฤดูร้อนจะมีนักศึกษาเรียนไม่ค่อยมาก หอพักนี้มี ทั้งหมด 4 ชั้น ตอนนั้นพพักอยู่ชั้นที่ 4 ชั้น 4 จะมีคนอญุ่ 2 ห้อง แต่อยู่คนละฝั่งเลยคือว่าไกลกันมากๆ คืนนั้นพักอยู่กับเพื่อน 2 คนในห้อง ตอนนั้นเป็นเวลา ตี 3 นิดๆ ตื่นขึ้นมาเพราะว่าปวดฉี่ ก็เลยปลุกเพื่อนให้ไปเป็นเพื่อนเลยชวนเพื่อนไปเข้าห้องนำชั้น 3 เพราะว่าตอนนั้นได้ยินเสียงคนเยอะเสียงดังเลยพูดกับเพื่อนว่าไปเข้สชั้น 3 ดีกว่าเพราะว่าคนเยอะดีจะได้ไม่น่ากลัวก็เลยเดินออกมาจากห้องพร้อมกับเพื่อนยิ่งเดินใกล้ห้องนำเท่าไหร่เสีงคนคุยกันก็ยิ่งดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆๆก็เลยหยุดยืนคุยกันนกับเพื่อนว่าวันนี้ดีจังคนอาบน้ำกันดึกจะได้ไม่น่ากลัวพอคุยกันกับเพื่อนเสร็จก็เดินมาถึงทางลงซึ่งเป็นบันไดเวียน สักพักเราสองคนก็มองหน้ากันแต่ก็ไม่พูดอะไรสงสัยว่าตอนนั้นเราสองคนกำลังตกใจกลัวอย่างแรง ในใจตอนนั้นคิดว่าเพื่อนจะได้ยินเหมือนเราได้ยินไหมนะ แต่ก็ไม่มีใครพูดอะไรเลยก็เลยเดินลงมาเข้าห้องน้ำเพราะตอนนั้นปวดฉี่อย่างแรงพอลงมาถึงชั้น 3 ก็ต้องอึ้งอีกครั้งเพราะชั้น 3 ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดๆอยู่เลย โอ้เมืองพุทธแล้วเสียงคุยกันอย่างดังนั้นมันดังามจากไหนกัน เรารีบเข้าห้องนำแล้วก็ๆๆๆวิ่งขึ้นบันไดอย่างไม่คิดชีวิต พอขึ้นมาถึง้องนอนคลุมโปงแล้วก็ถามเพื่อนว่าตอนที่ลงไปเข้าห้องน้ำได้ยินอะไรปลกๆมั้ย พระเจ้เพื่อนบอกว่าได้ยินเหมือนกันเลย คือว่า พอเราสองคนหยุดอยู่ที่หน้าบันไดเวียนก็มีเสียงฝีเท้าของใครก็ไม่ร้วิ่งตามมาด้านหล้ง ได้ยินเสียงวิ่ง ตับ ๆ ๆ ๆ และวมาหยุดที่ขางหลังเราสองคน แล้วก็มีเสียงเหนื่อยและก็หอบ แฮกๆ อยู่ด้านหลังนี่ถ้าเป็นคนมีลมหายใจก็คงหายใจรดต้นคอกันแล้วแต่นี่เค้าเป็นแค่สิ่งที่เคยมีลมหายใจเท่านั้น

PS.  อ่ะนะ ฝากได หุหุ เงียบเหงามากเรยอ่ะ ว่าง ๆ แวะไปหน่อยน้าจ๊ะ ทุกคน BaBy..
0
••----l3ouY----•• 6 พ.ค. 50 เวลา 15:25 น. 7
เรื่องหน้ากลัวของผีเพื่อนๆ

มีคน 6 คนเป็นเพื่อนรักกันมากกกก เป็นผู้ชาย 3 คนสมมุติว่าชื่อ เอ บี ซี หญิง 3 คนสมมุติว่าชื่อ กอ ขอ คอ
วันหนึ่งได้นัดกันไปเที่ยวที่แห่งหนึ่ง เอและกอบอกว่าจะไปช้าเพราะติดทำงานให้เพื่อนๆไปก่อนได้เลย แล้ว 2 คนจะตามไป บี ซี ขอ และคอจึงไปที่โรงแรมก่อน
หลังจากนั้น เอและกอก้อแยกย้ายกันไปทำงาน
ปรากฏว่าเอทำงานเสร็จก่อนจึงไปโรงแรมก่อนกอ
แล้วเอก้อเจอเพื่อนทั้ง 4 รออยู่ที่ลอ็บบี้ แล้วก้อชวนกันขึ้นไปที่ห้องพัก แล้วก้อคุยเล่นกัน เอคิดว่า ทำไมกอถึงยังไม่มาอีก จึงถามเพื่อนๆ บีจึงตอบว่า อ้างเอยังไม่รุอีกหรอว่ากอโดนรถชนตายแล้ว ความจิงเอแอบชอบกออยู๋ แต่กอไม่รุ ส่วนเพื่อนๆรู้ดีก็ได้แต่ปลอบใจ
ในขณะนั้นเอง ทั้ง 5 คนก้อได้ยินเสียงเคาะประตูทุกคนตกใจมาก และได้ยินเสียงกอพูดว่า เปิดประตูให้หน่อยสิ เอก็จะลุกไปเปิดให้แต่เพื่อนๆต่างฉุดเอาไว้ ในที่สุดเอก็ไปเปิดประตูเจอกออยู่แล้วพูดว่า"เอมาทำอะไรอยู่ตรงนี้คนเดียว ยังไม่รุอีกหรอว่าเพื่อนเรา 4 คนโดนรถชนตายแล้ว" เองงมากหันกลับไปมองก็ไม่เจอใครแล้ว
***เรื่องนีเกิดขึ้นที่ญี่ปุ่น***

PS.  อ่ะนะ ฝากได หุหุ เงียบเหงามากเรยอ่ะ ว่าง ๆ แวะไปหน่อยน้าจ๊ะ ทุกคน BaBy..
0
••----l3ouY----•• 6 พ.ค. 50 เวลา 15:27 น. 8

ผีหอพัก (ระวังนะ ใครเป็นนักศึกษาระวังให้ดี)

เมื่อต้นเดือนพค.47นี้เอ็มได้ย้ายหอพักใหม่มาอยู่ใกล้ๆมหาวิทยาลัย กังวลใจเหมือนกันกับการย้ายห้องใหม่เพราะกลัวว่าห้องใหม่จะเป็นยังไง เพราะส่วนใหญ่หอพักมักจะมีประวัติ คนตายบ้าง ผี***นบ้าง แต่ก็มีเหตุจำเป็นต้องย้าย ห้องเอ็มอยู่ชั้น2 แต่ทางเดินน่ากลัวมากๆแคบๆมืดๆยังไงไม่รู้ตอนมาดูเป็นช่วงกลางวันไม่น่ากลัว แต่พอตอนย้ายเข้าก็ย้ายมาตอนหัวค่ำ อยู่คืนแรกไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่คืนที่2เริ่มมีอะไรแปลกๆ มีคนมาแคะห้องแต่พอไปเปิดก็ไม่มีอะไร ไม่มีใคร เป็นอย่างนี้บ่อยมากๆ ตอนแรกคิดว่าคงเป็นคนแถวห้องมาแกล้ง แต่ไม่น่าเป็นไปได้ว่าจะวิ่งเร็วมาก ไม่มีเสียงคนวิ่งเลย มีอยู่วันนึงมีเพื่อนมาหาตอนประมานตี5ครึ่ง เอ็มหลับอยู่ มีเสียงมาพูดข้างหูว่า มีคนมาเคาะประตู พอเอ็มลืมตาขึ้นก็มีเสียงเคาะประตูจริงๆ ไปเปิดก็เจอเพื่อนหน้าตาตื่นตกใจมาก พอเข้ามาในห้องมันเล่าให้ฟังว่าตอนมันเคาะประตูมีคนมาพูดข้างหลังมันว่า มาเคาะประตูทำไม นี่ถ้าเอ็มได้เล่าให้เพื่อนฟังก่อนจะไม่เชื่อเลยว่าผีมีจริงแต่เอ็มยังไม่ได้เล่า แสดงว่าเพื่อนเจอจริงๆ หลังจากนั้นก็มีอะไรแปลกๆ เรื่อยมา อยากย้ายออกเหมือนกันแต่เสียดายเงินประกันหอ จนล่าสุดเมื่อวันที่11ตุลาคมที่ผ่านมานี่เอง เวลาตี1.10นาที เอ็มจำได้แม่นมากๆ มีคนมาเคาะประตู พอไปเปิดไม่เจอใคร เลยกลับมานอนกำลังเคลิ้มจะหลับรู้สึกหมอนมันยวบๆ เบาๆเอ็มนึกว่ารีโมทที่วีจะตก เอ็มก็เลยหันไปจะหยิบ แต่ไม่ใช่หมอนมันยุบเองเหมือนมีคนมานั่งเอ็มเกือบช็อคตาย(เอ็มเปิดโคมไฟนอน)ดีที่มีแสงบ้างก็เลยพออุ่นใจ พอรุ่งเช้าเอ็มไม่ทนแล้วจะไปแจ้งย้ายออก เจ้าของหอถามเอ็มเลยเล่าให้ฟังเค้าเลยบอกความจริงว่าเคยมีคนตดตึกตายนานแล้วและเป็นเจ้าของห้องนี้ด้วยแต่คนที่มาอยู่ก่อนเอ็มเค้าก็เจอเหมือนกันต้องย้ายออกเหมือนกัน(แล้วให้เราเช่าทำไมไม่สงสารกันบ้างเลย)สุดท้ายไม่ย้ายออกแต่ย้ายห้องแทนมาอยู่ห้องใหม่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น


PS.  อ่ะนะ ฝากได หุหุ เงียบเหงามากเรยอ่ะ ว่าง ๆ แวะไปหน่อยน้าจ๊ะ ทุกคน BaBy..
0
••----l3ouY----•• 6 พ.ค. 50 เวลา 15:30 น. 9

เรื่องลึกลับ อย่าอ่านถ้าคุณอยู่คนเดียว   (เรื่องนี้ยาว แต่น่ากัวนะ)
เรื่องวิญญาณ ผีหมาดำ


คือย้อนไปเมื่อแอต้องเดินทางไปเข้าค่ายที่ จ.จันทร ตั้งแต่ช่วง ม.3นะค่ะ คือวันแรกที่เราไปเหนื่อยมากเลยค่ะกว่าจะมาถึงค่ายกว่าจะทำอะไรเหนื่อยและเพลียมาก ก่อนจะถึงต้องเดินทางไกลด้วยค่ะไกลมากตั้ง10กว่าโล ให้เดินไปถึงที่ค่าย ลส จ.จันทร์ ถึงประมาณเกือบ6 โมงต้องขนสำภาระข้าวของของใช้ไปที่พักอีกค่ะ เสร็จทุกคนก็ต้องมารวมตัวกันเพื่อเข้าฐานเพื่อฝึกตอนกลางคืน ค่ะ เรื่องเริ่มต้นใกล้แล้วละ คือพอแอได้เข้าฐานๆนึงเป็นฐานวัดจิตใจ อาจารย์ เขาเปิดเทปให้ฟังเรื่องผีค่ะ แล้วเรื่องนั้นคือเรื่องอะไรรู้มั้ยค่ะ ก็เรื่องเดียวกะที่แอกำลังจะเล่าไงละค่ะ ผีหมาดำ แต่ไม่ต้องแปลกใจนะค่ะว่าทำมัยแอถึงเอามาเล่าให้ฟัง ลองฟังดูค่ะ ท้าวความจากเรื่องเล่านี้คือ มีคน3คนคนนึงเป็นพรานอีก2คนเป็นเพื่อนเขาๆเข้ามาหาของในป่า นะค่ะ และเพื่อนเขาอีกคนก็ได้นอนหลับไปแล้วไปเห็น ตัวอะไรดำๆ มันหันมามองทางเขาเมื่อเห็นแสงจากดวงจันทร์สะท้อนมาก็จึงเห็นลางๆว่าเป็นหมาดำตัวใหญ่กำลังจ้องมองเขาอยู่แล้วมันก็หายไปกับความมืด เขาก็ไม่นึกสงสัยอะไร คิดว่าคงไม่มีอะไรมั้งเพราะมันคงเป็นพวกหมาในอะไรที่อยุ่ในป่าแถวนี้เขาก็ไม่เอ็ดใจไม่คิดจะบอกเพื่อน พออีกคืนต่อมาเขาและเพื่อเขาอีกสองคนก็ได้เห็นเจ้าหมาดำตัวนี้อีกครั้ง จนครั้งล่าสุดเพื่อนเขาคนนึง ก็เห็นเจ้าหมาดำครบทั้ง3ครั้งนี้แล้ว และเขาก็พบกับจุดจบในชีวิต คืออยู่ดีๆ ก็ปีนขึ้นต้นไม้เหมือนกับกำลังหวาดกลัวอะไรอยู่ เนื่องจากต้นไม้ต้นนั้นสูงมากเขาปีนไปแล้ว แล้วอยู่ดีๆก็ร้องออกมาว่าอย่าออกไป ๆๆๆๆๆๆๆ เหมือนกำลังหนีใคร หรือกำลังหวาดกลัวอย่างมาก ซึ่งเพื่อนเขาอีกสองคนไม่เห็น และเขาก็ตกต้นไม่ลงมาตาย ส่วนเพื่อนอีกคนซึ่งเห็นเจ้าหมาดำตัวนี้เป็นครั้งที่2แล้วแต่ยังเหลืออีกครั้งนึง และในที่สุดเขากับเพื่อนนายพรานที่เหลืออยู่หลังจากฝังศพให้เพื่อนแล้วเขาก็ว่าจะออกจากป่าแห่งนี้กัน เพราะเริ่มหวาดกลัวและเข้าใจว่าจากการตายของเพื่อนเขาต้องมีอะไรแน่ๆแต่ก็ยังไม่สงสัยว่ามาจากการที่เขาเห็นเจ้าหมาดำตัวนั้น แต่ยังไม่ทันจะได้ออกจากป่า เขาก็ชักเพลียมากเลยบอกให้นอนพักตรงนี้ก่อน และพอนอนไปพอเช้า คนที่เป็นนายพราน เขาก็ตื่นขึ้นมาแต่ไม่พบเพื่อนเขาอีกคน ก็พยายาม ตะโกน เรียกหาแต่ก็ไม่มี พยายามเดินหาไป ก็ไม่พบ และเขาก็ได้เดินทางออกจากป่า ในที่สุดเชื่อว่าเพื่อนคงอาจจะกลับไปก่อนแล้วก็ได้ แต่เมื่อกลับไปถึงบ้านเขาเห็นพวกชาวบ้านได้นำศพของคนๆนึงมากำลังมุงดูกัน เขาบอกว่าเป็นศพของคนที่ตกเหวลงมาตายอยู่เขาก็เข้าไปดู แทบกับตกใจ และร้องโห นี่เพื่อนเขาคนนั้นนั้นเอง เขาพยายามตั้งสติและคิดว่าเรื่องทั้งหมดนี้มันมาจากอะไรเกิดขึ้นเพระอะไรจนเขาสงสัลว่ามันต้องมาจากสุนัขดำตัวนั้นแน่ๆ และเขาก็ได้ไปถามลุงที่อาวุโสที่สุดในหมูบ้าน เขาเล่าว่ามันเป็นวิญญาณ หมาดำที่อยู่ในป่า ถ้าเกิดใครได้เห็นมันครบทั้ง3ครั้งชีวิตต้องถึงกับคำว่า จุดจบ ทั้งนั้น แต่คนเป็นพรานป่าที่เสียเพื่อนที่รักไปตั้ง2คน ก็นึกแค้นในใจว่า ต้องแก้แค้นแทนเพื่อนประมาณนี้ และเขาก็ไม่นึกกลัวกับฮึดเดินทางเข้าป่าไปตั้งแต่วันนั้นมาก็ไม่มีใครได้พบเจอกับเขาคนนี้อีกเลยตั้งแต่เขาเดินทางเข้าป่าไปเขาก็หายไปไม่เคยกลับมาอีกเลยหลายคนเชื่อว่าคงเป็นวิญญาณหมาดำนี้แน่ๆ
และท้ายเรื่องที่แอได้ฟังที่เขาเปิดในฐานในนั้นเขาพูดว่าขอไว้อาลัยให้กับบุคคลในเรื่องเล่านี้ด้วย แอกลัวมากเลยค่ะ ในใจก็นึกอยู่แรกๆว่าคงไม่ใช่เรื่องจริงมั้ง ก็ไม่มีไรฐานนี้ผ่านไป พอเข้าฐานเสร็จทุกคนก็มารวมกันเพื่อนัดหมายและแยกกันไปอาบน้ำเข้านอนเป็นหมู่ๆ และวันนั้นแอนึกยังไงไม่รู้ค่ะ มันนอนไม่หลับอยากปลุกเพื่อนตื่นมาอยู่เป็นเพื่อนกันแต่ก็เหมือนว่าทุกคนจะหลับสนิท ลืมบอกไปนะค่ะว่าบรรยากาศในค่ายแห่งนี้น่ากลัวมาก บรรยากาศ ช่างวังเวง เหมาะกับคนที่หลัวผีเป็นอย่างมากแถมทางเข้าในตัวค่ายแห่งนี้ถ้าใครเคยไปนะค่ะจะเห็นศาลพระภูมิเก่าหรือพระหรือสิ่งบูชาที่พังแล้วเขาจะนำมากองไว้แถวนั้น ตอนแอเดินเข้าไปยังกลัวมากเลยค่ะ ในค่ายทั้งค่ายตรงที่พักมีไฟ สองสามดวงเอง ในรวมเหมือนมีแค่พวกครูและอาจารย์ที่อยู่ดูแลพวกเราแค่นั้นเพราะไม่เห็นใครเลย คนดูแลค่ายหรือเจ้าของก็ไม่มี บรรยากาศก็เป็นป่าด้วยค่ะเพราะอยู่ติดกับภูเขา อีก อยู่ดีๆแอก็ออกมาข้างนอก อยุ่ดีๆก็ไม่รู้คิดบ้าอะไรมานึกถึงเรื่องเล่าผีหมาดำ นั้นขึ้นมาตอนนี้ก็ไม่รูทำให้ขนรุกและกลัวมากๆแถม อากาศก็หนาวมากด้วย อยู่ดีๆแอเห็นเหมือนเงาหมาดำตัวนึง มันกะโดดผ่านต้นไม้ไปแอพยายามนึกว่านี้มันอะไรกันเนี่ย หยิกตัวเองก็เจ็บไม่ได้ฝันไปแน่นอน เห็นจริงๆ เพราะแถวนี้ในค่ายตั้งแต่เข้ามาไม่เห็นมีหมาเลยซักตัว ไม่ได้คิดไปเองแน่ๆค่ะ เรื่องก็มีเท่านี้ค่ะ ตอนนี้ยังพวาอยู่เลยค่ะ ถ้าใครได้เจอบรรยากาศแบบนั้นจะรู้ว่ามันรู้สึกยังไง 


PS.  อ่ะนะ ฝากได หุหุ เงียบเหงามากเรยอ่ะ ว่าง ๆ แวะไปหน่อยน้าจ๊ะ ทุกคน BaBy..
0
••----l3ouY----•• 6 พ.ค. 50 เวลา 15:32 น. 10

online สยอง ของ คน นอน ดึก,

เรื่องนี้น้องเจอกับตัวเองค่ะปกติน้องจะเป็นคนที่เล่นอินเตอร์เน็ต (msn) ตอนดึกๆเพราะเพื่อนๆน้องเขาจะ online กันตอนดึก ๆ คืนนั้นน้องรู้สึกง่วงนอน แต่ก็ตั้งใจไว้ว่าต้อง online ตอนนั้นน้องอยู่ข้างบนห้องนอน น้องเลยลงมาข้างล่าง ปกติคอมน้องจะอยู่ข้างล่าง พอลงบันไดห้องที่ไว้คอมจะอยู่ด้านซ้ายมือห้องจะไม่มีประตู ตอนนั้นที่น้องลงมาไฟที่ห้องกลางเปิดไว้หนึ่งดวงเลยพอจะมองเห็นคอม พอมองไปที่ห้องนั้นอยู่ๆน้องก็เห็นเก้าอี้ที่โต๊ะคอมมันหมุนมาทางน้อง (เหมือนมันจะรู้ว่าน้องจะต้องลงมาเล่น) ตอนนั้นน้องคิดว่าคงจะง่วงมากเลยลองหลับตาสักพัก พอลืมตาขึ้นมาเก้าอี้มันก็อยู่อย่างเดิม น้องเลยไม่คิดอะไรมากเดินไปชงกาแฟแล้วเดินไปเปิดไฟที่ห้องคอมเปิดไฟ 2 ดวงแล้วก็ไปเปิดคอม พอonline คุยกับเพื่อนสักพักน้องก็รู้สึกเหมือนวูปไปสงสัยกาแฟที่น้องกินคงยังไม่ออกฤทธิ์ ตอนนั้นน้องเงยหน้าขึ้นมามองที่หน้าจอคอมที่หน้าจอจะเป็นแบ็คกาวสีดำ มันจะสะท้อนเห็นภาพด้านหลังน้องกวาดสายตาไปมองริมขวาด้านล่างของจอคอมเพื่อจะต่อเน็ตใหม่

เพราะตอนนั้นเน็ตหลุด แต่กวาดสายตาขึ้นไปอีกเล็กน้อยเท่านั้นแหละค่ะภาพริมขวาจอจะสะท้อนภาพประตูที่น้องเข้ามาตอนแรก มีผู้หญิงใส่ชุดขาวผมยาวยืนอยู่ เขายืนก้มหน้า ตอนนั่นน้องทำอะไรไม่ถูกได้แต่สวดมนต์ ผู้หญิงคนนั้นเดินเข้ามาเลื่อย ๆ น้องแทบจะบ้าตายเจอจัง ๆ ก็ครั้งนี้ อยู่ดี ๆ น้องก็สะดุ้งตื่อขึ้นมาพร้อมพูดกับตัวเองว่าค่อยยังชั่วฝันไปนี้เองตอนนั้นกลัวมากเลยค่ะ เลยจะปิดคอมแล้วขึ้นไปนอนแต่พอมองไปที่จออีกครั้งเท่านั้นแหละค่ะผู้หญิงคนนั้นอยู่ด้านหลังน้องลมหายใจของผู้หญิงคนนั้นมาปะทะกับหัวน้องน้องสั่นมากพอลองมองเข้าไปที่จออีกครั้งผู้หญิงคนนั้นเข้ายิ้มให้และกำลังจะเอามือเขามาจับน้อง แม่น้องนอนอยู่ข้างล่างเปิดประตูออกมา ตอนนั้นน้องได้ยินเสียงแม่เปิดประตูดีใจมากเลยค่ะ แล้วผู้หญิงคนนั้นก็หายไป แม่เดินมาถามน้องว่าไม่ได้ยินเสียงหมาเรียกหรอมันคงจะปวดฉี่ เท่านั้นแหละค่ะน้องร้องไห้กอดสุนัขของน้อง แม่ถามว่าเป็นอะไรก็บอกว่าเดี่ยวเล่าให้ฟังพรุ่งนี้ พอเช้ามาก็เล่าให้แม่ฟังแม่ก็บอกว่าแม่ลืมไหว้เจ้าที่มาเดือนกว่าแล้ว แค่นั้นน้องก็รู้แล้วค่ะว่าอะไรเป็นอะไร แต่ลืมบอกอย่างนึงค่ะหน้าผู้หญิงคนนั้นเขามีแต่ปากอย่างเดียวไม่มีตา จมูกหรือคิ้วเลย


PS.  อ่ะนะ ฝากได หุหุ เงียบเหงามากเรยอ่ะ ว่าง ๆ แวะไปหน่อยน้าจ๊ะ ทุกคน BaBy..
0
••----l3ouY----•• 6 พ.ค. 50 เวลา 15:34 น. 11
ผีสิงนักเรียน
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 17 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวได้ไปที่โรงเรียนท่าศิลาบำรุงราษฎร์ บ้านท่าศิลา หมู่ 5 ต.นาทอน อ.ทุ่งหว้า จ.สตูล โรงเรียนระดับมัธยมในตำบล หลังจากมีเสียงร่ำลือว่าเป็นโรงเรียนผีสิง มักเกิดเหตุประหลาดขึ้น เมื่อไปถึงพบว่าบริเวณห้องโถงใต้อาคารเรียน นักเรียนหลายคนช่วยกันจับ ด.ญ.หทัยทิพย์ เวชสิทธิ์ อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม. 2 และ ด.ญ.อภัสนันท์ โสนุ้ย อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม. 1 ให้นอนกับพื้น เนื่องจากมีอาการดิ้นทุรนทุรายกรีดร้องเสียงดังลั่นไปหมด โดยมีครูคอยดูแลให้การช่วยเหลือเตรียมนำส่งโรงพยาบาล

ระหว่างนั้นนายอรุณ ธูปเทียน อายุ 18 ปี นักเรียนชั้น ม. 6 ซึ่งมุงดูอยู่ด้วย ร้องเอะอะโวยขึ้นพร้อมกับพยายามจะวิ่งออกจากโรงเรียน เพื่อนๆ รวมทั้งครูต้องช่วยกันจับให้นอนกับพื้นเช่นเดียวกับเด็กนักเรียนหญิงทั้ง 2 คน ที่มีอาการก่อนหน้านี้ จนกระทั่งเวลาผ่านไปกว่า 1 ชั่วโมง ทั้ง 3 คน เริ่มมีอาการสงบลง แต่ยังหายใจหอบเสียงดังพร้อมกับร่ำไห้ออกมา

นางอาภัสสร รัตนศรีปัญญา ผู้อำนวยการโรงเรียนท่าศิลาบำรุงราษฎร์ เปิดเผยว่า เพิ่งมารับตำแหน่งเมื่อเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา โดยโรงเรียนเปิดสอนตั้งแต่ชั้น ม. 1 ถึง ม. 6 มีชั้นละ 1 ห้อง มีนักเรียนเกือบ 300 คน จากการสอบถามครูที่อยู่มาก่อนทราบว่า นักเรียนเริ่มมีอาการประหลาดลักษณะนี้มาตั้งแต่เมื่อ 7 ปีก่อน แต่ละครั้งมีนักเรียนมีอาการประหลาดพร้อมๆกันหลายคน

หลังเกิดเหตุทางโรงเรียนได้ปฐมพยาบาลจนกระทั่งอาการดีขึ้น แต่อีกไม่กี่วันก็จะมีนักเรียนมีอาการเช่นนั้นอีก จึงได้พาไปหาแพทย์ที่โรงพยาบาลทุ่งหว้า แต่ตรวจแล้วพบว่าร่างกายแข็งแรงดี ไม่มีโรคอะไร หลังจากนั้นจะมีนักเรียนมีอาการผิดปกติเป็นประจำ เมื่อคนหนึ่งเป็นสักพักก็จะมีคนอื่นเป็นตามลักษณะคล้ายอุปาทานหมู่ ทำให้เพื่อนนักเรียนและครูต้องช่วยกันดูแลอย่างใกล้ชิดจนแทบไม่ได้เรียนหนังสือ

ต่อมามีผู้ปกครองนักเรียนบางคนแนะนำให้ใช้วิธีไสยศาสตร์เข้าช่วย จึงได้ให้หมอผีมาทำพิธี โดยบอกว่าจะต้องฆ่าแพะครั้งละ 2 ตัว ทุก 3 ปี เป็นการสังเวย นอกจากนี้ ยังต้องทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับเจ้าที่เจ้าทางพร้อมกันนั้น ได้ตั้งศาลเพียงตาขึ้นบริเวณหลังโรงเรียน โดยได้ทำพิธีไปแล้ว 2 ครั้ง ครั้งที่ 3 ได้ทำเมื่อเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา แต่เด็กยังมีอาการผิดปกติอยู่

ทางโรงเรียนเห็นว่าไสยศาสตร์ไม่ได้ผล เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. ที่ผ่านมา เลยรื้อศาลเพียงตาที่ปลูกไว้ แต่ หลังจากนั้น 2 วัน คือวันที่ 16 ธ.ค. ก็มีนักเรียนป่วยพร้อมกันกว่า 10 คน ทำให้ครูไม่เป็นอันสอน เพราะต้องคอยดูแลเด็กที่ป่วย ส่วนนักเรียนคนอื่นก็ไม่ได้เรียนเพราะคอยช่วยเพื่อน ขณะที่ผู้ปกครองหลายคนไม่พอใจที่ครูไปรื้อศาลเพียงตา หาว่าไม่เชื่อแล้วยังลบหลู่ ทำให้เกิดเหตุร้ายขึ้น

"ดิฉันไม่เชื่อเรื่องไสยศาสตร์ แต่เท่าที่สอบถามครูที่อยู่มาก่อนบอกว่า เคยมีครูที่มาเข้าเวรนอนเฝ้าโรงเรียน ฝันว่ามีผู้หญิงผมยาวเดินวนเวียนในโรงเรียน นอกจากนี้ระหว่างการก่อสร้างโรงเรียนเมื่อ 13 ปีก่อน คนงานก็ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ขณะนี้ทั้งครูและนักเรียนเครียดกันทั้งโรงเรียนไม่เป็นอันเรียนกัน ได้ รายงานเรื่องที่เกิดขึ้นไปยังจังหวัดและสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาจังหวัดสตูล ผู้บังคับบัญชาได้มาเยี่ยมนักเรียนให้กำลังใจและจะประชุมหาทางแก้ปัญหาต่อไป" ผู้อำนวยการโรงเรียน

PS.  อ่ะนะ ฝากได หุหุ เงียบเหงามากเรยอ่ะ ว่าง ๆ แวะไปหน่อยน้าจ๊ะ ทุกคน BaBy..
0
••----l3ouY----•• 6 พ.ค. 50 เวลา 15:37 น. 12

แล้วเพื่อน ๆ ล่ะเปนยังไง มาเล่าสู่กันฟังมั่งจิ หุหุ ^^


PS.  อ่ะนะ ฝากได หุหุ เงียบเหงามากเรยอ่ะ ว่าง ๆ แวะไปหน่อยน้าจ๊ะ ทุกคน BaBy..
0
MyFairy 6 พ.ค. 50 เวลา 21:14 น. 17

อะโด่เอ๊ย คำทำนายเราอ่านแล้ว -*- อ่านจนเบื่อกันไปข้างนึงเลย .... ตอนนี้อยู่คนเดียว ไม่กล้าอ่านวะ ว่างๆจะแวะไป ID รกๆอีกนะ เหอๆ


PS.  ~ [ ศรัทธา ] ~
0
Vanilla~StarBuck 7 พ.ค. 50 เวลา 20:54 น. 20

โหย อ่านๆๆๆ แล้วก็อ่าน 2 เรื่องแรก กับเรื่องผีเพื่อนๆอ่ะ
น่ากลัวสุดๆๆ
แบบว่า..ยังไม่ได้อาบน้ำเลยอ่ะ
ต้องอาบมั้ยเนี่ย 55


PS.  !!~•OiLsAsi•~!!_*• Luv Dougie ---> McFly •*)—
0